ฟุกุโอกะ

ฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นเป็นฤดูกาลที่ธรรมชาติกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ดอกไม้นานาชนิดผลิบานสร้างสีสันให้เมืองทั้งเมืองสวยงามราวกับอยู่ในเทพนิยาย ถ้าพูดถึงการท่องเที่ยวช่วงนี้ แน่นอนว่าไม่พลาดการเดินชม สวนดอกไม้ ญี่ปุ่น ซึ่งมีทั้งทุ่งดอกไม้กว้างสุดลูกหูลูกตา อุโมงค์ดอกไม้ และสวนสวยสไตล์ยุโรปที่ให้คุณได้สัมผัสมนตร์เสน่ห์แห่งฤดูใบไม้ผลิอย่างเต็มที่ บทความนี้ได้รวบรวม 9 สวนดอกไม้ที่ญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด พร้อมข้อมูลดอกไม้เด่น ช่วงเวลาบาน และไกด์การเดินทาง เพื่อให้คุณวางแผนเที่ยวฤดูใบไม้ผลิได้อย่างสมบูรณ์แบบ สวนดอกไม้ ที่เที่ยวยอดฮิตในฤดูใบไม้ผลิของ ญี่ปุ่น ญี่ปุ่น ในฤดูใบไม้ผลิไม่ได้มีแค่ซากุระ แต่ยังมีดอกไม้อื่นๆ ที่สวยไม่แพ้กัน สวนดอกไม้ จึงกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงนี้ ดอกไม้ที่บานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เช่น 1. สวนฮิตาชิ ซีไซด์ปาร์ค (Hitachi Seaside Park) สวนฮิตาชิ ซีไซด์ปาร์ค ตั้งอยู่ในจังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) ห่างจากโตเกียวประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นหนึ่งในสวนดอกไม้ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสนใจอย่างมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ไฮไลต์สำคัญคือทุ่งดอกเนโมฟีลา (Nemophila) ที่จะบานสะพรั่งปกคลุมเนินเขา Miharashi กว่า 4.5 ล้านต้น เปลี่ยนพื้นที่ทั้งบริเวณให้กลายเป็นทะเลสีฟ้าอันน่าทึ่งในช่วงปลายเมษายนถึงต้นพฤษภาคม นอกจากเนโมฟีลาแล้ว ยังมีทุ่งทิวลิปนับพันสีสันสดใส และดอกนาร์ซิสซัสที่บานสวยในช่วงเดือนเมษายน รวมถึงดอกไม้อื่นๆ ที่ผลัดเปลี่ยนบานตลอดฤดูกาล สวนมีเส้นทางเดินกว้างขวาง…

การได้เห็นดอกวิสทีเรีย (Wisteria) หรือที่คนไทยเรียกกันว่า “ดอกฟูจิ” บานสะพรั่งเต็มต้น เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่สวยงามและตราตรึงใจที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น ดอกไม้ชนิดนี้ไม่เพียงแต่สร้างทัศนียภาพอันน่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสถึงความสดชื่นและความอ่อนโยนของธรรมชาติอย่างแท้จริง การได้เดินลอดซุ้มดอกวิสทีเรียที่ห้อยระย้าลงมาราวม่านดอกไม้ ทำให้รู้สึกราวกับหลุดเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยาย วิสทีเรียจะบานในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม โดยช่วงเวลาที่ดอกไม้ผลิบานเต็มที่นั้นสั้นมาก นักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสความงามของดอกฟูจิควรวางแผนเดินทางล่วงหน้า เพื่อไม่ให้พลาดช่วงเวลาสวยที่สุดของปี ทั้งนี้ สภาพอากาศในแต่ละพื้นที่จะส่งผลต่อเวลาบานของดอกไม้เล็กน้อย จึงควรตรวจสอบข้อมูลก่อนออกเดินทางเสมอ บทความนี้จะพาไปสำรวจ 5 จุดชมวิสทีเรียและดอกฟูจิที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งแต่สวนดอกไม้ชื่อดังไปจนถึงศาลเจ้ากลางเมือง พร้อมแนะนำเคล็ดลับการเที่ยวให้ได้สัมผัสเสน่ห์ของฤดูใบไม้ผลิอย่างเต็มที่ อย่าพลาดที่จะเลื่อนอ่านต่อ เพราะแต่ละแห่งล้วนมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่จะต้องหลงรัก ข้อมูลทั่วไป: วิสทีเรีย บานช่วงไหน ดอกวิสทีเรียเริ่มผลิบานอย่างงดงามตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายนไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาทองของการชมดอกไม้ชนิดนี้ โดยเฉพาะในภูมิภาคคันโตและคิวชูที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านการจัดเทศกาลชมดอกวิสทีเรีย นักท่องเที่ยวจะได้พบกับบรรยากาศสุดพิเศษ ทั้งซุ้มดอกไม้ที่เลื้อยลงมาเป็นม่านระย้า และสีสันที่ไล่เฉดอย่างสวยงามตั้งแต่ม่วงอ่อน ม่วงเข้ม ไปจนถึงขาวนวลและเหลืองทองอ่อน ทำให้การเดินชมในสวนหรือศาลเจ้าต่าง ๆ เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ราวกับอยู่ในโลกแห่งความฝัน ในบางสถานที่ เช่น สวนดอกไม้อาชิคางะและคาวาจิ ฟูจิ การ์เด้น ยังมีการจัดแสดงไฟไลท์อัพตอนกลางคืน เพิ่มความโรแมนติกให้กับบรรยากาศการชมดอกฟูจิอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินลอดอุโมงค์ดอกไม้ที่ส่องสว่างเรืองรองในยามค่ำคืน ถ่ายรูป หรือเพียงแค่นั่งชมความสวยงามอย่างเงียบสงบ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในเสน่ห์ฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น ช่วงที่ดอกฟูจิบานเต็มที่มักจะอยู่ระหว่างต้นถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่สัปดาห์…

ไปเที่ยวฟุกุโอกะพักที่ไหนดีนะ ? เปิดมาด้วยข้อสงสัยที่เหล่านักท่องเที่ยวทุกคนควรต้องมี เนื่องจากที่หลับที่นอนถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ สำหรับการเดินทางเที่ยวในต่างประเทศ บทความนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ 10 ที่พัก ใน ฟุกุโอกะ หนึ่งในจังหวัดในเกาะคิวชู โดยทุก ๆ ที่พักที่เราคัดเลือกมาฝากในบทความนี้ ล้วนเป็นที่พักที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ เดินทางได้อย่างสะดวกสบาย จะเดินทางไปท่องเที่ยว หรือ จะมองหาร้านอาหารอร่อย ๆ ก็ทำได้ง่าย ๆ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปดูกันเลยดีกว่า ว่าที่เราที่เรานำมาฝากจะมีที่ไหนน่าสนใจกันบ้าง 10 ที่พัก แนะนำ ใน ฟุกุโอกะ 1. Oriental Hotel Fukuoka Hakata Station ที่นี่เป็น ที่พัก ฟุกุโอกะ ที่ได้รับการรีวิวเอาไว้สูงถึง 4/5 ดาว แสดงให้เห็นถึงคุณภาพด้านการบริการ จุดเด่นสำคัญคือทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ติดกับ Hakata station ด้วยการเดินเท้าเพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้น เรื่องของการเดินทางจึงไม่ใช่เรื่องที่ควรกังวล รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน บริเวณด้านล่างของที่พักก็อยู่ติดกับร้าน Lawson อยากจะซื้อข้าวของเครื่องใช้ก็ทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง ภายในมีร้านอาหารสุดหรูให้เลือกหลายร้าน…

เมื่อพูดถึงญี่ปุ่น หลายคนอาจนึกถึงโตเกียว เกียวโต หรือโอซาก้า แต่ในมุมที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงมากอย่างเช่น คิวชูทางตอนเหนือ ก็เป็นอีกหนึ่งโซนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ยังไม่ถูกค้นพบ ทั้งธรรมชาติสวยงาม วัฒนธรรมดั้งเดิม และประวัติศาสตร์อันยาวนาน บทความนี้จะพาไปทำความรู้จัก 5 เมืองท่องเที่ยวห้ามพลาดในเกาะคิวชูตอนเหนือ ซึ่งเดินทางได้ไม่ยากด้วยคำแนะนำวิธีการเดินทางด้วยรถไฟและอื่นๆ ตามเรามาเลย         ฟุกุโอกะเป็นทั้งศูนย์กลางและประตูสู่เกาะคิวชูที่ผสมผสานทั้งความเจริญและธรรมชาติอย่างลงตัว มีแหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหารยอดนิยมมากมาย เช่น Hakata Ramen ที่ห้ามพลาด อีกทั้งยังมีสถานที่สำหรับการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ เช่น สวน Ohori Park ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศเมืองใหญ่ที่ยังคงมีพื้นที่สีเขียว การเดินทาง: ฟุกุโอกะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของคิวชู มีสนามบินนานาชาติที่ถ้าใครจะมาเที่ยวคิวชูก็ต้องมาลงกันที่นี่ แล้วยังสามารถเดินทางได้ง่ายดายจากเมืองต่างๆ ด้วยรถไฟชินคันเซ็นหรือรถไฟท้องถิ่น ตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ: Ohori Park: สวนสวยสไตล์ญี่ปุ่น เหมาะสำหรับการเดินเล่นและเช่าชุดกิโมโน Fukuoka City Botanical Garden: ชมสวนดอกไม้ที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการพักผ่อนและถ่ายรูป Hakata Ramen Stalls: สัมผัสบรรยากาศท้องถิ่นและลิ้มรสราเมงต้นตำรับของฟุกุโอกะในบรรยากาศร้านอาหารข้างทางสไตล์ยาไต        …

เมื่อพูดถึงญี่ปุ่น หลายคนอาจนึกถึงโตเกียว เกียวโต หรือโอซาก้า แต่ในมุมที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงมากนัก คิวชูตอนเหนือก็เป็นที่หนึ่งที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ยังไม่ถูกค้นพบ ทั้งธรรมชาติสวยงาม วัฒนธรรมดั้งเดิม และประวัติศาสตร์อันยาวนาน การเดินทาง 5 วันในคิวชูตอนเหนือเส้นทางนี้ เดินทางไปพร้อมกับเราตามสถานที่ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก และสัมผัสบรรยากาศที่เงียบสงบกัน       [ez-toc]       ก่อนจะเริ่มต้นรีวิว เพื่อให้เห็นภาพการเดินทางในทริปนี้ของเราก่อน จึงจะขอเริ่มต้นด้วยแผนที่ และภาพรวมการเดินในทริปนี้ทั้งหมดก่อนแล้วกัน เราเริ่มต้นทริปที่เมือง ฟุกุโอกะ จากสถานี Hakata เรานั่งรถไฟลงที่ สถานี Sasebo จากนั้นก็เช่ารถไปที่ เที่ยวรอบๆเมือง Sasebo ก่อนจะเข้าพักที่ Huis Ten Bosch จากนั้นเราก็ขับรถไปเที่ยวกันต่อที่เมือง Hita และเข้าพักที่ Hita onsen ริมแม่น้ำ วันที่ 3 เราขับรถไปที่เมืองคุมาโมโต้ โดยวันนี้เราเที่ยวในตัวเมือง ปราสาท แล้วก็ช้อปปิ้ง พอวันที่ 4 เราขับรถไป Kitakyushu…

ฟุกุโอกะ(Fukuoka) เมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และสีสันทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น มีสิ่งที่น่าสนใจและกิจกรรมที่เหมาะกับทุกคน. จากการเดินเล่นในสวนโอโฮริที่สวยงามในชุดกิโมโนแบบดั้งเดิม, การชมความงามของต้นไม้ดอกไม้ในสวนพฤกษศาสตร์, ย่านชิคๆชิลๆริมทะเล ไปจนถึงการชิมอาหารริมถนนและการล่องเรือบนแม่น้ำนากาซุ ที่มีทั้งวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงามและบรรยากาศที่สบายๆ บทความนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับประสบการณ์ที่หลากหลายที่ฟุกุโอกะซ่อนอยู่ พร้อมที่พักที่แนะนำในย่านยอดฮิต ตามเราไปเลย       เช่าชุดกิโมโนที่ Mayu no Yakata ＠Sannomaru Square เดินเล่นที่ Ohori Park Japanese Garden สำหรับคนที่มาเที่ยวฟุกุโอกะแล้วอยากลองใส่กิโมโนเดินเล่นในสวนสไตล์ญี่ปุ่น ต้องไม่พลาดที่สวนโอโฮริ (Ohori Park) สวนสาธารณะชื่อดังของเมืองฟุกุโอกะ เพราะที่นี่มีโซนให้เช่าชุดกิโมโนและสวนสวยงามแบบญี่ปุ่นให้เดินเล่นด้วย โดยร้านเช่าชุดนี้หาง่ายๆอยู่ข้างใน Tourist information ข้างๆสวนโอโฮริเลย พิกัดร้านเช่าชุกิโมโน – https://maps.app.goo.gl/1j2nzWVkvEqDVuKt8 พิกัดสวนญี่ปุ่น – https://maps.app.goo.gl/cfQfJj7gD4NptdRL8       ศูนย์ให้ข้อมูลยาไต Fukoka YATAI Concierge หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับร้านอาหารสไตล์ยาไต (Yatai) หรือร้านแบบรถเข็น ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่มีเฉพาะในเมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) ตอนนี้เขามีเค้าเตอร์ให้ข้อมูลเปิดใหม่ที่สนามบินฟุกุโอกะที่เกี่ยวกับยาไตโดยเฉพาะเลย โดยที่มีเครื่องแปลภาษาสุดล้ำให้ด้วย…

Kitakyushu เป็นเมืองที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นในย่านเมืองเก่า, การเยี่ยมชมปราสาทโบราณ, หรือการลิ้มลองอาหารซูชิสดๆจากท่าเรือ ด้วยวัตถุดิบท้องถิ่นที่สดใหม่ เดินทางไปสำรวจเมืองนี้ไปพร้อมๆกัน และค้นพบว่าทำไม Kitakyushu ถึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสญี่ปุ่นอีกด้านหนึ่งที่ไม่เหมือนใคร แถมอยู่ใกล้ๆ Fukuoka นี่เอง        ปราสาทโคคุระ Kokura Castle ขอยกให้เป็นหนึ่งในปราสาท ที่มีการจัดแสดงภายในที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นไปเลย มีโซน interactive ให้เรา ได้สัมผัสชีวิตแบบย้อนยุคด้วย เช่น ขี่ม้ายิงธนู ลองนั่งในเกี้ยว หรือจะเปลี่ยนชุดนั่งประชุมกับเหล่าซามูไรก็มี ยังไม่พอ ใครขี้เกียจเดินขึ้นปราสาท มีลิฟท์ตรงดิ่งขึ้นไปถึงชั้นบนสุดเลย ซึ่งด้านบนสุดยังเป็นทั้งคาเฟ่และบาร์ให้เราซื้อเครื่องดื่ม นั่งดื่มชมวิวได้อีกด้วย เจ๋งไหมล่ะ ใครที่คิดว่าปราสาทญี่ปุ่นน่าเบื่อมีแต่ของเก่าให้ดูเท่านั้นให้มาลองที่นี่เลย ไม่ผิดหวังแน่นอน พิกัด – https://maps.app.goo.gl/2LjPYkutyxkaskVTA       พิธีชงชา Ryureiseki Tea Ceremony ที่สวน Kokura Castle Japanese Garden เป็นไฮไลท์ที่ไม่เหมือนกับสวนข้างปราสาทที่อื่นๆ เป็นกิจกรรมที่เปิดประสบการณ์ใหม่ของเราเลย ทำให้เรารู้ว่าจริงๆแล้ว…

ถ้าใครกำลังมองหาที่เที่ยวที่ไม่ค่อยมีคนไปเยอะ ภูมิภาคซันอิน (San’in) ของญี่ปุ่นอาจเป็นคำตอบ ที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติสวยๆ วัฒนธรรมดั้งเดิม และประวัติศาสตร์สำคัญ คู่มือนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ JR Sanyo San’in Pass ที่จะช่วยให้เราสำรวจภูมิภาคนี้ได้อย่างง่ายดาย       ภูมิภาคซันโย (Sanyo) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะฮอนชู (Honshu) ของญี่ปุ่น ครอบคลุมตั้งแต่ Yamaguchi, Hiroshima, Okayama  เรียบชายฝั่งทางทิศใต้ มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญระดับโลกหลายแห่ง เช่น เมือง Hiroshima ที่มีสวน Peach Park, เมือง Himeji ที่มีปราสาทชื่อดัง Himeji เป็นต้น ภูมิภาคซันอิน (San’in) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะฮอนชู (Honshu) ของญี่ปุ่น ครอบคลุมจังหวัดทตโตริ (Tottori), ชิมาเนะ (Shimane) และบางส่วนของจังหวัดยามากุจิ (Yamaguchi) ภูมิภาคนี้มีชื่อเสียงเรื่องธรรมชาติที่งดงาม เช่น ชายฝั่งทะเล และสถานที่ประวัติศาสตร์ อย่างเช่น ศาลเจ้าอิซึโมะ…