ถ้าเอ่ยถึงการเที่ยวญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ผลิ หลายคนคงนึกถึงภาพซากุระบานสะพรั่งทั่วเมือง บรรยากาศสดใสกับกลีบดอกไม้ที่โปรยปรายลงมาตามสายลม แต่รู้ไหมว่าการนั่ง รถไฟท่องเที่ยว ชมวิวซากุระก็เป็นอีกหนึ่งวิธีเที่ยวที่โรแมนติกและน่าประทับใจสุดๆ เพราะไม่ต้องเหนื่อยเดิน ไม่ต้องเบียดกับคนเยอะๆ แค่เลือกที่นั่งสบายๆ ริมหน้าต่าง แล้วปล่อยใจไปกับวิวธรรมชาติที่ไหลผ่านตลอดสองข้างทาง

โดยเฉพาะ รถไฟ สายพิเศษที่ออกแบบมาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ทั้งบรรยากาศชนบทญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม หมู่บ้านน่ารักๆ ทุ่งดอกไม้ และแนวต้นซากุระยาวสุดลูกหูลูกตา เป็นการเที่ยวที่เหมาะกับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากการเดินชมสวนมาเป็นการนั่งชมวิวชิลล์ๆ พร้อมถ่ายรูปสวยๆ เก็บเป็นความทรงจำดีๆ หรือแม้แต่จะนั่งเหม่อมองทิวทัศน์ไปเงียบๆ ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน

วันนี้เราจะพาไปรู้จักสายรถไฟเด็ดๆ สำหรับการ เที่ยวด้วยรถไฟ และ ชมซากุระ ในญี่ปุ่น ที่คุณไม่ควรพลาด รับรองว่าฟีลดี จนอยากกลับไปนั่งซ้ำอีกแน่นอน

เสน่ห์ของการนั่ง รถไฟ ชม ซากุระ ในญี่ปุ่น

การเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูใบไม้ผลิด้วย รถไฟ ไม่ใช่แค่เรื่องของการเดินทางจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งเท่านั้น แต่คือการได้สัมผัสจังหวะชีวิตที่ช้าลง และมองเห็นความงามของธรรมชาติในมุมที่แตกต่างออกไป รถไฟท่องเที่ยวสายต่างๆ จะพาคุณผ่านชนบทเล็กๆ หมู่บ้านเก่าแก่ ทุ่งดอกไม้กว้างไกล และแนวต้นซากุระที่ผลิบานเต็มที่ตลอดสองข้างทาง

การนั่งรถไฟชมวิวช่วยให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบไม่ต้องเร่งรีบ มีเวลาได้เงยหน้ามองท้องฟ้า สัมผัสลมเย็นที่พัดผ่านหน้าต่าง และเก็บภาพความประทับใจได้อย่างเต็มที่ ยิ่งในฤดูซากุระบานเต็มที่ ภาพที่ได้เห็นจากบนรถไฟยิ่งเปลี่ยนทุกช่วงเวลาบนรางให้กลายเป็นความทรงจำแสนพิเศษ

หากคุณกำลังมองหาวิธีใหม่ ๆ ในการสัมผัสเสน่ห์ของญี่ปุ่นในฤดูใบไม้ผลิ การเที่ยวด้วยรถไฟชมซากุระคือประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด

——————————————————————————————————————————————————

รถไฟ สายไหนบ้างที่นั่งชมวิว ซากุระ ได้

การนั่ง รถไฟ ชม ซากุระ ในญี่ปุ่นนั้นมีเสน่ห์เฉพาะตัว เพราะคุณจะได้เห็นภาพของต้นซากุระบานสะพรั่งเรียงรายตลอดสองข้างทางโดยไม่ต้องเดินให้เหนื่อย รถไฟแต่ละสายที่เราคัดมาให้วันนี้ ล้วนมีเส้นทางที่วิ่งผ่านธรรมชาติสวยๆ และหมู่บ้านน่ารักๆ ที่เหมาะกับการนั่งชิลล์ ชมวิว และเก็บภาพความประทับใจ ถ้าคุณกำลังวางแผนทริปญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ลองมาดูกันว่ามีรถไฟสายไหนที่น่านั่งชมซากุระบ้าง

1. Mooka Railway (Mooka Tetsudo)

ไฮไลต์: รถไฟหัวจักรไอน้ำ (SL) สุดคลาสสิกที่ยังคงวิ่งให้บริการจริงๆ ในปัจจุบัน ความพิเศษอยู่ที่ตัวขบวนซึ่งได้รับการบูรณะให้คงรูปลักษณ์วินเทจแบบดั้งเดิม พร้อมกับวิวสองข้างทางที่เต็มไปด้วยต้นซากุระผลิบานในฤดูใบไม้ผลิ ให้อารมณ์เหมือนย้อนเวลากลับไปสู่ญี่ปุ่นยุคโชวะ

เส้นทาง: วิ่งระหว่างสถานี Shimodate (จังหวัด Ibaraki) และสถานี Motegi (จังหวัด Tochigi) รวมระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ

จุดเด่น:

• ตู้โดยสารแนวย้อนยุค มีหน้าต่างกว้างสำหรับชมวิวธรรมชาติ
• วิ่งผ่านหมู่บ้านเล็กๆ ทุ่งนา และแนวต้นซากุระที่เรียงรายสวยงาม
• หัวรถจักรไอน้ำแท้ๆ พร้อมเสียงหวีดร้องสุดคลาสสิก ช่วยเติมเต็มบรรยากาศการเดินทางให้เหมือนในอดีต
• มีสถานีเล็กๆ น่ารักๆ ให้แวะถ่ายรูประหว่างทาง เช่น สถานี Mashiko ซึ่งเป็นเมืองเครื่องปั้นดินเผาชื่อดัง

ช่วงเวลาแนะนำ: ปลายมีนาคมถึงต้นเมษายน เพื่อชมซากุระบานเต็มที่

หมายเหตุ: ควรเช็กตารางวิ่งล่วงหน้า เพราะขบวน SL เปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์บางวันเท่านั้น

——————————————————————————————————————————————————

2. Kominato Railway (Kominato Tetsudo)

ไฮไลต์: รถไฟสีครีม-ส้มสุดน่ารักที่วิ่งผ่านชนบทของจังหวัดชิบะ (Chiba) เป็นอีกหนึ่งสายรถไฟท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิเมื่อแนวซากุระและดอกนาโนะฮานะ (ดอกเรพซีดสีเหลืองสด) บานสะพรั่งตลอดสองข้างทาง

เส้นทาง: วิ่งระหว่างสถานี Goi และ Kazusa-Nakano รวมระยะทางประมาณ 39 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

จุดเด่น:

• วิวธรรมชาติสวยงามแบบชนบทญี่ปุ่นแท้ๆ
• สถานีเล็กๆ ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ เช่น สถานี Satomi ที่ขึ้นชื่อเรื่องดอกซากุระ
• มีขบวนรถไฟพิเศษ เช่น รถไฟไฟกลางคืนในช่วงเทศกาลซากุระ
• บรรยากาศเงียบสงบและไม่พลุกพล่าน เหมาะสำหรับคนที่อยากสัมผัสความเรียบง่ายของชีวิตชนบทญี่ปุ่น

ช่วงเวลาแนะนำ: ปลายมีนาคมถึงต้นเมษายน ช่วงที่ซากุระและนาโนะฮานะบานพร้อมกันพอดี

หมายเหตุ: สามารถซื้อบัตรแบบ 1-day Free Pass ได้ เหมาะสำหรับการนั่งรถไฟแบบไม่จำกัดตลอดวัน

——————————————————————————————————————————————————

3. Isumi Railway (Isumi Tetsudo)

ไฮไลต์: รถไฟท่องเที่ยวสีเหลืองสดใสที่ให้ฟีลสนุกสนาน วิ่งตัดผ่านทุ่งนา หมู่บ้านเล็กๆ และซากุระที่เรียงรายไปตลอดเส้นทาง เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปวิวธรรมชาติแนวชนบทญี่ปุ่น

เส้นทาง: วิ่งระหว่างสถานี Ohara และ Kazusa-Nakano (เชื่อมต่อกับ Kominato Railway ได้เลย) ระยะทางประมาณ 27 กิโลเมตร

จุดเด่น:

• วิวชนบทที่ยังคงความเป็นธรรมชาติแบบดั้งเดิม
• ขบวนรถไฟมีลวดลายพิเศษ เช่น ธีมตัวการ์ตูนต่างๆ เพิ่มความน่ารักระหว่างเดินทาง
• มีเส้นทางผ่านสะพานเล็กๆ ทุ่งนา และต้นซากุระตลอดทาง
• เป็นเส้นทางยอดนิยมของช่างภาพท้องถิ่น

ช่วงเวลาแนะนำ: ปลายมีนาคมถึงต้นเมษายน ซึ่งทั้งซากุระและนาโนะฮานะจะบานเต็มพื้นที่

หมายเหตุ: บัตรโดยสารร่วมระหว่าง Kominato Railway และ Isumi Railway มีจำหน่าย ช่วยให้วางแผนเที่ยวได้สะดวกขึ้น

——————————————————————————————————————————————————

4. Oigawa Railway (Oigawa Tetsudo)

ไฮไลต์: รถไฟหัวจักรไอน้ำ SL และรถไฟธีมโทมัส (Thomas Train) ที่ได้รับความนิยมสูงมาก วิ่งเลียบแม่น้ำโออิ ผ่านสะพานเหล็กสีแดงและแนวซากุระสุดอลังการของจังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka)

เส้นทาง: วิ่งระหว่างสถานี Kanaya และ Senzu ระยะทางประมาณ 39.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

จุดเด่น:

• วิวซากุระบานริมแม่น้ำกับฉากหลังเป็นภูเขาเขียวขจี
• สะพานเหล็กสีแดงที่เป็นแลนด์มาร์ก เหมาะกับการถ่ายรูปมากๆ
• ขบวนรถไฟ SL ธรรมดาให้ฟีลย้อนยุค และขบวน Thomas Train น่ารักเหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็ก
• ระหว่างทางมีสถานีเล็กๆ แบบชนบทญี่ปุ่นให้แวะชมบรรยากาศได้

ช่วงเวลาแนะนำ: ปลายมีนาคมถึงต้นเมษายน ช่วงที่ซากุระริมแม่น้ำโออิบานสะพรั่ง

หมายเหตุ: ขบวน Thomas Train เปิดให้บริการเฉพาะบางช่วง ต้องเช็กกำหนดการล่วงหน้า

——————————————————————————————————————————————————

สิ่งที่ควรรู้ก่อนนั่งรถไฟชมซากุระในญี่ปุ่น

การนั่งรถไฟชมซากุระในญี่ปุ่นอาจดูง่าย แต่ถ้ารู้เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ไว้ จะช่วยให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายและเพลิดเพลินยิ่งขึ้น

1. เช็กตารางเวลาให้ดี: รถไฟท่องเที่ยวบางขบวน เช่น SL Mooka หรือขบวนพิเศษของ Oigawa Railway อาจมีวิ่งเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือบางช่วงเวลาเท่านั้น ควรเช็กตารางล่วงหน้าและจองตั๋วก่อน
2. เตรียมกล้องหรือมือถือให้พร้อม: วิวสองข้างทางเต็มไปด้วยซากุระและธรรมชาติสวยๆ อย่าลืมพกแบตเตอรี่สำรอง หรือเคลียร์เมมโมรีการ์ดให้ว่าง พร้อมลั่นชัตเตอร์ได้ทุกเมื่อ
3. เลือกที่นั่งข้างหน้าต่าง: ถ้าเป็นไปได้ เลือกที่นั่งริมหน้าต่างฝั่งที่มีวิวซากุระ หรือถ้าเป็นรถไฟที่ไม่มีที่นั่งระบุ สามารถย้ายที่ได้ตามความสะดวก แต่อย่าลืมเก็บสัมภาระให้เรียบร้อยด้วยนะ
4. แต่งตัวสบาย: อากาศในฤดูใบไม้ผลิอาจเปลี่ยนแปลงได้บ่อย ควรสวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย และพกเสื้อกันลมหรือเสื้อคลุมเบาๆ เผื่อไว้
5. พกของว่างติดตัว: บางเส้นทาง เช่น Kominato Railway หรือ Isumi Railway เป็นชนบทที่ไม่มีร้านสะดวกซื้อมากนัก พกน้ำและขนมเบาๆ ไปด้วยจะได้ไม่หิวระหว่างทาง

ถ้าอยากให้ทริปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงซากุระพิเศษยิ่งขึ้น การนั่งรถไฟท่องเที่ยวชมวิวเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามเลยจริงๆ แค่เตรียมตัวนิดหน่อย เช่น ตรวจสอบตารางรถไฟล่วงหน้า เลือกที่นั่งริมหน้าต่างที่มองเห็นวิวสวยๆ และพกกล้องถ่ายรูปหรือมือถือให้พร้อม คุณก็จะได้เก็บภาพซากุระบานสะพรั่งข้างทางแบบเต็มตา ไม่ต้องเหนื่อยเดินหรือแย่งมุมถ่ายรูปกับคนอื่นเลย

การได้นั่งรถไฟทอดตัวผ่านชนบทญี่ปุ่น ท่ามกลางทุ่งดอกไม้และหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีต้นซากุระเรียงราย บางครั้งแค่เงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างก็รู้สึกเหมือนเวลาหยุดหมุน ลมเย็นๆ พัดผ่านเข้ามา ความสดชื่นและภาพบรรยากาศสวยๆ จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายแบบไม่ต้องพยายาม

ประสบการณ์แบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ เพราะซากุระมีเวลาเบ่งบานแค่ไม่กี่สัปดาห์ในแต่ละปี เพราะฉะนั้นการวางแผนสักนิด เพื่อให้ได้อยู่บนรถไฟในวันที่ดอกไม้บานเต็มที่ จะทำให้การเดินทางครั้งนี้กลายเป็นหนึ่งในความทรงจำที่ประทับใจไม่รู้ลืม และอาจทำให้คุณหลงรักฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นเข้าอย่างจังเลยก็ได้

——————————————————————————————————————————————————

สรุป

การ เที่ยวด้วยรถไฟ ชมซากุระในฤดูใบไม้ผลิ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่สวยงามและประทับใจสุดๆ ไม่ต้องเดินให้เมื่อย แต่ได้เห็นซากุระเรียงรายเต็มสองข้างทางอย่างใกล้ชิด ผ่านหน้าต่างรถไฟที่ทอดตัวยาวไปตามชนบท หมู่บ้าน และแม่น้ำ บางช่วงรถไฟจะวิ่งช้าๆ เพื่อให้ผู้โดยสารได้ชมวิวสวยๆ กันเต็มที่ พร้อมสูดอากาศสดชื่นของฤดูใบไม้ผลิไปด้วย

ทั้ง Mooka Railway, Kominato Railway, Isumi Railway และ Oigawa Railway ต่างก็มีเสน่ห์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นรถไฟหัวจักรไอน้ำสุดคลาสสิก วิวสะพานสีแดงเลียบแม่น้ำ หรือทุ่งดอกไม้เหลืองสดตัดกับซากุระชมพูอ่อน เป็นฉากธรรมชาติที่ไม่มีทางเบื่อเลยจริงๆ

การได้ใช้เวลานั่งชิลล์บนรถไฟ ชมวิวซากุระที่เบ่งบานเต็มที่ ฟังเสียงหัวรถจักรที่ค่อยๆ เคลื่อนผ่านภูมิประเทศสวยๆ ไปเรื่อยๆ เป็นอะไรที่ทั้งสบายใจและเติมพลังให้กับการเดินทางมากๆ หากคุณกำลังมองหาทริปญี่ปุ่นฤดูใบไม้ผลิที่แตกต่างจากเดิม ลองเลือกเส้นทางรถไฟชมซากุระสักเส้น แล้วคุณจะได้ความทรงจำดีๆ กลับบ้านไปแน่นอน

ถ้าอยากได้ฟีลญี่ปุ่นแท้ๆ บรรยากาศอบอุ่น พร้อมวิวธรรมชาติสวยๆ ห้ามพลาด! ✨ เตรียมกล้องให้พร้อม แล้วออกเดินทางไปสัมผัสซากุระบนรถไฟด้วยตัวเองกันเลย