แนะนำ โรงแรมที่พัก โตเกียว ญี่ปุ่น อัพเดตล่าสุด

ทริปปั่นจักรยานในเมืองเกียวโตตะวันออก Kyoto East course


ทริปปั่นจักรยานในเมืองเกียวโตตะวันออก(Kyoto East course) เป็นเส้นทางปั่นจักรยานที่เที่ยวเพลินไม่แพ้เส้นทางอื่นๆ อาจจะไม่ได้ใช้เวลาเร็วที่สุด แต่ก็กลางๆกำลังดีในการปั่นจักรยานท่องเที่ยวนะคะ รวมๆแล้วเส้นทางเกียวโตตะวันออกใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งก็ไม่มากไปหรือน้อยไปกำลังเลยล่ะค่ะ ถ้ากังวลเรื่องความสะดวกสบายหรือความปลอดภัยสบายใจได้ค่ะ เพราะที่เมืองเกียวโตเค้ามีการทำเส้นทางสำหรับปั่นจักรยานโดยเฉพาะเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ปั่นอย่างปลอดภัยมากที่สุด โดยจุดเริ่มต้อนของเส้นทางปั่นจักรยานในแถบเมืองเกียวโตตะวันออกนั้น จะเริ่มต้นกันที่ย่านวัดคิโยมิซุเดระ ไปจบที่ทางเดินริมแม่น้ำคาโมงาวะ สามารถดูได้จากรายละเอียดเส้นทางการปั่นได้จากด้านล่างกันได้เลยค่ะ

เริ่มต้นที่ร้านเช่าจักรยาน J-cycle ใช้เวลาปั่น 15 นาที ไปยังย่านวัดคิโยมิซุเดระ
จากย่านวัดคิโยมิซุเดระ ใช้เวลาปั่น 10 นาที ไปยังย่านกิออน
จากย่านกิออน ใช้เวลาปั่น 10 นาที ไปยังศาลเจ้าเฮอัน
จากศาลเจ้าเฮอันใช้เวลาปั่น 10 นาที ไปยังวัดนันเซนจิ
จากวัดนันเซนจิใช้เวลาปั่น 5 นาที ไปยังทางเดินนักปราชญ์
จากทางเดินนักปราชญ์ ใช้เวลาปั่น 10 นาที ไปยังวัดกินคะคุจิ
จากวัดกินคะคุจิ  ใช้เวลาปั่น 20 นาที ไปยังทางเดินริมแม่น้ำคาโมงาวะ
จากทางเดินริมแม่น้ำคาโมงาวะ ใช้เวลาปั่น 15 นาที กลับไปยังร้านเช่าจักรยาน J-cycle

โดยปั่นตามเส้นทาง “สายสีเขียว” ในแผนที่ดังต่อไปนี้

cycling map

การเช่าจักรยาน

การเดินทาง(ร้านเช่าจักรยาน): จาก Kyoto Station โดยสารรถไฟใต้ดิน Karasuma Line ไปลงที่ Shijo Station(exit no.5) เดินต่ออีก 4 นาที
ค่าใช้จ่าย: 800-1,700 เยน/วัน
อุปกรณ์เพิ่มเติม
ที่นั่งสำหรับเด็ก(หน้า/หลัง): 300 เยน
หมวกกันน็อคสำหรับเด็ก: 200 เยน
เนวิเกเตอร์(ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น): 500 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 10:00-18:30 (หากต้องการเช่าข้ามคืน กรุณาติดต่อสอบถาม)
วันปิดทำการ:
ทุกวันพุธ

 

จุดท่องเที่ยวที่คุณจะได้แวะชม ได้แก่

1.ย่านคิโยมิซุเดระ(Kiyomizudera Area)

วัดคิโยมิซุเดระ นับว่าเป็นวัดเก่าแก่นับพันกว่าปีของเกียวโตและยังเป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วยนะคะ โดยวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 780 มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าวัดน้ำใส นั่นก็มาจากการที่มีน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากน้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall) ไหลผ่านทำให้เป็นที่มาของชื่อ “วัดน้ำใส” ด้วยความงดงามแล้วเก่าแก่นั่นเองทำให้วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก (UNESCO world heritage sites)  เมื่อเที่ยววัดเสร็จแล้วบริเวณรอบๆเค้าก็มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอีกเพียบเลยนะคะ แบบว่ามีเพลินจนลืมเวลากันบ้างล่ะทีนี้

2.ย่านกิออน(Gion Area)

ย่านราตรีชื่อดังแห่งเมืองเกียวโต ที่ไม่ได้แค่มีดีเฉพาะยามค่ำคืนเท่านั้นนะคะ ช่วงกลางวันนี้ก็เหมือนจะให้บรรยากาศการท่องเที่ยวอีกแบบที่ต่างสไตล์กันเลยทีเดียว ย่านนี้อยู่ใกล้ๆกับศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine) และแม่น้ำคาโมะ (Kamo River) ถนนเส้นหลักจะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านดื่มชาและร้านอาหารมากมาย ซึ่งแต่ละร้านก็จะการแสดงโชว์จากเกอิโกะ (geiko) และ ไมโกะ (maiko) ซึ่งสวยงามและเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เรียกว่าสามารถปั่นมาแล้วแวะดูนั่นนี่ได้มากมาย อีกทั้งบางทีถ้าโชคดีอาจจะได้เห็นเหล่าเกอิชาแต่งตัวแบบเต็มยศมาให้ยลโฉมตามท้องถนนอีกด้วย

3.ศาลเจ้าเฮอัน(Heian Shrine)

ศาลเจ้าเฮอัน ที่มีสัญลักษณ์ประตูโทริอิขนาดยักษ์สีแดงโดดเด่นมากแต่ไกล แบบที่ถ้าแล้วต้องอดใจถ่ายรูปเป็นที่ระลึกไม่ได้แน่ๆ เพราะใหญ่จริงอะไรจริงแบบที่ของที่เห็นทั่วๆไปแบบดูจะจิ๋วไปเลย บริเวณด้านข้างของวัดนั้นมีสวนขนาดใหญ่ที่โอบล้อมบริเวณวัด ภายในสวนมีต้นไม้หลากหลายพันธุ์ บ่อน้ำที่ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น และยังมีต้นซากุระเรียงรายอยู่มากมาย นับเป็นอีกจุดหนึ่งที่ผู้คนนิยมมาชมดอกซากุระช่วงฤดูใบไม้ผลิ วัดนี้เรียกว่ามีดีตั้งแต่ประตูไปจนถึงด้านใน พลาดไปเสียดายแย่ค่ะงานนี้

4.วัดนันเซนจิ(Nanzenji Temple)

วัดนันเซนจิ ตั้งอยู่ปลายเขาฮิกาชิยาม่าซึ่งและเป็นหนึ่งในวัดที่สำคัญของพระพุทธศาสนานิกายเซน ทั้งรูปแบบโครงสร้างไปจนถึงการตกแต่งมองรวมๆแล้วมีเสน่ห์ที่แฝงไปด้วยความเรียบง่าย แถมยังมีบรรยากาศความสงบเงียบพาให้ใจนิ่ง เหมาะอย่างยิ่งกับการมาแวะนั่งพักชิลๆซักนิดก่อเดินทางปั่นต่อยังจุดหมายต่อไป

5.ทางเดินนักปราชญ์(Tetsugaku no michi/The Philosopher’s Path)

ทางเดินจะปูด้วยหินตลอดทางและจะยาวขนานไปกับทางน้ำสายเล็กๆ ที่เป็นที่นิยมสำหรับการเดินเล่นหรือพักผ่อนเบาๆของชาวเมืองเชียวนะคะ เพิ่มความโรแมนติกไปอีกขั้นด้วยการที่สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นซากุระที่เรียงรายกันอยู่นับร้อยต้น ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่ผู้คนนิยมกันมากในการมาชมซากุระในช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปี เชื่อเลยว่าถ้าไปปั่นไปรับลมเย็นๆของเบาๆนี่เพลินอย่าบอกใคร

6.วัดกินคะคุจิ(Ginkakuji)

วัดกินคะคุจิ นับเป็นวัดในนิกายเซนถูกสร้างขึ้นโดยโชกุนอาชิคากะ โยชิมาสะ (Ashikaga Yoshimasa) โดยท่านใช้เวลาในปั้นปลายชีวิตหลังเกษียณอายุอาศัยอยู่ที่นี่ และต้นแบบของวัดแห่งนี้ได้อิทธิพลมาจากวัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) ใครที่ชื่นชอบความสงบเงียบและความคลาสสิกไม่ฉูดฉาด นี่นี่น่าจะตอบโจทย์อยู่นะคะ

7.ทางเดินริมแม่น้ำคาโมงาวะ(Kamogawa promenade)

เส้นทางเดินที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำคาโมงาวะ ยิ่งช่วงเช้าหรือเย็นๆพระอาทิตย์ใกล้ตกนี่จะสวยมากเป็นพิเศษ จะเดินชิลๆหรือปั่นจักรยานรับลมเบาๆก็ดีงามไม่แพ้กันเชียวค่ะ