10 ธีมปาร์ค สวนสนุก แนะนำใน ญี่ปุ่น 2025

หากพูดถึงการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น หลายคนมักนึกถึงวัดวาอาราม ธรรมชาติ อาหารอร่อย และวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์ แต่สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยคือ สวนสนุก ญี่ปุ่น ที่โดดเด่นไม่แพ้ที่ใดในโลก ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยธีมปาร์คระดับโลก ทั้งที่มีชื่อเสียงมายาวนานและธีมปาร์คน้องใหม่ที่เปิดให้บริการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความพิเศษของสวนสนุกในญี่ปุ่นคือการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างความบันเทิง เทคโนโลยีล้ำสมัย และวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุกสไตล์ตะวันตก เช่น Universal Studios Japan หรือสวนสนุกที่สะท้อนความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ เช่น Edo Wonderland หรือ Toei Kyoto Studio Park อีกทั้งยังเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้ใหญ่ที่ยังมีหัวใจวัยรุ่น สำหรับปี 2025 นี้ สวนสนุกหลายแห่งได้มีการอัปเกรดเครื่องเล่น เปิดโซนใหม่ หรือแม้กระทั่งเปิดสวนสนุกใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น เพื่อมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับนักท่องเที่ยว บทความนี้จะพาไปรู้จักกับ 10 สวนสนุกยอดนิยมในญี่ปุ่นปี 2025 พร้อมแนะนำไฮไลต์เด็ดๆ ที่ไม่ควรพลาด หากเราเป็นคนรักความสนุก ตื่นเต้น และชื่นชอบบรรยากาศแห่งความสุข ห้ามพลาดบทความนี้เด็ดขาด

แนะนำ 10 ธีมปาร์ค สวนสนุก อัปเดต 2025 มีที่ไหนใหม่ๆน่าเที่ยว 

ในปี 2025 นี้ สวนสนุก ญี่ปุ่น ที่น่าสนใจทั้งแบบคลาสสิกและเปิดใหม่ให้เลือกเที่ยวหลากหลาย เช่น Universal Studios Japan (โอซาก้า) ที่ยังคงเป็นขวัญใจนักท่องเที่ยว โดยปีนี้มีการเปิดโซน Donkey Kong เพิ่มความมันส์ในโซน Super Nintendo World ส่วน Tokyo Disneyland & DisneySea (โตเกียว) ก็ไม่ยอมน้อยหน้า มีการอัปเดตโซน Fantasy Springs ที่รวมตัวละครจาก Peter Pan, Frozen และ Tangled อย่างอลังการ นอกจากนี้ยังมี Ghibli Park (ไอจิ) ที่เปิดเต็มรูปแบบครบทุกโซนแล้วในปีนี้ พร้อมให้แฟนๆ สตูดิโอจิบลิสัมผัสโลกแห่งจินตนาการอย่างใกล้ชิด ด้านสวนสนุกน้องใหม่ เช่น Yokohama Dream Park ที่เพิ่งเปิดตัวด้วยคอนเซ็ปต์ธีมแห่งอนาคต พร้อมเครื่องเล่น VR และ AR สุดล้ำ และ Fuji Q Highland ที่อยู่ภายใต้เงาภูเขาไฟฟูจิ ก็ไม่พลาดเพิ่มเครื่องเล่นใหม่สุดหวาดเสียวเพื่อเอาใจสายแอดเวนเจอร์ ทั้งหมดนี้ทำให้ปี 2025 เป็นปีทองของคนรักสวนสนุกในญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

1. Tokyo Disneyland โลกแห่งจินตนาการที่ไม่มีวันเก่า 

สวนสนุกสุดคลาสสิกที่ตั้งอยู่ในชิบะ ใกล้โตเกียว โดดเด่นด้วยธีมดิสนีย์อันเป็นเอกลักษณ์ ไฮไลต์คือขบวนพาเหรดกลางคืน “Dreaming Up!” และปราสาทซินเดอเรลลาสุดอลังการ ที่นี่เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีเครื่องเล่นยอดนิยมอย่าง Splash Mountain และ Pooh’s Hunny Hunt ปี 2025 ยังคงมีอัปเดตโซนต่าง ๆ เพิ่มความสดใหม่ให้กับทุกการมาเยือน

จองบัตรเข้าได้ที่ : http://bit.ly/4gdnIEC

2. Tokyo DisneySea สวนสนุก ญี่ปุ่น แห่งเดียวในโลกที่เน้นธีมทะเล 

DisneySea เป็น สวนสนุก ญี่ปุ่น ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ด้วยธีมโลกใต้น้ำและการผจญภัย ไฮไลต์ห้ามพลาดคือโซนใหม่ Fantasy Springs (เปิดปี 2024 และขยายต่อเนื่องถึง 2025) ที่รวมโลกของ Frozen, Tangled และ Peter Pan เครื่องเล่นอย่าง Soaring: Fantastic Flight ก็ยังเป็นที่นิยมมาก เหมาะกับผู้ใหญ่ที่มองหาความแฟนตาซีผสมความสมจริง

จองบัตรเข้าได้ที่ : http://bit.ly/4gdnIEC

3. Universal Studios Japan (USJ) ความบันเทิงเต็มรูปแบบในโอซาก้า 

สวนสนุกระดับโลกที่เต็มไปด้วยธีมจากภาพยนตร์ดัง ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดคือโซน Super Nintendo World ที่มี Mario Kart Ride สุดล้ำ และ Donkey Kong Country ที่เพิ่งเปิดใหม่ในปี 2024 ยังมี Harry Potter World, Minion Park และ Jurassic Park ที่คนแน่นตลอดปี เหมาะกับทั้งครอบครัวและวัยรุ่น

จองบัตรเข้าได้ที่ : https://bit.ly/3JR8KIx

4. Fuji-Q Highland สำหรับสายโหดที่ชอบความหวาดเสียว 

สวนสนุก ญี่ปุ่น ชื่อดังใกล้ภูเขาไฟฟูจิ ขึ้นชื่อเรื่องรถไฟเหาะที่ท้าทายที่สุดในโลก ไฮไลต์คือ Fujiyama, Eejanaika และ Takabisha ซึ่งยังติดอันดับรถไฟเหาะสุดหวาดเสียวในปี 2025 วิวภูเขาฟูจิจากเครื่องเล่นก็สวยจับใจ ยังมีโซนสำหรับเด็ก และ “Haunted Hospital” บ้านผีสิงระดับตำนานให้ลองของ

จองบัตรเข้าได้ที่ : https://bit.ly/46e42vM

5. Ghibli Park โลกแห่งแอนิเมชันสุดอบอุ่น 

สวนสนุกธีมภาพยนตร์ของ Studio Ghibli ตั้งอยู่ในจังหวัดไอจิ ไม่ใช่สวนสนุกหวาดเสียว แต่เน้นการเดินชมแบบ immersion ไฮไลต์คือโซน “Spirited Away”, “My Neighbor Totoro” และ “Princess Mononoke” ปี 2025 เพิ่มโซนใหม่และกิจกรรม interactive มากขึ้น เหมาะสำหรับแฟนจิบลิทุกเพศทุกวัย

6. Sanrio Puroland ดินแดนของ Hello Kitty และผองเพื่อน 

สวนสนุกในร่มขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยความน่ารัก สวนสนุก ญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองทามะ โตเกียว ไฮไลต์คือขบวนพาเหรดของเหล่าคาแรคเตอร์และห้องธีม Hello Kitty แบบ immersive ปี 2025 มีโชว์ใหม่ตามฤดูกาล และกิจกรรมที่ร่วมมือกับแฟรนไชส์อื่นๆ เพิ่มเสน่ห์ให้แฟนคลับตัวยง เหมาะกับเด็กและผู้ใหญ่สาย kawaii

7. Nagashima Spa Land ความสนุกและการผ่อนคลายในที่เดียว 

สวนสนุกใกล้เมืองนาโกย่า มีครบทั้งเครื่องเล่นหวาดเสียว ออนเซ็น และสวนน้ำ ไฮไลต์คือรถไฟเหาะ Steel Dragon 2000 ที่ยาวติดอันดับโลก สวนน้ำ “Joyful Water Park” เปิดเฉพาะหน้าร้อนปี 2025 และ “Yuami no Shima” คือออนเซ็นกลางแจ้งที่นักท่องเที่ยวต่างชาติชื่นชอบ

8. Huis Ten Bosch ยุโรปจำลองในญี่ปุ่น 

สวนสนุกในจังหวัดนางาซากิ ที่จำลองเมืองเนเธอร์แลนด์แบบครบองค์ประกอบ ไฮไลต์ปี 2025 คือเทศกาลดอกไม้แบบ 4 ฤดู การจัดไฟกลางคืนสุดอลังการ และกิจกรรม VR บนเรือโจรสลัดสุดสมจริง สวนนี้เหมาะกับคู่รักและนักถ่ายภาพเป็นพิเศษ เพราะมีมุมโรแมนติกและสถาปัตยกรรมสวยงามทั่วทั้งพื้นที่

9. Legoland Japan สวรรค์ของเด็กและครอบครัว 

ตั้งอยู่ในนาโกย่า Legoland Japan เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ไฮไลต์คือ “Miniland Japan” ที่จำลองเมืองต่าง ๆ ด้วยตัวต่อ LEGO และเครื่องเล่นเบา ๆ ที่ปลอดภัย ปี 2025 เพิ่มกิจกรรม DIY และโชว์สดจาก LEGO Friends พร้อมการขยายโซนในร่มเพื่อรับหน้าหนาว

10. JUNGLIA OKINAWA สวนสนุกเปิดใหม่ในป่าดงดิบ 

เปิดตัวในปี 2025 บนเกาะโอกินาวา JUNGLIA เป็น สวนสนุก ญี่ปุ่น แนวผจญภัยธรรมชาติที่ผสมผสานเทคโนโลยีและวัฒนธรรมท้องถิ่น ไฮไลต์คือเครื่องเล่นแบบ zipline, สวนสัตว์อินเตอร์แอคทีฟ และโซน immersive ที่ใช้ AR/VR สวนนี้เหมาะกับสายรักธรรมชาติและครอบครัวที่อยากสัมผัสความแปลกใหม่ในญี่ปุ่น

สวนสนุกญี่ปุ่น สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก 

ถ้ามีเด็กเล็กและกำลังมองหาสถานที่ที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวแบบครอบครัว สวนสนุกในญี่ปุ่นมีตัวเลือกมากมายที่ปลอดภัย สนุก และเหมาะสมกับเด็กทุกวัย เช่น Anpanman Children’s Museum ที่มีสาขาหลายเมืองอย่างโยโกฮาม่า, โกเบ และนาโกย่า เต็มไปด้วยกิจกรรมสนุกๆ และการแสดงสดที่เด็กๆ หลงรัก อีกหนึ่ง สวนสนุก ญี่ปุ่น ที่ได้รับความนิยมคือ Sanrio Puroland ที่เต็มไปด้วยตัวการ์ตูนน่ารักจากซานริโอ เช่น Hello Kitty, My Melody และ Cinnamoroll ภายในมีโชว์ การแสดง และร้านอาหารธีมน่ารักที่เด็กๆ จะประทับใจไม่รู้ลืม นอกจากนี้ยังมี LEGOLAND Japan (นาโกย่า) ที่ให้เด็กๆ ได้สนุกกับการสร้างสรรค์และผจญภัยในโลกเลโก้สุดตระการตา พร้อมโซนเครื่องเล่นที่ออกแบบเพื่อเด็กเล็กโดยเฉพาะ ทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถพักผ่อนได้อย่างสบายใจ พร้อมชมรอยยิ้มของลูกๆ ไปพร้อมกัน

สวนสนุกญี่ปุ่น สายแอดเวนเจอร์ หวาดเสียว ห้ามพลาด 

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความท้าทายและการปล่อยอะดรีนาลีน สวนสนุกในญี่ปุ่นก็มีเครื่องเล่นสุดหวาดเสียวที่รับประกันความมันส์แบบขีดสุด เช่น Fuji-Q Highland ที่ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องเล่นหวาดเสียวอันดับต้นๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นรถไฟเหาะ Takabisha ที่มีความชันถึง 121 องศา หรือ Dodonpa ที่เคยครองตำแหน่งรถไฟเหาะที่เร็วที่สุดในโลก ยังไม่รวม Haunted Hospital บ้านผีสิงขนาดยักษ์ที่มีความน่ากลัวระดับตำนาน นอกจากนี้ Nagashima Spa Land (มิเอะ) ก็เป็นอีกหนึ่งสวนสนุกยอดนิยมที่มีเครื่องเล่นมากมาย เช่น Steel Dragon 2000 รถไฟเหาะที่ยาวที่สุดในโลก เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาความหวาดเสียวผสมผสานกับทัศนียภาพที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเพื่อนหรือคู่รัก ห้ามพลาดสวนสนุกสายแอดเวนเจอร์ในญี่ปุ่นอย่างเด็ดขาด

สวนสนุกญี่ปุ่นที่มีเสน่ห์แบบวัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ๆ 

เมื่อเราต้องการสัมผัสบรรยากาศสวนสนุกที่ผสมผสานวัฒนธรรมญี่ปุ่นเข้ากับความบันเทิงอย่างลงตัว ลองแวะไปที่ Edo Wonderland (นิกโก้) ที่จำลองเมืองสมัยเอโดะให้เราได้ลองเป็นซามูไร นินจา หรือชาวเมืองในยุคโบราณ พร้อมกิจกรรมมากมาย เช่น การฝึกฟันดาบ ยิงธนู หรือชมการแสดงสไตล์ย้อนยุค อีกหนึ่งสวนสนุกคือ Toei Kyoto Studio Park ซึ่งเป็นสตูดิโอถ่ายทำภาพยนตร์แนวพีเรียดที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมและแต่งตัวเป็นตัวละครยุคเก่าเดินเล่นได้อย่างอิสระ สวนสนุกเหล่านี้ทำให้เราได้ทั้งความสนุกและความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นแบบไม่ซ้ำใคร นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและของฝากสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ที่เพิ่มความประทับใจในการเยือนอีกด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลวัฒนธรรมญี่ปุ่นและต้องการประสบการณ์ที่แตกต่างจากสวนสนุกทั่วไป

ข้อควรรู้ก่อนเที่ยว สวนสนุก ญี่ปุ่น 

ก่อนจะไปสนุกสุดเหวี่ยงที่ สวนสนุก ญี่ปุ่น ควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นไปอย่างราบรื่น สิ่งแรกคือ จองตั๋วล่วงหน้า โดยเฉพาะสวนสนุกยอดนิยมที่มักมีคนแน่นช่วงวันหยุด แนะนำให้ซื้อตั๋วออนไลน์พร้อมบริการ Fast Pass ถ้ามี เพื่อประหยัดเวลา ต่อมาอย่าลืมตรวจสอบ สภาพอากาศ เพราะบางเครื่องเล่นอาจปิดหากฝนตกหรือมีลมแรง ควรเตรียมร่ม เสื้อกันฝน และรองเท้าที่ใส่สบายนอกจากนี้ ควร ตรวจสอบแผนที่สวนสนุกล่วงหน้า เพื่อวางแผนเส้นทางว่าจะไปโซนไหนก่อนและจองเวลาดีๆ ไม่ให้พลาดไฮไลต์ และสุดท้ายคือ โหลดแอปพลิเคชันของสวนสนุก ไว้ในมือถือ จะช่วยอัปเดตเวลารอคิว แผนที่แบบเรียลไทม์ และโปรโมชันต่างๆ เพิ่มความสะดวกและสนุกได้เต็มที่ระหว่างทริป