ในช่วงเดือน มิถุนายน ไปจนถึงตลอดทั้งเดือน กรกฎาคม ในประเทศไทยจะอยู่ในช่วงฤดูฝน ซึ่งไม่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก หากใครมีเวลาว่างอยากจะท่องเที่ยว อยากจะสัมผัสอากาศดี ๆ ไม่ร้อนเกินไป ไม่เปียกแฉะจากฟ้าฝน เราขอแนะนำให้คุณบินลัดฟ้าไปที่ “ภูมิภาค ฮอกไกโด ” ของประเทศญี่ปุ่น เพราะในช่วงฤดูฝนของประเทศไทย จะตรงกับช่วงฤดูร้อน ซึ่งเหมาะแก่การเที่ยวชมทุ่ง ลาเวนเดอร์ เป็นที่สุด มาดูกันเลยว่าจะมีทุ่งลาเวนเดอร์ที่ไหนน่าสนใจกันบ้าง โดยเราได้รวบรวมมาฝากถึง 5 แห่งด้วยกัน ดังต่อไปนี้

แนะนำ 5 ทุ่ง ลาเวนเดอร์ ที่ ฮอกไกโด เที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อนที่สวยเหมือนฝัน

สวนฮิโนเดะ

เริ่มกันที่ทุ่งลาเวนเดอร์ที่มาพร้อมบรรยากาศสุดโรแมนติกอย่าง “สวนฮิโนดะ” ตั้งอยู่ในเมืองคามิฟูราโนะ ที่นี่คือสวนสาธารณะที่ถูกตกแต่งให้เหมือนกับหลุดมาจากเทพนิยาย เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงฤดูร้อนของภูมิภาคฮอกไกโด ในพื้นที่กว่า 40,000 ตารางเมตร มีการปลูกดอกไม้นานาชนิดเอาไว้ ที่โดดเด่นที่สุดก็เห็นจะเป็นดอกลาเวนเดอร์ที่กำลังอยู่ในช่วงที่บานสะพรั่ง 

การชมดอกลาเวนเดอร์ที่สวนฮิโนเดะ ไม่จำเป็นจะต้องเดินทางมาเฉพาะช่วงเวลากลางวันเท่านั้น หากใครไม่ชอบแสงแดดร้อน ๆ ก็สามารถเลือกเดินทางมาช่วงกลางคืนได้ บริเวณสวนมีการประดับไฟในจุดต่าง ๆ ทำให้บรรยากาศออกมาสวยงามไปอีกแบบ อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ ก็จะเป็น “ระฆังแห่งความรัก” ซึ่งอยู่บริเวณยอดของสวนฮิโนเดะ เชื่อว่าถ้าใครได้มาสั่นระฆังแล้วจะสมหวังกับความรัก

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงปลายเดือนมิถุนายน ไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม 

แนะนำการเดินทาง : เลือกนั่งรถไฟสาย JR Furano มาลงที่สถานี Kamifurano จากนั้นเดินเท้าอีกไม่เกิน 20 นาที หรือ นั่งรถแท็กซี่บริเวณนั้นไม่เกิน 5 นาที 

เขาโฮคุเซยามะ

มาต่อกันด้วย “เขาโฮคุเซยามะ” ในเมืองนากาฟุราโนะ ที่นี่เป็นทุ่งลาเวนเดอร์ที่เนื้อที่อาจไม่เยอะเท่าไหร่ เนื่องจากอยู่บริเวณเนินเขา นอกจากดอกลาเวนเดอร์ก็ยังมีดอกไม้อีกหลากหลายสายพันธุ์ จุดเด่นของการชมลาเวนเดอร์ที่นี่ คือการนั่งกระเช้าลอยฟ้าชมความสวยงามของทุ่งลาเวนเดอร์จากมุมสูง เมื่อขึ้นถึงบริเวณยอดเขาจะเป็นจุดชมวิว ได้เห็นวิวแบบพาโนรามาของเทือกเขาโทคาจิ 

อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญ ของการชมดอกลาเวนเดอร์ที่เขาโฮคุเซยามะ คือบริเวณยอดเขาซึ่งเป็นจุดชมวิว คุณจะได้เห็น “ดอกลาเวนเดอร์สีขาว” ซึ่งเป็นสายพันธุ์หายาก เพราะตามปกติแล้วดอกลาเวนเดอร์ที่เราคุ้นเคยจะเป็นสีม่วง ใครที่อยากชมดอกลาเวนเดอร์สวย ๆ แต่ไม่อยากเดินเองให้เหนื่อย ขอแนะนำเลยว่าที่เขาโฮคุเซยามะ น่าจะตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วง ต้นเดือน ไปจนถึง กลางเดือน กรกฎาคม 

แนะนำการเดินทาง : เลือกนั่งรถไฟสาย JR Furano เลือกมาลงที่สถานี Nakafurano จากนั้นก็เลือกใช้บริการรถรับส่ง ซึ่งจะให้บริการเฉพาะช่วงฤดูร้อนเท่านั้น

คันโนะฟาร์ม

สำหรับ “คันโนะฟาร์ม” คงไม่สามารถเรียกได้ว่าทุ่งลาเวนเดอร์ได้เต็มร้อย เนื่องจากที่นี่ยังมีดอกไม้อีกมากกว่า 50 สายพันธุ์ เมื่อถึงช่วงฤดูร้อนแล้ว พื้นที่ของฟาร์มจะถูกปกคลุมไปด้วยดอกไม้หลากสี เมื่อเทียบกับแหล่งชมลาเวนเดอร์ที่อื่น ๆ ชื่อเสียงอาจยังไม่ได้โดดเด่นเทียบเท่า แต่เรื่องของความสวยงาม ขอแนะนำเลยว่าไม่แพ้กันอย่างแน่นอน 

ที่คันโนะฟาร์มบรรยากาศจะค่อนข้างเงียบสงบ นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านมากนัก พื้นที่ของฟาร์มก็ค่อนข้างเล็ก ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาการเดินชมมากสักเท่าไหร่ เมื่อเดินชมดอกลาเวนเดอร์จนเป็นที่พึงพอใจแล้ว อย่าลืมมาดับร้อนด้วยไอศกรีมซอฟเสิร์ฟรสลาเวนเดอร์ ถ้าได้ลองแล้วคุณจะต้องติดใจ

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ไปจนถึงช่วงต้นเดือนสิงหาคม

แนะนำการเดินทาง : เลือกเดินทางด้วยรถไฟ JR Furano มาลงที่สถานี Bibaushi จากนั้นเดินเท้าอีกแค่ไม่เกิน 15 ถึง 20 นาที ก็จะถึงจุดหมาย

สวนดอกไม้ชิกิไซโนะโอกะ

“สวนดอกไม้ชิกิไซโนะโอกะ” ถูกยกให้เป็นสวรรค์ของคนรักดอกไม้ ตั้งอยู่ที่เมืองคามิกาวะของฮอกไกโด มีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ เริ่มผลิบานตั้งแต่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิช่วงเดือนเมษายน และจะกลายเป็นทุ่งลาเวนเดอร์ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นพิเศษ ช่วงปลายเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป มีค่าบริการ 500 เยนต่อคน สวนมีเนื้อที่ค่อนข้างกว้างเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะมีรถให้บริการนำชม ไม่ต้องเดินเองให้เมื่อยขา

เนื่องจากภายในสวนจะมีการจัดให้เป็นเหมือนเนินเขาเล็ก ๆ ทำให้สามารถมองเห็นทุ่งดอกลาเวนเดอร์ และ ดอกไม้สายพันธุ์อื่น ๆ ได้อย่างงดงามชัดเจน สำหรับใครที่ชื่นชอบถ่ายภาพเชื่อว่าคุณจะต้องกดชัตเตอร์จนเมื่อยนิ้ว แถมยังมีจุดสำหรับให้อาหารสัตว์ ซึ่งมีพระเอกเป็นอัลปาก้าที่สุดแสนจะน่ารัก สำหรับใครเดินเที่ยวจนหิวก็ไม่ต้องเป็นห่วง เนื่องจากภายในสวนมีร้านอาหารให้บริการ 

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายน ไปจนถึงกลางเดือนสิงหาคม

แนะนำการเดินทาง : เดินทางด้วยรถไฟ JR Furano มาลงที่สถานี Bibaushi จากนั้นให้เลือกต่อรถแท็กซี่ ไม่กี่อึดใจก็จะถึงจุดหมาย

ฟาร์มโทมิตะ

ปิดท้ายด้วยทุ่งลาเวนเดอร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของฮอกไกโด นั่นก็คือ “ฟาร์มโทมิตะ” เป็นจุดหมายที่พลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด สำหรับการท่องเที่ยวที่ฮอกไกโดในช่วงฤดูร้อน ตัวฟาร์มตั้งอยู่ในเมืองนากะฟุราโนะ ซึ่งก็เหมือน ๆ กับจุดชมดอกลาเวนเดอร์อื่น ๆ ที่ฟาร์มแห่งนี้ยังมีดอกไม้อีกนานาสายพันธุ์ให้ได้เลือกชม แต่ที่ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกได้มากที่สุด ก็จะเป็นทุ่งลานเวนเดอร์ที่มีอยู่ถึง 3 แห่งภายในฟาร์มเลยทีเดียว

สิ่งที่ทำให้ฟาร์มโทมิตะเป็นแลนด์มาร์กอันดับ 1 สำหรับการชมดอกลาเวนเดอร์ช่วงฤดูร้อนของฮอกไกโด คือการที่เป็นมากกว่าสวนดอกไม้ เนื่องจากภายในฟาร์มมีกิจกรรมที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น บ้านสำหรับการจัดแสดงดอกไม้แห้ง , แกลลอรี่เก็บภาพถ่ายสวย ๆ ของดอกไม้ในฟาร์ม หรือแม้กระทั่ง การเวิร์คช็อปผลิตภัณฑ์น้ำหอมที่สกัดจากดอกไม้ภายในฟาร์ม เป็นต้น

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม ไปจนถึงกลางเดือนสิงหาคม

แนะนำการเดินทาง : เลือกเดินทางด้วยรถไฟสาย JR Furano มาลงที่สถานี Lavender Batake ซึ่งเป็นสถานีพิเศษที่เปิดให้บริการช่วงชมดอกลาเวนเดอร์เท่านั้น จากนั้นเดินเท้าอีกเล็กน้อย

เทศกาลที่น่าสนใจของภูมิภาค ฮอกไกโด ในช่วงเวลาที่ดอก ลาเวนเดอร์ ผลิบาน

หากคุณอยากจะซึมซับวัฒนธรรมญี่ปุ่นให้มากที่สุด สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวฮอกไกโดในครั้งนี้ ในการเที่ยวชมดอกไม้ในช่วงฤดูร้อน จาก 5 ทุ่งลาเวนเดอร์ที่เรากล่าวไปในข้างต้น มีหนึ่งเทศกาลที่เราไม่อยากให้คุณพลาดคือ “เทศกาลลาเวนเดอร์” ซึ่งแต่ละแห่งจะมีการจัดในช่วงเวลาที่ต่างกัน สำหรับปี 2025 ก็จะมีที่ เมืองคามิฟุราโนะ ซึ่งจะจัดงานวันที่ 13 ถึง 21 กรกฎาคม และ ในเมืองนากาฟุระโนะ จัดงานในวันที่ 20 กรกฎาคม ภายในงานจะมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย รวมถึงร้านอาหารอร่อย ๆ ให้คุณได้เลือกชิมอย่างจุใจ

อาหารของภูมิภาค ฮอกไกโด เมนูที่คุณควรได้ลิ้มลอง

ระหว่างการเที่ยวชมทุ่งลาเวนเดอร์ อาจจำเป็นจะต้องเดินเท้าเยอะเป็นพิเศษ และในช่วงฤดูร้อนอากาศของญี่ปุ่นก็ค่อนข้างร้อนอบอ้าวเลยทีเดียว แม้จะสู้บ้านเราไม่ได้ก็ตาม นั่นจึงทำให้ร่างกายใช้พลังงานมากเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นเราจึงอยากแนะนำเมนูอาหารที่น่าสนใจ เติมเต็มพลังงานให้ร่างกายพร้อมลุยกับการท่องเที่ยวต่อ โดยเมนูที่อยากจะแนะนำก็จะมีดังนี้

ขนมและเครื่องดื่ม ที่มีส่วนผสมหลักจากลาเวนเดอร์ มักจะพบเป็นสินค้าที่จำหน่ายในจุดชมดอกลาเวนเดอร์หลาย ๆ จุด เช่น ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ หรือ เครื่องดื่มไซเดอร์

ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนม เชื่อว่าคุณคงเคยได้ยินมาบ้าง เกี่ยวกับชื่อเสียงของ “นมฮอกไกโด” เพราะฉะนั้นไม่ควรพลาดผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนมทุกชนิดโดยเด็ดขาด

อาหารทะเล ถึงจะไม่เกี่ยวอะไรกับทุ่งลาเวนเดอร์ แต่ในช่วงฤดูร้อนเป็นช่วงที่อาหารทะเลอร่อยเป็นพิเศษ เมนูที่ไม่ควรพลาดก็จะเป็น “ยูนิด้ง” ข้าวหน้าเม่นทะเล และ “ชามอิคุระ” เมนูจากไข่ปลาแซลมอน

บทส่งท้าย 

หวังว่าทั้ง 5 ทุ่งลาเวนเดอร์ ที่เราได้แนะนำในบทความนี้ จะช่วยให้คุณวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวในฮอกไกโดได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และในภูมิภาคแห่งนี้ก็ไม่ได้มีดีแค่ดอกลาเวนเดอร์เท่านั้น ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงอาหารอร่อย ๆ ที่รอให้คุณได้ไปลิ้มลองอีกเพียบ ก่อนจากกันอยากขอเตือนสักเล็กน้อย สำหรับผู้ที่รู้ว่าตนเองมีภาวะแพ้เกสรดอกไม้ ไม่ควรเดินทางไปที่ทุ่งดอกไม้โดยเด็ดขาด มิฉะนั้นการท่องเที่ยวฮอกไกโดในครั้งนี้ อาจจะหมดสนุกไปอย่างน่าเสียดาย