แพลนทริปตามรอยรายการ “Kimochiii” รอบ โตเกียว (4 วัน 3 คืน) BY เรโกะซัง

KI MO CHIII รายการ Kimochiii กำลังจะกลับมาแล้วนะ!
ทักทายแบบนี้ก่อนเลย เพราะคิดว่าผู้อ่านหลายท่าน คงจะเคยเห็นผลงานของเรา “เรโกะซัง” (หรือชื่อเดิมที่คนรู้จัก บ.ก.เรโกะ) ในฐานะพิธีกรรายการ Kimochiii in Japan รายการเที่ยวญี่ปุ่นทาง youtube ที่มีผลงานต่อเนื่องตั้งแต่ 2012 – 2020 จนมาสะดุดไปช่วงโควิดนี่แหละค่ะ
ข่าวดี ตอนนี้พวกเรากำลังกลับมาฟอร์มทีมเพื่อจะถ่ายทำซีซั่นใหม่ เลยจะขอมาเล่าในมุมของการท่องเที่ยวญี่ปุ่น เผื่อคนที่เป็นแฟนรายการ ติดตามกันมานาน อยากจะลองไปท่องเที่ยวตามโลเคชั่นที่เคยถ่ายในรายการบ้าง นำมาเสิร์ฟแบบให้แกะรอยเที่ยวตามได้เลยค่ะ
แพลนนี้สมมุติว่า เป็นแพลนท่องเที่ยว 4 วัน 3 คืน กลุ่มเป้าหมายคือ คนที่เคยดูรายการ Kimochiii มาก่อน แล้วเพิ่งเคยไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกๆ ยังไม่เชี่ยวชาญการเที่ยวเองสักเท่าไหร่ เราเลยเน้นที่ท่องเที่ยวในโตเกียวและรอบ ๆ เอาล่ะ
ออกเดินทางกันเลยค่ะ
ทริปตามรอยความสนุกสนาน แบบ Kimochiii! รอบๆ โตเกียว เหมาะสำหรับแฟนรายการที่เป็นมือใหม่หัดไปญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
เวลาที่บอก สมมุติคร่าวๆ อาจจะเผื่อบวกลบนิดหน่อย เพราะการเดินทางที่เลือกใช้อาจจะไม่เหมือนกันนะคะ
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
แพลนทริปตามรอยรายการ “Kimochiii” รอบ โตเกียว (4 วัน 3 คืน) BY เรโกะซัง
แพลนทริปตามรอยรายการ “Kimochiii” รอบโตเกียว | |
วันที่ 1 | |
เวลา | สถานที่ |
6:00 | ถึงสนามบินนาริตะ |
8:00 | เดินทางเข้าเมือง |
10:00 | เช็คอิน ฝากกระเป๋าที่โรงแรม APA Hotel Shinjuku |
12:00 | เดินเล่นและทานอาหารกลางวันที่ย่านอากิฮาบาระ |
18:00 | เดินเล่นและทานอาหารเย็นที่ย่านชินจูกุ คาบุกิโจ |
วันที่ 2 | |
เวลา | สถานที่ |
7:00 | เดินทางออกจากโรงแรม |
10:30 | เกาะเอโนะชิมะ |
12:30 | ทานมื้อกลางวันที่ร้าน Enoshima Koya |
13:30 | วัดโคโตคุอิน |
15:30 | คาเฟ่ Kannon Coffee |
16:30 | หาดยูอิกาฮามะ |
19:30 | กลับโรงแรม |
วันที่ 3 | |
เวลา | สถานที่ |
9:00 | เดินทางออกจากโรงแรม |
9:30 | คาวาโกเอะ เช่าชุดยูกาตะที่ร้าน Kimono Rental NANAKO |
12:30 | ทานมื้อกลางวันที่ร้าน Ogakiku |
15:00 | กลับโตเกียว |
16:00 | ย่านนากาโนะ บรอดเวย์ |
วันที่ 4 | |
เวลา | สถานที่ |
9:00 | เดินทางออกจากโรงแรม |
10:30 | ตลาดปลาโทโยสุ |
12:30 | โอไดบะ |
15:00 | กลับไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ |
18:00 | สนามบินนาริตะ |
Day 1 : โตเกียว
เช้า 6:00 ถึงนาริตะ :
เดินทางจากไทยสู่สนามบินนาริตะ ไฟลท์ที่ออกจากไทยตอนดึกก็จะถึงญี่ปุ่นตอนเช้าพอดี กว่าจะผ่านตม.ใช้เวลามากน้อย แล้วแต่จำนวนไฟลท์ที่ลงพร้อมกันในตอนนั้น กะเวลาไว้ว่าผ่านตม. รอรับกระเป๋า เข้าห้องน้ำ ตีไว้ว่าใช้เวลาที่สนามบินสัก 1.30-2 ชั่วโมงค่ะ
แนะนำให้ลงทะเบียน Visit Japan ทางเว็บไว้ก่อนนะคะ เพื่อประหยัดเวลา ไม่ต้องมาเขียนใบทีหลัง ช่วยได้เยอะเลยค่ะ เปิดหน้าจอสแกนให้เจ้าหน้าที่ดูได้เลย
ตอนผ่านช่องตม. ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องเกร็งค่ะ ตม.ญี่ปุ่นไม่ได้ดุขนาดนั้น เตรียมแพลนที่มาอธิบายเค้า ไปนอนที่ไหน เที่ยวที่ไหนบ้าง ปริ้นท์ออกมาได้ยิ่งดี ถ้าเค้าถามก็ตอบเป็นภาษาอังกฤษหรือญี่ปุ่น (เท่าที่เราได้) แบบมั่นใจไปเลยนะคะ
ตอนรับกระเป๋าจะมีเจ้าหน้าที่พาน้องตำรวจหมามาดมตรวจเช็คของผิดกฎหมาย “อาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ ห้ามนำเข้าญี่ปุ่นอย่างเด็ดขาดนะคะ” ไม่ว่าจะเป็นของสด ของแห้ง บรรจุแพ็กมาอย่างดีก็ไม่ได้ค่ะ หรือแม้แต่แซนด์วิซที่เอามาจากบนเครื่องบินก็ไม่ได้นะ ต้องทานให้หมดก่อนเข้าประเทศค่ะ
8:00 เดินทางเข้าเมือง :
สามารถเดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟ หรือรสบัสก็ได้ แล้วแต่ความชอบ ส่วนตัวแล้วถ้าเราลงที่ชินจูกุจะชอบขึ้นรถบัส แต่ถ้าลงที่อุเอโนะจะชอบ Keisei Skyliner ค่ะ
ถ้าแพลนในทริปต้องเดินทางขึ้นลงรถไฟบ่อย แนะนำให้มาถึงแล้วซื้อบัตรเติมเงิน Suica ไว้เลยค่ะ จะได้ไม่ต้องต่อแถวซื้อตั๋วทุกครั้ง ครั้งแรกเติมไว้สัก 3,000 เยนก็ได้
10:00 ถึงชินจูกุ ฝากกระเป๋าที่โรงแรม :
เช็คอินโรงแรม ย่านชินจูกุ ฝั่งประตูตะวันออกหรือตะวันตก โรงแรมที่เคยพักตอนถ่ายรายการก็มีทั้ง APA, Prince, Gracery, IBIS ทุกที่ล้วนอยู่ใกล้สถานี เดินลากกระเป๋าไม่เหนื่อยค่ะ และก็จะพักที่เดียวตลอดทั้งทริปเลย จะได้ไม่ต้องแพ็กของย้ายกระเป๋ากันบ่อยๆ ส่วนใหญ่โรงแรมจะให้เช็คอินตั้งแต่ 15:00 เป็นต้นไป ก็ฝากกระเป๋าไว้แล้วออกมาเที่ยวกันค่ะ
แต่ก่อนเวลาไปถ่ายทำรายการ Kimochiii ก็มักจะพักย่านชินจูกุนี่แหละค่ะ เพราะสะดวกสบาย มีร้านค้า ร้านอาหารเยอะ เป็นศูนย์กลางการเดินทาง ต่อรถง่าย เวลาไปถ่ายทำส่วนใหญ่เราก็ขึ้นรถไฟไปกันค่ะ ถึงจะเป็นการถ่ายรายการแต่เราก็เดินทางกันแบบลุยๆนะ ยกเว้นตอนออกต่างจังหวัด ถึงจะมีรถตู้ หรือเช่ารถขับกันไปเอง
ตัวอย่างตอนที่ถ่ายทำในย่านชินจูกุ :
SS2 EP1 โรงเรียนแฟชั่น Bunka
SS3 EP4 ร้านขายของเล่นสีเดียว (ปัจจุบันร้านนี้ปิดกิจการไปแล้ว)
SS5 EP5 Host Club คลับฮาเร็มของสาวๆ
ประมาณ 12:00 ออกจากโรงแรมเดินทางมาย่านอากิฮาบาระ :
สามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟใต้ดิน Shinjuku Line หรือรถไฟ JR Chuo Sobu Line มาลงที่ Akihabara Station ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที
ทานอาหารกลางวันที่ย่านอากิฮาบาระ
ร้าน Kanda Matsuya https://maps.app.goo.gl/6ES1WEgtLxuhMhTr9
เป็นร้านโซบะเก่าแก่ เปิดตั้งแต่ปี 1898 ติดอันดับ 1 ใน 100 ร้านอาหารของ Tabelog โซบะถือเป็นอาหารขึ้นชื่อของโตเกียว และจุดเด่นของร้านนี้คือเป็นโซบะทำมือเส้นสด ดังนั้นเหมาะจะเป็นมื้อแรกของทริปค่ะ นี่แหละ พวกเรามาถึงโตเกียวแล้ววว
(ร้านเปิด 11:00 หยุดทุกวันจันทร์)
บ่าย 14:00 เดินเล่นที่ย่านอากิฮาบาระ :
มีร้านของเล่น ของสะสมมากมาย สวรรค์ของเหล่าแฟนอนิเมะ มังงะ เกม และไอดอล เตรียมเงินมาให้พร้อมเลยค่ะ ของดีราคาไม่แพงมีให้เลือกมากมายที่นี่ ลองเดินเข้าไปในซอกซอยหน่อยก็จะเจอกับร้านเล็กๆที่อาจจะมีของเด็ดรออยู่ก็ได้
รวมถึงน้องเมดคาเฟ่ ที่ยืนเรียกแขกระหว่างทาง ส่วนตัวแล้วคิดว่าร้านแนวนี้ ไปเพื่อหาประสบการณ์ในสไตล์ญี่ปุ่น อย่าไปคาดหวังกับรสชาติมาก และทำใจไว้ว่าราคาอาจจะค่อนข้างสูง แต่ถ้ามาถึงถิ่นแล้ว ลองดูสักครั้งก็ดีนะคะ
ร้านเมดแนะนำ Maid Dreamin Akihabara Heaven’s Gate https://maps.app.goo.gl/VL8XEJh8PVb2NZpp7
ร้านเมดเจ้าดังที่ทุกคนรู้จักกันดี แค่ในย่านอากิฮาบาระก็มีหลายสาขาแล้ว จริงๆแล้วสามารถเลือกสาขาที่สะดวกได้เลยค่ะ ถ้ามาเป็นครั้งแรกๆอยากให้ลองเข้าร้านที่ใหญ่เชื่อถือได้ และรีวิวดีก่อนจะดีกว่า ถ้าเชี่ยวชาญแล้วค่อยลองขยับไปร้านเล็กๆแปลกๆดูบ้าง แนะนำให้ดูตารางราคาให้ชัดเจนก่อนเข้าร้านนะคะ จะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง

ตัวอย่างตอนที่ถ่ายทำในย่านอากิฮาบาระ :
SS2 EP4 เยือนถิ่นโอตาคุ Akihabara
SS2 EP6 Japan Maid Café
ค่ำ 18:00 กลับมาเดินเล่นแถวชินจูกุ คาบุกิโจ หาของกินยามค่ำคืน :
มีร้านอิซากายะสไตล์ญี่ปุ่นมากมาย หลังถ่ายงานเสร็จทีมงานเราจะชอบไปร้านปิ้งย่างหรือร้านอาซากายะแถวนี้
ร้านแนะนำ Omoide Yokocho https://maps.app.goo.gl/F9AQ6AYczF4KzgqE8
เป็นตรอกเล็กๆใกล้สถานีชินจูกุ ที่รวมร้านอาหารร้านนั่งดริงค์เอาไว้มากมายในที่เดียวกัน อยู่ใจกลางเมืองและมีลูกค้าต่างชาติมาบ่อย ดังนั้นบางร้านจะมีเมนูภาษาอังกฤษและคนขายสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษพอได้ค่ะ
ทานข้าวเสร็จก็เข้าร้านเกม คีบตุ๊กตา หมุนกาชาปองตามชอบ ร้านแถวนี้ปิดดึกค่ะ ถ้าไม่เหนื่อยก็เล่นต่อได้ หรือจะเข้าร้าน Donki ที่เปิด 24 ชั่วโมงก็ได้ หลังจากนั้น แต่ละคนจะไปไหนต่อก็… เค้าไม่ได้เล่าแล้วค่ะ ฮ่า แต่แนะนำว่ามาถึงวันแรก รีบเข้าที่พัก นอนเอาแรงดีกว่านะคะ ยังต้องเที่ยวอีกหลายวัน
‐—————————-‐—————————-‐—————————-‐—————————-‐—————————-
Day 2 : คานากาวะ (โยโกฮาม่า & คามาคุระ)
เช้า 7:00 ออกเดินทาง :
นนี้เราจะนั่งรถไฟไป Kamakura เมืองน่ารักสุดฮิตใกล้โตเกียวกันค่ะ เริ่มต้นที่แรกคือ ทางรถไฟ Enoden หนึ่งในฉากสุดฮิตของเรื่อง Slam Dunk ยิ่งออกแต่เช้ายิ่งดี เพราะมุมมหาชนแบบนี้ ถ้าไปสายคนจะเยอะมาก จะให้ดีออกสัก 7:00 จะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆค่ะ กะให้มาถึงจุดถ่ายรูป Slam Dunk ไม่เกิน 9:00 (แต่ถ้าเหนื่อยเดินทาง อยากชิลจะช้ากว่านี้ก็ได้นะคะ แต่เวลาเที่ยวจะน้อยลง)
จากสถานีชินจูกุ สามารถเลือกได้ทั้งรถไฟ Shonan Shinjuku Line และ Odakyu Line (ใช้เวลาพอๆกัน ประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
ถ้าขึ้น Shonan Shinjuku Line ให้ลงที่ Kamakura Station ต่อรถไฟ Enoden ไปลงที่ Kamakura Koukou Mae Station
ถ้าขึ้น Odakyu Line ให้ลงที่ Fujisawa Station ต่อรถไฟ Enoden ไปลงที่ Kamakura Koukou Mae Station
ประมาณ 10:30 :
ถ่ายรูปจนพอใจแล้ว ขึ้น Enoden มาที่ Enoshima Station ไปเอะโนะชิมะหรือเกาะลอย ลักษณะจะคล้ายเกาะลอย ศรีราชาบ้านเราเลยค่ะ แต่จะพื้นที่ใหญ่กว่าและมีร้านค้าคึกคักกว่า
บนเกาะจะมีทั้งศาลเจ้า ร้านค้า หอคอยขึ้นไปชมวิวได้ (มีค่าใช้จ่าย) ศาลเจ้าเอะโนะชิมะนี้จะมี “เบนไซเทน” หรือพระแม่สุรัสวดี องค์เทพที่คนไทยรู้จักกันดีในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ท่านเป็นเทพที่เด่นเรื่องศิลปะ, ดนตรี, การศึกษาค่ะ ถ้าใครทำงานด้านนี้ก็น่าลองมานะคะ ด้านบนศาลเจ้า จะมีจุดให้ใช้ตะกร้าสำหรับเอาเงินใส่แล้วล้างเงินในบ่อน้ำ เพื่อเรียกโชคลาภด้วยค่ะ
สำหรับทาสแมว ต้องถูกใจย่านนี้แน่ๆ เพราะแถวนี้ขึ้นชื่อว่า “แมวเยอะ” ค่ะ
ทางเดินสองข้างทางมีร้านค้าของกินของฝากมากมาย เดินช้อปซื้อขนมทานกันเพลินเลยค่ะ ถ้าเริ่มหิว เราขอแนะนำเมนู Shirasu Don เป็นเมนูข้าวดงบุริหน้าปลาชิราสุของขึ้นชื่อของที่ค่ะ
มื้อเที่ยง 12:30 :
ร้านชิราสุดงแนะนำ Enoshima Koya https://maps.app.goo.gl/7f6Wzu5Tb72ipi2G8
ร้านอาหารริมทะเลที่สามารถมองวิวของเกาะลอยเอะนะชิมะและท่าเรือได้ วิวสวย บรรยากาศแบบเป็นกันเอง แต่ด้วยความเป็นร้านดัง ในช่วงเที่ยงของวันหยุดอาจจะต้องต่อคิวรอนานหน่อยนะคะ นอกจากเมนูชิราสุดงแล้วยังมีอาหารทะเลสดอร่อยจากหลายแหล่งอีกด้วย ในช่วงฤดูร้อนสามารถไปนั่งเก้าอี้ด้านนอกร้านได้ ร้านเปิดตั้งแต่ 8 โมงค่ะ ถ้าไปเร็วอยากให้ลองเมนูอาหารเช้าแบบชาวประมงนะคะ
บ่าย 13:30 :
ขึ้นรถไฟ Enoden มาลงที่ Hase Station แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที เพื่อไปสักการะไดบุตสึแห่งคามาคุระ ที่วัด Kotokuin ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่พลาดไม่ได้ เพื่อความเป็นสิริมงคลและเอาฤกษ์เอาชัยขอให้เราได้กลับมาญี่ปุ่นอีกบ่อยๆ นอกจากจะไหว้และถ่ายรูปด้านนอกแล้ว เรายังสามารถเข้าไปชมด้านในองค์พระได้ด้วยนะคะ เสียค่าบำรุงเพิ่มเพียง 50 เยนเท่านั้น ได้มองไดบุตสึจากอีกมุม คุ้มมาก
ออกจากวัดไดบุตสึแล้ว ระหว่างทางเดินกลับสถานีจะเจอวัดทางด้านขวา ชื่อวัด Hasedera เป็นอีกวัดที่น่าสนใจ เพราะมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมแกะสลักด้วยไม้ขนาดใหญ่เก่าแก่เป็นพันปี และถ้าไปในช่วงฤดูฝน (มิ.ย.-ต้นก.ค.) จะได้ชมความสวยงามของไฮเดรนเยียร์หลากสีบานสะพรั่ง เป็นเอกลักษณ์ของวัดนี้เลยค่ะ จุดถ่ายรูปที่ห้ามพลาดคือ โคมใหญ่สีแดงที่อยู่คู่กับประตูค่ะ
แวะคาเฟ่ 15:30 :
ไหว้พระไปสองวัดแล้ว เลี้ยวออกมาจากวัด Hasedera ตรงทางออกจะมีร้านคาเฟ่ชื่อดัง Kannon Coffee เป็นร้านกาแฟและของหวานที่มีเอกลักษณ์เป็นขนมรูปไดบุตสึ อย่าว่ายังงั้นยังงี้เลย ศาสนาพุทธของไทยและญี่ปุ่นเค้ามีธรรมเนียมปฏิบัติไม่เหมือนกัน เรื่องอะไรที่ไทยเห็นว่าไม่สมควร แต่ที่ญี่ปุ่นเค้ามองว่าทำได้ ดังนั้นก็ถือว่าเป็นเมนูที่น่าสนใจดีนะคะ
เย็น 16:30 :
แดดร่มลมตก อากาศเริ่มสบายๆ ออกจากวัดแล้วเดินมาริมทะเล ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีเท่านั้นก็จะเจอ Yuigahama Beach โลเคชั่นถ่ายทำสัมภาษณ์วัยรุ่นญี่ปุ่นริมหาด ในช่วงฤดูร้อนและอากาศดี คุณจะเจอ “ทะเลญี่ปุ่นขาวมาก” แบบในคลิปที่เราไปถ่ายทำก็ได้นะ และที่นี่เค้านิยมเล่นเซิร์ฟกันค่ะ รับรองว่ามีนักเซิร์ฟ นักกีฬา ออกมาวิ่งออกกำลังกายกันให้ชมเป็นอาหารตาเพียบ
ค่ำ 19:30 :
หลังจากดูพระอาทิตย์ตกดินแล้ว เดินทางกลับชินจูกุ โตเกียว ด้วยรถไฟ Shonan Shinjuku Line หรือ Odakyu Line เลือกตามที่สะดวกเลยค่ะ
ตัวอย่างตอนที่ถ่ายทำในจ.คานากาวะ :
SS4 EP2 ทะเลญี่ปุ่นขาวมาก
‐—————————-‐—————————-‐—————————-‐—————————-‐—————————-
Day 3 : ไซตามะ (Kawagoe)
เช้า ออกเดินทางจากโรงแรม 9:00 :
วันนี้ไปสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมกันบ้างค่ะ ที่จ.ไซตามะ ข้างๆโตเกียวนี่เอง เราจะเดินทางไป Kawagoe เมืองโบราณใกล้โตเกียวกันค่ะ จาก Shinjuku Station ขึ้นรถไฟไปลงที่ Kawagoe Station จะเลือกขึ้น Saikyo Line หรือ Fukutoshin Line ก็ได้ ต่อเดียวถึงเหมือนกัน ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง
เข้าร้านเช่ายูกาตะ 9:30 :
เริ่มจากเข้าร้านเช่าชุดกิโมโนหรือยูกาตะก่อนเลยค่ะ ใกล้สถานีมีร้านให้เลือกเยอะมาก จากนั้นก็เดินถ่ายรูปเล่นที่ย่านเมืองเก่าที่ดูเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยเอโดะ และห้ามพลาดเมนูเด็ดของที่นี่ “ข้าวหน้าปลาไหล” นั่นเอง มีหลายร้านเลยค่ะ
ร้านเช่ายูกาตะแนะนำ Kimono Rental NANAKO https://maps.app.goo.gl/mMe2zhBkpbA9U5vn6
อยู่ใกล้สถานีรถไฟ เดินทางสะดวก นอกจากลายน่ารักสีสันสดใสแบบยูคะตะทั่วไปแล้ว ยังมีแบบแอนธีคมีกลิ่นอายย้อนยุคและแบบโมเดิร์นอีกด้วย สำหรับผู้ชายก็มีแบบเท่ๆให้เลือกเช่นกัน มีให้เช่าครบทั้งชุด เครื่องประดับ บริการทำผม ราคาเริ่มต้นที่ 3,500 เยน
อาหารเที่ยง 12:30 :
ร้านข้าวหน้าปลาไหลแนะนำ Ogakiku https://maps.app.goo.gl/jxUpkRpKJ6P5SY4t6
ร้านข้าวหน้าปลาไหลเก่าแก่ หนึ่งในร้านดังของย่านนี้ ก่อตั้งในปี 1807 ถ้าอยากลองรสชาติแบบดั้งเดิมแนะนำเลย แต่ระวังเรื่องเวลาเปิดปิดด้วยนะคะ แบ่งเป็นช่วงเที่ยง 11:00-14:00 และ 16:30-19:00 ค่ะ แนะนำให้มารับบัตรคิวก่อนแล้วออกไปเดินเล่นรอค่ะ
ทานข้าวเสร็จแล้ว เดินถ่ายรูปเล่นอีกสักพักพัก ก็กลับร้านเช่าชุด ไปคืนชุดก่อนกลับเข้าโตเกียว
ตัวอย่างตอนที่ถ่ายทำในจ.ไซตามะ :
SS5 EP 1 เทศกาลแบกเกี้ยวท้าลมหนาว
บ่าย 15:00 :
ออกเดินทางกลับโตเกียว ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
บ่าย 16:00 :
ลงรถไฟที่ Nakano Station มาดูร้านขายของเล่น ย่านการค้าที่นาคาโนะบรอดเวย์ (เคยถ่ายรายการ) ซึ่งที่นี่มีของขายหลากหลายมาก ความรู้สึกส่วนตัวคิดว่ามีความคล้าย MBK, Fortune ประมาณนั้น แล้วไปดูเสื้อผ้ามือสองที่ Koenji Station (สถานีถัดไป) ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นย่านเด็กแนวเลยค่ะ เสื้อผ้ามือสองเท่ๆ หายาก ร้านมีสไลต์ดูดีเยอะ แต่จะไม่ติดหรูนะ ออกแนวเซอร์ๆหน่อย จากนั้นหาไลฟ์เฮ้าส์เข้าชมการแสดงดนตรีสด และหาร้านนั่งดื่มทานมื้อดึกกันต่อ
ห้างแนะนำ Nakano Broadway https://maps.app.goo.gl/Q97CvDMLE7P8nY8x5
ห้างเก่าแก่ที่เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมป็อปของญี่ปุ่นไว้หลากหลาย ทั้งเกม มังงะ อนิเมะ ร้านเสื้อผ้า ของจุกจิก มีคนมาเดินทุกเพศทุกวัย และยังโลเคชั่นในการถ่ายทำรายการคิโมจี้ตอนสารพัดกลิ่นแปลกอีกด้วย
Live House แนะนำ JIrokichi https://maps.app.goo.gl/ZVpuJHwoNA11dBoQ7
ไลฟ์เฮ้าส์เก่าแก่ อายุมากกว่า 50 ปี มีเพลงเล่นสดให้ฟังหลากหลายแนวให้ชมแทบทุกวัน ค่าบัตรเข้าชม เริ่มต้นที่ 3,000 เยน เปิดตั้งแต่ 18:30-25:00 เช็คตารางศิลปินได้ที่ https://jirokichi.net/
ตัวอย่างตอนที่ถ่ายทำในย่านนาคาโนะ :
SS8 EP8 สารพัดกลิ่นแปลก
‐—————————-‐—————————-‐—————————-‐—————————-‐—————————-
Day 4 : โตเกียว & เดินทางกลับ
เช้า 9:00 ออกเดินทางจากโรงแรม :
เช็คเอ้าต์แล้ว ลากกระเป๋าไปด้วยเลยจะได้ไม่ต้องกลับมาโรงแรมอีก ขึ้นรถไฟจาก Shinjuku Station ไปเปลี่ยนรถที่ Osaki Station เป็น Rinkai Line มาลงที่ Kokusai Tenjijo Station ฝากของไว้ในล็อคเกอร์ของสถานีรถไฟ จากนั้นเดินมาที่ Ariake Station ขึ้นรถไฟ Yurikamome มาลงที่ Shijo Mae Station เพื่อมาตลาดปลา Toyosu
ถึงตลาดปลา Toyosu 10:30 :
ตลาดปลา Toyosu ป็นตลาดที่ย้ายมาจาก Tsukiji เดิมตั้งแต่ช่วงก่อน Tokyo Olympic กินปลาดิบ ไข่หวาน อาหารทะเลสดใหม
ออกจากตลาดปลาไปดูกันดั้ม 12:30 :
จากนั้นขึ้นรถไฟ Yurikamome มาลงที่ Daiba Station ที่ Odaiba เพื่อถ่ายรูปกับกันดั้ม ซื้อของที่ระลึกที่ The Gundam Base Tokyo และเดินเล่นช้อปปิ้งเก็บตกที่โอไดบะ (เคยมีตอนที่ถ่ายที่โอไดบะ) ถ้ายังมีพื้นที่ในกระเป๋าเหลือ จะซื้อของฝากจากที่นี่ไปเลยก็ได้จะได้แพ็กแล้วโหลด ไม่ต้องหิ้วขึ้นเครื่อง

ออกจากโอไดบะ กลับไปเอากระเป๋า 15:00 :
แวะเอากระเป๋าในล็อกเกอร์ที่สถานี Kokusai Tenjijo Station แล้วเดินทางไปสนามบินนาริตะด้วยรถไฟ สามารถเลือกได้หลายสายทั้ง Rinkai Line, Yurikamome Line แต่ยังไงก็ต้องมีต่อเปลี่ยนรถอยู่ดี เช็กเส้นทางด้วยกูเกิ้ลอีกครั้งตอนเดินทางนะคะ
ตัวอย่างตอนที่ถ่ายทำในโอไดบะ :
SS4 EP 10 Summer ตามรอยตำนาน Toyota
SS7 EP11 Toyota Safety
ค่ำ ถึงสนามบินนาริตะ 18:00 :
สมมุติว่าเราออกเดินทางด้วยไฟลท์กลางคืนนะคะ กะให้ถึงก่อนหลายชั่วโมงหน่อยเพื่อความอุ่นใจ เผื่อรอต่อแถวเช็กอินนานด้วย (ขึ้นอยู่กับเทศกาลและสายการบิน) ขึ้นเครื่องบิน เดินทางกลับประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ
นอกจากนี้ ในการเดินทางเราก็จำเป็นต้องมีอินเตอร์เน็ตไว้สำหรับติดต่อสื่อสารกัน สมัยนี้สะดวกและทางเลือกมีเยอะมาก ทั้ง
- Pocket Wifi ข้อดีคือสามารถแชร์ใช้ได้หลายเครื่องพร้อมกัน แต่ข้อเสียต้องคอยชาร์จแบตและหนักกระเป๋า
- E-Sim เป็นอีกบริการที่สะดวกมาก ไม่ต้องเปลี่ยนซิม แค่เลือกใช้เบอร์ของอีซิมที่เราซื้อมา เหมาะสำหรับคนที่ไม่จำเป็นต้องเปิดใช้เบอร์โทรไปตอนเดินทาง
- Roaming เป็นการเปิดใช้สัญญาณโรมมิ่งจากเบอร์ไทยของเราเลย สะดวกดี ใช้เบอร์เดิมได้ในต่างประเทศ ราคาอาจจะไม่ถูกเท่าและแชร์ไม่ได้เยอะเท่าแบบอื่น แต่เรื่องความสะดวก ขอเลือกอันนี้เลยค่ะ
และอีกอย่างที่อยากให้ใส่ใจคือ การซื้อประกันการเดินทางคือ เห็นมาหลายเคสแล้วที่ไปเที่ยวต่างประเทศแล้วไม่มีประกันการเดินทาง เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ค่ารักษาเป็นล้าน ลำบากครอบครัวอีก จะส่งกลับก็เปลือง จะรักษาที่โน่นก็ไม่มีเงิน ลำบากทั้งขึ้นทั้งล่อง ดังนั้นแนะนำให้ซื้อประกันการเดินทางไปด้วยนะคะ เดี๋ยวนี้ซื้อออนไลน์ก็ได้สะดวกมากค่ะ
‐—————————-‐—————————-‐—————————-‐—————————-‐—————————-
บทส่งท้าย
และนี่ก็เป็นแพลนตัวอย่างสำหรับแฟนรายการ Kimochiii ที่อยากตามรอยรายการของเราไปเที่ยวญี่ปุ่นค่ะ เน้นสถานที่เดินทางง่ายใกล้โตเกียวไว้ก่อน ไว้ฝึกออกทริปหลายรอบจนช่ำชองแล้ว ค่อยเดินทางไปเมืองอื่นๆกันนะคะ
ยังไงรายการของเรากำลังจะกลับมาในชื่อใหม่และช่องใหม่ Kimochiii Original ไปกดติดตามกันทาง youtube ด้วยนะคะ แล้วถ้ารักรายการเรา อย่าลืมแชร์โพสนี้ของ Talon Japan ออกไปให้เพื่อนๆเห็นกันเยอะๆนะคะ ขอให้เที่ยวญี่ปุ่นให้สนุกค่า