แนะนำ โรงแรมที่พัก โตเกียว ญี่ปุ่น อัพเดตล่าสุด

7 สถานที่ช้อปปิ้งของเมืองโอซาก้า ชวนกันไปล้มละลาย 2567

photos by Type specimen from commons.wikimedia.org/wiki/File:Osaka_Dotonbori_Ebisu_Bridge.jpg( cc by 3.0)


โอซาก้าถือเป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ทั้งในด้านการค้าและวัฒนธรรม จนได้รับสมญานามว่า “ครัวแห่งชาติ” อีกทั้งในด้านของการท่องเที่ยวก็มีสถานที่ขึ้นชื่อติดอันดับต้นๆ ของประเทศหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และเชิงธรรมชาติ ทั้งยังถือว่าเป็นเมืองแห่งการช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอีกเมืองหนึ่งของโลกอีกด้วย

โอซาก้ามีแหล่งชอปปิ้งยอดฮิตมากมายตั้งกระจายตัวอยู่ทั่วเมืองเปิดกันตั้งแต่เช้าจนดึกรอให้สาวกนักช้อปทั้งหลายได้ไปเดินเล่นเลือกซื้อเลือกหาตั้งแต่สินค้าแฟชัน ของฝาก ของกินของใช้หรือสินค้าพื้นเมืองดั้งเดิมก็มีให้เลือกสรร

 

7 สถานที่ช้อปปิ้งของเมือง โอซาก้า

 

1. ชินไซบาชิ (Shinsaibashi)

ชินไซบาชิเป็นถนนย่านการค้าชื่อดังของโอซาก้าแต่ละวันจะมีนักช้อปหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสายเฉลี่ยกว่า 60,000 รายต่อวัน ในขณะที่วันหยุดสุดสัปดาห์มีผู้คนมาเยี่ยมชมจำนวนมากถึง 120,000 ราย มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 380 ปี

ชินไซบาชิเต็มไปด้วยความหลากหลายของร้านค้าและแบรนด์ดังมากมายตั้งอยู่ปะปนไปกับร้านค้าแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ได้แก่ Apple Store, Dior, Chanel, Gucci, H&M, Hermès, Louis Vuitton และอื่นๆ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมแทบจะทุกยี่ห้อดังทั่วโลกเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้แล้วยังมีสินค้าจำพวกอาหารและเครื่องดื่มหรือตุ๊กตาน่ารักๆ ก็มีให้เลือกซื้อเช่นกัน และนอกเหนือไปจากร้านค้าทันสมัยจากแบรนด์ต่างๆ แล้วที่ชินไซบาชิยังมี Shopping Arcade ที่เอาร้านค้าเล็กๆ มารวมไว้ภายใต้หลังคาเดียวกันมีเส้นทางยาวประมาณ 600 เมตรมีสินค้าให้เลือกสรรมากมาย อาทิ ชุดกิโมโนแบบดั้งเดิม, อัญมณีเครื่องประดับและร้านหนังสือ เป็นต้น

เวลาเปิดปิด: เวลาเปิดประมาณ 8.00-10.00 น. เวลาปิดประมาณ 21.00-24.00 น. (ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)

การเดินทาง:

  • เดิน 1 นาทีจากรถไฟใต้ Midosuji และ Nagahori Tsurumi-ryokuchi สถานีชินไซบาชิทางออก 5 และ 6
  • รถไฟใต้ดินสาย Yotsubashi และ Nagahori Tsurumi-ryokuchi สถานี Yotsubashi

พิกัด GPS: 34.671073, 135.501381

photos by Toshiyuki IMAI from flickr.com/photos/matsuyuki/633656122( cc by 2.0)

 

2. อาเมะมุระ (Ame-Mura) หรือ Amerikamura ที่มาจากคำว่า American Village

อาเมะมุระ ศูนย์รวมสินค้าแฟชันและวัฒนธรรมร่วมสมัยของย่านมินามิ (Minami) ตั้งอยู่ในเขตถนน Nagahori-dori ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของสถานีชินไซบาชิ และมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานตั้งแต่ยุค 70s โดยเริ่มจากการเปิดร้านขายสินค้าครั้งแรกเพื่อจำหน่ายเสื้อผ้าวินเทจ, ยีนส์, ของมือสองและสินค้าอื่นๆ ที่มาจากฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกาจนเป็นที่มาของย่านนี้ในชื่อว่าอเมริกามุระ (Amerikamura) หรือ American Village ที่มีความหมายว่า “หมู่บ้านอเมริกัน” และเรียกกันสั้นๆ ว่า “อาเมะมุระ”

เนื่องจากสินค้าต่างๆ ค่อนข้างมีราคาถูกและหลากหลายจนทำให้ย่านนี้กลายเป็นย่านการค้าที่ได้รับความนิยมในหมู่นักช้อปที่มองหาสินค้าแฟชันอินเทรนด์เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันที่มีร้านค้าเพิ่มขึ้นมากว่า 3,000 ร้าน รวมทั้งร้านกาแฟ, บาร์และร้านอาหารอีกมากมาย

ด้วยเอกลักษณ์และมนต์เสน่ห์ของอาเมะมุระทำให้สื่อโทรทัศน์เลือกมาแนะนำจนกลายเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางไปทั่วประเทศว่าอเมริกามุระคือถิ่นของเทรนด์แฟชันรุ่นใหม่ล่าสุด จนทำให้ในปัจจุบันอาเมะมุระกลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของการรวมตัวของหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์และแฟชั่นที่ไม่ซ้ำใคร นอกจากแฟชันแล้ววิถีชีวิตกลางคืนที่อาเมะมุระก็เป็นย่านบันเทิงที่มีชื่อเสียงมากด้วยเช่นกัน

photos by Jordi Sanchez Teruel from flickr.com/photos/sunxez/2903497259( cc by 2.0)

[wp_ad_camp_1]

พื้นที่ความสนุกในอาเมะมุระ

  1. Sankaku Koen สัญลักษณ์ของอเมริกามุระ จุดชุมนุมของวัยรุ่นหนุ่มสาวเพื่อพบปะเพื่อนฝูงหรือเป็นจุดพักผ่อนระหว่างเดินช้อปปิ้ง
  2. ไฟถนน อีกจุดเด่นของอเมริกามุระกับไฟถนนรูปคนสูงใหญ่คอยให้ความสว่างในเวลาค่ำคืนถูกติดตั้งไว้กว่า 50 จุดทั่วบริเวณ
  3. ภาพผนังสันติภาพโลก ภาพวาดบนผนังตึกสร้างขึ้นในปี 1983 โดยนาย เซอิทาโระ คุโรดะ (Seitaro Kuroda) ศิลปินท้องถิ่นของโอซาก้า
  1. Live House เวทีแสดงความสามารถทางด้านดนตรีในอเมริกามุระ เวทีแจ้งเกิดของศิลปินที่มีชื่อเสียงจำนวนมากของประเทศญี่ปุ่น
  1. ผู้คน ความสนุกที่ชวนให้หลงใหลที่สุดในอาเมะมุระก็คือกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวจำนวนมากกับแฟชันในแบบที่ไม่ซ้ำใครกลายเป็นเสน่ห์อันโดดเด่นของที่นี่

เวลาเปิดปิด: ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน

การเดินทาง:

  • เดิน 3 นาทีจากรถไฟใต้ดินสาย Midosuji หรือ Nagahori Tsurumi-ryokuchi ลงที่สถานี Shishinsaibashi ทางออก 7
  • เดิน 3 นาทีจากรถไฟใต้ดินสาย Yotsubashi ลงที่สถานี Yotsubashi
  • เดิน 7 นาทีจากรถไฟใต้ดินสาย Midosuji หรือ Sennichimae ลงที่สถานี Namba
  • เดิน 7 นาทีจากรถไฟฟ้าสาย Kintetsu Namba หรือ Hanshin Namba ลงที่สถานี Osaka namba
  • เดิน 8 นาทีจากการรถไฟญี่ปุ่นตะวันตกสายหลัก Kansai ลงที่สถานี JR Namba

พิกัด GPS: 34.672208, 135.497828

 

 

3. โดทงบุริ (Dotonburi)

โดทงบุริย่านการค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมืองเลียบฝั่งใต้ของคลองโดทงโบริบาชิ (Dotonburibashi) ตั้งแต่ตรงสะพานโดทงบุริ ไปจนถึงสะพานนิปปงบาชิ (Nipponbashi) ถือเป็นย่านการค้าเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของเมืองโอซาก้า มีการเริ่มต้นทำการค้ามาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ได้รับความนิยมมายาวนานนับ 100 ปีจนถึงปัจจุบัน รายล้อมไปด้วยจำนวนร้านอาหาร, สิ่งอำนวยความสะดวกและความบันเทิงมากมายอย่าง โรงละครหุ่นกระบอกแบบดั้งเดิม Bunraku, ห้องโถงนิทานและความบันเทิงอื่นๆ

สัญลักษณ์เด่นของโดทงบุริคือร้านปูยักษ์ (Kani Doraku) และป้ายไฟโฆษณาริมคลองของกูลิโกะ ซึ่งมักจะถูกเลือกให้เป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศหลายเรื่องจนถือเป็นสัญลักษณ์ของโอซาก้าเลยก็ว่าได้ ในย่านนี้เป็นแหล่งรวมร้านอาหารน้อยใหญ่มากมายและร้านเด็ดห้ามพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนคือร้านทาโกะยา Otakoya, ราเมนมังกรทอง Kinryu Ramen, ภัตราคาร Zubora-ya และร้านขึ้นชื่ออื่นๆ

เวลาเปิดปิด: ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน

การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากรถไฟใต้ดินสถานีนัมบะ (Namba)

พิกัด GPS: 34.668722, 135.501369

photos by Reginald Pentinio from flickr.com/photos/reggiepen/25705180204( cc by 2.0)

photos by Terence Ong from commons.wikimedia.org/wiki/File:Dotonbori.JPG( cc by 3.0)

[wp_ad_camp_2]

4.  นัมบะพาร์ค (Namba Park)

นัมบะพาร์คเป็นศูนย์รวมความเจริญและสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจรทั้งห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง Namba CITY, Carnival Mall และ Takashimaya Osaka รวมถึงโรงแรมชื่อดัง Swissotel Nankai Osaka โรงแรมขนาดใหญ่ของเมืองโอซาก้าที่นักท่องเที่ยวต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดี รวมถึงสวนสาธารณะชั้นลอยที่เป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของนัมบะพาร์ค ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์สามารถรวมเอาความทันสมัยมาผสมกับความเป็นธรรมชาติได้อย่างลงตัวสวยงาม

ภายในนัมบะพาร์คได้รวมเอาโรงภาพยนตร์, โรงแรม, ร้านค้าชื่อดังกว่า 120 ร้านค้าและร้านอาหารมากมายมาไว้ในพื้นที่เดียวกันเพื่อให้บริการกันแบบครบวงจร พร้อมทั้งการออกแบบแต่ละชั้นให้มีความเหลื่อมล้ำกันและสอดแทรกสวนสาธารณะเข้าไปในหลายๆ จุดกลายเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความซับซ้อนแปลกตา

เวลาเปิดปิด: ปิดวันที่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคมของทุกปี

  • ห้างสรรพสินค้า 11.00-21.00 น.
  • ร้านอาหาร 11.00-23.00 น.
  • สวนสาธารณะ 10.00-24.00 น.

การเดินทาง: รถไฟ Nankai Dentetsu  สถานี Namba ทางออกทิศใต้

พิกัด GPS: 34.661626, 135.501860

photos by Lory Jane from flickr.com/photos/lojane16/4106680710( cc by 2.0)

photos by cotaro70s from flickr.com/photos/cotaro70s/24973222801( cc by 2.0)

 

5. Den Den Town หรือ นิปปงบาชิ (Nipponbashi)

Den Den Town ตั้งอยู่บนถนนซาไกสุจิ (Sakai-Suji) เขตสะพานนิปปงบาชิ เป็นแหล่งรวมร้านค้ากว่า 300 ร้านจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งของเล่นและทุกอย่างที่เกี่ยวกับการ์ตูน อาทิ หนังสือการ์ตูน, แผ่น DVD, สินค้าคอสเพลย์, ของสะสมและของที่ระลึก เป็นต้น และที่สำคัญสำหรับนักช้อปทั้งหลายคือร้านรวงแถบนี้มักจะขายแบบลดราคาอยู่เสมอ ทั้งยังมีจุดเด่นเรียกสายตาผู้คนและเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของร้านค้าย่าน Den Den Town คือป้ายโฆษณาสุดสร้างสรรค์จากแต่ละร้านที่สะดุดตาแก่นักท่องเที่ยวมากมายที่มาเยือน

เวลาเปิดปิด: 10.00-20.00 น.

การเดินทาง:

  • เดิน 1 นาทีจากรถไฟใต้ดินสถานี Ebisucho สาย Sakaisuji ทางออก North A
  • เดิน 5 นาทีจากรถไฟใต้ดินสถานี Nipponbashi สาย Kintetsu, Sakaisuji และ Sennichimae ทางออก 5
  • เดิน 1 นาทีจากรถไฟใต้ดินสถานี Namba สาย Nankai ทางออกทิศใต้
  • เดิน 5 นาทีจากรถไฟใต้ดินสถานี Namba สาย Midosuji ทางออก 5

พิกัด GPS: 34.65922, 135.50591

photos by Gavin Anderson from flickr.com/photos/andersondotcom/441699719( cc by 2.0)

photos by 663highland from commons.wikimedia.org/wiki/File:Nipponbashi_osaka02s3200.jpg( cc by 3.0)

 

6. ชินเสะไก (Shinsekai)

ชินเสะไกหรือที่แปลว่า “โลกใหม่” ที่มาจากคำว่า Shin หมายถึง “ใหม่” และ Sekai หมายถึง “โลก” เริ่มเปิดค้าขายมาตั้งแต่ปี 1912 ตั้งอยู่ทางทิศใต้ถัดลงมาจากย่าน Den Den Town มีจุดเด่นคือหอคอยสึเทนคาคุ (Tsutenkaku) ที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านการค้าจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของชินเสะไกที่ทุกคนต้องถ่ายรูปกลับมาและสัญลักษณ์สำคัญอีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือโคมกระดาษรูปปลาปักเป้าขนาดมหึมา

ชินเสะไกถือเป็นสถานที่ช้อปปิ้งที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของโอซาก้า มีบรรยากาศสายๆ เหมาะแก่การเดินเล่นและเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่รวบรวมสินค้าจากท้องถิ่นราคาถูกไว้มากมาย ไม่เน้นสินค้าแบรนด์เนมเหมือนย่านอื่นๆ

เวลาเปิดปิด: ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน

การเดินทาง:

  • เดิน 3 นาทีจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Ebisucho สาย Sakaisuji
  • เดิน 3 นาทีจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Dobutsuen-mae สาย Sakaisuji และ Midosuji

พิกัด GPS: 34.65233, 135.50618

photos by Petr Meissner from flickr.com/photos/myneur/10786579944( cc by 2.0)

 

7. เอบิสุบาชิ (Ebisubashi)

เอบิสุบาชิถนนสายช้อปปิ้งเส้นสำคัญของเมืองโอซาก้ามีเส้นทางยาวประมาณ 350 เมตรจากสะพานเอบิสุบาชิไปจนถึงห้างสรรพสินค้าทาคาชิมาย่า (Takashimaya) ท่ามกลางห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในโอซาก้าเราควรจะเรียกเอบิสุบาชิว่าโลกของแฟชั่นแห่งโอซาก้าขนานแท้

เอบิสุบาชิถือเป็นขุมทรัพย์ของแฟชันผู้หญิงทุกวัยจากบรรดาสินค้าที่มีความหลากหลายทั้งเสื้อผ้า, รองเท้า, กระเป๋า, เครื่องสำอางและเครื่องประดับ ซึ่งทั้งหมที่ว่ามานี้คุณจะสามารถหาซื้อได้จากถนนสายนี้ทั้งหมดรวมไปถึงสินค้าแฮนด์เมดน่ารักๆ พร้อมกับร้านอาหารญี่ปุ่น, จีนและตะวันตกที่แทรกตัวอยู่และสถานบันเทิงเขตด้านใต้ของพื้นที่ ใกล้กับย่านโดทงบุรี ตั้งอยู่ด้านหน้าของสถานีรถไฟนัมบะ (Namba) ทั้งยังเป็นย่านช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย

เวลาเปิดปิด: ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน

การเดินทาง:

  • เดิน 3 นาทีจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Namba
  • เดิน 3 นาทีจากสถานีรถไฟ JR Namba

พิกัด GPS: 34.666347, 135.501420

photos by jim from flickr.com/photos/furibond/1391587488( cc by 2.0)


อัพเดตใหม่ JR WEST ALL AREA PASS ตั๋วใบเดียวเที่ยวทั่ว คันไซ ชูโกกุคิวชู Osaka ถึง Fukuoka
จัดเต็ม 23 สถานที่ท่องเที่ยวโอซาก้า ไปทั้งทีต้องเก็บให้ครบ เที่ยว กิน ช้อป เพลิน อัพเดตล่าสุด