นีงาตะ

ฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่นไม่ได้หมายถึงซากุระบานสะพรั่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงเวลาแห่งความสนุกในการเล่น สกี ญี่ปุ่น ที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง! ด้วยภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและหิมะที่ตกหนักในฤดูหนาว ทำให้ญี่ปุ่นมีลานสกีหลายแห่งที่ยังคงมีหิมะให้เล่นได้จนถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นโอกาสทองสำหรับนักสกีที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การเล่นสกีท่ามกลางอากาศอบอุ่นและทิวทัศน์ที่สวยงามของฤดูใบไม้ผลิต 6 ลาน สกี ญี่ปุ่น ที่ยังมีหิมะให้ลุยได้ถึงพฤษภาคม บทความนี้จะพาไปรู้จักกับ 6 ลาน สกี ญี่ปุ่น ที่สามารถไปสัมผัสความสนุกของการเล่นสกีได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จะมือใหม่หรือมืออาชีพก็เล่นได้ไม่มีพลาด 1. นิเซโกะ (Niseko) ลานสกี นิเซโกะ ตั้งอยู่บนเกาะฮอกไกโด เป็นหนึ่งในลานสกีที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ขึ้นชื่อเรื่อง “Powder Snow” หรือหิมะเนื้อละเอียดที่นุ่มและเบา เหมาะสำหรับการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด จุดเด่นของลานสกีนิเซโกะ : ・มีลานสกีขนาดใหญ่และหลากหลายเส้นทาง เหมาะสำหรับนักสกีทุกระดับ ・มีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย เช่น สโนว์โมบิล, สโนว์ชูว์, และออนเซ็น ・มีทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาโยเท (Mount Yotei) ช่วงเวลาที่เหมาะสม : โดยทั่วไปเปิดให้บริการตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนหรือต้นเดือนธันวาคม ไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม เว็บไซต์ —————————————————— 2. ฟุราโนะสกีรีสอร์ท (Furano Ski Resort)…

นีงะตะ(์Niigata) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคจูบุ(Chubu)ของญี่ปุ่น ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติที่สวยงามและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นและมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ตั้งแต่การเดินป่าและเล่นสกีบนภูเขา ไปจนถึงการเยี่ยมชมวัดเก่าแก่และพิพิธภัณฑ์ศิลปะในเมือง เรียนกได้ว่ามีทุกสิ่งสำหรับทุกคน     เกาะซาโดะ: เกาะนี้ตั้งอยู่นอกชายฝั่งของนีงะตะ เป็นที่รู้จักจากศิลปะการแสดงแบบดั้งเดิม เช่น การตีกลองไทโกะและโรงละครหุ่นบุนระคุ มีสถานที่หลายแห่งบนเกาะที่เราสามารถชมการแสดงเหล่านี้ได้ เช่น ศูนย์ไทโกะเกาะซาโดะและเหมืองทองซาโดะคินซัง นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการสำรวจกลางแจ้ง เราสามารถเดินขึ้นไปยังจุดสูงสุดของเกาะ แช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนบางแห่ง หรือแม้แต่ว่ายน้ำในทะเล       Echigo-Tsumari Art Field: เป็นเทศกาลศิลปะที่จัดขึ้นในพื้นที่ชนบทของจังหวัดนีงะตะทุกๆ 3 ปี ซึ่งผู้เข้าชมสามารถชมผลงานศิลปะจากทั่วทุกมุมโลกได้หลากหลาย งานศิลปะกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ และนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางระหว่างกันได้โดยรถประจำทางหรือเช่าจักรยาน       การเล่นสกีและสโนว์บอร์ด: นีงะตะขึ้นชื่อเรื่องสกีรีสอร์ท ดังนั้นหากใครชอบการเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะเป็นอย่างยิ่ง มีสกีรีสอร์ทหลายแห่งในพื้นที่ เช่น Myoko Kogen และ Yuzawa Nakazato ซึ่งมีทางลาดหลากหลายสำหรับระดับทักษะที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ รีสอร์ทหลายแห่งยังมีบ่อน้ำพุร้อนที่เราสามารถอุ่นร่างกายและผ่อนคลายหลังจากเล่นสกีมาทั้งวัน       โรงกลั่นสาเก: นีงะตะยังมีชื่อเสียงในด้านสาเก…

จังหวัดนีงาตะ(Niigata Prefecture)ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเล ในภูมิภาคชูบุ(Chubu)ของญี่ปุ่น ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลแสนอร่อยและเหล้าสาเกท้องถิ่น โดยเฉพาะปลา จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่ง เช่น เกาะซาโดะ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องเหมืองทอง และเมืองประวัติศาสตร์เอจิโกะ-ยูซาว่า ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องน้ำพุร้อน เมืองหลวงของจังหวัดคือเมืองนีงาตะ และเมืองใหญ่อื่นๆ ได้แก่ นางาโอกะ ซันโจ และโกเซ็น ชื่อ นีงาตะ(Niigata) แม้จะไม่ค่อยได้ยินคนไทยพูดถึงกันเท่าไหร่ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งจังหวัดใหญ่ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ถ้าใครสนใจแล้วก็ตามเรามาเลย กับ 15 ที่เที่ยวห้ามพลาดใน นีงาตะ Niigata   ศาลเจ้ายาฮิโกะเป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านยาฮิโกะ จังหวัดนีงาตะ เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าแห่งการเกษตรและอุตสาหกรรม และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของเทศกาลและกิจกรรมมากมายในรอบปี     สวนสาธารณะฮาคุซังเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองนิอิกาตะ ประเทศญี่ปุ่น ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ มากมาย รวมถึงสระน้ําขนาดใหญ่ สนามเด็กเล่น สนามกีฬา และเส้นทางเดินหลายสาย สวนสาธารณะเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับครอบครัว เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้ง     น้ำตก Naena เป็นหนึ่งในน้ำตก 100 ของญี่ปุ่น ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ต้นไม้…

ศาลเจ้ายาฮิโกะ(Yahiko Shrine)เป็นศาลเจ้าชินโตที่สวยงามและเก่าแก่ ใน จังหวัดนีงะตะ ประเทศญี่ปุ่น ศาลเจ้าแห่งนี้อุทิศให้กับเทพเจ้าแห่งเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม และเป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณที่สำคัญของผู้คนในภูมิภาคนี้มานานหลายศตวรรษ ศาลเจ้าตั้งอยู่บนเนินเขายาฮิโกะ(Yahiko) และล้อมรอบด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม ห้องโถงหลักของศาลเจ้าเป็นโครงสร้างไม้แบบดั้งเดิมขนาดใหญ่ที่ประดับประดาด้วยงานแกะสลักที่ประณีตและมีรายละเอียดที่สลับซับซ้อน ห้องโถงหลักล้อมรอบด้วยศาลเจ้าขนาดเล็กอื่นๆ อีกหลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งอุทิศให้กับเทพเจ้าหรือเทพธิดาองค์ใดองค์หนึ่งโดยเฉพาะ ลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของศาลเจ้ายาฮิโกะคือต้นซีดาร์ขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในลาน ต้นไม้นี้เชื่อกันว่ามีอายุมากกว่า 1,000 ปี และผู้คนในภูมิภาคนี้ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้เข้าชมมักจะเห็นพิธีกรรมชินโตแบบดั้งเดิมที่ดำเนินการรอบๆ ต้นไม้ รวมถึงการถวายอาหารและเครื่องดื่ม ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลและกิจกรรมมากมายตลอดทั้งปี หนึ่งในเทศกาลที่มีชื่อเสียงที่สุดคือเทศกาลศาลเจ้ายาฮิโกะ ซึ่งจัดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ ที่มีการเต้นรำและการแสดงแบบดั้งเดิมมากมาย เทศกาลนี้ยังรวมถึงขบวนพาเหรดสีสันสดใสขนาดใหญ่ที่เคลื่อนไปตามถนนของหมู่บ้านยาฮิโกะ โดยผู้เข้าร่วมจะแต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิมและถือขบวนแห่ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างสดใส ศาลเจ้าสามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยรถยนต์หรือระบบขนส่งสาธารณะ และที่จอดรถ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและร้านอาหารหลายแห่งตั้งอยู่ใกล้กับศาลเจ้าซึ่งจำหน่ายอาหารพื้นเมืองและของที่ระลึกต่างๆ อีกทั้งบริเวณโดยรอบยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ อีกหลายแห่ง เช่น น้ำพุร้อน Yahiko-Yoneyama Onsen สวน Yahiko และภูเขา Yahiko Official Link – https://www.yahiko-jinjya.or.jp/

สวนฮาคุซัง(Hakusan Park) เป็นสวนสาธารณะสวยประจำเมืองนีงะตะ ที่ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากชาวดัตช์ ตั้งอยู่ติดกับศาลเจ้าฮาคุซัง(Hakusan Shrine) และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในสวนสาธารณะในเมือง 100 อันดับแรกของญี่ปุ่น สวนมีความงามตามฤดูกาลที่หลากหลาย เช่น ดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ดอกบัวในฤดูร้อน ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และหิมะในฤดูหนาว หนึ่งในไฮไลท์เด่นของสวนฮาคุงซัง คือ Air Gardens ที่ตั้งอยู่ระหว่างสวน Hakusan และ Ryutopia ได้รับการออกแบบให้มีลักษณะคล้ายเกาะกลางน้ำและเป็นจุดชมดอกซากุระยอดนิยม สวนจะสวยงามเป็นพิเศษเมื่อดอกไม้บานเต็มที่และในงานประดับไฟ นอกจากนี้ ครอบครัวยังสามารถเพลิดเพลินกับสนามเด็กเล่นในพื้นที่ได้ด้วย อีกไฮไลท์คือ Enkikan หรือ บ้านพ่อค้าเก่าในสมัยเมจิที่ได้รับการ renovate ใหม่ ปัจจุบันเป็นพื้นที่ชุมชนสำหรับการเรียนรู้กิจกรรมทางวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น เช่น พิธีชงชาซึ่งเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมและมีจำหน่ายชามัทฉะ และ สระบัวที่สวยงามให้ชม

Ponshukan เป็นร้านห้ามพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสาเกญี่ปุ่น ในนีงะตะ(Niigata) เพราะแค่ 500 เยนเราก็สามารถลิ้มรสสาเกหลากหลายประเภท ตั้งแต่แบรนด์ที่มีชื่อเสียงไปจนถึงผู้ผลิตงานฝีมือที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักจากทั่วทั้งจังหวัดนีงาตะ ง่ายๆเพียงแค่เลือกจากตู้หยอดเหรียญที่มีเรียงรายอย่างกับกาชาปอง รวมทั้งมีเกลือและมิโซะให้ลิ้มรสซึ่งเป็นการจับคู่ที่ยอดเยี่ยมกับสาเก นอกจากนี้ พอนชูคังยังจำหน่ายสินค้าของนีงะตะยอดนิยมอื่นๆ อีกหลายอย่างด้วย จึงเหมาะกับการแวะซื้อขนมของฝากมากๆ และถึงแม้จะไม่ใช่คนที่ไม่ดื่มเหล้าสาเก ก็ยังมีการชิมโชยุ ซึ่งทำจากเหล้าสาเกเหลือ หรือจะลองชิมเมนูพิเศษเช่น “Bakudan Onigiri” ข้าวปั้นขนาดใหญ่ที่ทำจากข้าว Koshihihikari Uonoma ที่ปลูกในท้องถิ่นขนาดใหญ่ถึง 150 กรัม Ponshukan ตั้งอยู่ภายในสถานีรถไฟหลักๆถึง 3 สาขา คือ Niigata Station, Echigo-Yuzawa Station และ Nagaoka Station เว็บหลัก – https://www.ponshukan.com/en/

ปราสาทชิบาตะ(Shibata Castle)มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งใน 100 ปราสาทอันโดดเด่นของญี่ปุ่น รวมทั้งมีอาคารประตูทางเข้าหลัก และหอคอยปราสาท Ninomaru Sumiyagura ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น ตัวอาคารปราสาทสูง 3 ชั้นแห่งนี้มีหลังคารูปตัว T ที่ไม่เหมือนใคร ประดับด้วยรูปปั้น Shachihoko หรือปลาคาร์ฟที่มีหัวเป็นเสือ สามตัว ซึ่งเป็นลักษณะที่หาได้ยากในญี่ปุ่น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราไม่สามารถเข้าชมภายในของอาคารหลักได้เพราะเป็นของกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น ส่วนกำแพงโดยรอบปราสาท เรียกว่า นามาโกะ(Namako)ซึ่งเป็นกำแพงสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่พบได้ทั่วไปในพื้นที่ที่มีหิมะตก นอกจากตัวปราสาทแล้ว บริเวณรอบๆยังมีสวนสาธารณะซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนีงะตะ และสวยงามแตกต่างกันไปตามฤดูกาล ตั้งแต่ดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ดอกบัวในฤดูร้อน ใบไม้ร่วง และทิวทัศน์หิมะในฤดูหนาว โดยเฉพาะ ในช่วงฤดูซากุระ ปราสาทจะถูกประดับประดาด้วยโคมไฟกระดาษแบบดั้งเดิม ทำให้เกิดทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงาม และดอกซากุระและโคมไฟจะสะท้อนผ่านคูน้ำ   เว็บหลัก – https://www.city.shibata.lg.jp/shisetsu/kanko/kanko/1005061.html

น้ำตก Naena fall เป็นหนึ่งในน้ำตก 100 ของญี่ปุ่น ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ต้นไม้ และภูเขา ตัวน้ำตกมีความสูงถึง 55 เมตร และเป็นที่รู้จักในชื่อ “น้ำตกแผ่นดินไหว” เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลแรงและเสียงดังมากของน้ำตก โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมเพราะน้ำไหลแรงที่สุด แต่จะสวยงามที่สุดในฤดูใบไม้ร่วง เพราะเนินเขาที่อยู่รอบๆจะเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงของจังหวัดนีงะตะ จุดชมน้ำตก Naena จะต้องเดินเท้าจากที่จอดรถประมาณ 15 นาที และนอกจากการมาชมน้ำตกแล้ว ที่นี่ยังเป็นเส้นทางเดินป่าที่ราบสูงเมียวโกะ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินป่าที่แนะนำโดย Forest Therapy Society ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย เพราะชาวญี่ปุ่นหลายคนเชื่อว่าการเดินป่าเป็นวิธีที่ดีในการเพลิดเพลินกับธรรมชาติ และผ่อนคลายจากการตึงเครียดของ สุขภาพจิตและร่างกายได้   เว็บไซต์หลัก – https://myokotourism.jp/