10 ที่เที่ยวชื่อดังเมือง Ibusuki 2567

photos by Keita Kuroki from flickr.com/photos/104013316@N06/11547824496( cc by 2.0)


อิบุสึกิ(Ibusuki) เป็นเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของญี่ปุ่น (ไม่นับรวมเกาะโอกินาว่า) มีชายหาดที่สวยงามและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และงดงามแห่งหนึ่ง และที่เมืองนี้ยังมีภูเขาไฟที่ยังมีการปะทุอยู่อย่างภูเขาไฟ Kaimondake ดังนั้นพื้นที่ใต้ดินลึกลงไปจึงมีน้ำร้อนตามธรรมชาติที่สะสมไว้เป็นเวลานานไหลเวียนอยู่ และถูกถ่ายเทขึ้นมาด้านบนพื้นดินบริเวณชายหาดของเมือง หาดทรายที่นี่จึงมีความร้อนต่างจากที่อื่น ทำให้เมือง Ibusuki มีชื่อเสียงในเรื่องของการอบทรายร้อน เพื่อรักษาโรคต่างๆมาเป็นเวลานาน การอบทรายร้อนช่วยในการไหลเวียนของโลหิตที่มีผลดีต่อสุขภาพและผิวพรรณ สืบทอดมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาถึงเมืองนี้ และวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเมือง Ibusuki กันค่ะ

 

1. Saraku Sand Bath Hall หนึ่งในสถานที่ๆทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวนิยมมาอบทรายร้อนของเมือง Ibusuki ด้วยความใหญ่โตโอ่อ่า มีทั้งห้องอบทรายในร่มและที่ชายหาดรวมถึงห้องอบซาวน่า สะดวกสบายครบครันแบบนี้ จึงเป็นที่แรกๆที่ถูกนึกถึง

การเดินทาง: ห่างจากสถานี JR Ibusuki 15นาทีเดิน หรือ 5 นาทีโดยรถบัส (140 เยน)

เวลาทำการ: 8.30 – 21.00

ค่าเข้า: 1,080 เยน

photos by hirotomo t from flickr.com/photos/travelstar/44483985( cc by 2.0)

2. Healthy Land ห้องอาบน้ำสาธารณะขนาด 2 อาคาร มีทั้งห้องอาบน้ำในอาคาร (แยกชายหญิง) , ออนเซนกลางแจ้งที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีให้เราได้ผ่อนคลายกับวิวธรรมชาติ และยังมีห้องสำหรับอบทรายร้อนอีกด้วย

การเดินทาง: ขึ้นบัสจากสถานี Ibusuki หรือ Yamakawa ปลายทางสถานี Kaimon ลงที่ป้าย Healthyland-iriguchi

เวลาทำการ: 9.30-19.30

ค่าเข้า: 500 เยนเฉพาะออนเซนกลางแจ้ง

photos by Tzuhsun Hsu from flickr.com/photos/alberth2/5415592157( cc by 2.0)

3. Tosenkyo Flowing Noodle (Soumen Nagashi) หรือบะหมี่เย็นลอยน้ำ อาหารชื่อดังของเมือง Ibusuki วิธีการกินเอาเส้นใส่ในรางน้ำเย็นที่วนอยู่ในอ่าง จากนั้นดักเส้นขึ้นมาแล้วจิ้มกับน้ำจิ้มสีดำที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ ในเซ็ตจะมีข้าวปั้น ปลาย่าง ปลาดิบ(สดมาก) และซุปให้ ราคาประมาณ 1,300 เยน

การเดินทาง: รถบัสรอบเมืองลงป้าย Tosenkyo

เวลาทำการ: 9.30 – 17.00

Tosenkyo Flowing Noodle

 

4. Cape Nagasakibana เป็นสถานที่ตั้งของ Ryugu shrine ศาลเจ้าขนาดเล็กที่มีชื่อเสียงในด้านความรักตามตำนานสถานที่แห่งนี้เป็นที่พบรักกันระหว่างชาวประมง Urashima Taro และเจ้าหญิง Otohime แห่งท้องทะเลนี้ เมื่อเดินลงเนินจากศาลเจ้า Ryugu มาก็จะเป็นแหลม Nagasakibana สามารถชมวิวภูเขาไฟ Kaimaondake ได้แบบเต็มๆ

การเดินทาง: ขึ้นบัสจากสถานี Ibusuki 35 นาที 520 เยน

photos by BirdsEyeLV from commons.wikimedia.org/wiki/File:Nagasaki-bana_lighthouse_-_panoramio.jpg( cc by 3.0)

5. The Flower Park Kagoshima สวนดอกไม้ขนาดใหญ่ริมทะเลตั้งอยู่ใกล้กับ Cape Nagasakibana มีต้นไม้มากกว่า 2,400 สายพันธุ์มีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 3 กิโลเมตร ภายในแบ่งแยกเป็นโซนทั้งหมด 3 โซน ได้แก่ 1. Floral Zone ที่เป็นพื้นที่หลักให้ได้เพลิดเพลินกับเหล่าดอกไม้นานาชนิด ทั้งในร่มและกลางแจ้ง Breezy Zone รื่นรมย์กับลมเย็นๆและวิวจากมหาสมุทร 3. Brilliant Zone จุดชมวิวริมอ่าว

การเดินทาง: นั่งบัสจากสถานี Ibusuki ประมาณ 35 นาที 480 เยน

เวลาทำการ: 9.00 – 17.00

ค่าเข้า: 620 เยน

photos by TANAKA Juuyoh (田中十洋) from flickr.com/photos/tanaka_juuyoh/3278641388( cc by 2.0)

6. Lake Ikeda (ทะเลสาบอิเคดะ) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของคิวชู เป็นปล่องภูเขาไฟเก่าที่ก่อตัวขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 6,400 ปีที่แล้วมีความกว้าง 15 กิโลเมตร จุดที่ลึกที่สุด 233 เมตร น้ำในทะเลสาบมีสีฟ้าคราม มีปลาไหลยักษ์อาศัยอยู่จำนวนมาก ที่ทะเลสาบอิเคดะแห่งนี้เป็นอีกจุดที่เราสามารถชมความงามของภูเขา Kaimondake ได้ และนอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นที่รู้จักในฐานะทะเลสาบของมอนสเตอร์ “Issie” สัตว์ประหลาดหน้าตาคล้ายไดโนเสาร์ใจดีที่เคยโผล่มาให้เห็นในทะเลสาบแห่งนี้เมื่อวันที่ 3 กันยายน 1978 มีข่าวลือแพร่สะพัดว่ามีคนเห็นสัตว์น้ำขนาดยักษ์ปรากฏตัวที่นี่ แม้ไม่มีผู้ใดยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ที่ทะเลสาบแห่งนี้ก็ยังมรูปปั้นของเจ้า “อิสซี่” ตั้งอยู่เพื่อจุดถ่ายรูปให้กับนักท่องเที่ยวด้วย

การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ JR Ibusuki ขึ้นรถบัสสายรอบเมือง ลงที่ป้ายทะเลสาบอิเคดะ (ป้ายสุดท้าย)

photos by Yobito KAYANUMA from commons.wikimedia.org/wiki/File:池田湖_-_panoramio.jpg( cc by 3.0)

7. JR Nishi-Oyama Station สถานี JR ใต้สุดของญี่ปุ่น กับจุดชมวิวภูเขาไฟ Kaimondake และชานชลาของสถานีรถไฟ รวมถึงสัญลักษณ์สำคัญที่หาไม่ได้ที่ไหนคือตู้ไปรษณีย์สีเหลืองที่มีอยู่ตู้เดียวในประเทศญี่ปุ่นสามารถซื้อไปรษณีย์และแสตมป์ได้ที่ร้านค้าใกล้ๆกัน (มีไอศกรีมรสมะม่วงอร่อยมาก)

การเดินทาง: ขึ้นรถไฟ JR จากสถานี Ibusuki

photos by Kzaral from flickr.com/photos/kzaral/4562420081( cc by 2.0)

8. Satsuma Denshōkan Museum ตั้งอยู่ในส่วนของโรงแรม Hakusuikan onsen เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นในการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้มีค่าใน Satsuma ช่วงปีเมจิ1868 – 1912 รวมถึงเครื่องใช้จำพวกกระเบื้องจีนเก่าแก่สวย หรูภายในเรือนจัดแสดงที่ดูเหมือนลอยอยู่บนน้ำดูน่าตื่นตา ในพิพิธภัณฑ์มีเครื่องบรรยายภาษาอังกฤษให้ใช้ฟรี

การเดินทาง นั่งแท็กซี่จากสถานี Ibusuki ประมาณ 3.5 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 1,220 เยนใช้เวลา 10 นาที

เวลาเปิดให้เข้าชม 8.30 – 18.00

ค่าเข้าชม:1,500 เยน

photos by Korugi from commons.wikimedia.org/wiki/File:Satsuma-denshokan.jpg( cc by 3.0)

9. Hirakiki Shrine เป็นหนึ่งในศาลเจ้าของเมืองที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่โบราณ ผู้คนต่างมาสักการะขอพรให้คุ้มครองยามออกเดินเรือ เพราะเชื่อว่าเป็นเทพเจ้าแห่งการประมง และยังมีความสำคัญในการเห็บสมบัติเครื่องใช้โบราณของเมืองไว้อีกด้วย

การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Kaimon แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที

photos by Sakoppi from commons.wikimedia.org/wiki/File:Hirakiki_shrine_01.JPGg( cc by 3.0)

10. Chiringashima (Chirin Island) เป็นเกาะเล็กๆตั้งอยู่ในอ่าว Kinko มีผืนทรายเชื่อมต่อกับผืนแผ่นดินใหญ่ระยะทาง 800 เมตร สามารถเดินเท้าเปล่าไปยังเกาะได้ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ในช่วงเดือน มีนาคม ถึง ตุลาคม บริเวณเกาะมีความเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนฟังเสียงคลื่นและสูดกลิ่นทะเล

การเดินทาง :โดยรถยนต์ หรือนั่งแท็กซี่จากสถานี Ibusuki ประมาณ 10 นาที

photos by WT-shared from commons.wikimedia.org/wiki/File:Chiringashima.jpg( cc by public domain)


Exit mobile version