โตเกียว

“โตเกียวฉบับคนชิล” กับทริป 3 วัน 2 คืน! พาไปเจาะลึกย่าน อุเอโนะ และ อาซากุสะ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์คลาสสิกของญี่ปุ่นแท้ ๆ  เริ่มต้นวันด้วยมื้อเช้าสุดฟิน เดินเล่นชิลๆ ในสวนสวย ชมวัดเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว ลัดเลาะซอยเล็กซอยน้อยใน “เมืองแมว” ยานากะ พร้อมช้อปปิ้งของกระจุกกระจิกน่ารักๆ และปิดท้ายด้วยมื้ออร่อยแบบจัดเต็ม!  ไม่ว่าจะเป็นสายกิน สายเที่ยว หรือสายช้อป ก็รับรองว่าทริปนี้จะทำให้หลงรักโตเกียวแบบไม่รู้ตัวเลยล่ะ! แพลนเที่ยว วันที่ 1 : ลุยย่านเก่าสุดคลาสสิก พร้อมชิมของอร่อย ★ 9:00 น. โรงแรม Hotel Crown Hills Ueno Premier ★ 9:10 – 9:45 น. มื้อเช้าที่ Hard Rock Cafe Ueno-Eki Tokyo Hard Rock Cafe สาขาอุเอโนะตั้งอยู่ใกล้สถานี…

ฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นเป็นฤดูกาลที่ธรรมชาติกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ดอกไม้นานาชนิดผลิบานสร้างสีสันให้เมืองทั้งเมืองสวยงามราวกับอยู่ในเทพนิยาย ถ้าพูดถึงการท่องเที่ยวช่วงนี้ แน่นอนว่าไม่พลาดการเดินชม สวนดอกไม้ ญี่ปุ่น ซึ่งมีทั้งทุ่งดอกไม้กว้างสุดลูกหูลูกตา อุโมงค์ดอกไม้ และสวนสวยสไตล์ยุโรปที่ให้คุณได้สัมผัสมนตร์เสน่ห์แห่งฤดูใบไม้ผลิอย่างเต็มที่ บทความนี้ได้รวบรวม 9 สวนดอกไม้ที่ญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด พร้อมข้อมูลดอกไม้เด่น ช่วงเวลาบาน และไกด์การเดินทาง เพื่อให้คุณวางแผนเที่ยวฤดูใบไม้ผลิได้อย่างสมบูรณ์แบบ สวนดอกไม้ ที่เที่ยวยอดฮิตในฤดูใบไม้ผลิของ ญี่ปุ่น ญี่ปุ่น ในฤดูใบไม้ผลิไม่ได้มีแค่ซากุระ แต่ยังมีดอกไม้อื่นๆ ที่สวยไม่แพ้กัน สวนดอกไม้ จึงกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงนี้ ดอกไม้ที่บานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เช่น 1. สวนฮิตาชิ ซีไซด์ปาร์ค (Hitachi Seaside Park) สวนฮิตาชิ ซีไซด์ปาร์ค ตั้งอยู่ในจังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) ห่างจากโตเกียวประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นหนึ่งในสวนดอกไม้ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสนใจอย่างมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ไฮไลต์สำคัญคือทุ่งดอกเนโมฟีลา (Nemophila) ที่จะบานสะพรั่งปกคลุมเนินเขา Miharashi กว่า 4.5 ล้านต้น เปลี่ยนพื้นที่ทั้งบริเวณให้กลายเป็นทะเลสีฟ้าอันน่าทึ่งในช่วงปลายเมษายนถึงต้นพฤษภาคม นอกจากเนโมฟีลาแล้ว ยังมีทุ่งทิวลิปนับพันสีสันสดใส และดอกนาร์ซิสซัสที่บานสวยในช่วงเดือนเมษายน รวมถึงดอกไม้อื่นๆ ที่ผลัดเปลี่ยนบานตลอดฤดูกาล สวนมีเส้นทางเดินกว้างขวาง…

การได้เห็นดอกวิสทีเรีย (Wisteria) หรือที่คนไทยเรียกกันว่า “ดอกฟูจิ” บานสะพรั่งเต็มต้น เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่สวยงามและตราตรึงใจที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น ดอกไม้ชนิดนี้ไม่เพียงแต่สร้างทัศนียภาพอันน่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสถึงความสดชื่นและความอ่อนโยนของธรรมชาติอย่างแท้จริง การได้เดินลอดซุ้มดอกวิสทีเรียที่ห้อยระย้าลงมาราวม่านดอกไม้ ทำให้รู้สึกราวกับหลุดเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยาย วิสทีเรียจะบานในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม โดยช่วงเวลาที่ดอกไม้ผลิบานเต็มที่นั้นสั้นมาก นักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสความงามของดอกฟูจิควรวางแผนเดินทางล่วงหน้า เพื่อไม่ให้พลาดช่วงเวลาสวยที่สุดของปี ทั้งนี้ สภาพอากาศในแต่ละพื้นที่จะส่งผลต่อเวลาบานของดอกไม้เล็กน้อย จึงควรตรวจสอบข้อมูลก่อนออกเดินทางเสมอ บทความนี้จะพาไปสำรวจ 5 จุดชมวิสทีเรียและดอกฟูจิที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งแต่สวนดอกไม้ชื่อดังไปจนถึงศาลเจ้ากลางเมือง พร้อมแนะนำเคล็ดลับการเที่ยวให้ได้สัมผัสเสน่ห์ของฤดูใบไม้ผลิอย่างเต็มที่ อย่าพลาดที่จะเลื่อนอ่านต่อ เพราะแต่ละแห่งล้วนมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่จะต้องหลงรัก ข้อมูลทั่วไป: วิสทีเรีย บานช่วงไหน ดอกวิสทีเรียเริ่มผลิบานอย่างงดงามตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายนไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาทองของการชมดอกไม้ชนิดนี้ โดยเฉพาะในภูมิภาคคันโตและคิวชูที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านการจัดเทศกาลชมดอกวิสทีเรีย นักท่องเที่ยวจะได้พบกับบรรยากาศสุดพิเศษ ทั้งซุ้มดอกไม้ที่เลื้อยลงมาเป็นม่านระย้า และสีสันที่ไล่เฉดอย่างสวยงามตั้งแต่ม่วงอ่อน ม่วงเข้ม ไปจนถึงขาวนวลและเหลืองทองอ่อน ทำให้การเดินชมในสวนหรือศาลเจ้าต่าง ๆ เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ราวกับอยู่ในโลกแห่งความฝัน ในบางสถานที่ เช่น สวนดอกไม้อาชิคางะและคาวาจิ ฟูจิ การ์เด้น ยังมีการจัดแสดงไฟไลท์อัพตอนกลางคืน เพิ่มความโรแมนติกให้กับบรรยากาศการชมดอกฟูจิอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินลอดอุโมงค์ดอกไม้ที่ส่องสว่างเรืองรองในยามค่ำคืน ถ่ายรูป หรือเพียงแค่นั่งชมความสวยงามอย่างเงียบสงบ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในเสน่ห์ฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น ช่วงที่ดอกฟูจิบานเต็มที่มักจะอยู่ระหว่างต้นถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่สัปดาห์…

KI MO CHIII รายการ Kimochiii กำลังจะกลับมาแล้วนะ! ทักทายแบบนี้ก่อนเลย เพราะคิดว่าผู้อ่านหลายท่าน คงจะเคยเห็นผลงานของเรา “เรโกะซัง” (หรือชื่อเดิมที่คนรู้จัก บ.ก.เรโกะ) ในฐานะพิธีกรรายการ Kimochiii in Japan รายการเที่ยวญี่ปุ่นทาง youtube ที่มีผลงานต่อเนื่องตั้งแต่ 2012 – 2020 จนมาสะดุดไปช่วงโควิดนี่แหละค่ะ ข่าวดี ตอนนี้พวกเรากำลังกลับมาฟอร์มทีมเพื่อจะถ่ายทำซีซั่นใหม่ เลยจะขอมาเล่าในมุมของการท่องเที่ยวญี่ปุ่น เผื่อคนที่เป็นแฟนรายการ ติดตามกันมานาน อยากจะลองไปท่องเที่ยวตามโลเคชั่นที่เคยถ่ายในรายการบ้าง นำมาเสิร์ฟแบบให้แกะรอยเที่ยวตามได้เลยค่ะ แพลนนี้สมมุติว่า เป็นแพลนท่องเที่ยว 4 วัน 3 คืน กลุ่มเป้าหมายคือ คนที่เคยดูรายการ Kimochiii มาก่อน แล้วเพิ่งเคยไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกๆ ยังไม่เชี่ยวชาญการเที่ยวเองสักเท่าไหร่ เราเลยเน้นที่ท่องเที่ยวในโตเกียวและรอบ ๆ เอาล่ะ ออกเดินทางกันเลยค่ะ ทริปตามรอยความสนุกสนาน แบบ Kimochiii! รอบๆ โตเกียว เหมาะสำหรับแฟนรายการที่เป็นมือใหม่หัดไปญี่ปุ่นด้วยตัวเองเวลาที่บอก สมมุติคร่าวๆ อาจจะเผื่อบวกลบนิดหน่อย เพราะการเดินทางที่เลือกใช้อาจจะไม่เหมือนกันนะคะ…

หากเคยไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงต้นเดือนพฤษภาคม น่าจะเคยมองเห็นช่วงเวลาที่มีการประดับ “ธงปลาคาร์ป” ในสถานที่ต่าง ๆ เมื่อธงได้สัมผัสกับสายลม ก็จะเหมือนว่ามีปลาคาร์ปแหวกว่ายอยู่บนท้องฟ้า นั่นคือส่วนหนึ่งของเทศกาล Kodomo no Hi หรือ วันเด็กผู้ชาย ของญี่ปุ่น บทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเทศกาลนี้ให้มากขึ้น พร้อมแนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ สำหรับการท่องเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงเทศกาลโคโดโมะโนะฮิกัน ! ทำความรู้จักกับ Kodomo no Hi เทศกาล “ วันเด็กผู้ชาย ” ของประเทศญี่ปุ่น Kodomo no Hi อ่านว่า โคโดโมะโนะฮิ เป็น “ วันเด็กผู้ชาย ” ของประเทศญี่ปุ่น หรือถ้าให้อธิบายให้เห็นภาพสักหน่อย ก็จะเป็นวันเด็กแห่งชาติของไทยนั่นเอง ซึ่งจะตรงกับวันที่ 5 พฤษภาคม ของทุก ๆ ปี เป็นเทศกาลเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่น มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความสำคัญกับการเจริญเติบโตของเด็ก ๆ ในประเทศ ให้เติบโตมาอย่างมีความสุข พร้อมด้วยสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง โดยในอดีตจะมอบวันนี้ให้เฉพาะเด็กผู้ชายเพียงเท่านั้น แต่ปัจจุบันเพื่อความเท่าเทียมก็จะไม่ได้แบ่งแยก เด็กผู้ชาย หรือ…

ซากุระ ใน โตเกียว คือหนึ่งในภาพจำอันแสนตราตรึงที่หลายคนใฝ่ฝันอยากไปสัมผัสให้ได้สักครั้งในชีวิต ดอกซากุระสีชมพูขาวผลิบานสะพรั่งทั่วเมือง สร้างบรรยากาศอบอุ่นและโรแมนติกที่สุดในรอบปี เป็นช่วงเวลาที่ทั่วทั้งเมืองถูกเติมเต็มด้วยความสุข และสิ่งหนึ่งที่ห้ามพลาดเลย ก็คือการไปปิกนิกใต้ต้นซากุระในสวนสาธารณะต่างๆ ของโตเกียว ซึ่งนอกจากจะได้ชมความงามของดอกไม้ใกล้ชิดแล้ว ยังได้สัมผัสกับวัฒนธรรมฮานามิแบบดั้งเดิมที่แสนอบอุ่น และรู้สึกเหมือนได้เชื่อมต่อกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ข้อมูลทั่วไปของ ซากุระ ใน โตเกียว โตเกียว ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่ ซากุระ เริ่มบานเร็วที่สุดในญี่ปุ่น โดยปกติแล้วซากุระจะเริ่มผลิดอกตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงต้นเดือนเมษายน ซึ่งช่วงที่ซากุระบานเต็มที่หรือ Full Bloom จะอยู่ประมาณต้นเดือนเมษายน ช่วงนี้เองที่สวนสาธารณะและพื้นที่สาธารณะต่างๆ จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวที่มาร่วมปิกนิก ชมดอกไม้ หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า “ฮานามิ” (Hanami) อย่างคึกคัก อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาการบานของซากุระอาจเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อยตามสภาพอากาศในแต่ละปี หากอากาศหนาวยาวนาน ซากุระอาจบานช้าไป 1-2 สัปดาห์ หรือหากมีอากาศอุ่นเร็วกว่าปกติ ซากุระก็อาจบานเร็วกว่าที่คาดไว้ได้เช่นกัน คำแนะนำ ・ติดตามพยากรณ์ซากุระจากเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันท่องเที่ยวญี่ปุ่น เพื่ออัปเดตข้อมูลล่าสุดแบบเรียลไทม์ ・ควรมีแผนสำรอง เช่น หากวันที่เลือกไปฝนตก อาจขยับวันได้อีก 1-2 วันตามสภาพอากาศ ・สำหรับการถ่ายรูปสวยๆ ช่วงเช้า (8.00-10.00 น.) และช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตก…

ถ้าใครอยากสัมผัสบรรยากาศของโตเกียวในอดีต ห่างไกลจากแสงสีหรือไม่ค่อยชอบคนเยอะๆแบบในย่านดังอย่าง Shibuya หรือ Shinjuku แนะนำให้ลองมาที่นี่ได้ ย่าน Shibamata เป็นย่านเดินเล่นเก่าแก่ นั่งรถไฟจากใจกลางเมืองโตเกียวมาประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง เต็มไปด้วยร้านค้าแบบดั้งเดิม ขนมแปลกๆ ของฝากแบบย้อนยุค และวัดสำคัญอย่าง Shibamata Taishakuten ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้เดินทางย้อนเวลากลับไปในอดีต     https://youtu.be/00Oi1IQxcBI     เดินเล่นบนถนน Taishakuten Sando จุดเด่นของ Shibamata คือ Taishakuten Sando ถนนสายสั้น ๆ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าเก่าแก่ ขนมญี่ปุ่นโบราณ และร้านขายของที่ระลึก บรรยากาศที่นี่เหมือนอยู่ในยุค Showa ซึ่งเป็นยุคที่ญี่ปุ่นกำลังเติบโตหลังสงคราม ทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลา ระหว่างทางจะเจอร้านขาย kusa dango หรือดังโงะที่ทำจากใบโยโมกิ (mugwort) ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของย่านนี้ ขนมนี้ได้รับความนิยมจากภาพยนตร์เรื่อง Otoko wa Tsurai yo (It’s Tough Being a Man)…

โตเกียว เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่เพียงเท่านั้นโตเกียวยังเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและเทคโนโลยีที่สำคัญของญี่ปุ่นอีกด้วย ภายในเมืองมีสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงและน่าสนใจหลายแห่ง รวมไปถึงที่พักที่มีให้เลือกได้หลากหลาย แต่ แต่ แต่ ความเจริญก็มาพร้อมกับความแออัดขั้นสุด โรงแรมที่พักส่วนใหญ่มีขนาดห้องที่เล็กมาก หลายๆแห่ง ห้องกว้างไม่ถึง 10 ตรม. เลย จนเป็นปัญหาสำหรับหลายๆคนที่พอช้อปปิ้งมาแล้ว ไม่มีที่วางของ หรือแม้แต่จะกางกระเป๋าเดินทางยังทำไม่ได้เลย ด้วยเหล่าปัญหานี้เอง เราจึงไปรวบรวมโรงแรมที่พักในโตเกียว ที่มีขนาดห้องเริ่มต้นกว่างขวาง และพอเพียงสำหรับการวางของและกางกระเป๋าเดินทางได้มาแนะนำกัน ไปดูกันเลย       เฮนน์ นะ โฮเต็ล โตเกียว อาซากูซะ (Henn na Hotel Tokyo Asakusa) ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว ในย่านอาซากุสะ โรงแรมแห่งนี้เป็นที่พักระดับ 3 ดาว ห้องพักทุกห้องมีขนาดกว้างขวางและมีให้เลือกได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ห้องแพนด้าแฟมิลี่สวีท, ห้องดีลักซ์ทวิน และ ห้องทวินสไตล์ญี่ปุ่น ทุกห้องยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ นอกจากนี้ภายในโรงแรมยังให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ห้องอาหาร, บาร์,…