10 ปราสาทที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น 2567

photos by Wei-Te Wong from flickr.com/photos/wongwt/34519082461( cc by 2.0 )


ประเทศญี่ปุ่นมีปราสาทอยู่มากมายแทบจะทุกเมือง มากกว่า 100 ปราสาท ซึ่งแต่ละปราสาทก็จะมีความพิเศษเฉพาะตัวแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสถานที่ตั้ง ลักษณะของปราสาท การตกแต่งทั้งภายนอกและภายใน ไปจนถึงยุคสมัยที่สร้างปราสาทนี้ขึ้นมา โดยจะมีอยู่ 10 ปราสาทด้วยกันที่ได้รับคะแนนสูงที่สุดโดยผู้เชี่ยวชาญด้านปราสาทของญี่ปุ่น จะมีปราสาทไหนบ้างมาดูกันเลย

 

1. ปราสาทบิทชู มัสซุยามะ(Bitchu Matsuyamajo, 松山城), จังหวัด Okayama,  ภูมิภาค Chugoku

เป็นปราสาทหลังเดิมที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นที่ยังคงหลงเหลือจนถึงปัจจุบัน(ปราสาทดั้งเดิมที่เหลืออยู่มีทั้งหมด 12 แห่ง) อยู่บนยอดเขาทางตอนเหนือของตัวเมืองทาคาฮาชิ(Takahashi) นอกจากนี้ยังเป็นปราสาทเก่าแก่เพียงหนึ่งเดียวในบรรดาทั้งหมด 12 ปราสาทที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง 430 เมตร และยังเป็นปราสาทที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ดูข้อมูลเที่ยวปราสาทบิทชู มัสซุยามะเพิ่มเติมได้ที่นี่

                  photos by Wei-Te Wong from flickr.com/photos/wongwt/33840159643( cc by 2.0 )

2. ปราสาทฮิโกเนะ(Hikone Castle), จังหวัด Shiga, ภูมิภาค Kansai

เป็นปราสาทหลังดั้งเดิมเก่าแก่ที่สร้างเสร็จในปี 1622 เป็นปราสาทแบบดั้งเดิม ซึ่งไม่ถูกทำลายในยุคศักดินา ตัวปราสาทหลัก คูเมือง กำแพง บ้านรักษาความปลอดภัย และประตู ยังคงอยู่สภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ภายในบริเวณปราสาทมีอะไรที่น่าสนใจอยู่มากมาย อีกทั้งยังเป็นจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงด้วย ดูข้อมูลการเที่ยวปราสาทฮิโกเนะเพิ่มเติมที่นี่

photos by bryan… from flickr.com/photos/bryansjs/25100062261( cc by 2.0 )

3. ปราสาทฮิเมจิ(Himeji Castle, 姫路), จังหวัด Hyogo, ภูมิภาค Kansai

เป็นปราสาทที่ยิ่งใหญ่และสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1400 และเนื่องจากปราสาทนี้ยังไม่เคยถูกทำลายมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น สงคราม เพลิงไหม้ หรือแผ่นดินไหว ทำให้ยังคงรูปแบบดั้งเดิมของตัวปราสาทเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์(ปราสาทดั้งเดิมที่เหลืออยู่มีทั้งหมด 12 แห่ง) จึงทำให้ได้รับการบันทึกเป็นมรดกโลกจาก UNESCO และยังได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 4 ปราสาทเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น (ร่วมกับอีก 3 แห่งคือ Matsumoto Castle, Inuyama Castle และ Hikone Castle) ดูข้อมูลการเที่ยวปราสาทฮิเมจิเพิ่มเติมได้ที่นี่

                   photos by Wei-Te Wong from flickr.com/photos/wongwt/34098947194( cc by 2.0 )

4. ปราสาทฮิโรซากิ Hirosaki Castle, จังหวัด Aomori, ภูมิภาค Tohoku

ถูกสร้างขึ้นในปี 1611 โดยตระกูลซูการุ โครงสร้างปราสาทมีทั้งหมด 3 ชั้น ประกอบด้วย คูปราสาท ป้อม ประตูปราสาท และป้อมตามมุมปราสาท ตั้งอยู่ในบริเวณสวนสาธารณะฮิโรซากิที่มีพื้นที่ประมาณ 0.6 ตารางกิโลเมตร นอกจากตัวปราสาทแล้วบริเวณรอบๆปราสาทยังเป็นจุดชมซากุระบานที่ติดอันดับของประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งในทุกๆปีจะมีงานเทศกาลตะเกียงหิมะจัดขึ้นที่ปราสาทแห่งนี้ด้วย ดูข้อมูลการเที่ยวปราสาทฮิโรซากิเพิ่มได้ที่นี่

                photos by Spidysg from flickr.com/photos/spidysg/35026634336( cc by 2.0 )

5. ปราสาทมัตสึยาม่า(Matsuyama Castle), จังหวัด Ehime , ภูมิภาค Shikoku

เป็นปราสาทเก่าแก่ดั้งเดิมที่สร้างขึ้นตั้งแต่ตั้งแต่ปี 1868 และยังเป็นหนึ่งในปราสาทที่มีความซับซ้อนน่าสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นด้วย ตั้งอยู่บนภูเขาคาสึยาม่า(Mount Katsuyama) เนินเขาสูงชันใจกลางเมืองที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์อันกว้างไกลของเมืองมัตสึยาม่าคู่กับทะเล Seto Inland Sea พื้นที่รอบๆปลูกต้นซากุระกว่า 200 ต้น ซึ่งเหมาะแก่การชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายนเป็นประจำทุกปี ดูข้อมูลการเที่ยวปราสาทมัตสึยาม่าเพิ่มได้ที่นี่

photos by Yoshikazu TAKADA from flickr.com/photos/yoshikazut/5478351309( cc by 2.0 )

6. ปราสาทคุมาโมโต้ Kumamoto Castle, จังหวัด Kumamoto, ภูมิภาค Kyushu

เป็นหนึ่งในปราสาทที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และภายในก็มีสิ่งที่น่าสนใจหลากหลายอย่าง มีอาคารต่างๆครบถ้วนเหมือนในสมัยก่อน ถึงแม้ว่าจะมีเพียงไม่กี่อาคารที่เป็นอาคารเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยที่เริ่มสร้างปราสาท(ประมาณปี ค.ศ. 1607) แต่อาคารใหม่ๆที่สร้างขึ้นล้วนสร้างขึ้นแบบพิถีพิถันเน้นรักษารายละเอียดให้เหมือนเดิมที่สุด และบริเวณโดยรอบปราสาทยังมีต้นซากุระอยู่ประมาณ 800 ต้นทำให้ปราสาทคุมาโมโต้ยังเป็นจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงด้วย ข้อมูลเที่ยวปราสาทคุมาโมโต้เพิ่มเติม

photos by prelude2000 from flickr.com/photos/prelude-2000/18379554362( cc by 2.0 )

7. ปราสาทมัตสึเอะ (Matsue Castle), จังหวัด Shimane, ภูมิภาค Chugoku

เป็น 1 ใน 12 ปราสาทหลังดั้งเดิมของญี่ปุ่น และติดอันดับ 100 สุดยอดปราสาททั่วประเทศญี่ปุ่นด้วย มีฉายาว่า “ปราสาทดำ” เพราะมีลักษณะของปราสาทที่เน้นสีโทนมืด โดยที่หอคอยปราสาทรอดพ้นมาจากสงคราม อัคคีภัย และแผ่นดินไหวต่างๆ สร้างเสร็จตั้งแต่ปี ค.ศ. 1611 มีทั้งหมด 6 ชั้น โดยรอบๆปราสาทจะเป็นจุดชมซากะรุและใบไม้แดงที่สวยงามของจังหวัดชิมาเนะด้วย ข้อมูลเที่ยวปราสาทมัตสึเอะเพิ่มเติม

photos by Peter Broster from flickr.com/photos/remedy451/8061868340( cc by 2.0 )

8. ปราสาทมัตสึโมโตะ(Matsumoto Castle), จังหวัด Nagano, ภูมิภาค Chubu

เป็น 1 ใน 12 ปราสาทดั้งเดิมที่ยังคงสภาพสมบูรณ์และสวยงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่น  (สร้างขึ้นในปี 1592-1614) เนื่องจากสร้างอยู่บนพื้นที่ราบ ในภาษาญี่ปุ่นจึงเรียกว่า ฮิราจิโระ(Hirajiro) ปราสาทแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่มีหอคอยและป้อมปืนเชื่อมต่อกับโครงสร้างอาคารหลัก และด้วยสีโทนมืดทำให้เกิดความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่และสุขุม จนได้รับฉายาว่าปราสาทอีกา(Fugashi-Jo) ภายในตกแต่งด้วยไม้ จุดที่น่าสนใจ ได้แก่ บันไดไม้สูงชัน ช่องเก็บหินสำหรับโจมตีศัตรู ช่องสำหรับธนู และหอสังเกตการณ์บนชั้น 6 ข้อมูลเที่ยวปราสาทมัตสึโมโตะเพิ่มเติม

                      photos by Henry Burrows from flickr.com/photos/foilman/2743651067( cc by 2.0 )

9. ปราสาทนิโจ Nijo Castle, จังหวัด Kyoto , ภูมิภาค Kansai

แม้ว่าจะมีชื่อว่าเป็นปราสาทแต่จริงๆแล้วมีลักษณะเหมือนพระราชวังมากกว่าที่จะเป็นหอคอยสำหรับการสู้รบ เหมือนปราสาทอื่นๆในประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในปราสาทที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ตั้งอยู่ที่เมืองเกียวโต ได้ถูกสร้างขึ้นในปี 1603 เพื่อใช้เป็นที่พักของท่านโชกุนโทคุกาวะ ซึ่งเป็นโชกุนคนแรกในสมัยเอโดะ (ยุคเอโดะ 1603-1867) การสร้างปราสาทแห่งนี้ใช้เวลายาวนานกว่าจะสร้างเสร็จ ประมาณ 23 ภายหลังจากนั้นก็ได้มีการต่อเติมและสร้างเพิ่มขึ้นอีก ข้อมูลเที่ยวปราสาทนิโจเพิ่มเติม

                    photos by Shubert Ciencia from flickr.com/photos/bigberto/3714433517( cc by 2.0 )

10. ปราสาทชูริ(Shuri Castle), จังหวัด Naha, ภูมิภาค Okinawa

เป็นอีกหนึ่งปราสาทที่ดูเหมือนพระราชวังมากกว่าหอคอยปราสาทเพื่อการสู้รบ เป็นปราสาทประจำเมืองนาฮะ(Naha) เมืองหลวงของเกาะโอกินาว่า(Okinawa) ซึ่งมีชื่อเดิมว่าเมืองชูริ(Shuri) มีรูปแบบทางด้านสถาปัตยกรรมที่แตกต่างจากปราสาทและพระราชวังอื่นๆของประเทศญี่ปุ่นอย่างชัดเจน มีอาคารโดเด่นด้วยสีแดงสด ซึ่งปราสาทแห่งนี้ได้รับขึ้นบัญชีเป็น UNESCO World Heritage ดูข้อมูลการเที่ยวปราสาทชูริเพิ่มเติมที่นี่

                 photos by Connie from flickr.com/photos/ironypoisoning/32217939764( cc by 2.0 )

ข้อมุลการให้คะแนนจากเว็บไซต์ : Jcastle.info


Exit mobile version