อิบารากิ

“โทชิงิ” จังหวัดที่มีความงามของธรรมชาติสุดอลังการ ใครที่ชอบชมธรรมชาติที่หลากหลายมาที่นี่ไม่ผิดหวัง จะได้เข้าชมทั้งทะเล น้ำตก ทะเลสาบ หุบเขาสูงและดอกไม้นานาพรรณ เก็บวิวมุมสูงของเมืองนิกโก้ครบทุกจุด สูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด ก่อนเดินทางเก็บอารยธรรมตะวันออกยุคเอโดะอย่างใกล้ชิด พร้อมกิจกรรมแสนสนุกที่เข้าร่วมได้ทุกเพศทุกวัย ชมมรดกโลกได้แบบใกล้ชิด เดินทางเก็บเส้นทางแสวงบุญที่ทั่วโลกยกย่อง ทุกสถานที่ท่องเที่ยวมีเรื่องเล่าความเป็นมาที่น่าสนใจ พร้อมเปิดให้เข้าชมและดื่มด่ำกับเรื่องราวเหล่านั้น ตลอดเส้นทางจะได้ลิ้มรสอาหารที่ปรุงอย่างพิถีพิถันด้วยวัตถุดิบจากท้องถิ่น เป็นอีกทริปที่จะสร้างความอิ่มเอมใจ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย แพลนเที่ยว อิบารากิ – โทชิงิ 4 วัน 3 คืน วันที่ 1 : สักการะพระใหญ่ เดินชมดอกไม้ ความอลังการน้ำตก 07:50 – 08:50 เดินทางไปสถานีซึชิอุระ (Tsuchiura Station) 09:00 – 09:30 รับรถเช่าที่ Toyota Rent-A-Car สาขา Tsuchiura Eki Nishiguchi Ten 10:00 – 10:30 เที่ยวชมพระใหญ่อุชิคุไดบุตสึ (Ushiku Daibutsu)…

นอกจากการเที่ยวชมธรรมชาติ เช็กอินร้านอาหารแสนอร่อย หรือแหล่งช้อปปิ้งสุดคึกคัก อีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เมื่อมาญี่ปุ่นก็คือ การไปไหว้พระขอพรที่วัดและศาลเจ้าต่างๆ ซึ่งมีอยู่แทบทุกเมือง ทุกภูมิภาค แถมแต่ละที่ยังขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ธรรมดา หลายคนไปมูมาแล้วบอกเลยว่าปังมาก ! ใครที่รู้สึกว่าช่วงนี้ดวงไม่ค่อยดี หรืออยากเสริมดวงเรื่องความรัก การงาน การเงิน โชคลาภ วันนี้เรารวบรวม 10 ศาลเจ้า – วัด ญี่ปุ่น ชื่อดังมาให้แล้ว เตรียมตัวไปขอพรกันเลย ! ศาลเจ้า วัด ญี่ปุ่น แนะนำสำหรับสายมู วัดคิโยมิซุ (Kiyomizu-dera Temple) วัด คิโยมิซุ ตั้งอยู่บนเขาโอโตวะ ทางตะวันออกของเมืองเกียวโต ญี่ปุ่น คนไทยนิยมเรียกว่า “วัดน้ำใส” เพราะคำว่า คิโยมิซุ หมายถึง น้ำที่บริสุทธิ์สะอาด นอกจากนี้ภายในวัดยังมี น้ำตกโอโตวะ ที่ไหลลงมาเป็น 3 สาย สายที่ 1 ให้พรเรื่องการเรียน สายที่ 2 ให้พรเรื่องความรัก ส่วนสายที่ 3…

เนโมฟีลา (Nemophila) หรือที่ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกว่า “Baby Blue Eyes” คือดอกไม้ขนาดเล็กสีฟ้าอ่อนที่บานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ โดยเฉพาะช่วงกลางเดือนเมษายนถึงต้นพฤษภาคม เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของฤดูกาลที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติต่างตั้งตารอ ด้วยเฉดสีฟ้าอมเทาอันอ่อนโยน ตัดกับท้องฟ้าและทุ่งเขียว ทำให้เกิดเป็นภาพที่สวยงามราวกับอยู่ในความฝัน หากเรากำลังวางแผนไปชมความงดงามของดอกไม้ชนิดนี้ในปี 2025 สามารถไปจุดแลนด์มาร์ค 5 จุดยอดนิยมได้เลย 5 พิกัด เนโมฟีลา ในญี่ปุ่นที่คนรักดอกไม้ต้องหลงรัก เริ่มต้นที่ สวนฮิตาชิ ซีไซด์พาร์ค (Hitachi Seaside Park) จังหวัดอิบารากิ ที่นี่ถือเป็นจุดชมเนโมฟีลาชื่อดังระดับโลก ด้วยพื้นที่กว่า 4.5 ล้านต้นที่บานสะพรั่งปกคลุมทั่วภูเขา Miharashi Hill จนกลายเป็นทะเลสีฟ้าสุดตระการตา ตามมาด้วย สวนฮานะโนะมิยาโกะ (Hananomiyako Park) ใกล้ทะเลสาบคาวากุจิโกะ จังหวัดยามานาชิ ที่สามารถชมเนโมฟีลาโดยมีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิอันยิ่งใหญ่  อีกจุดที่ไม่ควรพลาดคือ เกาะอาวาจิ (Awaji Island) จังหวัดเฮียวโงะ ซึ่งมีสวน Awaji Hanasajiki ที่ปลูกเนโมฟีลาเรียงรายตามแนวลาดเนินเขาริมทะเล วิวพาโนรามาของทะเลอินแลนด์ซีช่วยเติมเต็มความโรแมนติกได้อย่างลงตัว ส่วนทางคันไซก็มี สวนเกษตรนันโนะฮานะโนะซาโตะ (Nanno…

ฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นเป็นฤดูกาลที่ธรรมชาติกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ดอกไม้นานาชนิดผลิบานสร้างสีสันให้เมืองทั้งเมืองสวยงามราวกับอยู่ในเทพนิยาย ถ้าพูดถึงการท่องเที่ยวช่วงนี้ แน่นอนว่าไม่พลาดการเดินชม สวนดอกไม้ ญี่ปุ่น ซึ่งมีทั้งทุ่งดอกไม้กว้างสุดลูกหูลูกตา อุโมงค์ดอกไม้ และสวนสวยสไตล์ยุโรปที่ให้คุณได้สัมผัสมนตร์เสน่ห์แห่งฤดูใบไม้ผลิอย่างเต็มที่ บทความนี้ได้รวบรวม 9 สวนดอกไม้ที่ญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด พร้อมข้อมูลดอกไม้เด่น ช่วงเวลาบาน และไกด์การเดินทาง เพื่อให้คุณวางแผนเที่ยวฤดูใบไม้ผลิได้อย่างสมบูรณ์แบบ สวนดอกไม้ ที่เที่ยวยอดฮิตในฤดูใบไม้ผลิของ ญี่ปุ่น ญี่ปุ่น ในฤดูใบไม้ผลิไม่ได้มีแค่ซากุระ แต่ยังมีดอกไม้อื่นๆ ที่สวยไม่แพ้กัน สวนดอกไม้ จึงกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงนี้ ดอกไม้ที่บานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เช่น 1. สวนฮิตาชิ ซีไซด์ปาร์ค (Hitachi Seaside Park) สวนฮิตาชิ ซีไซด์ปาร์ค ตั้งอยู่ในจังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) ห่างจากโตเกียวประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นหนึ่งในสวนดอกไม้ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสนใจอย่างมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ไฮไลต์สำคัญคือทุ่งดอกเนโมฟีลา (Nemophila) ที่จะบานสะพรั่งปกคลุมเนินเขา Miharashi กว่า 4.5 ล้านต้น เปลี่ยนพื้นที่ทั้งบริเวณให้กลายเป็นทะเลสีฟ้าอันน่าทึ่งในช่วงปลายเมษายนถึงต้นพฤษภาคม นอกจากเนโมฟีลาแล้ว ยังมีทุ่งทิวลิปนับพันสีสันสดใส และดอกนาร์ซิสซัสที่บานสวยในช่วงเดือนเมษายน รวมถึงดอกไม้อื่นๆ ที่ผลัดเปลี่ยนบานตลอดฤดูกาล สวนมีเส้นทางเดินกว้างขวาง…

ถ้าเอ่ยถึงการเที่ยวญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ผลิ หลายคนคงนึกถึงภาพซากุระบานสะพรั่งทั่วเมือง บรรยากาศสดใสกับกลีบดอกไม้ที่โปรยปรายลงมาตามสายลม แต่รู้ไหมว่าการนั่ง รถไฟท่องเที่ยว ชมวิวซากุระก็เป็นอีกหนึ่งวิธีเที่ยวที่โรแมนติกและน่าประทับใจสุดๆ เพราะไม่ต้องเหนื่อยเดิน ไม่ต้องเบียดกับคนเยอะๆ แค่เลือกที่นั่งสบายๆ ริมหน้าต่าง แล้วปล่อยใจไปกับวิวธรรมชาติที่ไหลผ่านตลอดสองข้างทาง โดยเฉพาะ รถไฟ สายพิเศษที่ออกแบบมาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ทั้งบรรยากาศชนบทญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม หมู่บ้านน่ารักๆ ทุ่งดอกไม้ และแนวต้นซากุระยาวสุดลูกหูลูกตา เป็นการเที่ยวที่เหมาะกับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากการเดินชมสวนมาเป็นการนั่งชมวิวชิลล์ๆ พร้อมถ่ายรูปสวยๆ เก็บเป็นความทรงจำดีๆ หรือแม้แต่จะนั่งเหม่อมองทิวทัศน์ไปเงียบๆ ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน วันนี้เราจะพาไปรู้จักสายรถไฟเด็ดๆ สำหรับการ เที่ยวด้วยรถไฟ และ ชมซากุระ ในญี่ปุ่น ที่คุณไม่ควรพลาด รับรองว่าฟีลดี จนอยากกลับไปนั่งซ้ำอีกแน่นอน เสน่ห์ของการนั่ง รถไฟ ชม ซากุระ ในญี่ปุ่น การเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูใบไม้ผลิด้วย รถไฟ ไม่ใช่แค่เรื่องของการเดินทางจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งเท่านั้น แต่คือการได้สัมผัสจังหวะชีวิตที่ช้าลง และมองเห็นความงามของธรรมชาติในมุมที่แตกต่างออกไป รถไฟท่องเที่ยวสายต่างๆ จะพาคุณผ่านชนบทเล็กๆ หมู่บ้านเก่าแก่ ทุ่งดอกไม้กว้างไกล และแนวต้นซากุระที่ผลิบานเต็มที่ตลอดสองข้างทาง การนั่งรถไฟชมวิวช่วยให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบไม่ต้องเร่งรีบ มีเวลาได้เงยหน้ามองท้องฟ้า สัมผัสลมเย็นที่พัดผ่านหน้าต่าง และเก็บภาพความประทับใจได้อย่างเต็มที่ ยิ่งในฤดูซากุระบานเต็มที่ ภาพที่ได้เห็นจากบนรถไฟยิ่งเปลี่ยนทุกช่วงเวลาบนรางให้กลายเป็นความทรงจำแสนพิเศษ หากคุณกำลังมองหาวิธีใหม่ ๆ…

จังหวัดอิบารากิตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของโตเกียว เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งสวนดอกไม้ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และอาหารทะเลสดๆ การเดินทางมายังอิบารากินั้นสะดวกสบายมาก เพราะใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวเพียงหนึ่งชั่วโมงโดยรถไฟ จึงทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับการเที่ยวแบบวันเดียว (One Day Trip) เราขอแนะนำ 8 ที่เที่ยวสุดฮิตอัพเดตใหม่ล่าสุดในอิบารากิที่จะทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ทั้งด้านธรรมชาติ วัฒนธรรม และกิจกรรมที่ครบครัน     เป็นหนึ่งในจุดชมดอกไม้และวิวทิวทัศน์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่สวนนี้จะมีทิวทัศน์ของต้นโคเคีย (Kochia) ที่แปลงโฉมจากสีเขียวสดใสในช่วงฤดูร้อนเป็นสีแดงสวยงาม เปลี่ยนทั้งเนินให้กลายเป็นผืนพรมสีแดงกว้างสุดลูกหูลูกตา ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ประมาณกลางเดือนตุลาคม  เวลาทำการ: 9:30 – 17:00 น. (อาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล) ค่าเข้าชม: 450 เยน (อาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล) การเดินทาง: ต่อรถบัสจากสถานี Katsuta Station ไปยังสวนฮิตาชิซีไซด์ ใช้เวลา 15 นาที         หนึ่งในตลาดปลาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในจังหวัดอิบารากิ โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักอาหารทะเลสดๆ เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักซีฟู้ดเพราะเต็มไปด้วยกุ้ง หอย ปู ปลา และของทะเลมากมายที่เพิ่งขึ้นจากทะเลญี่ปุ่น…

หนึ่งในจุดเด่นของประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวหมายปองคือธรรมชาติอันสวยงาม จังหวัดอิบารากิเป็นจังหวัดที่มีความงดงามของธรรมชาติหลากหลายสไตล์ ทั้งทะเลสาบ สวนดอกไม้ และที่พักแกลมปิ้งที่มอบประสบการณ์พิเศษ วันนี้เราขอแนะนำ 4 ที่เที่ยวธรรมชาติในอิบารากิที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนรักธรรมชาติและการผจญภัย       ทะเลสาบคาซึมิกาอุระเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของญี่ปุ่น เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการปั่นจักรยานรอบทะเลสาบที่มีระยะทางกว่า 130 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสธรรมชาติอันสวยงาม ทั้งวิวทะเลสาบ ทุ่งนา และหมู่บ้านชนบทที่เงียบสงบ นอกจากนี้ยังมีที่พักสไตล์เกสต์เฮาส์ Eguchiya ให้ได้ดื่มด่ำกับวิถีชีวิตแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมอีกด้วย หากเข้าพักที่นี่นอกจากจะได้ส่วนลดการเช่าจักรยานแล้ว ยังได้มีโอกาสชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินริมทะเลสาบ รวมถึงรับประทานอาหารญี่ปุ่นจากวัตถุดิบสดใหม่อีกด้วย ไฮไลต์: ทัศนียภาพของทะเลสาบกว้างใหญ่และธรรมชาติที่งดงามระหว่างเส้นทาง แนะนำ: เช่าจักรยานที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวริมทะเลสาบ เพื่อการเดินทางที่สะดวกสบาย สถานที่เช่าจักรยานที่แนะนำ: Ring Ring Square Tsuchiura เวลาทำการ: 10:30~16:00 วันหยุด: ไม่มีวันหยุด (อาจมีการปิดให้บริการชั่วคราว) การเดินทาง: นั่งรถไฟไปลงที่สถานี JR Tsuchiura แล้วสามารถเดินไป Ring Ring Square Tsuchiura ที่อยู่ติดกันได้ทันที แต่ถ้าใครแค่ต้องการมาเดินเล่นชมวิว หรือนำจักรยานมาเอง ก็สามารถใช้เส้นทางรอบทะเลสาบได้ตลอดเวลา    …

หากคุณกำลังมองหาที่เที่ยวใกล้โตเกียวที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ขอแนะนำทริป 2 วัน 1 คืนในอิบารากิที่จะพาคุณไปสัมผัสธรรมชาติ อาหารทะเลสดใหม่ วัฒนธรรมญี่ปุ่น และบรรยากาศที่เงียบสงบ พร้อมกับพักแกลมปิ้งให้เข้าถึงบรรยากาศธรรมชาติเต็มที่ มาเก็บข้อมูลแล้วจัดทริปกันเลย!       จากสถานี Tokyo ขึ้นรถไฟสาย JR Joban Line Limited Express ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งไปยังสถานี Mito ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางสำรวจอิบารากิ (หรือถ้าหากต้องการเช่ารถขับ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ท้ายบทความ)           การเดินทาง: จากสถานี Mito นั่งรถไฟไปสถานี Katsuta แล้วต่อรถบัสไปยังสวนฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค เริ่มต้นทริปด้วยการเที่ยวสวนฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค ที่มีทุ่งดอกไม้สีสันสวยงาม ครั้งนี้มาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีทำให้ได้ชมทุ่งโคเคียสีแดงสดใส เพลิดเพลินกับการเดินเล่นท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติและถ่ายภาพสวยๆ กลับไปได้อย่างจุใจ ไฮไลต์: ทุ่งดอกโคเคียสีแดงในฤดูใบไม้ร่วงและทุ่งเนโมฟีลาในฤดูใบไม้ผลิ เวลาทำการ: 9:30 – 17:00…