ดราก้อนอาย อาคิตะ ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สุดแสนจะโรแมนติก

ช่วงฤดูใบไม้ผลิของจังหวัด อาคิตะ เป็นหนึ่งในช่วงพีคของการท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น เนื่องจากสภาพอากาศเย็นสบาย เหมาะกับการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ สำหรับใครที่มีแผนอยากมาเที่ยวที่ “ภูเขาฮาจิมันไต” น่าจะเคยได้ยินเรื่องราวของปรากฏการณ์ ดราก้อนอาย มาบ้างไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน บทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับปรากฏการณ์นี้ พร้อมเกร็ดความรู้อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย !
รู้จักกับ “ดราก้อนอาย” แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดอาคิตะ

ดราก้อนอาย เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ซึ่งเกิดขึ้นที่ “บึงคางามินุมะ” ในจังหวัดอาคิตะ ประเทศญี่ปุ่น เกิดจากการละลายของน้ำแข็งบนยอดเขาฮาจิมันไตในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ส่งผลให้เมื่อมองจากมุมสูงแล้ว น้ำในบึงที่ละลายไปแล้วบางส่วนดูละม้ายคล้ายกับ “ดวงตาของมังกร” เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่มองแล้วมีความสวยงาม พร้อมกับให้ความรู้สึกที่ลึกลับในเวลาเดียวกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลก อยากจะเดินทางมาชมปรากฎการณ์นี้ด้วยตนเองสักครั้ง
เรื่องควรรู้ ! ก่อนเที่ยวดราก้อนอาย จังหวัดอาคิตะ

การจะมาชมปรากฏการณ์ “ดราก้อนอาย” ที่บึงคางามินุมะ ขอบอกเอาไว้ก่อน ว่าไม่ได้เที่ยวได้ตลอดทั้งปี เนื่องจากมีช่วงเวลาจำกัดที่แตกต่างกันออกไป หากอยากจะมาชมปรากฏการณ์นี้ในช่วงเวลาที่ดีที่สุด ควรจะต้องทำการบ้านสักเล็กน้อย แต่ ! คุณไม่ต้องไปเข้า Google ตามหาข้อมูลให้เสียเวลา เนื่องจากเราได้รวบรวมทุกเรื่องที่คุณควรรู้มาฝากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แค่อ่านบทความนี้ของเราต่อไปจนจบ รับรองว่าคุณจะได้สบตากับมังกรแห่งยอดเขาฮาจิมันไตอย่างแน่นอน
- ช่วงเวลาท่องเที่ยวที่ดีที่สุด
การจะมาชมปรากฏการณ์ดราก้อนอาย จะต้องเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมของแต่ละปีเท่านั้น โดยจะมีช่วงที่สวยงามที่สุดแค่ประมาณ 2 สัปดาห์เท่านั้น หากเดินทางไปเร็วเกิน น้ำในบึงคางามินุมะก็จะยังคงเป็นหิมะที่ขาวโพลนอยู่ ถ้าไปช้าเกินไปน้ำในบึงก็จะละลายจนหมด จนกลายเป็นบึงน้ำธรรมดา ๆ ไป ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่คาดการณ์เอาไว้จะเป็นช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ไปจนถึงช่วงต้นเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในช่วงปีนั้น ๆ อาจมีการคลาดเคลื่อนได้เล็กน้อย
- สภาพอากาศที่ต้องเจอ
ช่วงที่เกิดปรากฏการณ์ดราก้อนอาย เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น โดยเฉลี่ยแล้วอุณหภูมิของจังหวัดอาคิตะ ในบริเวณยอดเขาฮาจิมันไต อยู่ที่ประมาณ 10 องศาเซลเซียส ก็ถือว่าเป็นสภาพอากาศที่เย็นสบาย แต่กลับคนไทยอย่างเรา ๆ อาจจะรู้สึกหนาวอยู่พอสมควร ดังนั้นใครที่รู้ตัวว่าขี้หนาว เตรียมพกเสื้อกันหนาวให้พร้อม เพราะคงไม่ใช่เรื่องดี หากการมาเที่ยวในครั้งนี้ จะต้องแลกกับอาการป่วยที่ได้กลับไป กันไว้ดีกว่าแก้อุ่นใจที่สุด
- การเตรียมพร้อมก่อนท่องเที่ยว
เนื่องจากการมาชมปรากฏการณ์ดราก้อนอาย จะต้องมีการเดินเท้าอยู่เป็นระยะทางประมาณ 15 ถึง 20 นาทีโดยประมาณ โดยเส้นทางอาจจะมีความลาดชันบ้างเล็กน้อย สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมคือสภาพร่างกาย ถ้าใครเหนื่อยง่าย ควรพกยาดม หรือ ขนมจุกจิกเล็กน้อยติดตัวไป เพื่อเป็นพลังงานระหว่างการเดิน และเนื่องจากในเส้นทางบางส่วนยังมีหิมะอยู่ รองเท้าที่เตรียมมาจะต้องเป็นประเภทรองเท้าเดินป่า หรือ รองเท้าที่สวมใส่แล้วเดินสบายไม่ลื่น อีกหนึ่งสิ่งคืออย่าลืมพกร่มติดตัวไว้สักหน่อย เพราะอาจเกิดฝนตกได้ในบางครั้ง
เมืองเซมโบกุ จังหวัดอาคิตะ สถานที่สำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติอันงดงาม
อาจจะไม่ใช่ชื่อของเมืองที่โดดเด่นสักเท่าไหร่ สำหรับ “เมืองเซมโบกุ” จังหวัดอาคิตะ ภูมิภาคโทโฮคุ คนไทยหลาย ๆ คนอาจไม่เคยได้ยินเสียด้วยซ้ำ แต่สำหรับผู้ที่เคยมาสัมผัสบรรยากาศของเมืองนี้ โดยส่วนใหญ่มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ธรรมชาติสวยงามเป็นที่สุด” , “ผ่อนคลายได้ดีมาก” และ “มีเสน่ห์อย่างที่เมืองอื่นให้ไม่ได้” เป็นต้น
ซึ่งจุดเด่นของเมืองเซมโบกุ ก็จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยมีส่วนหนึ่งของยอดเขาฮาจิมันไต จุดชมปรากฏการณ์ดราก้อนอาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกพูดถึงมากที่สุด นอกจากภูเขาสูงก็มีทั้ง ทะเลสาบ น้ำพุร้อน ศาลเจ้า และ หมู่บ้านโบราณ ให้ได้เลือกเที่ยวชม ฤดูท่องเที่ยวที่แนะนำก็จะเป็นช่วง ฤดูใบไม้ผลิสำหรับผู้ที่ต้องการชมดอกไม้สวย ๆ พร้อมด้วยปรากฏการณ์ดราก้อนอาย ส่วนช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะเห็นวิวของธรรมชาติที่สวยจับใจไปอีกแบบ
คำแนะนำสำหรับ “การเดินทาง” ไปยังดราก้อนอาย จังหวัดอาคิตะ
การจะเดินทางไปชมปรากฏการณ์ดราก้อนอาย ที่จังหวัดอาคิตะ ก็ไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใด ถึงจะมีเส้นทางที่ต้องเดินเท้าอยู่บ้าง ก็เป็นระยะทางแค่สั้น ๆ ส่วนที่เหลือนั้นเป็นการเดินทางที่สะดวกสบาย โดยเราขอปักหมุดจุดเริ่มต้นเอาไว้ที่ “โตเกียว” ถ้าในกรณีที่ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ไม่เช่ารถขับด้วยตนเอง ก็จะมีวิธีการเดินทางดังต่อไปนี้
- นั่งรถไฟชินคันเซ็นสาย Akita Shinkansen เลือกไปลงสถานีปลายทางที่ Tazawako Station ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ถึง 4 ชั่วโมงโดยประมาณ
- เมื่อรถลงรถไฟชินค้นเซ็นที่สถานี Tazawako Station เรียบร้อยแล้ว ให้ต่อรถบัสสาย Shuhoku หรือ Ugo Kotsu เลือกไปลงที่ป้ายยอดเขาฮาจิมันไต (Hachimantai Chojo) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
- เมื่อรถบัสมาถึงป้ายยอดเขาฮาจิมันไต ก็สามารถเดินเท้าเพื่อไปชมปรากฏการณ์ดราก้อนอาย โดยมีป้ายบอกทางอย่างชัดเจน ไม่ต้องกังวลว่าจะเดินหลง ใช้ระยะเวลาเดินอีกราว ๆ ไม่เกิน 20 นาทีโดยประมาณ
แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดอาคิตะ ในเส้นทางใกล้ ๆ กับบึงคางามินุมะ
คงเป็นเรื่องน่าเสียดาย หากต้อนนี้คุณมีแผนที่จะท่องเที่ยวแค่ในส่วนของ ดราก้อนอาย เท่านั้น เนื่องจากจังหวัดอาคิตะ เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อมากมาย ดังนั้นสำหรับผู้ที่มีตกลงปลงใจแล้วว่าจะมาเที่ยวที่บึงคางามินุมะ เราอยากแนะนำแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ในจังหวะอาคิตะเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้
- ทะเลสาบทาซาวะโกะ

ทะเลสาบทาซาวะโกะ (Tazawako Lake) เป็นทะเลสาบที่มีความลึกมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น น้ำใสเหมือนกระจก เมื่อสะท้อนกับแสงแดดแล้วไม่ต่างอะไรจากอัญมณี พร้อมด้วยแลนด์มาร์กสำคัญอย่าง “รูปปั้นเจ้าหญิงทัตสึโกะ” ซึ่งเป็นตำนานท้องถิ่น กิจกรรมที่น่าสนใจก็จะเป็นการ พายเรือ ปิกนิก กิจกรรมกลางแจ้ง และ การถ่ายรูปสวย ๆ ของบรรยากาศอันงดงามเก็บไว้
- นิวโต ออนเซ็น

สำหรับผู้ที่หลงรักออนเซ็น หรือยากจะมีประสบการณ์แช่ออนเซ็นสักครั้งในชีวิต ขอแนะนำให้แวะท่องเที่ยวที่ นิวโต ออนเซ็น (Nyuto Onsen) ที่นี่ถูกยกให้เป็น “หมู่บ้านน้ำพุร้อน” ที่มีชื่อเสียงติดอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น ภายในมีเรียวกังที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้เลือกถึง 7 แห่ง คงไม่มีอะไรดีไปกว่า การได้แช่ออนเซ็นอุ่น ๆ พร้อมบรรยากาศอันเงียบสงบของขุนเขาของที่นี่อีกแล้ว
- หมู่บ้านซามูไรคาคุโนะดาเตะ

แน่นอนว่าเมื่อมาเที่ยวที่อาคิตะ คงจะพลาดหมู่บ้านซามูไรคาคุโนะดาเตะ (Kakunodate Samurai District) ไปไม่ได้เป็นอันขาด เพราะนี่คือแหล่งท่องเที่ยวที่เหมือนกับถูกหยุดเวลาเอาไว้ตั้งแต่สมัยเอโดะ บ้านเรือทุกอย่างยังคงเป็นแบบดั้งเดิมทั้งหมด และว่ากันว่ามีบ้านที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของซามูไรตัวจริงอยู่ด้วย กิจกรรมที่น่าสนใจก็จะเป็นการนั่งรถลากเที่ยวชมบรรยากาศของหมู่บ้าน
บทส่งท้าย
การจะเดินทางไปชมดราก้อนอาย ต้องแม่นในเรื่องของ “จังหวะเวลา” มากเป็นพิเศษ เพราะในแต่ละปีจะมีช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการท่องเที่ยวเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น เมื่อได้รับชมดวงตาของมังกรแห่งภูเขาฮาจิมันไตเรียบร้อยแล้ว ถ้าเวลายังเหลือก็อย่าลืมไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ในจังหวัดอาคิตะที่เราได้แนะนำเอาไว้ รับรองว่าการเที่ยวญี่ปุ่นของคุณในครั้งนี้ จะเป็นประสบการณ์สุดพิเศษที่ดีที่สุดอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน