ชิมาเนะ

นอกจากการเที่ยวชมธรรมชาติ เช็กอินร้านอาหารแสนอร่อย หรือแหล่งช้อปปิ้งสุดคึกคัก อีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เมื่อมาญี่ปุ่นก็คือ การไปไหว้พระขอพรที่วัดและศาลเจ้าต่างๆ ซึ่งมีอยู่แทบทุกเมือง ทุกภูมิภาค แถมแต่ละที่ยังขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ธรรมดา หลายคนไปมูมาแล้วบอกเลยว่าปังมาก ! ใครที่รู้สึกว่าช่วงนี้ดวงไม่ค่อยดี หรืออยากเสริมดวงเรื่องความรัก การงาน การเงิน โชคลาภ วันนี้เรารวบรวม 10 ศาลเจ้า – วัด ญี่ปุ่น ชื่อดังมาให้แล้ว เตรียมตัวไปขอพรกันเลย ! ศาลเจ้า วัด ญี่ปุ่น แนะนำสำหรับสายมู วัดคิโยมิซุ (Kiyomizu-dera Temple) วัด คิโยมิซุ ตั้งอยู่บนเขาโอโตวะ ทางตะวันออกของเมืองเกียวโต ญี่ปุ่น คนไทยนิยมเรียกว่า “วัดน้ำใส” เพราะคำว่า คิโยมิซุ หมายถึง น้ำที่บริสุทธิ์สะอาด นอกจากนี้ภายในวัดยังมี น้ำตกโอโตวะ ที่ไหลลงมาเป็น 3 สาย สายที่ 1 ให้พรเรื่องการเรียน สายที่ 2 ให้พรเรื่องความรัก ส่วนสายที่ 3…

จังหวัด ชิมาเนะ (Shimane) คือหนึ่งในจังหวัดเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูโกกุ ทางตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น แม้ชื่ออาจไม่คุ้นหูเท่ากับโตเกียว โอซาก้า หรือฮอกไกโด แต่ชิมาเนะกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์ ธรรมชาติบริสุทธิ์ และวัฒนธรรมดั้งเดิมที่น่าค้นหาอย่างลึกซึ้ง เหมาะกับนักเดินทางสายสงบที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นแท้ๆ ห่างไกลจากเมืองท่องเที่ยวหลักที่แออัด หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดชิมาเนะคือ ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ (Izumo Taisha) ซึ่งเป็นหนึ่งในศาลเจ้าชินโตที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในญี่ปุ่น มีความเชื่อกันว่าเป็นศูนย์รวมของเทพเจ้าแห่งโชคชะตาและความรัก ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นจุดหมายสำคัญของผู้ที่ศรัทธาและคู่รักจำนวนมาก นอกจากมรดกทางศาสนาแล้ว ชิมาเนะยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงาม เช่น ทะเลสาบชินจิ (Lake Shinji) ที่โด่งดังเรื่องวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น หรือการล่องเรือชมวิวรอบเมืองมัตสึเอะ (Matsue) เมืองหลวงของจังหวัด ที่ยังคงเสน่ห์ของเมืองปราสาทเก่าไว้อย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับผู้ชื่นชอบวัฒนธรรมและงานหัตถกรรม ชิมาเนะยังเป็นแหล่งผลิตกระดาษวาชิ (Washi) และเครื่องเคลือบดินเผายาคุโมะที่มีเอกลักษณ์สืบทอดมาแต่โบราณ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ อาดาจิ (Adachi Museum of Art) ที่รวมงานศิลป์ญี่ปุ่นสมัยใหม่ไว้พร้อมกับสวนญี่ปุ่นที่ได้รับการจัดอันดับว่าสวยงามติดอันดับต้นๆ ของประเทศ อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือเกาะ โอกิ (Oki Islands) ซึ่งเป็นหมู่เกาะกลางทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยหน้าผา หาดสวย น้ำทะเลใส และธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ พร้อมกิจกรรมเชิงนิเวศ…

ปราสาท ญี่ปุ่น เป็นสัญลักษณ์สำคัญที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศนี้ โดยเฉพาะปราสาทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติ ซึ่งนอกจากจะมีความงดงามแล้ว ยังมีความสำคัญในด้านประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่ไม่ควรพลาดชมหากคุณมาเยือนญี่ปุ่น บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 5 ปราสาท ญี่ปุ่น ที่ถือเป็นสมบัติชาติ พร้อมทั้งคุณสมบัติที่ทำให้ปราสาทเหล่านี้โดดเด่นและได้รับการยอมรับในระดับชาติ ก่อนจะไปชมเรามาทำความรุ้จักกับปราสาทที่ได้เป็นสมบัติแห่งชาติมีลักษณะแบบไหน เพื่อเพิ่มอถรรสในการเดินชม  ปราสาท ญี่ปุ่น ที่ได้เป็นสมบัติชาติมีลักษณะยังไง? คุณสมบัติ ปราสาท ญี่ปุ่น ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น “สมบัติชาติ” ของญี่ปุ่นไม่ใช่แค่ความงดงามภายนอกเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ไม่สามารถมองข้ามได้ ปราสาทเหล่านี้มักจะถูกสร้างขึ้นในสมัยโบราณ โดยมักมีคุณสมบัติที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ดังนี้ แนะนำ ปราสาท ญี่ปุ่น ทั้ง 5 ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติ แนะนำ 5 ปราสาท ญี่ปุ่น ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติของญี่ปุ่น ซึ่งแต่ละแห่งก็มีความโดดเด่นและมีประวัติที่น่าสนใจ หากใครชื่นชอบประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม อยากแนะนำให้ลองไปดุซักครั้งประทับใจอย่างแน่นอน 1. ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) – จังหวัดอาโอโมริ จุดเด่น ปราสาทฮิโรซากิ: จุดเด่นของปราสาทฮิโรซากิ ยังมีการจัดแสดงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ในหอคอยหลัก (Tenshukaku) ซึ่งทำให้ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสถึงความรุ่งเรืองในยุคสมัยของซามูไร และความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองฮิโรซากิ…

ในประเทศญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง แต่ถ้ากำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เงียบสงบ และยังมีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ จังหวัดชิมาเนะ (Shimane) เป็นอีกแห่งที่น่าสนใจ โดยจังหวัดนี้จะตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku) บนเกาะฮอนชู (Honshu) ภายในจังหวัดมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม รวมทั้งยังมีอาหารพื้นเมืองน่าลิ้มลอง สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวฮิตที่ไม่ควรพลาด ก็อย่างเช่น 12 แห่งต่อไปนี้ ที่บอกได้เลยว่าลองมาสักครั้งแล้วจะประทับใจไปอีกนาน       Sean Pavone/shutterstock.com ThanyathornP/shutterstock.com cdrw/shutterstock.com ปราสาทมัตสึเอะ (Matsue Castle) เป็นหนึ่งในปราสาทที่สำคัญและเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1611 โดยไดเมียว ฮอร์ โยชิฮารุ (Horio Yoshiharu) ผู้ปกครองเมืองในสมัยนั้น ปราสาทแห่งนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่ปราสาทที่ยังคงสภาพสมบูรณ์อยู่ตั้งแต่ถูกสร้างขึ้น ไม่ได้ถูกทำลายจากสงครามหรือภัยธรรมชาติ ปราสาทมีโครงสร้างที่ทำมาจากวัสดุไม้ มีความสูง 6 ชั้น และเป็นปราสาทประเภท “บิริโทชิ” (biritochi) หรือปราสาทที่สร้างบนพื้นที่ราบล้อมรอบด้วยคูน้ำ มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ปราสาทนกกระเรียนดำ (Black Crane Castle)…

หาดอินะสะ Inasa Beach หรือ Inasa-no-hama (稲佐の浜, อิทาสะ-โนะ-ฮามะ) อยู่ในเมือง Izumo (出雲, อิซุโมะ) จังหวัด Shimane (島根, ชิมาเนะ) ห่างจาก Izumo Taisha (出雲大社, อิซุโมะ-ไทฉะ) ประมาณ 1 กิโลเมตรทางตะวันตก หาดนี้ถือเป็นสถานที่สำคัญทั้งในแง่ธรรมชาติและตำนานญี่ปุ่น ที่นี่เกี่ยวข้องกับเรื่องเล่าในตำนาน “Kuni Yuzuri” (国譲り, คุนิ-ยุซุริ) ซึ่งเป็นการเจรจาส่งต่อดินแดนอิซุโมะให้เทพเจ้าผู้ปกครองใหม่ และยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ “White Rabbit of Inaba (因幡の白兎, อินาบะ-โนะ-ชิโระอุสะงิ)” ซึ่งเป็นเรื่องราวในตำนานญี่ปุ่นที่โด่งดัง ในเดือนตุลาคม (ตามปฏิทินจันทรคติ) จะมีเทศกาล Kamiari Festival (神在祭, คามิอาริ-ไซ) ซึ่งเล่าว่าเทพเจ้าจากทั่วญี่ปุ่นจะมารวมตัวกันที่นี่ก่อนเข้าสู่ศาลเจ้า Izumo Taisha   Spyan/shutterstock.com M Andy/shutterstock.com   Benten-jima (弁天島,…

Tamatsukuri Onsen เป็นหนึ่งในออนเซ็นเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น มีประวัติยาวนานกว่า 1,300 ปี ถูกพูดถึงครั้งแรกใน “Izumo no Kuni Fudoki” เมื่อปี ค.ศ. 733 น้ำแร่ที่นี่ขึ้นชื่อว่าช่วยบำรุงผิว ทำให้เรารู้สึกสวยและสุขภาพดีแบบธรรมชาติ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Tamayu (ทามายู) ให้ฟีลสงบๆ มีซากุระที่บานเต็มริมน้ำช่วงฤดูใบไม้ผลิ เรียกว่ามาแล้วได้ทั้งผ่อนคลายและถ่ายรูปสวยๆ Carla Silene/shutterstock.com kai keisuke/shutterstock.com   ออนเซ็นแช่น้ำแร่ ที่นี่มีบ่อออนเซ็นหลายแบบ ทั้งบ่อกลางแจ้งและบ่อในร่ม หลายๆ เรียวกังยังมีบ่อส่วนตัวให้เราจองแบบไพรเวทด้วย แช่เท้าริมแม่น้ำ ใครที่ไม่อยากแช่ทั้งตัวก็มีบ่อแช่เท้า (Foot Bath) ให้เรานั่งชิลล์ๆ ริมแม่น้ำ ฟินมาก Tamatsukuriyu Shrine (ทามัตสึคุริยุ ไชน์) ศาลเจ้าเล็กๆ ที่เรามาขอพรเรื่องสุขภาพและความงามได้ มี “ก้อนหินขอพร” ที่เชื่อว่าช่วยให้คำอธิษฐานเป็นจริง Magatama Bridge (สะพานมากาทามะ) สะพานที่ได้ชื่อมาจากลูกปัดโบราณรูปทรงพระจันทร์เสี้ยว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมญี่ปุ่น ช่วงชมซากุระ มาช่วงต้นเดือนเมษายน…

Hinomisaki Lighthouse (灯台, Dōdai) ตั้งอยู่ที่ปลายสุดทางตะวันตกของ Shimane Peninsula ในเมือง Izumo จังหวัด Shimane เป็น ประภาคารหิน ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1903 ตัวประภาคารสูง 43.65 เมตร และตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 63.3 เมตร วิวจากด้านบนคือทะเลญี่ปุ่นที่กว้างไกลสุดสายตา ที่นี่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน 100 ประภาคารประวัติศาสตร์ของโลก ไม่ใช่แค่เรื่องความสูง แต่ยังเป็นงานสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ถ้าเราเดินขึ้นบันไดวน 163 ขั้น ก็จะถึงจุดชมวิวด้านบน มองเห็นชายฝั่งรอบๆ และทะเลญี่ปุ่นได้แบบเต็มอิ่ม ข้างๆ ประภาคารยังมี Hinomisaki Shrine (日御碕神社, ฮิโนมิสากิ จินจะ) ซึ่งมีอาคารสีแดงสด ตัวศาลเจ้ามีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1644 เป็นสถานที่เงียบสงบเหมาะกับการไหว้พระและชมความงามของธรรมชาติ   วิวที่สวยงามจากด้านบนของ Hinomisaki Lighthouse Hinomisaki Shrine ที่ให้เราสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น จุดถ่ายรูปสวยๆ…

Yuushien Garden (ยูชิเอ็น การ์เดน) เป็นสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ตั้งอยู่บนเกาะ Daikonshima (ไดคอนชิมะ) ในเมือง Matsue (มัตสึเอะ) จังหวัด Shimane (ชิมาเนะ) ที่นี่โด่งดังมากเรื่องดอกโบตั๋นที่เบ่งบานตลอดทั้งปี สวนแห่งนี้ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1975 ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 40,000 ตารางเมตร มีบรรยากาศสงบเงียบ มีบ่อน้ำ ลำธาร และน้ำตกที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ใครที่หลงใหลในความงามของสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม จะต้องประทับใจแน่นอน!   โบตั๋นหลากฤดู ที่นี่มีดอกโบตั๋นกว่า 250 สายพันธุ์ และเขาจัดแสดงให้เราได้ชมทั้งกลางแจ้งและในเรือนกระจก ช่วง “Spring Peony Festival” (เทศกาลดอกโบตั๋นฤดูใบไม้ผลิ) ระหว่างปลายเดือนเมษายนถึงกลางพฤษภาคม จะมีดอกโบตั๋นราว 20,000 ต้นให้ชม ฟินสุด ๆ ดอกไม้ตามฤดูกาล ไม่ได้มีแค่โบตั๋นนะ ช่วงหน้าร้อนจะมีดอกไอริสกับไฮเดรนเยีย ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และดอกคามีเลียในฤดูหนาว เรียกว่าไปช่วงไหนก็สวย Illumination (อิลลูมิเนชัน) ช่วงใบไม้ร่วงและคริสต์มาส สวนจะมีการประดับไฟสวย ๆ…