ทตโตะริ ดินแดนแห่งการ์ตูนในตำนานและราชาแห่งปูญี่ปุ่น

หากใครกำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ซ้ำใครในญี่ปุ่น จังหวัด ทตโตะริ (Tottori) คือคำตอบที่ใช่ที่สุดในเวลานี้ ด้วยเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และการ์ตูนที่กลายเป็นตำนาน ทตโตะริอาจไม่ใช่จังหวัดที่โด่งดังเท่าโตเกียวหรือโอซาก้า แต่กลับเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ทำให้หลายคนตกหลุมรักได้ไม่ยาก
ทตโตะริ เมืองเล็กที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์

ทตโตะริ อาจไม่ใช่จังหวัดที่ใครๆ ก็พูดถึงเวลาไปญี่ปุ่น แต่กลับเป็นหนึ่งในจุดหมายที่มีเอกลักษณ์ที่สุด ตั้งแต่ธรรมชาติอันงดงาม การ์ตูนที่อยู่ในความทรงจำ ไปจนถึงอาหารทะเลรสเลิศ
หากกำลังวางแผนทริปญี่ปุ่นครั้งหน้า และอยากหลีกหนีความวุ่นวายของเมืองใหญ่ ทตโตะริ คือจุดหมายที่เราไม่ควรมองข้าม ดินแดนที่รวมทุกสิ่งไว้ในที่เดียว ความสงบ ความสนุก และรสชาติที่ไม่อาจลืม คนรักการตูน์ โคนันต้องห้ามพลาดเดินตามรอยแบบไม่พลาดทุกรอย ราวกับกำลังเล่นอยู่ในการตูนพร้อมกับเมนูพิเศษที่หาจากที่ไหนไม่ได้
ทตโตะริ คืออะไร? จังหวัดเกี่ยวกับอะไร
ทตโตะริ (Tottori) เป็นจังหวัดเล็กๆ ทางตะวันตกของเกาะฮนชู ประเทศญี่ปุ่น อยู่ในภูมิภาคชูโกกุ ติดชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น แม้จะเป็นจังหวัดที่มีประชากรน้อยที่สุดในประเทศ แต่กลับเต็มไปด้วยความสงบ ธรรมชาติบริสุทธิ์ และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าหลงใหล
หนึ่งในเอกลักษณ์ของทตโตะริที่หลายคนรู้จักกันดีคือ “ทตโตะริซาคิว” หรือเนินทรายทตโตะริ เนินทรายขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นที่มีทิวทัศน์สวยงามราวกับอยู่ในทะเลทราย และยังมีกิจกรรมสนุกๆ อย่างขี่อูฐ แซนด์บอร์ด หรือชมวิวพระอาทิตย์ตก
ทตโตะริ ยังขึ้นชื่อว่าเป็น “ดินแดนแห่งการ์ตูน”
ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ดินแดนแห่งการ์ตูน เพราะเป็นบ้านเกิดของนักวาดชื่อดังระดับตำนานถึง 2 คน ได้แก่ มิซึกิ ชิเงรุ ผู้สร้าง GeGeGe no Kitaro และ โกโช อาโอยามะ ผู้สร้าง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน จึงมีพิพิธภัณฑ์และถนนการ์ตูนที่น่าตื่นตาตื่นใจ เหมาะสำหรับแฟนการ์ตูนทุกเพศทุกวัย
นอกจากนี้ ทตโตะริยังเป็นแหล่งอาหารทะเลสด โดยเฉพาะ ปูมัตสึบะ ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งปูญี่ปุ่น” เนื้อแน่น หวาน และสดใหม่จากทะเล ชวนให้ลิ้มลอง
แม้จะไม่ใช่จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมในลิสต์แรกๆ แต่ทตโตะริคือจุดหมายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว เหมาะกับคนที่อยากเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
การเดินทางไป ทตโตะริ สำหรับนักท่องเที่ยว
ทตโตะริตั้งอยู่ในภูมิภาคชูโกกุ ทางตะวันตกของเกาะฮนชู ถือเป็นจังหวัดที่มีประชากรน้อยที่สุดในญี่ปุ่น แต่กลับมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และบรรยากาศเงียบสงบเหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง
การเดินทางมายัง ทตโตะริ สามารถทำได้หลากหลายวิธี:
- โดยเครื่องบิน: สนามบินที่ใกล้ที่สุดคือ Tottori Airport มีเที่ยวบินภายในประเทศจากโตเกียว ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที
- โดยรถไฟ: จากโอซาก้าหรือเกียวโต สามารถนั่งรถไฟด่วนพิเศษ Super Hakuto มายังสถานีทตโตะริ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
- โดยรถบัส: มีบริการรถบัสกลางคืนจากโตเกียว ใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมง
ด้วยระบบขนส่งที่สะดวก การเดินทางมายัง ทตโตะริ ไม่ใช่เรื่องยาก และยังเปิดโอกาสให้ทุกคนได้สัมผัสกับญี่ปุ่นในมุมที่เงียบสงบและอบอุ่น
สถานที่เที่ยวที่ห้ามพลาดใน ทตโตะริ
แม้จะเป็นจังหวัดขนาดเล็ก แต่ทตโตะริกลับเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแฟนการ์ตูนญี่ปุ่นและผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ รวมแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด 4 ที่ถ้าไม่ไปเรียกว่ามาไม่ถึง
1. เนินทรายทตโตะริ (Tottori Sand Dunes)

เมื่อพูดถึงทตโตะริ สถานที่แรกที่ต้องนึกถึงคือ “ทตโตะริซาคิว” หรือเนินทรายทตโตะริ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ทอดตัวยาวขนานไปกับชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นเป็นระยะกว่า 16 กิโลเมตร นี่คือสถานที่ที่สามารถลองขี่อูฐ เล่นแซนด์บอร์ด หรือชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามเหนือผืนทรายได้ สัมผัสประสบการณ์ราวกับในตัวละครได้เลย นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นอย่างผ่อนคลาย หรือจะลองถ่ายภาพในมุมต่างๆ เพื่อเก็บบรรยากาศที่ไม่เหมือนใครไปด้วย ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่ทั้งมีความสนุกและความสงบ ผสมผสานกันอย่างลงตัว.
2. พิพิธภัณฑ์ทราย (The Sand Museum)

พิพิธภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใครในโลก เพราะแสดงงานประติมากรรมทรายขนาดยักษ์จากศิลปินนานาชาติ หัวข้อจะเปลี่ยนไปทุกปี ทำให้ผู้ที่เคยมาแล้วก็อยากกลับมาอีกครั้ง การจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ทรายทตโตะริ (The Sand Museum) ไม่ได้มีเพียงแค่ขนาดที่ใหญ่โตเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์และความละเอียดอ่อนของศิลปินที่ร่วมงาน แต่ละปีจะมีธีมที่แตกต่างกันไป เช่น วัฒนธรรมต่างประเทศ หรือการเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ผ่านงานศิลปะรูปแบบนี้ นอกจากการชมประติมากรรมทรายที่สวยงามแล้ว ผู้เข้าชมยังสามารถสัมผัสกับกระบวนการสร้างงานศิลปะจากทรายได้จากการแสดงสดของศิลปินต่างชาติที่มาร่วมงาน สร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและทำให้การเยี่ยมชมทุกครั้งเป็นประสบการณ์ใหม่เสมอ.
3. ถนนมิซึกิ ชิเงรุ (Mizuki Shigeru Road)

สำหรับแฟนการ์ตูน “GeGeGe no Kitaro” ถนนมิซึกิ ชิเงรุ คือสวรรค์ที่แท้จริง! ตั้งอยู่ที่เมืองซาไกมินาโตะ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนักวาดการ์ตูนชื่อดัง “มิซึกิ ชิเงรุ” ถนนทั้งสายเต็มไปด้วยรูปปั้นของตัวละครจากเรื่อง Kitaro กว่า 170 ตัว ทั้งยังมีร้านขายของที่ระลึก คาเฟ่ธีมการ์ตูน และแม้แต่ห้องน้ำก็ยังตกแต่งด้วยตัวละครน่ารักๆ สร้างความสนุกสนานและบรรยากาศที่เหมือนหลุดเข้าไปในโลกการ์ตูน.
4. พิพิธภัณฑ์โคนัน (Gosho Aoyama Manga Factory)

อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของทตโตะริคือการเป็นบ้านเกิดของ โกโช อาโอยามะ ผู้วาด “ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน” พิพิธภัณฑ์โคนันที่ตั้งอยู่ในเมืองโฮคุเอ เป็นสถานที่ที่แฟนๆ โคนันไม่ควรพลาดเด็ดขาด! พิพิธภัณฑ์นี้มีการจัดแสดงต้นฉบับงานวาด โมเดลฉากต่างๆ ที่มีชื่อเสียงจากเรื่องโคนัน และยังมีโซน Interactive ที่ให้ผู้เยี่ยมชมได้ร่วมไขคดีเหมือนเป็นนักสืบตัวจริง ไม่ว่าจะเป็นการสืบสวนหรือการค้นหาหลักฐานในสภาพแวดล้อมที่เหมือนในเรื่อง สามารถสัมผัสบรรยากาศของการไขคดีได้อย่างเต็มที่.
ของกินเด็ดใน ทตโตะริ
นอกจากสถานที่เที่ยวที่มีเสน่ห์ ทตโตะริยังขึ้นชื่อเรื่องอาหาร โดยเฉพาะ “ปู” ที่นี่คือดินแดนของราชาแห่งปูญี่ปุ่นโดยแท้
1. ปูมัตสึบะ (Matsuba Crab)

หากมาในช่วงฤดูหนาว (พฤศจิกายนถึงมีนาคม) ห้ามพลาด “ปูมัตสึบะ” หรือ Snow Crab ที่ขึ้นชื่อเรื่องเนื้อแน่น หวาน และสดใหม่ ปูที่นี่ถูกจับจากทะเลญี่ปุ่นแถบชายฝั่งทตโตะริ และสามารถลิ้มลองได้หลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นย่าง ต้ม หรือทำเป็นซูชิ นอกจากนี้ยังมีการจัดงานเทศกาลปูมัตสึบะในช่วงฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน นักท่องเที่ยวจะได้ชมวิธีการจับปูที่สวยงาม รวมถึงการชิมปูสดๆ ในรูปแบบต่างๆ ที่สามารถเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวทตโตะริให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
2. ทตโตะริวากิว (Tottori Wagyu)

เมื่อพูดถึงวากิวคุณภาพสูง หลายคนอาจนึกถึงชื่อดังอย่างโกเบหรือมัตสึซากะ แต่ “ทตโตะริวากิว” ก็ถือเป็นหนึ่งในวากิวระดับพรีเมียมที่ไม่ควรมองข้าม วัวทตโตะริได้รับการเลี้ยงดูอย่างพิถีพิถันในสภาพแวดล้อมธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ส่งผลให้เนื้อมีลายไขมันแทรกสวยงาม เนื้อนุ่มละลายในปาก ให้รสชาติกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ หากมีโอกาสได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบสเต็กหรือชาบู รับรองว่าจะเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจอย่างแน่นอน
3. ลูกแพร์นิจิเซกิ (20th Century Pear)

“ลูกแพร์ศตวรรษที่ 20” กรอบ หอม และหวาน เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในท้องถิ่น ลูกแพร์นี้มีรสชาติหวานฉ่ำและเนื้อสัมผัสกรอบอร่อย ซึ่งทำให้เป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น ร้านอาหารท้องถิ่นบางแห่งยังได้สร้างสรรค์เมนูสุดครีเอทจากลูกแพร์ โดยเฉพาะเมนู “Pear Burger” ที่นำลูกแพร์มาทำเป็นส่วนผสมหลักในเบอร์เกอร์ ซึ่งให้รสชาติแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร