ค้นหาคูปองและบทความ

Close
สมัครสมาชิก

ทำความรู้จักกับจังหวัด คุมะโมโตะ กิน เที่ยว ช้อป แบบเต็มพิกัด

กรุณาเข้าสู่ระบบ

ทำความรู้จักกับจังหวัด คุมะโมโตะ กิน เที่ยว ช้อป แบบเต็มพิกัด

คุมะโมโตะ (Kumamoto) อีกจังหวัดบนเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหลายคนอาจยังไม่ค่อยคุ้นชื่อมากนัก แต่ในความเป็นจริงที่นี่คืออีกจุดปักหมุดน่าสนใจ โดดเด่นทั้งเรื่องความสวยงามทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และยังได้ชื่อว่าเป็น “ดินแดนแห่งไฟ” เพราะบริเวณโดยรอบยังพบเจอการปะทุของภูเขาไฟอยู่ตลอด มาทำความรู้จักกับจังหวัดนี้กันให้มากขึ้น รวมถึงแนะนำที่กิน เที่ยว ช้อป แบบครบครันได้เลย

รู้จักกับจังหวัด คุมะโมโตะ (Kumamoto)

คุมาโมโตะ

จังหวัด คุมะโมโตะ (Kumamoto) เป็นหนึ่งในจังหวัดทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่บนเกาะคิวชู ซึ่งพื้นที่กว่า 7,000 ตร.กม. มีลักษณะเป็นเมืองติดทะเล ขณะที่บางส่วนเป็นภูเขาและยังมีภูเขาไฟยังไม่ดับสนิทและพร้อมปะทุได้เสมอ จึงกลายเป็นอีกความน่าตื่นเต้นให้นักท่องเที่ยวได้ลองสัมผัส อัดแน่นด้วยธรรมชาติสุดงดงาม ผสานวัฒนธรรมของผู้คนที่ยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความน่าประทับใจแบบไม่รู้ลืม 

อีกความพิเศษที่ทำให้หลายคนคุ้นชื่อเมืองนี้มากขึ้นนั่นคือ “หมีคุมะมง” หมีตัวสีดำแก้มแดง มาสคอตสัญลักษณ์ประจำเมือง ถูกดีไซน์และสร้างโดยรัฐบาลประจำจังหวัดภายใต้ความร่วมมือของผู้คนในเมืองแห่งนี้ที่อยากทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักและแวะมาเยี่ยมเยียน

การเดินทางไปยัง คุมะโมโตะ

สำหรับการเดินทางไปยังจังหวัด คุมะโมโตะ หลัก ๆ แล้วนิยมใช้รถไฟเป็นหลัก ขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้นของการเดินทาง เช่น หากมาจากโอซาก้าหรือเกียวโตแนะนำให้ใช้บริการรถไฟชินคันเซนสาย Sanyo Shinkanzen หรือถ้ามาจากฟุกุโอกะ ก็สามารถนั่งรถไฟชินคันเซนสาย Kyushu Line มาลงยัง Kumamoto Station ได้เลย หรือกรณีนั่งเครื่องบินก็สามารถลงที่ท่าอากาศยานคุมะโมโตะได้เช่นกัน

การเดินทางในจังหวัด คุมะโมโตะ

นักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางมาเปิดประสบการณ์ใหม่ยังจังหวัด คุมะโมโตะ วิธียอดนิยมสำหรับการไปตามสถานที่เที่ยวต่าง ๆ จะแบ่งออกเป็น 2 วิธี ประกอบไปด้วย

1. Kumamoto City Tram

คุมาโมโตะ

วิธียอดฮิตของการเดินทางท่องเที่ยวในตัวเมืองคุมะโมโตะจะใช้รถรางเป็นหลัก ซึ่งคุณอาจพบเจอได้ทั้งรถไฟสไตล์ย้อนยุคสุดคลาสสิก ไปจนถึงรถไฟพื้นต่ำพิเศษ Cocoro เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2014 รถรางที่นี่จะแบ่งออกเป็น 2 สาย คือ A-Line และ B-Line มีค่าโดยสารหลายแบบ ได้แก่

  • ตั๋วแบบใช้ครั้งเดียว ราคาผู้ใหญ่ 200 เยน ราคาเด็ก 100 เยน 
  • ตั๋วแบบ One Day Pass มีทั้งแบบกระดาษ (ซื้อที่สถานี) ราคาผู้ใหญ่ 700 เยน ราคาเด็ก 350 เยน และแบบออนไลน์ ราคาผู้ใหญ่ 500 เยน ราคาเด็ก 250 เยน 
  • ตั๋วแบบ 24-Hours Pass ใช้ได้จนครบ 24 ชม. มีเฉพาะแบบออนไลน์ ราคาผู้ใหญ่ 600 เยน ราคาเด็ก 300 เยน 

2. Shiromegurin Bus aka The Castle Loop Bus

คุมาโมโตะ

การเดินทางด้วยรถบัสสายนี้จะพาทุกคนไปเที่ยวชมพื้นที่โดยรอบของปราสาทคุมาโมโตะ และสถานที่เที่ยวในบริเวณดังกล่าว รถออกทุก ๆ 30 นาที ตั้งแต่เวลา 9.00 – 17.00 น. ต้องขึ้นจากประตูหลังและลงประตูหน้า มีค่าโดยสารหลายแบบ ได้แก่

  • ตั๋วแบบใช้ครั้งเดียว ราคาผู้ใหญ่ 160 เยน ราคาเด็ก 80 เยน 
  • ตั๋วแบบ One Day Pass ราคาผู้ใหญ่ 400 เยน ราคาเด็ก 200 เยน 

อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋ว WakuWaku 1-Day Pass เพื่อใช้บริการทั้งรถรางและรถบัสแบบไม่จำกัดเที่ยว 1 วัน ในราคา 800 เยน, 1,000 เยน และ 2,200 เยน ตามสัดส่วนการเดินทาง ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก

เช็กอินที่เที่ยวห้ามพลาดใน คุมาโมโตะ

1. ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle)

แลนด์มาร์กแห่งเมืองคุมาโมโตะ สร้างมายาวนานกว่า 400 ปี บนพื้นที่กว่า 9.8 แสน ตร.ม. แม้จะได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวเมื่อปี 2016 แต่ก็ถูกบูรณะและเปิดให้เยี่ยมชมได้อีกครั้ง โดยรอบยังมีอาคารต่าง ๆ และสวนดอกซากุระกว่า 800 ต้น ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะออกดอกเบ่งบานสวยงามเป็นจุดปักหมุดเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

เวลาทำการ: 7.30 – 22.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุด เปิด 9.00 น.

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/GwLVGjqsAvTFK3aB6

2. ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)

ภูเขาไฟอะโสะ

1 ในภูเขาไฟขนาดใหญ่สุดในโลกที่ยังไม่ดับสนิทและมีโอกาสปะทุได้ทุกเมื่อ แต่กลายเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวต่างอยากสัมผัสกับตาตนเองสักครั้ง ซึ่งจุดยอดฮิตจะอยู่บริเวณยอดเขานากาดาเกะ เดินทางง่ายทั้งรถยนต์ กระเช้าลอยฟ้า หรือใครอยากเดินก็ตามสะดวก เมื่อขึ้นไปแล้วยังเห็นวิวโดยรอบเป็นทุ่งนาและชนบทสุดงดงาม

เวลาทำการ: 9.00 – 17.00 น. เปิดทุกวัน

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/4ZijH87webeuYhQT6

3. สวนซุยเซนจิ (Suizenji Jojuen Garden)

สวนซุยเซนจิ

สวนขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามทั้งการตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมด้วยต้นไม้ใบหญ้า ดอกไม้หลากสายพันธุ์ รวมถึงยังทำสิ่งปลูกสร้างแบบย่อส่วนของสถานที่สำคัญในญี่ปุ่น เช่น ภูเขาไฟฟูจิ สะพานหิน ทะเลสาบบิวะ ศาลาไม้ และถ้าหากเจอจังหวะดี ๆ ยังมีโอกาสพบสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ เช่น หงส์ นกกระเรียน ปลาคราฟในบ่อน้ำอีกด้วย

เวลาทำการ: 7.30 – 18.00 น. เปิดทุกวัน (ช่วงฤดูหนาว 8.30 – 17.00 น.)

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/4sWvRPEPyhPM6cBh6

4. ย่านชิโมโทริ (Shimotori Arcade)

ย่านชิโมโทริ

สายช้อปต้องไม่พลาดมาเดินในย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงของเมืองคุมะโมโตะแห่งนี้ แหล่งรวมร้านค้ามากมายที่มีขนาดใหญ่สุดประจำจังหวัด ต้องการซื้อของฝาก ของใช้ สินค้าแบรนด์เนม มองหาร้านอร่อย ขนมของหวาน ทั้งหมดรวมไว้ในบริเวณนี้ ยิ่งช่วงเย็นถึงหัวค่ำผู้คนจะออกมาเดินเล่นทำให้เกิดความคึกคักมากขึ้นกว่าเดิม

เวลาทำการ: เปิดตลอด 24 ชม. 

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/vCAdUAekEAoVsNM39

5. คุโรคาวะ ออนเซน (Kurokawa Onsen)

คุโรคาวะออนเซ็น

ปิดท้ายที่เที่ยวคุมาโมโตะด้วยบ่อออนเซนธรรมชาติท่ามกลางผืนป่าอันแสนเงียบสงบ หมู่บ้านออนเซนที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ในการแวะมาพักผ่อน ด้วยระยะทางที่ห่างจากตัวเมืองกว่า 1 ชม. จึงแนะนำว่าให้มานอนพักที่นี่สักคืน เสมือนได้ชาร์จแบตพร้อมผ่อนคลายร่างกายในเวลาเดียวกัน

เวลาทำการ: เปิดตลอด 24 ชม. 

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/Jb1ito46wLfNkv5y6

บทส่งท้าย

หลังจากรู้จักกับจังหวัดคุมะโมโตะกันไปแล้ว คงทำให้หลายคนหลงรักกันมากขึ้น ถ้าอยากสัมผัสกับความเหนือระดับในรูปแบบใหม่ ๆ ของประเทศญี่ปุ่น นี่คืออีกจุดปักหมุดที่ไม่อยากให้มองข้ามเด็ดขาด รับรองได้รับความประทับใจกลับมาแบบไม่รู้ลืม

กดบันทึกคูปองและบทความไว้เพื่อทำให้การเดินทางไปญี่ปุ่นของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น!

ถ้ากดบันทึกคูปองหรือบทความที่ชอบเอาไว้ ก็จะสามารถค้นหาได้อย่างง่ายดายจาก "My Page" ในระหว่างการเดินทาง ลองใช้กันดูนะ!

สมัครสมาชิก

ロンタ

บันทึกแล้ว!