รีวิว เที่ยวเกียวโต 1 วัน – วัดเงิน วัดน้ำใส ศาลเจ้าเฮอัน ย่านกิอ้อน ดูเกอิชา ถนนช้อปปิ้งโบราณ


รีวิวฉบับนี้จะพาไปตะลอนเที่ยวกันที่เกียวโต เมืองเก่าของญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วย วัดวาอาราม ศาลเจ้า และบรรยากาศบ้านเมืองเก่าๆที่สวยงาม ซึ่งวันนี้เป็นหนึ่งวันที่เราไปเที่ยวกันหลายที่มากๆ ออกกันตั้งแต่เช้าตรู่จนค่ำเลย เราออกเดินทางตอนเช้าที่เมืองโอซาก้า ไปเที่ยววัดกินคุคุจิหรือวัดน้ำเงิน อีกหนึ่งวัดดังของเกียวโต เสร็จแล้วเดินเล่นที่ทางเดินนักปราชญ์ เพื่อไปที่วัดนันเซ็นจิที่ใหญ่มากๆ แล้วต่อที่ ศาลเจ้าเฮอันที่มีวิหารและสวนสวยๆ ตามด้วยวัดน้ำใสหรือวัดคิโยมิซุเดอระ วัดดังที่มีอาคารไม้เก่าแก่ขนาดใหญ่ของเกียวโต แล้วไปเดินเที่ยวที่ถนนคนเดินโบราณย่านฮิกาชิยะมะ ต่อด้วยศาลเจ้ายาซากะและย่านกิอ้อน ย่านกลางคืนแบบโบราณของเกียวโตที่ยังคงมีการแสดงจากเกอิชาอยู่ แล้วปิดท้ายด้วยถนนช้อปปิ้งใจกลางเมืองเกียวโต

แผนที่การเที่ยวเกียวโต

วันนี้เราเริ่มต้นการเดินทางด้วยการนั่งชินคันเซนที่สถานีชินโอซาก้า ใช้เวลาแค่ 15 นาทีก็ถึงสถานีเกียวโตแล้ว

รถตำรวจที่เมืองโตเกียว

นั่งชินคันเซนจากชินโอซาก้ามาที่โตเกียว

 

สถานที่แรกที่เราจะไปเที่ยวกัน คือ(1)วัดกินคะคุจิหรือวัดเงิน(Ginkakuji Temple) จากสถานีรถไฟเกียวโต(Kyoto Station) เดินออกมาหน้าสถานีเพื่อขึ้นรถบัส เลข 100 ก็ไปเกือบถึงประตูทางเข้าวัดเลย เสียค่าเข้าราคา 500 เยน ภายในมีอาคารหลายหลัง และสวนญี่ปุ่นขนาดใหญ่ จัดไว้อย่างสวยงาม วัดนี้เคยเป็นที่อยู่ช่วงเกษียณของโชกุนในยุคเอโดะ ซึ่งบริจาคให้เป็นวัดในเวลาต่อมา ด้านหลังสวนของวัดจะมีเนินเขาที่สามารถเดินขึ้นไปชมวิวเมืองเกียวโตได้

สวนหินภายในวัดกินคะคุจิ

สวนภายในวัดกินคะคุจิอีกมุมหนึ่ง

สวนภายในวัดกินคะคุจิ

จุดชมวิวบนเนินด้านหลังวัดกินคะคุจิ

 

เสร็จจากวัดกินคะคุจิหรือวัดเงินเราก็ไปเดินเล่นกันที่(2)ทางเดินนักปราชญ์ ที่เป็นทางเดินเล็กๆ เรียบคลองระบายน้ำยาวตั้งแต่วัดเงินไปจนถึงวัดน้ำใสหรือวัดคิโยมิสุ ระหว่างทางเดินจะเต็มไปด้วยต้นซากุระทำให้ทางเดินนักปราชญ์เป็นแหล่งชมซากุระชื่อดังของเกียวโต ระหว่างทางนอกจากบรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบและดอกซากะรุที่สวยงามแล้ว ยังมีร้านค้า คาเฟ่เล็กๆ คอยให้บริการด้วย

ต้นซากุระกำลังบานที่ทางเดินนักปราชญ์

แมวญี่ปุ่นแถวถนนนักปราชญ์

รถขายกาแฟเก๋ๆที่ทางเดินนักปราชญ์

ร้านค้าที่พบระหว่างทางเดินนักปราชญ์

บ้านเมืองของชาวเกียวโต

ศาลเจ้าระหว่างทางเดินนักปราชญ์

ศิลปินขาวญี่ปุ่นกำลังนั่งวาดภาพที่ทางเดินนักปราชญ์

 

เดินเรื่อยๆ ชิวๆ มาจนสุดทางเดินนักปราชญ์เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จะเจอกับ(3)วัดนันเซนจิ(Nanzenji) ซึ่งเป็นวัดที่มีอาณาบริเวณใหญ่ที่สุดวัดหนึ่งของเกียวโต ตั้งอยู่บนเนินเขา มีอาคารไม้เก่าแก่และขนาดใหญ่มากมาย บริเวณของวัดนันเซนจิเข้าได้ฟรี แต่จะเสียเงินค่าเข้าบริเวณอาคารต่างๆภายในวัด ซึ่งจะแยกเป็นวัดย่อยๆได้อีกหลายวัด

ประตูเข้าวัดนันเซ็นจิ

อาคารไม้เก่าแก่ขนาดใหญ่ของวัดนันเซ็นจิ

วิหารภายในวัดดนันเซ็นจิ

อาคารต่างๆภายในวัดนันเซ็นจิ

 

ออกจากวัดนันเซ็นจิเราเดินไปที่(4)ศาลเจ้าเฮอัน ที่เป็นศาลเจ้าที่สวยและแปลกมากวัดหนึ่งของเกียวโต ด้านหลังของวิหารหลักของศาลเจ้าจะมีสวนขนาดใหญ่ที่ จะมีทั้งสวนดอกซากุระ บึงน้ำ สะพานไม้ และสวนแบบญี่ปุ่น ค่าเข้าบริเวณศาลเจ้าเฮอันนั้นฟรี แต่จะเสียตังค่าเข้าสวน 600 เยน

เสาโทริอิยักษ์ที่ตั้งตระหง่านบนถนนหน้าศาลเจ้าเฮอัน

ด้านหน้าของศาลเจ้าเฮอัน

ลานด้านหน้าศาลเจ้าเฮอัน

สวนฝั่งที่มีต้นซากุระมากมายภายในสวนด้านหลังศาลเจ้าเฮอัน

อีกมุมหนึ่งของสวนที่มีนกอยู่ด้วย

อาคารที่สร้างเป็นสะพานข้ามสระน้ำที่สวนด้านหลังศาลเจ้าเฮอัน

มุมสวยๆของสวนซากุระด้านหลังศาลเจ้า

มุมถ่ายรูปสวยๆของสวนด้านหลังศาลเจ้าเฮอัน

 

เป็นศาลเจ้าที่เข้าแล้วรู้สึกว่าคุ้มค่าเงินมากเลย พอเที่ยวศาลเจ้าเฮอันเสร็จ เราก็ออกมารอรถบัสที่ป้ายรถด้านหน้าศาลเจ้า เพื่อไป(5)วัดคิโยมิสุหรือวัดน้ำใสกันต่อเลย วัดน้ำใสเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขามีอาณาบริเวณกว้างขวางและมีนักท่องเที่ยวเยอะมาก ซึ่งมีอาคารต่างๆที่ดูแปลกตาและน่าสนใจอยู่หลายอาคาร แต่ที่เด่นที่สุดก็คืออาคารไม้ขนาดใหญ่ ที่เป็นสัญญลักษณ์หนึ่งของเมืองเกียวโตเลย ส่วนที่มาของชื่อวัดน้ำใส มาจากที่วัดนี้จะมีน้ำไหลลงมาจากยอดเขา ใสบริสุทธิ์ จึงเรียกว่ากัน วัดน้ำใส

ซุ้มประตูทางเข้าวัดน้ำใส-คิโยมิซุ

วิวบริเวณลานชมวิวที่หน้าวิหารหลักของวัดน้ำใส

มุมมหาชนวัดคิโยมิซุ หรือวัดน้ำใส

สาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวนิยมเช่าชุดยูกาตะเดินเที่ยวในเกียวโต

สาวๆญี่ปุ่นทำนายดวงชะตาที่วัดคิโยมิสุ

สาวๆในชุดยูกาตะที่วัดน้ำใส

ศาลเจ้าเล็กๆเอาไว้บูชาเทพเยบิสุภายในวัดน้ำใส

ศาลเจ้าบูชาเทพจิ้งจอกที่วัดน้ำใส

มีแต่สาวๆใส่ชุดยูกาตะเต็มไปหมดในวัดคิโยมิซุ-หรือวัดน้ำใส

น้ำใสที่ไหลมาจากยอดเขาที่มาของชื่อวัดน้ำใส

 

หลังจากเที่ยววัดคิโยมิสุหรือวัดน้ำใสเสร็จแล้ว ที่บริเวณประตูทางเข้าจะมีถนนช้อปปิ้งโบราณอยู่ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อกันไปอีกหลายเส้นในย่านนี้ ที่เรียกว่า(6)ย่านฮิกาชิยะมะ(Higashiyama) โดยแต่ละเส้นจะเป็นเหมือนตรอกเล็กๆที่สองข้างทางเต็มไปด้วยบ้านเรือนแบบเก่าแก่โบราณ ขายขนม ขายของที่ระลึกกัน

บรรยากาศตรอกฮิกาชิยามะ

โชว์ทุกขั้นตอนการทำขนมเลย

ขนมแพคเกจสวยงามมีให้ชิมด้วยที่ถนนหน้าวัดน้ำใส

ร้านขายขนมตั้งเตาทำกันหน้าร้านเลยที่ตรอกฮิกาชิยะมะหน้าวัดน้ำใส

ร้านขายขนมที่ทำจากชาเขียวทั้งร้านใกล้ๆวัดกินคะคะจิ

ร้านขายขนมบริเวณย่านฮิกาชิยามะ

อีกมุมหนึ่งของย่านฮิกาชิยะมะ

 

เราเดินกันที่ย่านฮิกาชิยะมะ เข้าซอยนั้น ออกซอยนี้กันจนเพลินเลย กลัวจะมืดซะก่อนเลยรีบเดินไปต่อที่(7)ศาลเจ้ายาซากะ(Yasaka)ซึ่งเรานั่งรถบัสผ่านตั้งแต่ตอนที่จะมาวัดน้ำใสแล้ว เป็นศาลเจ้าที่มีทางเข้าเป็นประตูขนาดใหญ่สีแดงส้ม เห็นเด่นมาแต่ไกลเลยอยู่ที่ย่านกิอ้อน แต่ก่อนเรียกว่าศาลเจ้ากิอ้อน

ทางเข้าศาลเจ้ายาซากะหรือศาลเจ้ากิออน

ศาลเจ้ายาซากะย่านกิอ้อนยามเย็นจะเปิดไฟสวยงาม

 

เที่ยวศาลเจ้ายาซากะเสร็จก็มืดพอดี จึงได้เวลามาเดินชิวต่อที่(8)ย่านกิอ้อน(Gion)ที่เป็นย่านกลางคืนของเมืองเก่าเกียวโต บริเวณย่านนี้ก็มีสภาพบ้านเมืองเก่าแก่โบราณกระจายตัวไปตามตรอกซอกซอยเล็กๆคล้ายกับย่านฮิกาชิยามะ แต่ย่านกิอ้อนจะเต็มไปด้วยร้านอาหารที่ขายอาหารแบบเกียวโตดั้งเดิม และมีการแสดงโชว์ของเกอิชาอยู่ด้วย ทำให้การมาเดินเล่นย่านนี้จะมีโอกาสเห็นเกอิชาเดินไปเดินมาได้

ร้านอาหารย่านกิอ้อนยามค่ำคืน

บรรยากาศร้านอาหารย่านกิอ้อนยามค่ำ

บรรยากาศย่านกิอ้อนยามค่ำคืน

เกอิชาที่เดินอยู่แถวย่านกิอ้อน

 

ปิดท้ายทริปของวันนี้ด้วยย่านช้อปปิ้งใจกลางเมืองเกียวโตที่(9)ถนนคนเดินชินเคียวโกกุ(Shinkyogoku)และถนนเทอระมาชิ(Teramachi) ซึ่งเป็นถนน 2 เส้นที่ยาวขนาดกันจากถนนเส้นหลักที่ผ่ากลางเมืองเกียวโต ถนนแต่ละเส้นมีความยาวประมาณ 500 เมตร ขายของหลากหลายแทบทุกอย่าง ของกิน ของใช้ ของที่ระลึก เต็มไปหมด

ศาลเจ้าข้างในถนนเส้นช้อปปิ้งชินเคียวโกกุ

ขนมโดนัทน่ารักสุดที่ถนนเส้นช้อปปิ้งชินเคียวโกกุ

ร้านขายโอโคโนมิยากิที่ถนนช้อปปิ้ง

จบแล้วสำหรับวันนี้ บอกเลยว่าเหนื่อยและเมื่อยขามากๆ รวมๆแล้ววันนี้คงเดินไปซัก 15 กิโลได้ หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้ อาจจะสงสัยว่าทำไมเที่ยวเยอะจัง ไม่เห็นมีแวะกินบ้างเลย ต้องสารภาพตามตรงเลยว่าเที่ยวเกียวโตวันนี้สนุกมากๆ เพลินจนลืมกินเลย แล้วก็ไม่อยากเสียเวลากินด้วยเลยซื้ออะไรง่ายๆเดินเที่ยวไปกินไปเรื่อยๆ วันนี้เป็นหนึ่งวันในญี่ปุ่นที่ประทับใจสุดๆเลยครับ

 

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามครับ ดู รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นอื่นๆได้ที่นี่

 

ข้อมูลการท่องเที่ยวอื่นๆของเมืองเกียวโต

สถานที่ท่องเที่ยวเกียวโต

การเดินทางของเมืองเกียวโต

เที่ยวเกียวโต พักที่ไหนดี


Exit mobile version