แนะนำ โรงแรมที่พัก โตเกียว ญี่ปุ่น อัพเดตล่าสุด

รวมทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนไปเช่ารถขับเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น แบบละเอียดยิบ


ประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบการขนส่งสาธารณะที่ดีที่สุดในโลก โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ๆ เช่น โตเกียว(Tokyo) โอซาก้า(Osaka) นาโกย่า(Nagoya) ซัปโปโร(Supporo) และฟุกุโอกะ(Fukuoka) ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวโดยระบบขนส่งสาธารณะในตัวเมืองนั้นจะง่ายและสะดวกกว่าการเช่ารถขับเองมาก แต่ถ้าเป็นพื้นที่ห่างไกลตามชนบทต่างๆ การเดินทางจะค่อนข้างจำกัดกว่ามาก บางพื้นที่อาจจะยังไม่มีเครือข่ายรถไฟไปถึงและยังอาจจะมีรถบัสวิ่งให้บริการเพียงไม่กี่เที่ยวต่อวัน ทำให้การเช่ารถขับเที่ยวนั้นน่าสนใจและอาจจะดูเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะให้มีความอิสระในการเดินทางมากกว่า ทำให้สามารถเดินทางไปได้ไกลและนานกว่าเดิม ไม่ต้องเสียเวลารอรถ

ในบทความนี้เราจึงรวบรวมเอาเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวข้องและต้องรู้ก่อนการไปเช่ารถขับเที่ยวที่ญี่ปุ่นมาบอกเล่ากัน

 

เรื่องทั่วๆไปของการขับรถที่ประเทศญี่ปุ่น

บรรยากาศระหว่างที่ขับรถบริเวณถนน Old Oguni

บรรยากาศระหว่างที่ขับรถบริเวณถนน Old Oguni

การจะไปเช่ารถขับที่ประเทศญี่ปุ่น จะต้องไปทำใบขับขี่สากลที่กรมขนส่งก่อน ซึ่งขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยากและใช้เวลาไม่นานเหมือนการทำใบขับขี่ธรรมดา มีค่าใช้จ่ายในการทำประมาณ 500 บาท มีอายุอยู่ได้ 1 ปี แล้ววันเดินทางให้พกใบขับขี่จริงไปด้วย

ญี่ปุ่นขับรถพวงมาลัยขวาและชิดซ้ายเหมือนบ้านเรา คนขับต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ป้ายและสัญญลักษณ์บนท้องถนนส่วนใหญ่จะเป็นไปตามมาตราฐานสากล ซึ่งก็จะคล้ายๆกับบ้านเรา ป้ายบอกทางส่วนใหญ่จะมีทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ การดื่มเหล้าแล้วขับรถผิดกฏหมายร้ายแรงมาก!

ความเร็วในตัวเมืองโดยทั่วไปจะประมาณ 30-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าออกนอกเมืองหน่อยก็จะเป็น 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าเป็นบนทางด่วนจะอยู่ระหว่าง 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คนขับรถส่วนใหญ่จะขับเร็วกว่ากำหนดเล็กน้อย ถ้าไม่แน่ใจก็ขับความเร็วเท่าคันข้างหน้าก็ได้

ถนนที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะขับได้ฟรี ยกเว้นทางด่วนและเส้นทางชมวิวบางเส้นทางที่จะเก็บเงิน สภาพถนนทั่วไปถือว่าดีกว่าเมืองไทยมาก ถึงแม้ว่าในเขตตัวเมืองบางช่วงอาจจะมีแคบบ้างคล้ายๆกับเมืองไทย และรถในเขตเมืองก็ติดพอๆกับในเมืองไทยจึงจะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการขับรถเที่ยวในตัวเมืองโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ ประเทศญี่ปุ่นมีเครือข่ายทางด่วนกระจายครอบคลุมแทบจะทุกพื้นที่จึงสามารถขับรถข้ามเมืองไปได้ง่ายและรวดเร็ว แนะนำให้ค่อยๆขับเลนซ้ายตามคันหน้าไปจะสบายใจที่สุด ชมวิวข้างทางไปด้วยเพราะทางด่วนข้ามเมืองของญี่ปุ่นหลายเส้นทางนั้นจะวิ่งตัดภูเขาอยู่สูง ทำให้เห็นวิวที่สวยงามมาก

คนขับรถที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะขับรถกันไม่เร็ว มีมารยาทดี มีน้ำใจบนท้องถนน ถ้าคุณเปิดไฟเลี้ยวขอทางรถส่วนใหญ่จะเหยียบเบรคชะลอให้คุณทันที ซึ่งตามมารยาทก็ควรจะก้มหัวให้เพื่อเป็นการขอบคุณ ในระหว่างขับรถในเมืองจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ คุณต้องหยุดรถให้คนข้ามถนนที่ทางม้าลายก่อน ย้ำว่าแค่เห็นคนเดินมาใกล้ทางม้าลายคุณต้องชลอพร้อมหยุดไว้เลย เพราะคนญี่ปุ่นจะชินกับระบบที่คนสามารถเดินข้ามได้เลยนี้ และให้ระวังจักรยานให้ดีเพราะเป็นการสัญจรที่เป็นที่นิยมมาก ซึ่งมักจะขับอยู่ทางซ้ายสุดของถนน ถ้าเป็นแยกสัญญานไฟแดง ถ้าไม่ได้มีทางพิเศษให้เลี้ยวซ้ายคุณต้องรอไปเขียวก่อนเท่านั้น และถ้าเจอทางรถไฟซึ่งมีมากมายที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น คนขับรถจะต้องหยุดรถให้สนิทแล้วมองซ้ายและขวาก่อนที่จะขับรถข้ามไปเท่านั้น จะไม่เหมือนกับประเทศไทยที่แค่ชะลอแล้วข้ามไปเลยจะถือว่าทำผิดกฏหมายและค่าปรับสูงมาก

 

ปั้มน้ำมันและการเติมน้ำมัน(Gas Station)

[wp_ad_camp_1]

ที่เติมน้ำมันรถในปั้มน้ำมันที่ญี่ปุ่นมีหลักๆอยู่ 3 ประเภทแบ่งตามสี

ที่เติมน้ำมันรถในปั้มน้ำมันที่ญี่ปุ่นมีหลักๆอยู่ 3 ประเภทแบ่งตามสี

ปั้มน้ำมันมีอยู่ทั่วไปเหมือนในเมืองไทย มีทั้งแบบที่มีพนักงานมาเติมให้เหมือนเมืองไทย กับแบบที่เป็นบริการตัวเองในจำนวนพอๆกัน ปั้มส่วนใหญ่จะปิดในตอนกลางคืนแต่ก็จะมีบางปั้มที่เปิด 24 ชั่วโมง ราคาน้ำมันจะแพงกว่าเมืองไทย ราคาน้ำมันเบนซินประมาณ 115 เยนต่อลิตร(พฤษภาคม 2016) หรือประมาณ 37 บาท สามารถจ่ายเป็นเงินสดหรือบัตรเครดิตก็ได้

น้ำมันที่ใช้กันจะมีอยู่ 3 ประเภท ซึ่งจะแยกสีกันชัดเจน คือ แบบเบนซินธรรมดา(92) สีแดง, แบบเบนซิน Octane สูง(98) สีเหลือง และน้ำมันดีเซล สีเขียว ซึ่งจะใช้รหัสสีแบบนี้เหมือนกันหมดทุกปั้ม ทั่วประเทศ

ในขั้นตอนการเติมน้ำมันก็ไม่มีอะไรมาก เหมือนกับบ้านเรา คือขับรถเข้าไปจอด ดับเครื่อง เปิดกระจกรถ แล้วบอกพนักงานว่าจะเติมอะไรเท่าไหร่ แต่จะยุ่งยากหน่อยเพราะพนักงานมักจะพูดภาษาอังกฤษไม่เป็น ก็ให้บอกไปว่าถ้าเป็นเบนซิน ก็บอกว่า Regular หรือไม่งั้นก็ Diesel แล้วจะเติมเท่าไหร่ ก็อาจจะยื่นแบงค์เท่าที่จะเติมไปให้ดูก็ได้ หรือบอกว่า Full สำหรับเติมเต็มถังส่วนใหญ่จะเข้าใจ ระหว่างที่รอพนักงานอาจจะถามว่ามีขยะจะทิ้งมั้ย หรืออาจจะถามว่าจะไปทางไหน เรียกว่าบริการดีถึงใจ แม้จะคุยกันไม่รู้เรื่องเลยก็ตาม

ส่วนถ้าเป็นปั้มที่เป็นแบบบริการตัวเอง Self Service ส่วนใหญ่จะมีแต่ภาษาญี่ปุ่น แต่ก็มักจะมีพนักงานอยู่ใกล้ๆ จะเข้ามาช่วยเหลือทันที ก็ทำเหมือนกับเข้าปั้มแบบแรกนั่นแหล่ะ เค้าอาจจะให้เราเติมเองหรือบางทีก็จะจัดการให้เราเสร็จสรรพเลยเหมือนกัน

 

การเช่ารถขับที่ญี่ปุ่น(Rent a car)

จุดรับและคืนรถของบริษัทเช่ารถที่ญี่ปุ่น Toyata Rentacar

จุดรับและคืนรถของบริษัทเช่ารถที่ญี่ปุ่น Toyata Rentacar

ที่ประเทศญี่ปุ่นมีบริษัทให้เช่ารถมากมาย เช่น บริษัทใหญ่ท้องถิ่นที่เป็นของแบรนด์รถยนตร์ เช่น Toyota Rentacar, Nippon Rentacar, Nissan Rentacar และ Mazda Rentacar ที่จะมีเค้าเตอร์ให้บริการอยู่ตามสนามบินใหญ่ๆทุกสนามบิน แต่เราสามารถจองผ่านทางเว็บไซต์ได้เลยง่ายๆ จากเว็บไซต์  ToCoo! Travel เป็นเอเจนซี่ที่เป็นตัวแทนรับจองรถจากหลายๆบริษัทรถยนตร์ และมีบริการ GPS ที่เป็นภาษาอังกฤษให้ด้วย และบริษัทเช่ารถระดับโลกอย่าง Hertz หรือ Avis แต่มักจะมีราคาที่สูงกว่า

ค่าเช่ารถโดยทั่วไปจะคิดราคาต่อ 24 ชั่วโมง รถคอมแพ็คขนาดเล็กประมาณ 5000 เยนต่อวัน ใหญ่ขึ้นมาหน่อยเป็น 7500 เยน จนถึงประมาณ 20000 เยนต่อรถตู้ ค่าเช่าอาจจะมากกว่านี้ในช่วงพีคเช่นวันหยุดยาวต่างๆ  โดยราคานี้จะรวมระยะทางการขับแบบไม่จำกัด ภาษี และประกันภัยขั้นต่ำวันละ 1000 เยนไว้เอา ซึ่งจะครอบคลุมถึง ความเสียหาย การบาดเจ็บต่างๆด้วย

ในตอนที่เราเข้าไปเอารถจะต้องใช้ พาสสปอร์ต ใบขับขี่สากล ใบขับขี่จริง และเครดิตการ์ด ขั้นตอนก็จะคล้ายกับการเช่ารถทั่วๆไป คือพอทำเรื่องด้านเอกสารเสร็จ จะมีเจ้าหน้าที่พาเราไปที่รถ เช็คสภาพรถ จนรอยขีดข่วนต่างๆทั้งภายในและภายนอก และอาจจะมีสอนวิธีการใช้รถเล็กน้อย พร้อมกับน้ำมันเต็มถัง ส่วนตอนคืนรถ จะต้องคืนแบบน้ำมันเต็มถังไม่งั้นจะโดนชาร์จค่าเติมน้ำมันเพิ่ม แต่สถานที่คืนรถบางแห่งก็จะมีบริการเติมน้ำมันอยู่ด้วย ซึ่งสถานที่คืนรถนั้นส่วนใหญ่เราจะเลือกคืนคนละที่กับที่เราขับรถออกมาได้ถ้าอยู่ไม่ไกลจากกันมากนัก หรือถ้าไกลกันก็จะเสียค่าคืนรถคนละสถานที่เพิ่ม

รถเช่าที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีเครื่อง GPS ให้บางที่อาจจะมีภาษาอังกฤษด้วยแต่วิธีการหาจุดหมายที่ดีที่สุดคือการใส่เบอร์โทรศัพท์ สามารถสอบถามจากพนักงานที่อธิบายรถให้เราตอนเช่ารถได้เลย นอกจากนี้บริษัทเช่ารถยังมี options หลายอย่างให้เลือกเพิ่มได้ด้วยเช่น ที่นั่งสำหรับเด็ก ซึ่งตามกฏหมายประเทศญี่ปุ่น เด็กที่อายุต่ำกว่า 6 ขวบจะต้องนั่งที่นั่งสำหรับเด็กเท่านั้น

 

ที่จอดรถในประเทศญี่ปุ่น(Parking)

ที่จอดรถแบบลิฟท์ที่ญี่ปุ่น

ที่จอดรถแบบลิฟท์ที่ญี่ปุ่น

ที่จอดรถในตัวเมืองใหญ่ๆมักจะมีราคาแพงมาก อาจจะหลายร้อยเยนต่อชั่วโมง และราคาจะยิ่งถูกลงเรื่อยๆเมื่ออยู่ห่างจากตัวเมือง และถ้าเป็นในเมืองเล็กๆตามชนบทต่างๆก็มักจะจอดได้ฟรี ถ้าเป็นบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆมักจะเก็บเงินครั้งเดียว ประมาณ 200-500 เยน โรงแรมต่างๆในเมืองมักจะมีที่จอดรถให้ แต่ถ้าเป็นโรงแรมราคาประหยัดอาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม ประมาณ 1,000 เยนต่อคืน ส่วนถ้าเป็นโรงแรมนอกเมืองมักจะมีที่จอดรถให้ฟรี

ที่จอดรถในญี่ปุ่นมีหลายแบบเพราะมีราคาที่ดินสูง เช่น ที่จอดรถแบบเป็นลิฟท์ขึ้นไปบนตึก ที่เราขับรถเข้าไปจอดที่ช่องแล้วรถจะขึ้นไปเก็บด้านบนเอง เมื่อตอนจะออก รถก็จะออกมาให้เราเอง อีกประเภทหนึ่งคือแบบที่เป็นที่กั้นบนถนน คือพอขับรถเข้าไปแล้วก็รับบัตร(Ticket) พอขาออกก็เสียบบัตรเข้าเครื่องแล้วเครื่องจะคำนวนเงินว่ากี่บาทก็จ่ายเงินไป เมื่อเรียบร้อยแล้วที่กั้นบนถนนจะลดลงให้เราขับออกมาได้

 

การขับรถขึ้นเรือเฟอร์รี่(Ferry)

บรรยากาศภายในเรือเฟอร์รี่(Ferry)ที่ขับรถข้ามไปด้วยได้

บรรยากาศภายในเรือเฟอร์รี่(Ferry)ที่ขับรถข้ามไปด้วยได้

อย่างที่รู้กันดีว่ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นหมู่เกาะ การใช้บริการเรือเฟอร์รี่ข้ามฝั่งไปมาระหว่างเกาะจึงเป็นเรื่องปกติ และมีราคาไม่แพง โดยเฉพาะที่ระยะทางไม่ไกล มักจะมีราคาไม่กี่ร้อยเยน ยกเว้นที่มีระยะทางไกลๆ ก็จะมีราคาแพงขึ้นมากได้ การใช้บริการก็ไม่ต่างจากการขับรถขึ้นเรือเฟอรี่ที่อื่น คือขับไปตามป้ายที่จะบอกจุดหมายที่เราไป รอเรือจอดแล้วเปิดทางให้เราค่อยๆขับขึ้นเรือไปจอดบนเรือ โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยโบกให้ และบนเรือก็มักจะมีร้านค้า ร้านอาหาร และที่นั่งพักผ่อนชมวิว พอใกล้ถึงก็จะมีการแจ้งเตือนแล้ว เราก็จะเห็นคนเดินลงไปที่โซนจอดรถ พอเรือเสร็จสนิทเราก็ขับรถออกจากเรือไปตามทางที่เราต้องการต่อไป บางที่อาจจะจ่ายเงินก่อน บางที่อาจจะจ่ายเงินหลังจากออกจากเรือแล้ว

 

การขับรถในฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยหิมะ

[wp_ad_camp_1]

สภาพถนนตอนหิมะตกหนักที่ญี่ปุ่น

สภาพถนนตอนหิมะตกหนักที่ญี่ปุ่น

หลายพื้นที่ในประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะทางตอนเหนือจะมีหิมะตกค่อนข้างมากในช่วงฤดูหนาว ทำให้ถนนถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหรือน้ำแข็ง ทำให้ถนนลื่นมากจนยางปกติของรถยนตร์จะใช้งานได้ไม่ดีในช่วงนี้ คนญี่ปุ่นจะเปลี่ยนมาใช้ยางสำหรับขับบนหิมะ ซึ่งถ้าเราเช่ารถขับในช่วงนี้ ทางบริษัทรถยนตร์จะให้ยางสำหรับขับบนหิมะมาให้ด้วยเลย แต่อย่างไรก็ตามการขับรถในช่วงที่หิมะตกหนักค่อนข้างอันตรายโดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อนจึงควรหลีกเลี่ยงในพื้นที่ที่มีหิมะตกหนักหรือการขับรถในช่วงฤดูหนาว

 

ทางด่วน (Expressways)

บรรยากาศบนทางด่วนประเทศญี่ปุ่น Expressway

บรรยากาศบนทางด่วนประเทศญี่ปุ่น Expressway

เกาะใหญ่ต่างๆที่ประเทศญี่ปุ่นมีเครือข่ายทางด่วนที่ครอบคลุมเมืองใหญ่ๆแทบจะครบทุกเมือง จากบนสุดลงล่างสุด มีระยะทางรวมทั้งหมดเกือบ 10,000 กิโลเมตร ความเร็วโดยทั่วไปจะประมาณ 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงยกเว้นบางช่วงที่เป็นถนนเลนส์เดียวจะกำหนดความเร็วไว้ที่ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

คำศัพท์พื้นฐานของการใช้งานทางด่วนที่ควรรู้คือ

1. Interchange (IC) หมายถึงทางขึ้นลงทางด่วน เช่น Tokyo IC ก็คือทางขึ้นลงทางด่วนของโตเกียว

2. Junction (JCT) หมายถึง ทางแยกของทางด่วนสายต่างๆ จากสายหนึ่งไปอีกสายหนึ่ง หรือหลายสายมารวมกัน

3. Parking Area (PA) หมายถึงจุดพักรถเล็กๆ มีห้องน้ำ หรือตู้กดน้ำให้บริการ

4. Service Area (SA) หมายถึงจุดพักรถใหญ่ๆ มีบริการหลายอย่างนอกจากห้องน้ำ เช่น ร้านอาหาร ปั้มน้ำมัน ร้านขายของ คล้ายกับตามปั้มน้ำมันใหญ่ๆในบ้านเรา

5. Electronic Toll Collection(ETC) คือบัตรทางด่วนอัตโนมัติ คล้ายๆกับ EasyPass บ้านเรา แต่ที่ญี่ปุ่นคนขับีถ 90% จะใช้กัน ทำให้ช่องลงทางด่วนตอนจ่ายเงินส่วนใหญ่จะเห็นป้าย ETC ถ้าเราไม่มีก็ไปช่องที่ไม่มีป้ายนี้ แล้วจ่ายเงินสด การจะใช้งานจะต้องมีเครื่องอ่านบัตร ETC และ บัตร ETC ซึ่งจะเชื่อมต่อกับ เครดิตการ์ดของประเทศญี่ปุ่น บางครั้งบางช่วงเวลาการชำระเงินด้วย ETC จะมีส่วนลดให้ด้วย โดย ETC จะสามารถขอได้จากผู้ให้บริการเช่ารถบางแห่ง เท่านั้น

ป้ายสัญญลักษณ์ของการชำระเงิน ETC หรือ เงินสด

ป้ายสัญญลักษณ์ของการชำระเงินค่าทางด่วนที่ประเทศญี่ปุ่น มี 2 แบบคือ ETC และ เงินสด

อัตราค่าทางด่วนโดยประมาณสำหรับคนยนตร์ที่นั่ง 4 คนขนาดปกติ ซึ่งอาจจะแตกต่างจากนี้ได้ ตามช่วงเวลาของวัน และช่วงเวลาของปี

 
Kagoshima
Fukuoka
Hiroshima
Osaka
Kyoto
Nagoya
Aomori
Tokyo
27,500
23,000
17,000
12,000
10,500
8,000
14,000
Aomori
39,000
34,000
28,500
23,000
22,000
20,500
 
Nagoya
21,000
16,000
10,500
3,500
3,500
   
Kyoto
18,500
13,500
8,000
2,000
     
Osaka
18,000
13,000
7,500
       
Hiroshima
11,500
6,500
         
Fukuoka
6,000
           

 

ข้อกำหนดและกฏหมายพื้นฐานต่างๆ

โดยส่วนใหญ่แล้วจะเหมือนกับที่ประเทศไทย คือขับความเร็วไม่เกินที่กฏหมายกำหนด, ผู้โดยสารทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง ห้ามดื่มของมึนเมาก่อนขับรถ ห้ามคุยโทรศัพท์ระหว่างขับรถ ห้ามฝ่าไฟแดง ต้องหยุดให้คนข้ามถนนไปก่อนทุกครั้ง มีมารยาทและน้ำใจบนท้องถนน

 

* หวังว่าข้อมูลในบทความนี้จะช่วยให้ หลายคนตัดสินใจจะไปลองเช่ารถขับเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งรับรองว่าจะได้พบกับการเดินทางที่สนุกสนานและแปลกใหม่ยิ่งกว่าเดิมแน่นอน แต่ที่สำคัญที่สุดขอให้นึกถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก โดยขอให้ระลึกไว้เสมอในขณะที่ขับรถว่า เราไปเป็นแขกในบ้านคนอื่น จึงควรจะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมทั้งมีมารยาทและน้ำใจบนท้องถนน เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดลง

 

ดูข้อมูล สัญญลักษณ์และป้ายจราจรต่างๆที่ควรรู้ของประเทศญี่ปุ่น

 

รีวิวขับรถเที่ยวญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

รีวิวขับรถเที่ยวทั่วเกาะคิวชู วันที่ 1 ปีนเขาคิริชิม่า ชมทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟ

รีวิวขับรถเที่ยวทั่วเกาะคิวชู วันที่ 2 เที่ยวเมืองคาโงชิมะ และเกาะภูเขาไฟ ซากุระจิมะ

รีวิวขับรถเที่ยวทั่วเกาะคิวชู วันที่ 3 เที่ยวจังหวัดมิยาซากิ เมืองปราสาทโอบิ รูปปั้นโมอาย ศาลเจ้าริมทะเล

รีวิวขับรถเที่ยวทั่วเกาะคิวชู วันที่ 4 เที่ยวช่องเขาทาคาชิโฮะ และภูเขาไฟอะโซะ

รีวิวขับรถเที่ยวทั่วเกาะคิวชู วันที่ 5 สุดโรแมนติค เส้นทางใบไม้เปลี่ยนสี เมืองออนเซนคุโรคาวะ

รีวิวขับรถเที่ยวทั่วเกาะคิวชู วันที่ 6 ดูใบไม้แดง ทุ่งดอกหญ้า และเมืองยูฟุอิน

รีวิวขับรถเที่ยวทั่วเกาะคิวชู วันที่ 7 เที่ยว 8 บ่อนรกแห่งเบปปุ และศาลเจ้าดาไซฟุ


ขอบคุณรูปสวยๆจาก:
https://en.wikipedia.org/wiki/Shuto_Expressway#/media/File:Shuto_expressway_ariake_junction.jpg
http://www.tax-free-shop.com/en/japan-travel-guide/28-rent-a-car-in-japan
https://graceisinjapan.wordpress.com/2013/10/01/getting-gas-in-japan/
http://www.elevatorbobs-elevator-pics.com/parking_p2.html
http://japanesenostalgiccar.com/grand-touring-driving-across-japan-in-a-jnc-day-06/
http://www.maltatoday.com.mt/news/world/61520/cold_weather_leaves_over_50_dead_in_taiwan_and_japan