แนะนำ โรงแรมที่พัก โตเกียว ญี่ปุ่น อัพเดตล่าสุด

ทริปปั่นจักรยานในเมืองเกียวโตตะวันตก Kyoto West course


ทริปปั่นจักรยานในเมืองเกียวโตตะวันตก(Kyoto West course) ขึ้นชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีการท่องเที่ยวที่ดังมากๆในหมู่นักท่องเที่ยวก็วาได้ค่ะ เพราะทั้งสะดวก ประหยัด แถมยังชิลแบบสุดๆ ที่สำคัญมันไม่เหนื่อยเท่าการเดิน และยังน่าจะเหมาะกับคนที่ไม่ถนัดขึ้นรถสาธารณะด้วยล่ะค่ะ โดยจักรยานที่ให้เช่าในเมืองเกียวโตนั้นจะเป็นของบริษัท J-Cycle Bicycle Shop เส้นทางปั่นก็ปลอดภัยแบบสุดๆไม่ต้องกลัวปั่นๆไปแล้วโดนรถเสยไปไม่รู้ตัว อีกทั้งแต่ละสถานที่ที่เราจะแนะนำมานี่ก็ไม่ได้ไกลกันมาก ซึ่งเส้นทางเกียวโตตะวันตกใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที พอเช่าจักรยานแถวๆสถานีรถไฟเกียวโตได้ก็เริ่มปั่นได้ยาวๆเลยค่ะ ปกจิแล้วถ้าแถบนี้เค้าจะมีจุดท่องเที่ยวเริ่มต้นอยู่ที่ ปราสาทนิโจ แล้วไปจบที่พระราชวันอิมพีเรียลเกียวโต แผนการปั่นตามทริปนี้คร่าวๆก็ตามด้านล่าง ถ้าใครอยากเช่าแบบข้ามคืนกันยาวๆก็สามารถติดต่อสอบถามได้นะคะ เชื่อว่าลองได้ปั่นแล้วจะติดใจตนมาเที่ยวเกียวโตครั้งหน้าต้องอยากเที่ยวด้วยการปั่นอย่างแน่นอน

เริ่มต้นที่ร้านเช่าจักรยาน J-cycle ใช้เวลาปั่น 15 นาที ไปยังปราสาทนิโจ
จากปราสาทนิโจ ใช้เวลาปั่น 15 นาที ไปยังศาลเจ้าคิตาโน่ เทนมังกุ
จากศาลเจ้าคิตาโน่ เทนมังกุ ใช้เวลาปั่น 15 นาที ไปยังวัดคินคะคุจิ
จากวัดคินคะคุจิ ใช้เวลาปั่น 10 นาที ไปยังวัดเรียวอันจิ
จากวัดเรียวอันจิ ใช้เวลาปั่น 35 นาที ไปยังอาราชิยาม่า
จากอาราชิยาม่า ใช้เวลาปั่น 30 นาที ไปยังวัดเมียวชินจิ
จากวัดเมียวชินจิ ใช้เวลาปั่น 25 นาที ไปยังพระราชวันอิมพีเรียลเกียวโต
จากพระราชวันอิมพีเรียลเกียวโต ใช้เวลาปั่น 15 นาที กลับไปยังร้านเช่าจักรยาน J-cycle

โดยปั่นตามเส้นทาง “สายสีชมพู” ในแผนที่ดังต่อไปนี้

cycling map

การเช่าจักรยาน

การเดินทาง(ร้านเช่าจักรยาน): จาก Kyoto Station โดยสารรถไฟใต้ดิน Karasuma Line ไปลงที่ Shijo Station(exit no.5) เดินต่ออีก 4 นาที
ค่าใช้จ่าย: 800-1,700 เยน/วัน
อุปกรณ์เพิ่มเติม
ที่นั่งสำหรับเด็ก(หน้า/หลัง): 300 เยน
หมวกกันน็อคสำหรับเด็ก: 200 เยน
เนวิเกเตอร์(ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น): 500 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 10:00-18:30 (หากต้องการเช่าข้ามคืน กรุณาติดต่อสอบถาม)
วันปิดทำการ:
ทุกวันพุธ

 

จุดท่องเที่ยวที่คุณจะได้แวะชม ได้แก่

1.ปราสาทนิโจ(Nijo Castle)

ปราสาทนิโจ นับเป็นหนึ่งในปราสาทที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกและยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอย่างมาก โดยปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1603 เพื่อใช้เป็นที่พักของท่านโชกุนโทคุกาวะ ซึ่งเป็นโชกุนคนแรกในสมัยเอโดะ

2.ศาลเจ้าคิตาโน่ เทนมังกุ(Kitano tenmangu Shrine)

ศาลเจ้าเทนมานกุ ได้รับความนิยมอย่างมากในหมูนักท่องเที่ยวและผู้ที่ศรัทธาในเทพก็ว่าได้ค่ะ โดยได้ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แด่ สุกาวะระ มิชิซาเนะ(Sugawara Michizane) นักปราชญ์และนักการเมืองชื่อดังคนหนึ่งในยุคเฮอัน(Heian) ซึ่งนักปราชญ์ผู้นี้มีความเชื่อมโยงกับเทพเทนจิน(Tenjin)ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการศึกษาตามศาสนาชินโต จึงทำให้ศาลเจ้าเทนมานกุจะมักจะมีนักเรียนนักศึกษาเข้ามา ไหว้ขอพรกันอยู่เป็นประจำ ยิ่งช่วงไหนใกล้สอบนี่คนจะเยอะมากเป็นพิเศษ ปั่นมาแถวศลเจ้านี้ทั้งทีแวะมาสัการะขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลซักนิดก็ดีงามไม่น้อยเลยล่ะค่ะ

ศาลเจ้าคิตาโน่ เทนมังกุ

ศาลเจ้าคิตาโน่ เทนมังกุ

3.วัดคินคะคุจิ(Kinkakuji Temple)

วัดคินคะคุจิ หรือที่คนทั่วๆไปนิยมเรียกว่า “วัดทอง” จากฉายานี่ก็น่าจะบ่งบอกแล้วใช่ไหมคะว่าตัววัดจะต้องมีความทองอร่ามเป็นออร่าแน่ๆ ซึ่งมีโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมที่งดงาม โดยเฉพาะมุมด้านหน้าใกล้กับทางเข้าวัดซึ่งเป็นภาพที่วัดสีทองอร่ามที่มีสวนอยู่โดยรอบเป็นเงาสะท้อนกับน้ำในสระ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองเกียวโตเชียวค่ะ

4.วัดเรียวอันจิ(Ryoanji Temple)

วัดเรียวอันจิ ตัววัดเองก็งดงามคลาสสิกสไตล์วัดเก่าแก่ แต่เดิมวัดนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยเฮอัน (Heian Period) เพื่อใช้เป็นบ้านพักของขุนนาง ต่อมาในปี ค.ศ.1450 ได้ถูกเปลี่ยนเป็นวัดนิกายเซนและเป็นโรงเรียนสอนศาสนาเมียวชินจิ อีกทั้งยังเป็นวัดสวนหินที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากของเกียวโตอีกด้วยนะคะ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายร้อยคนให้เดินทางเข้ามาชมสวนหินแห่งนี้ในแต่ละวันอยู่ไม่ขาดสาย แบบว่ามาวัดนี้ไม่มาชมสวนหินนี่พลาดอย่างแรง

5.อาราชิยาม่า(Arashiyama)

อาราชิยาม่า นับว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและธรรมชาติอย่างกลมกลืน แหล่งท่องเที่ยวก็ค่อนข้างหลากหลาย หากก็มีความเป็นเอกลักษณ์อยู่สูง โดยมักจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมกันอย่างคับคั่งในช่วงที่ดอกซากุระบานและช่วงใบไม้แดงหรือใบไม้เปลี่ยนสี ตัวเมืองอาราชิยาม่านั้นจะคึกคักมากในช่วงวันหยุด มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และบริเวณโดยรอบก็สามารถเดินเที่ยวได้เรื่อยๆ สถานที่ที่ได้รับความนิยมอีกที่หนึ่งเมื่อมาถึงเมืองนี้ก็คือวัดป่าไผ่เทนริวจิ (Tenryuji Temple) ซึ่งด้านหลังวัดจะเป็นทางเดินที่โอบล้อมด้วยต้นไผ่สีเขียวที่สูงมาก เมื่อเดินผ่านจะรู้สึกเหมือนเดินในอุโมงค์ต้นไผ่ มั่นใจว่าคนมาเที่ยวแถบเมืองนี้จะต้องติดใจอย่างแน่นอนค่ะ

6.วัดเมียวชินจิ(Myoshinji Temple)

วัดเมียวชินจิถือได้ว่าเป็นวัดขนาดใหญ่มีความซับซ้อนสูง แบบว่ามาที่เดียวสามารถเที่ยวได้ยาวๆเลยล่ะค่ะเพราะนอกเหนือจากอาคารหลักของวัดแล้ว ยังมีวัดย่อยๆอยู่ภายในพื้นที่ทั้งหมด 50 แห่ง ซึ่งเค้าไม่ได้เปิดทุกวัดนะคะหากจะเปิดให้เข้าชมเฉพาะบางแห่งเท่านั้นเอง แต่ผู้เข้าชมสามารถเดินไปรอบๆได้ สมัยก่อนวัดเมียวชินจิเป็นศูนย์กลางโรงเรียนสอนศาสนาของพุทธศาสนานิกายรินไซเซน ถ้ามาวัดนี้รับรองว่าอาจจะเผลอใช้เวลานานกว่าที่คิด เพราะเค้ามีอะไรให้ชมเยอะจริงจัง

วัดเมียวชินจิ

วัดเมียวชินจิ

7.พระราชวันอิมพีเรียลเกียวโต(Kyoto Imperial Palace)

พระราชวันอิมพีเรียลเกียวโต ถือว่าเป็นพระราชวังหลวงที่สำคัญในอดีตอย่างมาก เนื่องจากพระราชวังแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประทับของราชวงศ์จนกระทั่งปี ค.ศ. 1868 จนเมื่อราชวงศ์และเมืองหลวงของญี่ปุ่นได้ย้ายจากเมืองเกียวโตไปอยู่ที่เมืองโตเกียว พระราชวังมีสถาปัตยกรรมที่งดงามแบบเน้นไปที่สไตล์ดั้งเดิม อาจไม่ไดดูหรูหราอลังการงานสร้าง แต่บอกเลยว่ามีกลิ่นอายความยิ่งใหญ่ในอดีตและสวยแบบคลาสสิกไม่ฉูดฉาด นอกจากจะได้ชมพระราชวังแล้วนั้นขังสามารถเดินไปชมสวนอิมพีเรียลเกียวโตที่ตั้งอยู่บริเวณติดๆกันได้อีกด้วย โดยสวนนี้เป็นสวนขนาดใหญ่ใจกลางเมือง อีกทั้งยังตั้งอยู่ใกล้กับพระราชวังเซ็นโตและแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอื่นๆอีกหลายแห่ง ทำให้บริเวณนี้เป็นอีกจุดนึงที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก