รีวิวขับรถเที่ยวทั่วเกาะคิวชู วันที่ 6 ดูใบไม้แดง ทุ่งดอกหญ้า และเมืองยูฟุอิน


รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น ขับรถตะลอนทั่วเกาะคิวชู วันที่ 6 เรายังคงไปไม่ไกลจากบริเวณเดิมมากนัก จะยังคงอยู่บริเวณตอนเหนือของเทือกเขาอะโซะโดยจะขับรถข้ามเทือกเขาคูจูไปทางตอนบนแล้วออกไปทางตะวันออกเล็กน้อยไปที่เมืองยูฟุอิน(Yufuin) เมืองออนเซนชื่อดังอีกเมืองหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองเบปปุ(Beppu)

รีวิวขับรถเที่ยวทั่วเกาะคิวชู วันที่ 5 สุดโรแมนติค เส้นทางใบไม้เปลี่ยนสี เมืองออนเซนคุโรคาวะ

เส้นทางในการขับรถวันนี้ของเราแค่สั้นๆ และทุกสถานที่ท่องเที่ยวของเราก็เป็นทางผ่านทั้งหมดเลย โดยออกจาก (A) เรียวกัง วากาบะ (Ryokan Wakaba) ในเมืองออนเซนคุโรคาวะ(Kurokawa)ตอนเช้าแล้วไปแวะที่ (B) วัดคนโกโฮจิ(Kongōhō-ji)ที่อยู่ห่างจากเมืองมาไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้น จากนั้นก็ขับกลับทางเดิมไปที่สี่แยกจุดพักซานาอิ(sanai rest house)จากนั้นก็ขับขึ้นทางตอนเหนือแล้วแวะที่ (C) ทุ่งดอกหญ้าในพื้นที่ชุ่มน้ำ ทาเดวะระ (Tadewara Wetland) เสร็จแล้วถัดมาไม่ไกลก็แวะที่ (D) สะพานแขวนยูเมะ(Yume Suspension Bridge) และสุดท้ายก็ไปที่ (E) เรียวกังยาวารางิโนะซาโตะ ยาโดยะ (Yawaraginosato Yadoya) ในเมืองยูฟุอิน(Yufuin) ไปจอดรถที่โรงแรมของคืนนี้ได้เลยเพราะตั้งอยู่เกือบจะกลางเมืองเลย

เส้นทางการขับรถวันที่ 6

 

วันนี้ รีบตื่นเช้ามาเพราะจองเวลาแช่บ่อออนเซนแบบส่วนตัวเอาไว้ หลังจากแช่เสร็จก็เปลี่ยนชุดออกมาเดินเล่นในเมืองอีกครั้ง ก่อนจะกลับไปทานอาหารเช้าและเช็คเอ้า บรรยากาศช่วงเช้าของเมืองออนเซนคุโรคาวะ(Kurokawa) ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้มีใบเมเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีแดงให้ดูเยอะแยะเลย ช่วงเช้านี้แดดไม่แรง ทำให้ถ่ายใบเมเปิ้ลออกมาได้สีสดในมาก

ป้ายยินดีต้อนรับเข้าสู่เมืองออนเซนคุโรซาว่า Welcome to Kurozawa

บรรยากาศตอนเช้ากับใบไม้แดงที่เมืองคุโรซาวะ-ออนเซน Kurokawa Onsen

ป้ายทางเข้าหมู่บ้าน ถ้าใครมาด้วยรถบัสน่าจะต้องเดินผ่านป้ายนี้

บรรยากาศตอนเช้ากับใบไม้แดงที่เมืองคุโรซาวะ-ออนเซน Kurokawa Onsen

บรรยากาศตอนเช้ากับใบไม้แดงที่เมืองคุโรซาวะ-ออนเซน Kurokawa Onsen

บรรยากาศตอนเช้ากับใบไม้แดงที่เมืองคุโรซาวะ-ออนเซน Kurokawa Onsen

บรรยากาศตอนเช้ากับใบไม้แดงที่เมืองคุโรซาวะ-ออนเซน Kurokawa Onsen

ที่เห็นเป็นศาลาเล็กๆอยู่ทางซ้ายมือนั้นคือป้ายรถบัสที่น่ารักของเมืองคุโรคาวะ Kurokawa Bus Stop

 

หลังจากที่เช็คเอ้าเสร็จ เราก็ออกจากเมืองคุโรคาวะ(Kurokawa)มา จนเกือบจะถึงสี่แยกเมื่อวานนี้ ก็จะเห็นวัดคนโกโฮจิ(Kongōhō-ji Temple) ที่อยู่ใกล้กับสะพานที่ข้ามแม่น้ำ ซึ่งบริเวณสะพานนี้จะมีวิวของใบไม้เปลี่ยนสีและภูเขาที่สวยมาก รวมทั้งที่วัดนี้ยังมีต้นเมเปิ้ลที่กำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงสดอยู่หลายต้นด้วย จึงต้องจอดลงไปแวะเก็บภาพซักหน่อย

บรรยากาศบริวเณสะพานใกล้กับวัดคนโกโฮจิ(Kongōhō-ji Temple) บนถนน Old Oguni

บรรยากาศบริวเณสะพานใกล้กับวัดคนโกโฮจิ(Kongōhō-ji Temple) บนถนน Old Oguni

บรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีที่วัดคอนโกโฮจิ Kongōhō-ji Temple

วัดคอนโกโฮจิ Kongōhō-ji Temple

บรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีที่วัดคนโกโฮจิ Kongōhō-ji Temple

บรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีที่วัดคนโกโฮจิ Kongōhō-ji Temple

 

หลังจากนั้นเราก็ขับไปที่สี่แยกแล้วเลี้ยวซ้าย โดยเราจะขับรถข้ามเทือกเขาคูจู(Kuju Moutain) ที่มียอดเขาที่สูงที่สุดของเกาะคิวชูไปลงอีกทาง หลังจากลงที่บริเวณเชิงเขาก็จะพบกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวโชจาบารุ(Chojabaru Visitor Center) ที่ด้านหลังอาคารจะเป็นทุ่งดอกหญ้าและดอกไม้ป่าใน พื้นที่ชุ่มน้ำทาเดวะระ (Tadewara Wetland) ที่มีทางเดินไม้ยกสูงตัดเข้าไปในสนามหญ้าที่ขึ้นสูงอยู่ ออกดอกสวยงาม มีวิวสวยๆให้ดู ที่จริงตรงนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นในเส้นทางการปีนยอดเขาคูจู(Kuju Trekking)ด้วยซึ่งน่าสนุกมาก แต่เราไม่ได้เตรียมตัวกันมาปีนเขาในวันนี้ จึงแค่เพียงเดินเล่นในบริเวณทุ่งดอกหญ้านี้แล้วก็ ออกรถกันไปต่อ

เส้นทางเดินในทุ่งดอกหญ้าที่พื้นที่ชุ่มน้ำ ทาเดวะระ Tadewara Wetland

บรรยากาศที่พื้นที่ชุ่มน้ำทาเดวาระ Tadewara

บรรยากาศที่พื้นที่ชุ่มน้ำทาเดวาระ Tadewara

บรรยากาศที่พื้นที่ชุ่มน้ำทาเดวาระ Tadewara

บรรยากาศที่พื้นที่ชุ่มน้ำทาเดวาระ Tadewara

บรรยากาศที่พื้นที่ชุ่มน้ำทาเดวาระ Tadewara

บรรยากาศที่พื้นที่ชุ่มน้ำทาเดวาระ Tadewara

 

สถานที่เที่ยวต่อมาของเราอยู่ถัดมาอีกไม่ไกล นั่นก็คือ สะพานแขวนยูเมะ(Kokonoe Yume Suspension Bridge) ซึ่งมีคนมาเที่ยวกันค่อนข้างมากแสดงว่าน่าจะเป็นที่นิยมในหมู่คนญี่ปุ่นกันพอสมควรเลย โดยสะพานแขวนยูเมะเป็นสะพานแขวนสำหรับคนเดินที่ยาวที่สุดในโลก ที่จะข้ามระหว่างภูเขาสูง 2 ลูก เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนที่มีชื่อเสียงมากจุดหนึ่งของเกาะคิวชู โดยระหว่างทางเดินจะเห็นน้ำตกชินโดโนตากิ(Shindonotaki)ที่สวยติดหนึ่งใน 100 น้ำตกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นด้วย ซึ่งเราสามารถไปจอดรถได้ทั้ง 2 ฝั่งของสะพานแล้วซื้อตั๋วที่จะให้เราเดินไปและกลับบนสะพานได้ 1 รอบ โดยจะมีอยู่ฝั่งหนึ่งที่จะมีลานจอดรถขนาดใหญ่กว่าและมีร้านขายของเช่น อาหาร ขนม และของที่ละรึกต่างๆมากกว่า รวมทั้งมีทางเดินลงใต้สะพานเพื่อไปยังจุดชมวิวน้ำตกที่ก็ไม่ค่อยจะสวงยงามเท่าไหร่ แค่เห็นน้ำตกได้ใกล้ขึ้นเท่านั้น จริงๆแล้วเราจอดรถฝั่งไหนก็น่าจะเหมือนกันเพราะยังไงเราก็ต้องเดินข้ามไปมาอยู่ดี

ใบเมเปิ้ลสีแดงสดบริเวณสะพานแขวนยูเมะ Yume Suspension Bridge

รูปมุมไกลก่อนถึงสะพานแขวนยูเมะ Yume Suspension Bridge

วิวจากด้านข้างก่อนเข้าสะพานแขวนยูเมะที่มองเห็นน้ำตกชินโดโนตากิ(Shindonotaki)

บรรยากาศที่สะพานแขวนยูเมะ Yume Suspension Bridge

วิวระหว่างเดินอยู่บนสะพานแขวนยูเมะ Yume Suspension Bridge

วิวระหว่างเดินอยู่บนสะพานแขวนยูเมะ Yume Suspension Bridge

วิวระหว่างเดินอยู่บนสะพานแขวนยูเมะ Yume Suspension Bridge

วิวระหว่างเดินอยู่บนสะพานแขวนยูเมะ Yume Suspension Bridge

วิวน้ำตกชินโดโนตากิ(Shindonotaki)จากสะพานยูเมะ

ทางเดินลงไปที่จุดชมน้ำตกด้านข้างของสะพานแขวนยูเมะ Yume Suspension Bridge

 

หลังจากนั้น เราก็ขับรถมุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อไปยังจุดหมายสุดท้ายของวันนี้กัน นั่นก็คือเมืองออนเซนชนบทแสนน่ารักที่ชื่อว่า ยูฟุอิน(Yufuin)นั่นเอง โดยเราจะขับรถไปจอดที่โรงแรมที่เราจะค้างกันคืนนี้แล้วค่อยออกมาเดินเล่นในเมืองข้างนอก เพราะโรงแรมที่เราจะนอนคืนนี้ก็อยู่ในเขตตัวเมืองด้วย เป็นโรงแรมแบบเรียวกัง ชื่อว่า เรียวกังยาวารางิโนะซาโตะ ยาโดยะ (Yawaraginosato Yadoya) ซึ่งก็สะดวกดีมาก เพราะอยู่ถัดจากถนนหลักมาแค่ 1 ซอยเท่านั้น มีอาหารเช้าให้ ที่นอนเป็นแบบเตียง มีบ่อออนเซนแบบส่วนตัวที่สามารถจองเวลาการใช้งานได้ด้วย ถ้าจำไม่ผิดจะมีอยู่ 3 บ่อด้วยกันแต่จะมีอยู่หนึ่งบ่อที่มีวิวสวยที่สุด เราจองสำหรับตอนเย็นก่อนหนึ่งบ่อ แล้วตอนเช้าวันถัดมาเราก็ไปใช้อีก 1 บ่อ ซึ่งก็เป็นบ่อออนเซนที่ทำขึ้นอย่างดี เป็นแบบเปิดโล่งด้านบน มองเห็นภูเขายุฟุเลยด้วย

หลังจากเก็บกระเป๋ากันเสร็จเราก็ออกมาเดินเล่น น่าจะประมาณบ่าย 2 โมงได้ มีนักท่องเที่ยวเยอะพอสมควร มีร้านลวงอะไรเปิดมากมาย ดูคึกคักเป็นเหมือนเมืองท่องเที่ยวตามชนบทของญี่ปุ่น แต่ที่โดดเด่นจะอยู่ที่ส่วนที่อยู่บริเวณทะเลสาบคินริน(Kinrin Lake)ที่อยู่ห่างจากสถานีรถไฟ JR Yufuin ไปประมาณ 1 กิโลเมตร เพราะจะมีวิวที่สวยงามมาก เป็นทะเลสาบที่มีด้านหลังเป็นภูเขา อีกทั้งช่วงที่เราไปเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงทำให้สวนที่อยู่ใกล้ๆทะเลสาบจะมีต้นเมเปิ้ลเปลี่ยนสีเป็นสีส้ม แดงอยู่หลายต้นสวยงามมากเลย

ร้านขายของที่ระลึกที่เมืองยูฟุอิน Yufuin

ร้านขายของที่ระลึกที่เมืองยูฟุอิน Yufuin

บรรยากาศบริเวณถนนคนเดินที่เมืองยูฟูอิน Yufuin

บรรยากาศบริเวณถนนคนเดินที่เมืองยูฟูอิน Yufuin

บรรยากาศบริเวณถนนคนเดินที่เมืองยูฟูอิน Yufuin

บรรยากาศบริเวณถนนคนเดินที่เมืองยูฟูอิน Yufuin

บรรยากาศบริเวณถนนคนเดินที่เมืองยูฟูอิน Yufuin

 

ริมแม่น้ำยูฟุ

บรรยากาศทางเดินริมแม่น้ำแม่น้ำยุฟุ

บรรยากาศทางเดินริมแม่น้ำแม่น้ำยุฟุ

บรรยากาศช่วงใบไม้แดงที่ทะเลสาบคินริน Kinrin lake

บรรยากาศช่วงใบไม้แดงที่ทะเลสาบคินริน Kinrin lake

บรรยากาศช่วงฤดูใบไม้แดงที่ทะเลสาบคินริน Kinrin lake

บรรยากาศช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ทะเลสาบคินริน Kinrin lake

บรรยากาศที่ทะเลสาบคินริน Kinrin lake

บรรยากาศที่ทะเลสาบคินริน Kinrin lake

บรรยากาศที่ทะเลสาบคินริน Kinrin lake

บรรยากาศที่ทะเลสาบคินริน Kinrin lake

บรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีภายในสวนข้างๆทะเลสาบคินริน Kinrin Lake

บรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีภายในสวนข้างๆทะเลสาบคินริน Kinrin Lake

 

เดินเล่นในเมืองกันจนเย็น ได้เวลากลับโรงแรมไปแช่ออนเซนที่จองเวลาไว้กันแล้ว หลังจากแช่เสร็จสบายตัวก็ออกมาเดินหาอะไรกิน โดยถามกับเจ้าหน้าที่โรงแรม ตอนนี้เราหิวกันมากไม่มีอารมณ์ออกไปเดินหาอะไรกินแล้ว ก็เลยเลือกร้านที่ใกล้ที่สุดแล้วกัน ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมไปประมาณ 200 เมตรเท่านั้น เป็นร้านปิ้งย่างนั่งกินเบียร์ สไตล์ญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่า Izakaya ที่บ้านเราก็เห็นมีเปิดกันหลายร้านแล้วเหมือนกัน ซึ่งก็อร่อยกว่าที่เมืองไทยซะอีก แล้วก็มีเมนูปิ้งย่างหลากหลายกว่าด้วย แม้ว่าจะเป็นแค่ร้านเล็กๆ ไม่มีภาษาอังกฤษเลย ไม่มีรูปด้วย แต่ก็ยังสั่งกันมากินได้ด้วยความหิว

บรรยากาศบ่อออนเซนกลางแจ้งของเรียวกัง-ยาวารางิโนะซาโตะ ยาโดยะ (Yawaraginosato Yadoya)

 

หลังจากกินเสร็จเราก็เดินไปที่ซุปเปอร์แถวในเมืองที่เดินเลยต่อมาอีกหน่อย ซื้ออะไรจุกจิกกลับมานั่งที่ล้อบบี้โรงแรมนั่งกินเล่นคุยกันไปกินบรรยากาศเพลินๆ ก็เป็นอันว่าจบไปอีกหนึ่งวัน เผลอแป้บเดียว เราขับรถเที่ยวกันมาจะทั่วเกาะคิวชูแล้ว เหลือพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายซะแล้ว

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านครับ

ข้อมูลการท่องเที่ยวยูฟุอิน


Exit mobile version