ฮอกไกโด ใน ฤดูร้อน เสน่ห์ธรรมชาติที่สดใสเหนือเกาะญี่ปุ่น

เมื่อพูดถึง ฤดูร้อน ในญี่ปุ่น หลายคนอาจนึกถึงความร้อนอบอ้าว ความชื้นสูง และความวุ่นวายในเมืองใหญ่ แต่ที่ ฮอกไกโด ฤดูร้อนกลับมอบประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยอุณหภูมิที่เย็นสบายแม้ในช่วงกลางวัน ท้องฟ้าสดใสไร้เมฆปกคลุม และธรรมชาติที่ผลิบานอย่างเต็มที่ ทำให้ฮอกไกโดกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการหลีกหนีจากความร้อน และเปิดรับความสดชื่นจากธรรมชาติ

อุณหภูมิในฤดูร้อนของฮอกไกโดอยู่ในช่วงประมาณ 20–26 องศาเซลเซียส ซึ่งเหมาะแก่การทำกิจกรรมกลางแจ้งแบบไม่เหนื่อยล้า ต่างจากภูมิภาคอื่นที่มักร้อนอบอ้าว การได้สูดอากาศบริสุทธิ์และลมเย็นในพื้นที่ธรรมชาติอันกว้างใหญ่ช่วยเพิ่มพลังชีวิต และทำให้การเดินทางเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย นักท่องเที่ยวสามารถเลือกพักในเมืองหลักอย่างซัปโปโร หรือออกไปสำรวจพื้นที่ชนบทที่อุดมสมบูรณ์อย่างบิเอะ ฟุราโนะ หรืออาซาฮิคาวะ

ช่วงฤดูร้อนของฮอกไกโดเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงปลายเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ธรรมชาติบนเกาะแห่งนี้งดงามที่สุด ทุ่งหญ้าเขียวขจี ป่าไม้หนาแน่น และดอกไม้หลากสีบานสะพรั่ง นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้ง เทศกาลท้องถิ่น และอาหารสดใหม่ที่มีเฉพาะในฤดูนี้เท่านั้น

ฮอกไกโดยังเป็นจุดหมายยอดนิยมของช่างภาพและผู้รักธรรมชาติ เพราะแสงในฤดูร้อนของที่นี่นุ่มนวลเหมาะกับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ และสีเขียวของภูเขา ดอกไม้ และท้องฟ้าที่สดใส ทำให้การเก็บภาพความประทับใจกลายเป็นเรื่องง่าย อีกทั้งการเดินทางในช่วงนี้ยังสะดวก ทั้งระบบขนส่งสาธารณะ รถไฟท่องเที่ยว และบริการรถเช่า ที่ช่วยให้นักเดินทางวางแผนได้อย่างอิสระ

ทุ่งดอกไม้บานสะพรั่ง: เสน่ห์ ฤดูร้อน ของ ฮอกไกโด

หนึ่งในภาพจำที่สวยงามที่สุดของ ฮอกไกโด ใน ฤดูร้อน คือ “ทุ่งดอกไม้หลากสี” ที่ผลิบานอย่างพร้อมเพรียงตามแนวเนินเขาและที่ราบกว้างใหญ่ โดยเฉพาะที่เมืองฟุราโนะ (Furano) และบิเอะ (Biei) ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของฤดูร้อนบนเกาะเหนือแห่งนี้ ความกว้างใหญ่ของพื้นที่ผสานกับสีสันของดอกไม้ เช่น ลาเวนเดอร์ สีม่วงอ่อน ดอกป๊อปปี้ สีแดงสด และดอกบลูซาลเวียที่มีเฉดฟ้าเข้ม ล้วนสร้างภาพที่สะกดสายตาและชวนให้หยุดนิ่งอยู่กับความงามตรงหน้า

ทุ่งลาเวนเดอร์ที่ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) เป็นหนึ่งในจุดชมดอกไม้ที่ได้รับความนิยมสูงสุด นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมทิวทัศน์พร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากดอกลาเวนเดอร์ที่ลอยมากับลมเย็น หรือถ่ายภาพท่ามกลางแปลงดอกไม้ที่เรียงเป็นลายเส้นหลากสีได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุก เช่น การทำซอฟต์ครีมลาเวนเดอร์ การอบน้ำมันหอมระเหย หรือเลือกซื้อของฝากแฮนด์เมดจากดอกไม้แห้ง

ในเมืองบิเอะ นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับ “Patchwork Road” และ “Panorama Road” ซึ่งเป็นเส้นทางที่เรียงรายด้วยทุ่งดอกไม้หลากสี บางช่วงสามารถมองเห็นเทือกเขาโทคาจิอยู่ไกล ๆ ทำให้ทัศนียภาพของฮอกไกโดในหน้าร้อนยิ่งใหญ่ราวภาพวาด

การเดินชมทุ่งดอกไม้ไม่เพียงแค่ให้ความสวยงามทางสายตา แต่ยังสร้างความสงบทางใจ และช่วยเติมเต็มความรู้สึกว่าได้หลุดพ้นจากความวุ่นวายของชีวิตในเมืองใหญ่ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ทำให้ฤดูร้อนของฮอกไกโดแตกต่าง และน่าจดจำอย่างแท้จริง

ถ้ำน้ำแข็งกลาง ฤดูร้อน: ประสบการณ์สุดสดชื่นที่ ฮอกไกโด

ใครที่คิดว่าฮอกไกโดในฤดูร้อนจะมีเพียงแค่ทุ่งดอกไม้และอากาศเย็นสบายอาจต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะหนึ่งในประสบการณ์แปลกใหม่ที่น่าตื่นเต้นคือ “การเข้าไปอยู่ในอุณหภูมิติดลบกลางหน้าร้อน” ผ่านการเที่ยวชมถ้ำน้ำแข็ง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สร้างความประทับใจได้ทั้งสำหรับคนที่ไม่เคยเห็นหิมะมาก่อน และผู้ที่อยากสัมผัสโลกของน้ำแข็งในแบบจำลองที่สมจริง

สถานที่ที่โด่งดังที่สุดคือ Kamikawa Ice Pavilion ในเมืองคามิคาวะ จังหวัดฮอกไกโด ที่นี่เป็นอาคารที่จำลองสภาพแวดล้อมแบบฤดูหนาวโดยควบคุมอุณหภูมิไว้ประมาณ -20 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี เมื่อเดินเข้าสู่ภายใน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความเย็นที่กระทบผิวทันที พร้อมพบกับอุโมงค์น้ำแข็งที่ประดับแสงไฟอย่างสวยงาม รวมถึงงานประติมากรรมน้ำแข็งรูปแบบต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล

ภายในพาวิลเลียนยังมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ลอง เช่น:

• ทดสอบฟองสบู่ในอากาศติดลบ ที่จะกลายเป็นน้ำแข็งในไม่กี่วินาที
• การทดลองเสื้อกันหนาวสุดหนา สำหรับเดินในอุโมงค์เย็นจัด
• ห้องน้ำแข็งเรืองแสง ที่ใช้เทคโนโลยีแสง UV เพื่อสร้างบรรยากาศเหนือจริง

จุดเด่นของที่นี่คือ การที่คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์แบบฤดูหนาวได้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางหน้าร้อนเดือนกรกฎาคมก็ตาม เด็ก ๆ มักชื่นชอบเพราะได้สนุกกับการเล่นในพื้นที่น้ำแข็งขนาดเล็ก ส่วนผู้ใหญ่ก็เพลิดเพลินกับการถ่ายภาพและชมงานศิลปะน้ำแข็งที่ดูราวกับหลุดเข้าไปในโลกแฟนตาซี

ถ้ำน้ำแข็งจึงไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวแปลกใหม่ แต่ยังเป็นสถานที่คลายร้อนอย่างแท้จริงที่ให้ทั้งความเย็น ความสนุก และความประทับใจที่แตกต่างจากกิจกรรมฤดูร้อนทั่วไปในฮอกไกโด

สัมผัสธรรมชาติและกิจกรรมกลางแจ้ง

ฤดูร้อนในฮอกไกโดถือเป็นช่วงเวลาที่ธรรมชาติงดงามที่สุด และเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่หลงใหลในการใช้เวลาท่ามกลางบรรยากาศบริสุทธิ์ ภูเขา ป่าไม้ และลำธารใส ๆ ทำให้กิจกรรมกลางแจ้งกลายเป็นไฮไลต์ที่ห้ามพลาดของฤดูกาลนี้

หนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมคือ “การเดินป่า” โดยเฉพาะเส้นทางในอุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง (Daisetsuzan National Park) ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเส้นทางได้ตามระดับความยาก ตั้งแต่การเดินสั้น ๆ ชมวิว ไปจนถึงการปีนขึ้นภูเขาไฟอย่าง Mount Asahidake ที่ให้ทัศนียภาพแบบ 360 องศา

สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสน้ำใสในหน้าร้อน การพายเรือแคนูหรือคายัคในทะเลสาบชิโคสึ (Lake Shikotsu) และทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) คืออีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยม น้ำของทะเลสาบในฮอกไกโดมีความใสเป็นพิเศษ และล้อมรอบด้วยภูเขาเขียวขจี ให้ความรู้สึกสงบและปลอดโปร่งอย่างไม่น่าเชื่อ

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น:

• ขี่จักรยานชมวิว บนถนนชนบทในเมืองบิเอะ ผ่านทุ่งหญ้า ทุ่งดอกไม้ และหมู่บ้านเล็ก ๆ
• แช่ออนเซ็นกลางแจ้ง หลังจากกิจกรรมหนัก ๆ โดยเฉพาะในแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ เช่น โนโบริเบ็ทสึ หรือโซอุนเคียว
• การตั้งแคมป์หรือปิกนิก ในพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติ พร้อมชมพระอาทิตย์ตกที่งดงามอย่างเงียบสงบ

สำหรับครอบครัว กิจกรรมกลางแจ้งยังมีรูปแบบที่เข้าถึงง่าย เช่น ฟาร์มทัวร์ เดินชมสวนผลไม้ และทดลองเก็บผลผลิตสด ๆ อย่างข้าวโพดหวานหรือเชอร์รี่ ซึ่งช่วยให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้วิถีชีวิตเกษตรกรรมอย่างสนุกสนาน

การใช้เวลาอยู่กลางแจ้งในฮอกไกโดช่วงฤดูร้อนไม่เพียงแต่ให้ความสุขทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นการรีเฟรชจิตใจ ปลดปล่อยความเครียด และสัมผัสกับพลังของธรรมชาติอย่างแท้จริง

เทศกาล ฤดูร้อน ใน ฮอกไกโด

นอกจากธรรมชาติที่งดงามและอากาศที่เย็นสบายแล้ว ฤดูร้อนของฮอกไกโดยังเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยสีสันของวัฒนธรรมท้องถิ่น เทศกาลต่าง ๆ จัดขึ้นทั่วทั้งเกาะเพื่อเฉลิมฉลองฤดูกาลแห่งชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเต้นรำแบบดั้งเดิม ขบวนแห่พื้นเมือง ดอกไม้ไฟ หรือแม้แต่เบียร์การ์เด้นกลางแจ้ง ฮอกไกโดในหน้าร้อนจึงไม่เคยเงียบเหงา และเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในการสัมผัสความมีชีวิตชีวาของคนญี่ปุ่น

เทศกาล Sapporo Summer Festival

เทศกาลหน้าร้อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองซัปโปโร จัดขึ้นนานถึงหนึ่งเดือนในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ไฮไลต์สำคัญคือเบียร์การ์เด้นกลางแจ้งขนาดมหึมา ณ Odori Park ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองเบียร์ท้องถิ่นอย่าง Sapporo Beer ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมบนเวที การตกแต่งตามธีม และร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นที่เปิดให้บริการทุกค่ำคืน

เทศกาล Lake Toya Fireworks Festival

จัดขึ้นที่ทะเลสาบโทยะ ทุกคืนตลอดช่วงฤดูร้อน ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมถึงปลายตุลาคม แต่ช่วงพีคอยู่ในฤดูร้อน นักท่องเที่ยวสามารถนั่งชมดอกไม้ไฟที่จุดขึ้นเหนือน้ำ ซึ่งสะท้อนกับผิวน้ำอย่างงดงาม บรรยากาศริมทะเลสาบเงียบสงบ เหมาะแก่การเดินเล่นชมวิวตอนค่ำและปิดท้ายวันด้วยภาพความประทับใจที่น่าจดจำ

เทศกาล YOSAKOI Soran Matsuri

งานเต้นรำสไตล์โมเดิร์นที่จัดขึ้นในเดือนมิถุนายน ณ ใจกลางเมืองซัปโปโร เป็นการผสมผสานระหว่างดนตรีพื้นเมืองแบบโซรันและจังหวะทันสมัย นักเต้นจากทั่วประเทศญี่ปุ่นเดินทางมาร่วมแสดงในขบวนพาเหรดหลากสี ผู้ชมสามารถร่วมเต้นหรือเชียร์ได้อย่างสนุกสนาน ถือเป็นเทศกาลที่แสดงถึงพลัง ความสดใส และเอกลักษณ์แบบญี่ปุ่นร่วมสมัยได้เป็นอย่างดี

เทศกาล Otaru Ushio Festival

จัดขึ้นที่เมืองท่าขนาดเล็กอย่างโอตารุในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม โดยมีกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น ขบวนแห่แบบดั้งเดิม การเต้นระบำในชุดยูกาตะ และดอกไม้ไฟที่จุดขึ้นริมอ่าว บรรยากาศของโอตารุในช่วงเทศกาลจะอบอวลด้วยกลิ่นอายย้อนยุคจากสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกผสมญี่ปุ่น ทำให้เทศกาลนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบวัฒนธรรมและความโรแมนติก

เทศกาลต่าง ๆ ในฮอกไกโดจึงไม่เพียงเป็นโอกาสสำหรับความสนุกสนานเท่านั้น แต่ยังเป็นหน้าต่างที่เปิดให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้วัฒนธรรม สัมผัสวิถีชีวิต และเชื่อมต่อกับผู้คนในท้องถิ่นอย่างแท้จริง

ฮอกไกโดกับอาหารฤดูร้อนที่สดใหม่

ฤดูร้อนในฮอกไกโดไม่เพียงแต่มีทิวทัศน์สวยงามและอากาศเย็นสบายเท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่วัตถุดิบทางการเกษตรและประมงเข้าสู่ช่วงที่ดีที่สุดของปี ฮอกไกโดขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของดิน น้ำ และภูมิประเทศ ทำให้ผลผลิตจากที่นี่มีคุณภาพเยี่ยม สดใหม่ และมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์

หนึ่งในของขึ้นชื่อของฤดูร้อนคือ “เมล่อนยูบาริ” (Yubari Melon) ที่ทั้งหวานฉ่ำ กลิ่นหอม และเนื้อนุ่มละลายในปาก เป็นผลไม้พรีเมียมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด นอกจากนี้ยังมีข้าวโพดหวานสดจากฟาร์ม ซึ่งสามารถทานสดได้ทันทีโดยไม่ต้องปรุง และมะเขือเทศพันธุ์พิเศษที่มีรสชาติเข้มข้น

อาหารทะเลก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของฮอกไกโด โดยเฉพาะ “อูนิ” หรือไข่หอยเม่นที่มีรสหวานมัน และ “หอยเชลล์ฮอกไกโด” ที่เนื้อแน่นและหอมเป็นพิเศษ ปลาแซลมอน ปลาฮอกเกะ และปลาหมึกก็สามารถหาทานได้สด ๆ จากตลาดท้องถิ่นที่กระจายอยู่ทั่วเกาะ เช่น:

• ตลาดปลาโจไก (Hakodate Morning Market) – ศูนย์รวมอาหารทะเลสด พร้อมเมนูเด็ดอย่างข้าวหน้าทะเล (kaisendon)
• ตลาดนิโจ (Nijo Market) ในซัปโปโร – แหล่งรวมของทะเลสด ผักผลไม้ตามฤดูกาล และอาหารท้องถิ่นแบบพร้อมทาน

กิจกรรมเชิงเกษตรก็ได้รับความนิยมในฤดูร้อน เช่น การเข้าเยี่ยมชมฟาร์มท้องถิ่น เก็บเชอร์รี่และบลูเบอร์รี่จากสวนสด ๆ หรือทดลองทำผลิตภัณฑ์จากนมฮอกไกโด เช่น ไอศกรีม ชีส หรือโยเกิร์ต ที่ทำจากนมวัวคุณภาพสูงที่เลี้ยงในพื้นที่ภูเขาธรรมชาติ

ฤดูร้อนจึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการลิ้มรสความสดของฮอกไกโด ทั้งจากฟาร์ม ทะเล และชุมชนท้องถิ่น นักท่องเที่ยวไม่เพียงได้อิ่มท้อง แต่ยังได้เรียนรู้เรื่องราวของวัตถุดิบ และเข้าใจวิถีชีวิตชาวฮอกไกโดในอีกแง่มุมหนึ่งที่เต็มไปด้วยเสน่ห์