ค้นหาคูปองและบทความ

Close
สมัครสมาชิก

นารา

leafบทความใหม่จาก นารา

กรุณาเข้าสู่ระบบ

One Day Trip เที่ยว นารา เมืองกวางสุดน่ารัก เดินทางง่ายจาก โอซาก้า

นารา ( Nara ) เป็นหนึ่งในเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซ ห่างจากเมืองใหญ่อย่าง โอซาก้า และ เกียวโต เพียงไม่นาน นาราเคยเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 710 ในยุคที่เรียกว่า “ยุคนารา” ทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรม ศิลปะ และศาสนา ทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกหลายแห่ง 1 วัน เที่ยว นารา เมืองกวางสุดน่ารัก จาก โอซาก้า สะดวกและง่ายในวันเดียว หากมาเที่ยว โอซาก้า หรือ เกียวโต และกำลังมองหาทริปสั้นๆที่จะพาไปสัมผัสความสงบและเสน่ห์แบบญี่ปุ่นดั้งเดิม นารา (Nara) คือจุดหมายที่เหมาะสมที่สุด เมืองนี้เต็มไปด้วยกวางที่เดินเล่นอยู่ในสวนสาธารณะ พร้อมทั้งสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สวยงาม การเดินทางไป นารา จาก โอซาก้า ไป นารา 1.เดินทางด้วยรถไฟ JR สามารถเลือกใช้ รถไฟด่วน (Rapid Train) ที่วิ่งตรงจากสถานี เทนโนจิ (Tennoji) ไปยังสถานี JR…

  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • นารา
  • ฤดูใบไม้ร่วง
  • ฤดูใบไม้ผลิ

อ่านต่อ

กรุณาเข้าสู่ระบบ

10 ที่เที่ยวยอดฮิต “นารา” เมืองแห่งกวางน้อยและพระใหญ่

นารา(Nara) ตั้งอยู่ห่างจากเกียวโตและโอซาก้าประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง จึงกลายเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวเมื่อมายังแถบคันไซ นารานับว่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงโงดังมากๆจากการเป็นเมืองแห่งพระใหญ่และฝูงกวาง แถมยังเคยเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นเมื่อพันกว่าปีก่อนอีกด้วยนะคะ ดังนั้นแม้ว่าปัจจุบันจะไม่ไดเป็นเมืองหลวงอย่างเมื่อก่อนโน้น อีกทั้งความเจริญยังแน่นเท่าโอซาก้า แต่ความคลาสสิครับรองว่าดีงามไม่แพ้ใคร เนื่องจากเคยเป็นเมืองหลวงเก่ามาก่อน จึงมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมาย ไปนาราแล้วไม่ควรพลาดแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต ประจำเมืองเลยเชียว ซึ่งจะมีอะไรกันบ้างนั้นต้องมาตามดูกันค่ะ กับ 10 ที่เที่ยวยอดฮิต “นารา” เมืองแห่งกวางน้อยและพระใหญ่ อัพเดทล่าสุด 2023   วัดโทไดจิ หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า “ไดบุตสึ” ถูกขนานนามว่าเป็นวัดหลวงพ่อโตแห่งเมืองนาราที่ไม่ว่าใครมาเยือนเมืองแห่งนี้ต้องมาไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลกันอย่างแรกเลยล่ะค่ะ วัดนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นมากๆเลยนะคะ โดยถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.752 รวมๆจนถึงตอนนี้อายุนี่ก็ปาเป็นพันกว่าปีแล้วนะคะ จริงๆแล้วอาคารหลังนี้มีขนาดเพียงแค่ 2 ใน 3 ของอาคารดั้งเดิมเท่านั้น ซึ่งจะมีอาคารหลักของวัดเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งที่เรียกว่าเป็นไฮไลท์มากๆนั่นก็คือ การเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโตหรือ ไดบุตสึเดนนั่นเองค่ะ ด้วยความสูงถึง 15 เมตรจึงทำให้กลายเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ถ้าอยากจะเห็นว่าจะใหญ่ขนาดไหนต้องมาปักหมุดให้ได้เลย       พระราชวังเฮโจ แห่งเมืองนารา(Heijo Palace/Nara Imperial Palace) ตั้งอยู่ที่ภายในตัวเมืองนารา(Central Nara) นับเป็นพระราชวังที่รักษาความเป็นดั้งเดิมอยู่มากเลยล่ะค่ะ…

  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • นารา
  • คันไซ

อ่านต่อ

กรุณาเข้าสู่ระบบ

ถนนช้อปปิ้งฮิกาชิมูกิ (Higashimuki Shopping Street)

ถนนช้อปปิ้งฮิกาชิมูกิ (Higashimuki Shopping Street) สุดปังแห่งเมืองนาราที่สายช็อปห้ามพลาด  โดยถนนแห่งนี้ตั้งอยู่ข้างสถานีรถไฟคินเทสึนารา(Kintetsu Nara Station)เรียกได้ว่าเดินทางมาง่ายแบบสุดๆ ) สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านรวง และร้านอาหารมากมายให้คุณได้เลือกช็อปจนจุใจเป็นระยาทางยาวรวมประมาณ 250 เมตร เรียกได้ว่าเป็นถนนสายช็อปที่เดินกำลังเพลิน ของก็เยอะทั้งของกระจุกกระจิก ของกินของใช้อย่างเพียบ มาแล้วต้องได้อไรติดไม้ติดมือกลับไปอย่างแน่นอน    

  • ช้อปปิ้ง
  • นารา
  • คันไซ

อ่านต่อ

กรุณาเข้าสู่ระบบ

รีวิว เที่ยว Kansai หน้าร้อน 5วัน4คืน ทริปเรื่อยๆ กินๆ ไม่รีบ กับ Kansai Thru Pass 3 วัน รูปเพียบ

วันแรกกกในหน้าร้อนของญี่ปุ่น รรทุกวันพักที่ Shin Imamiya ใกล้ทั้งรถใต้ดิน และ JR จากสนามบินสายเดียวถึงนั้ง Nankai และ JR พัก รร Sunplaza อยู่ติดกับลิฟท์ Nankai เลย สะดวกลากกกระเป๋ามาก https://www.google.co.th/maps/@34.6498289,135.5004436,3a,75y,17.93h,100.2t/data=!3m6!1e1!3m4!1sVbdEoksqvTCQe8VUpiYcaw!2e0!7i13312!8i6656   ทริปนี้ใช้ Kansai Thru Pass เป็นหลักเลยนั่งแต่ รถใต้ดินเป็นหลัก แต่วันแรกยังอยู่แต่ในOsaka เลยซื้อตั๋ววันรถใต้ดินก่อน ต่อยเริ่มใช้ Kansai Thru Pass พรุ่งนี้ เนื่องจากร้อนมากกกกก 40 องศา ต้องแวะซื้อไอศกรีมต่างๆแทบทุกร้่นสะดวกซื้อ มีหลายหลายเหลือเกินกินไม่ครบซะที นั่งรถมาลงUmeda ลงเครื่องมาแต่เช้า หิววววว หาอะไรกินแถวUmeda เจอร้านนี้แถวๆสถานี มาOsaka ก็ไม่อยากจะพลาด โอโคโนมิยากิ ด้วยความติดกาแฟต้องหากาแฟกินหน่อย เท่าที่ลองหลายๆแบบทั้งแบบขวดแบบกดตู้ ชอบ กาแฟสดของ7 สุดแล้ว ต้องไปหยิบแก้วน้ำแข็งในตู้แช่ก่อน จ่ายตังแล้วค่อยมากดกาแฟ มี 2…

  • นารา
  • เฮียวโกะ
  • เกียวโต
  • คันไซ
  • โอซาก้า
  • แพลนทั่วไป

อ่านต่อ

กรุณาเข้าสู่ระบบ

ศาลเจ้าโนโนมิยะ(Nonomiya Jinja) ใครอยากมีคู่ต้องมาที่นี่

ศาลเจ้าโนโนมิยะ(Nonomiya Jinja Shrine) ตั้งอยู่บริเวณเส้นทางป่าไผ่แห่งอาราชิยาม่าในจังหวัดเกียวโต  ซึ่งศาลเข้าแห่งนี้จะอยู่ตรงกลางของเส้นทางป่าไผ่พอดิบพอดี ทำให้ยิ่งขับให้บรรยากาศยิ่งแลดูศักดิ์สิทธิ์และยังแลดูงดงามกลมกลืนไปกับธรรมชาติอย่างน่าดู ด้วยการเป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นเทพเจ้า Nonomiya Daikokuten ที่เชื่อกันว่าเป็นเทพพระเจ้าแห่งการจับคู่หากมาบูชาจะมีโชคด้านความรักและคู่ครอง ส่วนคนมีคู่อยู่แล้วก็จะได้แต่งงานมีชีวิตคู่ที่ราบรื่นสงบสุข ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้โด่งดังมากๆในหมู่สาวๆโดยเฉพาะสาวโสดที่อยากมีคู่ ไม่เพียงแค่จะมาขอคู่เท่านั้นที่นี่ยังมีหิน Okame-ishi ประดิษฐานอยู่ภายในศาลที่เชื่อว่าหากขอพรพร้อมถูหินจะทำให้ความปรารถนาเป็นจริงได้ในที่สุดภายใน 1 ปี แถมยังมีเครื่องรางน่ารักๆที่เชื่อว่าพกแล้วจะโชคดีเรื่องความรักมาให้ซื้อกลับไปฝากติดไม้ติดมือให้เพื่อนๆได้กรี๊กกร๊าดกันอีกต่างหาก ศาลเจ้าเล็กๆแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยเฮอัน เดิมทีนั้นเป็นที่พำนักของเหล่านักบวชหญิงที่เป็นเชื้อพระวงศ์ เพื่อไปทำพิธีชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ โดยประเพณีนี้มาหยุดลงเมื่อมีสงครามเกิดขึ้นภายในญี่ปุ่น หากภายหลังจากสงครามเสร็จสิ้นจักรพรรดิในยุคนั้นได้มีคำสั่งให้มีการบูรณะศาลเจ้ากลับมาดีเหมือนเดิม ที่นี่ไม่ได้มีแค่เทพเจ้าแห่งคู่ครองเท่านั้น หากยังเป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นเทพเจ้าอีกหลายองค์ไม่ว่าจะเป็น เทพเจ้า Shiramine Benzaiten-เทพเจ้าแห่งศิลปะทั้งมวล เทพเจ้า Shirafuku Inari เทพเจ้าแห่งการคลอดลูกปลอดภัยและกิจการเจริญก้าวหน้าร่ำรวยๆ และเทพเจ้า Ooyama Benzaiten-เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง ช่วงที่น่ามาที่สุดของปีก็น่าจะเป็นช่วงเดือนตุลาคมของทุกปีที่จะมีการเดินขบวนไซกุ เกียวเร็ตสึ อันเป็นประเพณีโบราณดั้งเดิมมีอายุกว่า 600 ปี ที่จะเป็นการนำส่งเหล่าบรรดาเจ้าหญิงเชื้อพระวงศ์ทั้งหลายที่ยังไม่ได้แต่งงานให้ไปบวชบำเพ็ญตนที่ศาลเจ้าอิเสะ โดยจะมาพนักยังศาลเจ้าโนมิยะเพื่อชำระตนก่อน ซึ่งภายในขบวนจะเป็นการจำลองการทำพิธีโดยมีการให้ผู้หญิงแต่งกายแบบนักบวชสมัยเฮอันนั่งบนคล้ายๆเสลี่ยง แล้วเมื่อถึงจุดหมายนั่นก็คือศาลเจ้าโนโนมิยะก็จะมีการทำพิธีที่เรียกกันว่า เกียวเคอิ-โนะ-กิ นับเป็นประเพณีโบราณที่จะสามารถหาดูได้ที่นี่เท่านั้น ศาลเจ้าแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีบรรยากาศเสมือนย้อนไปในอดีต ท่ามกลางป่าไม้ที่สูงเสียดฟ้า ถือว่าเป็นศาลเจ้าที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่น่ามาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเก่าอย่างเกียวโต

  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • นารา
  • คันไซ

อ่านต่อ

กรุณาเข้าสู่ระบบ

เทศกาลคาสุกะ วากามิยะ (Kasuga Wakamiya On-Matsuri)

เทศกาลบูชาเทพเจ้าที่มีประวัติศาสตร์หลายร้อยปี ซึ่งถือเป็นเทศกาลประจำปีที่จัดขึ้นตั้งแต่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ของศาลเจ้าคาสุกะ( Kasuga Shrine) เพื่อเป็นการสักการบูชาเทพเจ้าวากามิยะให้ผลผลิตทางการเกษตรอุดมสมบูรณ์ ปราศจากภัยพิบัติทั้งปวง และมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เทศกาลนี้มีระยะเวลาการจัด 4 วันเต็มๆ ไม่เพียงเป็นพิธีกรรมความเชื่อทางศาสนาเท่านั้น หากยังถือเป็นประเพณีเทศกาลที่สำคัญของชาวเมืองนาราเลยทีเดียว ภายในงานมีกิจกรรมและการแสดงศิลปวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมที่น่าสนใจหลากหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการแสดงร่ายรำแบบคาสุกะ การเต้นรำแบบดั้งเดิม และการแสดงดนตรีบูกาคุซึ่งถือว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ไม่มีตัวตนที่สำคัญจากการขึ้นทะเบียนของรัฐบาลญี่ปุ่น หากต้องการชมขบวนแห่บูชาเทพเจ้าอันขึ้นชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ต้องมาดูช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 17 และที่พลาดไม่ได้เลยกับไฮไลท์ของงานอย่างขบวนแห่เทพเจ้าในช่วงกลางวันวันที่ 17 ที่เต็มไปด้วยผู้ร่วมขบวนจะสวมใส่เครื่องแต่งกายแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมของแต่ละยุคสมัยเฮอันไปจนถึงปลายยุคเอโดะ รวมทั้งยังจะมีการแสดงศิลปะอื่นๆอีกมากมายจนถึงเวลาเกือบเที่ยงคืน นับว่าเป็นเทศกาลที่อบอวนไปด้วยกลิ่นอายของความศักดิ์สิทธิ์และบรรยากาศแห่งความสนุกสนานไปพร้อมๆกัน สถานที่จัดงาน : ศาลเจ้าคาสุกะ (Kasuga Shrine) จังหวัดนารา (Nara Prefecture) ระยะเวลาการจัดงาน : เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 15 – วันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม 2017 อัตราค่าเข้าชม : ฟรี เบอร์โทรศัพท์ : 0742-22-7788 การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR สายยามะโตจิ ลงที่สถานีนารา (Nara Station)…

  • อีเวนต์
  • นารา
  • คันไซ

อ่านต่อ

กรุณาเข้าสู่ระบบ

วัดโชโกะซังชิจิ (Chogosonshi-ji Temple)

วัดโชโกะซังชิจิ(Chogosonshi-ji Temple) ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาภูเขาชิกิ (Mount Shigi) ของจังหวัดนารา มีสัญลักษณ์เป็นรูปปั้นเสือโคร่งตัวใหญ่ตั้งอยู่ตรงทางเข้าและยังมีหลากหลายแห่งในบริเวณของวัด วัดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดยเจ้าชายโชกุโตะผู้ที่มีความสำคัญในการวางรากฐานรัฐของประเทศญี่ปุ่นช่วงยุคอาซูกะ ที่สำคัญยังเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าบิชะมงเตน (Bishamonten) หรือที่รู้จักกันว่าเป็นหนึ่งในเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าเทพเจ้าองค์นี้เป็นเทพเจ้าแห่งนักรบ ขุมทรัพย์ และความยุติธรรมมีหน้าที่ปกปักรักษาทรัพย์สมบัติและปกป้องให้พ้นจากภัยอันตรายต่างๆ ทำให้เป็นที่นิยมของผู้มีความศรัทธาและนักท่องเที่ยวจำนวนมากในการมาสักการะขอพร เพื่อให้เกิดความสำเร็จด้านธุรกิจการงาน โชคดีร่ำรวย และชีวิตราบรื่น จากการที่วัดตั้งอยู่บนเนินเขาทำให้แวดล้อมไปธรรมชาติที่สวยงามตระการตาของป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ ทั้งยังเป็นจุดชมวิวยอดนิยมของจังหวัดนาราในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูต่างๆที่มีความสวยงามไม่แพ้กันอีกด้วย   จุดกำเนิดตามตำนานที่มีการเล่าขานของวัดแห่งนี้เริ่มจากเมื่อ 1,400 ปีก่อนเจ้าชายโชกุโตะได้หยุดพักการเดินทางที่ภูเขาชิกิเพื่อไปล้อมปราสาทคาวาชิ อินะมุระ (Kawachi Inamura) เจ้าชายจึงทำการอธิษฐานให้ได้รับชัยชนะในการรบที่กำลังจะเกิดขึ้น ภายหลังจากการอธิษฐานเทพเจ้าบิชะมงเตน (Bishamonten)ได้ปรากฏตัวให้เค้าเห็นบนท้องฟ้าในวันเสือและปีเสือตามปฏิทินจีน ซึ่งหลังจากที่ได้รับชัยชนะจึงได้ทำการสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่เทพเจ้าบิชะมงเตน (Bishamonten) รวมทั้งยังมีการแกะสลักภาพสัญลักษณ์ของเทพเจ้าองค์นี้ ด้วยความที่ตัววัดตั้งอยู่สูงประมาณ 437 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้วิหารกลายเป็นจุดชมทัศนียภาพอันงดงามที่สามารถมองเห็นเทือกเขาท่ามกลางแมกไม้ที่จะมีเสน่ห์แตกต่างกันไปในทุกๆฤดู   สถาปัตยกรรมของวัดสร้างแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม หากแต่มีการบูรณะซ่อมแซมอย่างสม่ำเสมอทำให้ดูงดงาม ทั้งยังแฝงไปด้วยกลิ่นอายความเก่าแก่ ลักษณะของเทพเจ้าบิชะมงเตนที่เป็นรูปสลักนั้นแสดงถึงความเป็นเทพแห่งสงครามสวมเกราะและหมวกพร้อมในการรบ สิ่งนั้นหมายถึงความตั้งใจในการกวาดล้างอุปสรรคสิ่งกีดขวางทุกชนิดที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันการแสดงออกทางสีหน้าที่ขึงขังดุดันยังสอนให้เรามีจิตใจที่เข้มแข็งและความอดทนในการทำสิ่งใดๆ ไม่ว่าจะเผชิญกับความยากลำบากมากมายแค่ไหนก็ตาม อาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในมือขวาเป็นเสมือนสัญลักษณ์ความสำเร็จในธุรกิจและการเงิน ส่วนอาวุธในมือด้านซ้ายเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีและความมั่งคั่ง วิหารหลักบนเนินเขานั้นหลังจากถูกไฟไหม้เมื่อปี พ. ศ. 2494 ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ในปี พ.ศ 2501 โดยใช้เทคนิคทางสถาปัตยกรรมที่เรียกว่า…

  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • นารา
  • คันไซ

อ่านต่อ

กรุณาเข้าสู่ระบบ

แจกฟรี แผนที่รถบัสรอบเมืองนารา

แจกฟรี แผนที่รถบัสรอบเมืองนารา ในแผนที่จะมีบอกเส้นทางเดินรถสายต่างๆ ซื้อจะมีสีที่ต่างกันทำให้ดูง่าย และยังบอกป้ายรถบัสที่อยู่ใกล้กับสถานที่เที่ยวด้วย ถ้าต้องการไปเที่ยวที่ไหนก็ดูเลขป้ายสถานีที่จะลงจากแผนที่ได้เลย   กดดาวน์โหลดแผนที่>> แผนที่รถบัสรอบเมืองนารา   [wp_ad_camp_4]

  • นารา
  • คันไซ

อ่านต่อ

ดูทั้งหมด

กดบันทึกคูปองและบทความไว้เพื่อทำให้การเดินทางไปญี่ปุ่นของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น!

ถ้ากดบันทึกคูปองหรือบทความที่ชอบเอาไว้ ก็จะสามารถค้นหาได้อย่างง่ายดายจาก "My Page" ในระหว่างการเดินทาง ลองใช้กันดูนะ!

สมัครสมาชิก

ロンタ

บันทึกแล้ว!