นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
1. หลักการและเหตุผล
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จัดทำเพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีประสิทธิภาพและเพื่อให้มีมาตรการเยียวยาเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจากการถูกละเมิดสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งการตราพระราชบัญญัตินี้สอดคล้องกับเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา 26 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
เว็บไซต์ www.talonjapan.com ("เว็บไซต์" หรือ "เรา") เรายึดมั่นการดำเนินธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณ เคารพและปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้ ได้ตระหนักถึงความเป็นส่วนตัวด้านข้อมูลอันเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล มุ่งมั่นที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล จึงประกาศนโยบายเพื่อเป็นหลักในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรารับทราบถึงความต้องการความปลอดภัยในการทำธุรกรรมและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล จึงให้ความสำคัญด้านการเคารพสิทธิในความเป็นส่วนตัวของบุคคลและการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล โดยได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ในการดำเนินงาน ด้วยมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้รับจะถูกนำไปใช้ตรงตามความต้องการของแต่ละบุคคลและถูกต้องตามกฎหมาย
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้อธิบายวิธีการเก็บ ใช้ เปิดเผย แบ่งปัน เก็บไว้และโอนข้อมูลของคุณเมื่อคุณใช้บริการของเรา (เรียกรวมกันว่า “บริการ”) โดยเราจะทำหน้าที่เป็น ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับข้อมูลใด ๆ ที่ได้เก็บผ่านบริการ
2. ข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคล (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) คือ ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาที่ระบุตัวตนได้หรือสามารถระบุตัวตนบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของบุคคลที่เสียชีวิต ซึ่งเราอาจเก็บรวบรวมได้จากวิธีดังต่อไปนี้
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่บุคคลให้ไว้แก่เราโดยตรง หรือได้รับผ่านช่องทางอื่น ทั้งที่เกิดจากการใช้บริการ ติดต่อ เยี่ยมชม ค้นหา ผ่านช่องทางดิจิทัล เว็บไซต์ Call Center ผู้ที่ได้รับมอบหมาย การตอบแบบสอบถาม หรือช่องทางอื่นใด
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้รับหรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่จากคุณโดยตรง เช่น บิดา มารดา บุตรธิดา คู่สมรส พี่ น้อง หน่วยงานของรัฐ บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการทางการเงิน พันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทข้อมูลเครดิต และผู้ให้บริการข้อมูล เป็นต้น ซึ่งเราจะแจ้งให้คุณทราบถึงรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมนั้นและรายละเอียดของบุคคลภายนอก โดยการแจ้งดังกล่าวนั้นจะถูกทำขึ้นภายใน 30 วันนับจากวันที่เก็บรวบรวม
3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เว็บไซต์เก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เว็บไซต์เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย เช่น
- ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด สถานภาพสมรส เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง
- ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ไอดีไลน์
- ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่คุณใช้เข้าถึงบริการของเรา เช่น IP Address MAC Address Cookie ID ชื่อไฟล์และเวอร์ชั่น ภาษาที่เลือกใช้ ตัวบ่งชี้อุปกรณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ตัวบ่งชี้โฆษณา หมายเลขซีเรียล ข้อมูลการเคลื่อนไหวของอุปกรณ์และข้อมูลเครือข่ายมือถือ
- ข้อมูลอื่น ๆ เช่น การใช้งานเว็บไซต์ เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ข้อมูลเกี่ยวกับความสนใจของคุณ และข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- ข้อมูลที่ได้จากคุกกี้เมื่อคุณเข้าใช้บริการเว็บไซต์ของเรา โดยอาจใช้คุกกี้ในบางกรณี คุกกี้ คือไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่จัดเก็บข้อมูลซึ่งแลกเปลี่ยนระหว่างคอมพิวเตอร์ของเจ้าของข้อมูลและเว็บไซต์ของเรา เราใช้คุกกี้เฉพาะเพื่อการจัดเก็บข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของข้อมูลในครั้งถัดไปที่เจ้าของข้อมูล กลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา เมื่อเจ้าของข้อมูลเข้าใช้บริการเว็บบราวเซอร์ เจ้าของข้อมูลสามารถตั้งค่าเพื่อยอมรับคุกกี้ทั้งหมดหรือปฏิเสธคุกกี้ทั้งหมด หรือแจ้งเตือนให้เจ้าของข้อมูลทราบเมื่อมีการส่งคุกกี้ โดยเจ้าของข้อมูลสามารถเข้าไปตั้งค่าที่เมนู “ความช่วยเหลือ” ในบราวเซอร์เพื่อเรียนรู้วิธีการเปลี่ยนแปลงการใช้คุกกี้ของเจ้าของข้อมูลได้ โปรดทราบว่าการปิดการใช้งานคุกกี้อาจส่งผลต่อการใช้งานบางบริการของเจ้าของข้อมูลได้
- ข้อมูลที่ได้รับจากบุคคลภายนอก เช่น เว็บไซต์อาจเก็บรวบรวมข้อมูลบัญชีของเจ้าของข้อมูลจากผู้ให้บริการภายนอกเมื่อเจ้าของข้อมูลลงชื่อเข้าใช้บริการบัญชีดังกล่าว เว็บไซต์อาจเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมการใช้งานของเจ้าของข้อมูลบนบริการของบุคคลภายนอก เช่น ผู้ให้บริการทางการตลาด ผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียหรือผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นที่ใช้ API ของเราหรือที่เราใช้ API (เช่น บริษัท Facebook Google หรือ ผู้ให้บริการอื่นๆ) เราจะแจ้งให้คุณทราบถึงรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมนั้นและรายละเอียดของผู้ให้บริการภายนอก การแจ้งดังกล่าวนั้นจะถูกทำขึ้นภายใน 30 วันนับจากวันที่เก็บรวบรวม
ละเอียดของผู้ให้บริการภายนอก การแจ้งดังกล่าวนั้นจะถูกทำขึ้นภายใน 30 วันนับจากวันที่เก็บรวบรวม
4. วัตถุประสงค์และรายละเอียดของการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เราจะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจได้ตามวัตถุประสงค์ ตลอดจนเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายใดๆที่เราหรือบุคคลต้องปฏิบัติตามและเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้ ดังนี้
4.1 เพื่อให้เว็บไซต์สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามวัตถุประสงค์ เช่น
- เพื่อให้บริการ
- เพื่อบำรุงรักษาและพัฒนาบริการ
- เพื่อให้บริการที่ปรับให้เข้ากับคุณ
- เพื่อพัฒนาบริการใหม่ ๆ
- เพื่อการโฆษณา
- เพื่อการโฆษณาที่ปรับให้เข้ากับคุณ
- เพื่อวัดผลและวิเคราะห์ประสิทธิภาพ
- เพื่อติดต่อสื่อสารกับคุณ
- เพื่อป้องกันตัวเรา ผู้ใช้งานของเรา และสาธารณะ
- เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ เช่น การประมวลผลข้อมูลตามที่ระบุไว้ในข้อ 5 ด้านล่าง
4.2 เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือที่ใช้บังคับ (Legal Obligation) เช่น
- การปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย
- การปฏิบัติตามกฎหมายธุรกิจสถาบันการเงิน กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายประกันชีวิต กฎหมายประกันวินาศภัย กฎหมายภาษีอากร กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายล้มละลาย และกฎหมายอื่น ๆ ที่เราจำเป็นต้องปฏิบัติตามทั้งของในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงประกาศและระเบียบที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว
4.3 เพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่เกินขอบเขตที่บุคคลสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล (Legitimate Interest) เช่น
- การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การจัดการข้อร้องเรียน การประเมินความพึงพอใจ การดูแลลูกค้าโดยพนักงานของเรา
- การบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบ การบริหารจัดการภายใน
- การทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ (Anonymous Data)
- การป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดการกระทำการทุจริต ภัยคุกคามทางไซเบอร์ การผิดนัดชำระหนี้หรือผิดสัญญา (เช่น ข้อมูลล้มละลาย) การทำผิดกฎหมายต่าง ๆ (เช่น การฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพ ทำลายล้างสูง ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือชื่อเสียง) ซึ่งรวมถึงการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อยกระดับมาตรฐานการทำงานของสำนักงาน ในการป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงข้างต้น
- การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทน ของลูกค้านิติบุคคล
- การติดต่อ การบันทึกภาพ และการบันทึกเสียงเกี่ยวกับการจัดประชุม หรือการสนทนา
- การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์
- การรับ-ส่งพัสดุ
4.4 หากเจ้าของข้อมูลไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณกับเว็บไซต์ซึ่งจำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามกฎหมายหรือ ปฏิบัติตามสัญญาระหว่างคุณกับเรา คุณอาจไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้บริการบางส่วนของเว็บไซต์
4.5 เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของคุณ ตามแบบให้ความยินยอม (Consent Form) หรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้
4.6 หากมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (อันชอบด้วยกฎหมาย) เราจะแจ้งให้คุณรับทราบภายในเวลา 30 วัน
5. ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้รับอาจมีการประมวลผล แยกตามฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้
- ฐานสัญญา (Contract)
- ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต (Vital Interest)
- ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย (Legal Obligation)
- ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
- ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม (Legitimate Interest)
- ฐานความยินยอม (Consent)
6. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลภายนอก
เราอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลภายนอกประมวลผล เช่น ผู้ให้บริการ ฝ่ายสนับสนุนทางเทคนิค การบริหารจัดการลูกค้า ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการโฆษณา เป็นต้น เราจะดูแลการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับ เช่น การแยกส่วนข้อมูลก่อนส่งข้อมูลส่วนบุคคล การมีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลดังกล่าว หรือ เราอาจเลือกใช้วิธีการดำเนินการให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และจะดำเนินการให้การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลภายนอกประมวลผล เป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแทนการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก็ได้
7. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
เราอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในโครงข่ายของเราที่อยู่ต่างประเทศ หรือไปยังผู้รับข้อมูลอื่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของเว็บไซต์ เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บน server/cloud ในประเทศต่าง ๆ เช่นประเทศญี่ปุ่น กรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานไม่เพียงพอ เราจะดูแลการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ การรักษาความลับ เช่น มีการจัดทำสัญญาการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการส่ง หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลข้ามพรมแดน การมีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าว หรือในกรณีที่ผู้รับข้อมูลเป็นบริษัทในโครงข่ายของเราที่อยู่ต่างประเทศ เราอาจเลือกใช้วิธีการดำเนินการให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและจะดำเนินการให้การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในโครงข่ายของเราที่อยู่ต่างประเทศ เป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแทนการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก็ได้
8. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจตามวัตถุประสงค์ หรือ ตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้หรือ จนกว่าเจ้าของข้อมูลจะร้องขอให้เราลบ หรือ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น จัดเก็บไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จัดเก็บไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทภายในอายุความตามที่กฎหมายกำหนดเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี ทั้งนี้ เราจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของบุคคลได้เมื่อหมดความจำเป็น หรือเมื่อเราได้รับการร้องขอจากเจ้าของข้อมูลหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว
9. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการประเมินความเสี่ยงและผลกระทบ
เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยเราได้กำหนด ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และมีการประเมินความเสี่ยงและผลกระทบด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากเว็บไซต์ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ เราได้มีการปรับปรุง ระเบียบ หลักเกณฑ์ และการประเมินความเสี่ยงและผลกระทบการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ ตามความจำเป็นและเหมาะสมการประเมินความเสี่ยงและผลกระทบด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึง การสูญเสียความน่าเชื่อถือ ความเชื่อมั่น ความไว้วางใจของลูกค้า การเสียเปรียบในการแข่งขันทางการตลาดและการค้า การถูกดำเนินคดีตามกฎหมายนอกจากนี้ กรรมการ บุคลากร ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากเรามีหน้าที่ต้องรักษาความลับข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่เรากำหนดขึ้น เรากำหนดให้แจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแก่เจ้าของข้อมูลทราบภายใน 72 ชั่วโมง เมื่อเกิดเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
10. สิทธิของบุคคลที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิของบุคคลที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิทธิตามกฎหมายที่ควรทราบ โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่เรากำหนดขึ้น และในกรณีบุคคลยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือถูกจำกัดความสามารถในการทำนิติกรรมตามกฎหมาย บุคคลสามารถขอใช้สิทธิโดยให้บิดาและมารดา ผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือมีผู้อำนาจกระทำการแทนเป็นผู้แจ้งความประสงค์ ได้แก่สิทธิดังนี้
10.1 สิทธิได้รับการแจ้งให้ทราบ
หากบุคคลต้องการให้ความยินยอมแก่เราในการ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลมีสิทธิที่จะทราบรายละเอียดถึงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล การขอข้อมูลเป็นกรณีที่เจ้าของข้อมูลอาจให้ข้อมูลหรือไม่ให้ข้อมูลก็ได้ หรือเป็นกรณีที่กฎหมายบังคับต้องให้ข้อมูล
10.2 สิทธิขอถอนความยินยอม
หากบุคคลได้ให้ความยินยอมให้เว็บไซต์เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่บุคคลให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) บุคคลมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่กับเว็บไซต์ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่บุคคลอยู่ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของบุคคลอาจส่งผลกระทบต่อบุคคลนั้นจากการดำเนินการตามสัญญา เพื่อประโยชน์ของบุคคล จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม
10.3 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล
บุคคลมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้นที่อยู่ในความรับผิดชอบของเรา และขอให้เราทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่บุคคล รวมถึงขอให้เราเปิดเผยว่าเราได้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมาได้อย่างไร
10.4 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล
บุคคลมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่เราได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมแก่เว็บไซต์ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เว็บไซต์จำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพื่อสามารถดำเนินการตามสัญญาได้ตามความประสงค์ หรือ เป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจต
10.5 สิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล
บุคคลมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบในการดำเนินงานของเว็บไซต์หรือตามที่กฎหมายกำหนด โดยไม่เกินขอบเขตที่บุคคลสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากบุคคลยื่นคัดค้าน เราจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปเฉพาะที่เราสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของคุณ หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
10.6 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล
บุคคลมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ หากบุคคลเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าเว็บไซต์ไม่มีความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อบุคคลได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
10.7 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล
บุคคลมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่เราอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของบุคคล หรือกรณีอื่นใดที่เราไม่มีความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
10.8 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล
บุคคลมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
10.9 สิทธิร้องเรียน
บุคคลมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากบุคคลเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
10.10 ข้อจำกัดการใช้สิทธิ
การใช้สิทธิของบุคคลดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่เราอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากเราปฏิเสธ คำขอข้างต้น เราจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้บุคคลทราบด้วยทั้งนี้ เราจะดำเนินการตามการขอใช้สิทธิต่าง ๆ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่บุคคลได้ยื่นคำขอและเอกสารประกอบต่อกรรมการผู้จัดการของเราโดยครบถ้วน
11. การทบทวนนโยบาย
เราจะทำการทบทวนนโยบายนี้อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือกรณีที่กฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข
12. ช่องทางการติดต่อ
หากท่านมีข้อสงสัยประการใดเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ โปรดติดต่อเรา ที่นี่ หรือท่านสามารถติดต่อเราผ่านทางช่องทางการติดต่อด้านล่างนี้
12. ช่องทางการติดต่อ
หากคุณมีข้อสงสัยประการใดเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ โปรดติดต่อเรา ที่นี่ หรือคุณสามารถติดต่อเราผ่านทางช่องทางการติดต่อด้านล่างนี้
InboundBuzz Inc.
Prime Terrace KAMIYACHO 9F 4-1-13
Toranomon, Minato-ku, Tokyo,
105-0001, Japan
talonjapan@inboundbuzz.co.jp