คาเฟ่ ริมแม่น้ำใน โอซาก้า : 10 คาเฟ่ย่าน Kitahama

ย่าน Kitahama ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ โอซาก้า เป็นย่านธุรกิจสำคัญที่ผสมผสานระหว่างตึกสำนักงานสมัยใหม่กับอาคารเก่าแก่สไตล์วินเทจได้อย่างลงตัว แม้จะดูเป็นย่านเร่งรีบ เต็มไปด้วยเหล่าพนักงานออฟฟิศในวันทำงาน แต่จริงๆ แล้ว Kitahama ยังแอบซ่อนคาเฟ่น่านั่งไว้มากมาย โดยเฉพาะบริเวณริมแม่น้ำโทซาโฮริ วันนี้เราจึงอยากชวนทุกคนไปเช็กอินร้านเก๋ๆ ในย่านนี้กัน กับ 10 คาเฟ่ ริมแม่น้ำที่ฮอตที่สุดในปี 2025 จะมีร้านไหนบ้าง ไปดูกัน
พิกัด คาเฟ่ โอซาก้า : 10 คาเฟ่สุดฮิตย่าน Kitahama ที่ห้ามพลาดในปี 2025
Brooklyn Roasting Company Kitahama

มาเริ่มกันที่ Brooklyn Roasting Company ร้านกาแฟจากอเมริกาที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2009 และขยายสาขามาที่ญี่ปุ่นจนปัจจุบันมีถึง 5 สาขาทั้งในโตเกียวและโอซาก้า แต่สาขา Kitahama นี้บอกเลยว่าทั้งวิวสวยและเดินทางง่าย ลงสถานี Kitahama แล้วเดินต่อประมาณ 300 เมตรถึงเลย
บรรยากาศในร้านเหมือนอยู่นิวยอร์ก มีที่นั่งทั้งด้านในและนอกระเบียง เหมาะจะมานั่งจิบกาแฟ รับลมเย็นๆ ที่นี่เขาจะมีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลายแบบ ทั้งคั่วเข้ม คั่วอ่อน หากชิมแล้วติดใจก็สามารถซื้อเมล็ดกลับไปชงเองที่บ้านได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีเมนูแซนด์วิชและเบเกอรี่มากมาย เช่น สโคน บราวนี่ เค้กแครอท คุกกี้ หรือครัวซองต์หอมๆ สั่งมากินคู่กันแล้วอร่อยลงตัว
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/XtdrqBp7wNdmesuv7
Nakaoka coffee Nakanoshima

Nakaoka coffee Nakanoshima เป็นคาเฟ่ที่อยู่ใกล้กับสะพาน Oebashi แค่เปิดประตูเข้าไปก็ได้กลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟลอยมาเตะจมูก จุดเด่นของร้านคือเมล็ดกาแฟที่คั่วเอง โดยใช้ถ่าน Kishu Binchotan ที่ขึ้นชื่อว่าให้ความร้อนที่คงที่และสม่ำเสมอ ทำให้เมล็ดกาแฟถูกคั่วอย่างทั่วถึง ดึงกลิ่นและรสออกมาได้อย่างเต็มที่
ในช่วงเช้าคนจะค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นร้านฮิตในหมู่พนักงานออฟฟิศที่แวะมาจิบกาแฟและทานอาหารเช้าก่อนเริ่มวันทำงาน เมนูส่วนใหญ่จะเป็นแซนด์วิชต่างๆ เช่น แซนด์วิชไข่ แซนด์วิชแฮมรมควัน นอกจากนี้ยังมีแพนเค้ก ฮ็อตด็อกด้วย ราคาเฉลี่ยจานละประมาณ 700 – 800 เยน เท่านั้น แถมยังเสิร์ฟกาแฟแบบรีฟีลด้วย
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/US49SXp87tJ5izpF7
& ISLAND

อีกหนึ่งร้านดังที่บรรยากาศดีจนอยากนั่งนานๆ คือ & ISLAND นอกจากจะมีระเบียงให้นั่งรับลม ยังมองเห็นวิวหอประชุมกลางเมืองโอซาก้าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแบบพอดีเป๊ะ เหมาะกับการมานั่งพักเท้า เติมคาเฟอีน หรือจะหยิบโน้ตบุ๊กมานั่งทำงานก็สะดวก เพราะมีปลั๊กไฟและ Wi-Fi ให้ครบ
ส่วนเมนูก็ไม่ธรรมดา เพราะนอกจากกาแฟแล้ว ยังมีอาหารให้เลือกมากมาย ในช่วงกลางวันจะเสิร์ฟเป็นแซนด์วิช และข้าวหน้าต่างๆ เช่น แซนด์วิชเนื้ออบ แซนด์วิชเบคอนบลูชีส แซนด์วิชปลาซาบะรมควัน ข้าวหน้าหมูอบหรือเนื้ออบ ส่วนมื้อเย็นก็จะมีเมนูที่จัดเต็มขึ้นอย่าง สเต๊กเนื้อ เบอร์เกอร์ หอยเชลล์ผัดเนย และกับแกล้มต่างๆ ให้กินคู่กับไวน์
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/YXRrhHUh9b58ExXG7
NORTHSHORE

ร้าน NORTHSHORE ตั้งอยู่ห่างจากสถานี Kitahama แค่ประมาณ 100 เมตร เหมาะกับสายหวาน และสายคอนเทนต์ เพราะทุกจานจัดมาแบบสวยละมุน ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็ออกมาดูดี แทบไม่ต้องพึ่งฟิลเตอร์ ที่สำคัญคือไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่รสชาติก็อร่อยด้วย
เมนูเด็ดที่มาก็ต้องสั่งคือ Caramel Banana Pancake แพนเค้กเนื้อนุ่มที่เสิร์ฟมาพร้อมไอศกรีม ราดซอสคาราเมลฉ่ำๆ โรยถั่วกรุบกรอบ ส่วนสายเฮลตี้แนะนำ Acai Bowl ที่อัดแน่นด้วยผลไม้สดหลายชนิด ท็อปด้วยกราโนล่าเมเปิ้ลโฮมเมด อร่อยเคี้ยวเพลินทุกคำ อีกหนึ่งเมนูที่ดูจะธรรมดาแต่กระแสดีสุดๆ คือ Choco Berry สตรอว์เบอร์รีลูกโตๆ ราดช็อกโกแลตแบบจัดเต็ม ใครอยากกินเมนูนี้แนะนำให้มาเร็วหน่อย เพราะขายดีมาก หมดตั้งแต่บ่ายเลย
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Z6Yki1NRpYzjWiQu5
Kitahama Retro

Kitahama Retro คือคาเฟ่สไตล์อังกฤษที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับตลาดหลักทรัพย์โอซาก้า ตัวอาคาร เป็นตึกเก่าสุดคลาสสิกที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1912 เพื่อใช้เป็นที่ประชุมของโบรกเกอร์ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นคาเฟ่ในปี 1997 ภายในแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นโซนขายขนมและของกระจุกกระจิก ส่วนชั้นบนเป็นคาเฟ่บรรยากาศอบอุ่น ที่เสิร์ฟทั้งสโคน เค้ก ชา กาแฟ แซนด์วิช และชุด Afternoon Tea เต็มรูปแบบ จะสั่งเป็นเซตหรือสั่งแยกก็ได้ตามใจชอบ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง จะมองเห็นกุหลาบในสวน Nakanoshima ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ Tosabori ด้วย
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/MxnzynvsqirhsjPo9
Sandwich Parlour 47

Sandwich Parlour 47 เป็นคาเฟ่เล็กๆ บรรยากาศอบอุ่น ที่มีระเบียงน่านั่ง มองออกไปเห็นสวน Nakanoshima ได้เหมือนกัน ร้านนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 2021 เสิร์ฟแซนด์วิชสไตล์ญี่ปุ่นที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่จากทั่วประเทศ ทุกเมนูจะถูกปรุงโดยทีมเชฟจากร้าน “OUI” ซึ่งเป็นร้านอาหารอิตาเลียนยอดนิยมในย่าน Umeda – Kitashinchi สามารถนั่งทานในร้านหรือซื้อกลับบ้านก็ได้
จุดเด่นของร้านคือ การนำขนมปังไปย่างบนกระทะร้อนๆ จนกรอบนอกนุ่มใน ใส่ไส้มาเต็มปากเต็มคำ ราคาอยู่ที่จานละ 1,000 – 1,500 เยน เมื่อเทียบกับคุณภาพและรสชาติแล้วถือว่าคุ้มมาก โดยเมนูจะหมุนเวียนกัน 5 แบบต่อสัปดาห์ กลับไปซ้ำทีไรจึงได้ลองเมนูใหม่ๆ ตลอด ไม่มีเบื่อเลย
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/9rznB5Dz51FQZmWH7
Moto Coffee

ถัดมาที่ Moto Coffee เป็นคาเฟ่สไตล์อิตาเลียนที่ตั้งอยู่เชิงสะพาน Naniwabashi ตัวร้านมีทั้งหมด 3 ชั้น ตกแต่งเรียบง่ายสไตล์มินิมอลในโทนสีขาว น้ำตาล ดูอบอุ่น สบายตา ใครอยากนั่งรับลมชมวิวริมน้ำ ก็มีที่นั่งด้านนอกไว้รองรับ ส่วนชั้น 2 และ 3 ก็มีกระจกบานใหญ่ ที่มองออกไปเห็นวิวแม่น้ำได้เหมือนกัน
กาแฟของที่นี่ใช้เมล็ดกาแฟ Specialty ที่คั่วเองทั้งหมด มีให้เลือก 4 แบบ ตั้งแต่คั่วอ่อนไปจนถึงคั่วเข้มมาก ส่วนเมนูของหวานก็จัดเต็มไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเค้กโฮมเมดที่คัดสรรวัตถุดิบอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ชีสเค้ก ช็อกโกแลตกาโตว์ หรือขนมปังต่างๆ เช่น บัตเตอร์โทสต์ พิซซ่าโทสต์ เบเกิล และ Croque Monsieur ทานเสร็จแล้วแนะนำให้ข้ามสะพานไปอีกฝั่ง มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เพียบ !
เวลาเปิด – ปิด : 11:00 – 18:00 น.
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/5VuRww6LnnqkPjFL9
Mount Kitahama

Mount Kitahama เป็นคาเฟ่ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2017 เดิมทีทางร้านไม่ได้ตั้งใจจะเปิดร้านกาแฟด้วยซ้ำ เพียงแค่อยากสร้างพื้นที่ดีๆ ให้ทุกคนมานั่งพักผ่อน ใช้เวลาเงียบๆ อย่างสบายใจ แต่กลายเป็นว่าคนที่แวะมาก็ตกหลุมรักทั้งบรรยากาศและกาแฟไปพร้อมกัน ภายในมีพื้นที่กว้างขวาง และยังมีให้เลือกหลายโซน จะถือหนังสือมานั่งอ่านคนเดียว หรือมากับเพื่อนก็ได้หมด
เมนูที่นี่มีให้เลือกเยอะมาก ทั้งเครื่องดื่มและเบเกอรี่หน้าตาน่าทาน แถมรสชาติก็ดีงามทุกอย่างเลย โดยเฉพาะพวกมัฟฟินที่มีให้เลือกหลายรส ทั้งบลูเบอร์รี ชีส เอิร์ลเกรย์ นอกจากนี้ยังมีเมนูแครนเบอร์รีชีสเค้ก และช็อกโกแลตเดนิชที่เสิร์ฟมาแบบอุ่นๆ กินกับกาแฟคือฟินมาก
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/K8q2qfhF917Dx2Fs7
World Tea Labo

World Tea Labo เป็นคาเฟ่ที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อต้นปี 2024 อยู่ห่างจากสถานี Yodoyabashi แค่ 1 นาที ตัวร้านตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัย ตกแต่งในโทนสีเทา ดำ และไม้ธรรมชาติ ให้บรรยากาศที่สบายตาแต่แฝงความเท่ไว้อย่างลงตัว
ที่นี่เขาคัดสรรเครื่องดื่มจากทั่วโลกมาไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นกาแฟสายพันธุ์เยี่ยมจากเอธิโอเปีย หรือชาหลากชนิด ทั้งชาจีน ชาญี่ปุ่น และชาตะวันตก เช่น ชาอู่หลงดำ ชาเอิร์ลเกรย์ และมัทฉะอุจิจากเกียวโต ใครเป็นคอชาห้ามพลาดเลย ! ส่วนเมนูของหวานจะขายเป็นเซตให้เลือกจับคู่เอง เช่น ของหวาน 1 อย่างกับเครื่องดื่ม 2 แก้ว ราคา 1,500 เยน หรือเลือกของหวาน 3 อย่างกับเครื่องดื่ม 2 แก้ว ราคา 2,200 เยน จัดมาสวยน่าทานมากๆ
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/mt6BZakLz2bVYXGP6
Embankment Coffee

ปิดท้ายกันที่ Embankment Coffee ที่รีโนเวทบ้านไม้ญี่ปุ่นโบราณปี 1912 ให้กลายเป็นคาเฟ่ โดยที่ยังคงหลังคากระเบื้องแบบดั้งเดิมเอาไว้ ท่ามกลางอาคารสูงทันสมัยที่ล้อมรอบ ร้านนี้เหมาะสำหรับคอกาแฟ เพราะมีเมล็ดให้เลือกเยอะเป็นสิบชนิด ทั้งสำหรับชงแบบดริปและเอสเพรสโซ โดยทางร้านจะเลือกใช้แต่เมล็ดกาแฟ Single Origin ที่สดใหม่และนำมาคั่วเอง เพื่อดึงเอารสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของเมล็ดกาแฟสายพันธุ์นั้นๆ ออกมาให้ได้มากที่สุด ส่วนขนมหลักๆ จะมี 3 เมนูคือ Cinnamon Cheese Cake, Linzer Tarte, Banana Cake แต่บางช่วงก็มีเมนูพิเศษเพิ่มมาด้วย