ค้นหาคูปองและบทความ

Close
สมัครสมาชิก

คู่มือ ส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทย 2025 วิธีส่ง พิกัด ราคา ระยะเวลา

กรุณาเข้าสู่ระบบ

คู่มือ ส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทย 2025 วิธีส่ง พิกัด ราคา ระยะเวลา

ช้อปปิ้งหนักขนกลับไม่ไหวทำยังไงดี ส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทย คุ้มกว่าไหม อยู่ญี่ปุ่นนานของเยอะกว่าตอนมาทำยังไง ส่งของแบบไหนเซฟทั้งของ เซฟทั้งค่าส่ง การส่งของกลับไทยมีวิธีส่งแบบไหนบ้าง พิกัดที่ไหนที่ส่งของได้แบบสบายใจ สบายกระเป๋า ขั้นตอนในการดำเนินเรื่องเริ่มอย่างไร มาเก็บข้อมูลกันได้แล้วที่บทความนี้


วิธีส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทยมีอะไรบ้าง?

กรณีที่ต้องส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทยมีกรณีใหญ่ ๆ อยู่ 3 กรณี คือ ช้อปปิ้งเพลินจนไม่มีที่ใส่ของ อยากเอาของนำเข้ามาขายที่ไทย และการอยู่ญี่ปุ่นนานพอจะย้ายกลับของมีเพียบซะงั้น วันนี้เราเลยเอาวิธีหลัก ๆ ในการส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทยมาบอกกัน เริ่มจาก

Japan Post ระหว่างประเทศ

Japan Post

เป็นการส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทยด้วยการบริการของไปรษณีย์ญี่ปุ่นหรือ Japan Post แบ่งออกได้เป็น 4 รูปแบบ คือ

1. EMS (Express Mail Service)

การส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทยด้วยวิธีนี้เป็นวิธีที่เร็วทันใจที่สุด ไม่เพียงแค่รวดเร็วทันใจแต่ยังสามารถเช็กสถานะของพัสดุได้ตลอดเวลา เรียกว่าการบริการแบบ Door-to-Door ที่มีวงเงินประกัน เหมาะสำหรับเอกสารสำคัญ พัสดุด่วน ของที่ไม่ได้มีมูลค่าสูงมาก ใช้เวลาประมาณ 3 – 7 วันทำการ เป็นวิธีการส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทยที่มีราคาสูงที่สุด ราคาโดยประมาณ 900 บาท/กิโลกรัม

2. Airmail 

ส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทยด้วย Airmail ใช้เครื่องบินส่งในการจัดส่งพัสดุ จะมีความรวดเร็วรองลงมาจาก EMS สามารถเลือกได้ว่าเป็นวัสดุชิ้นเล็กหรือใหญ่ เหมาะสำหรับ เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว ของฝากทั่ว ๆ ไป ใช้เวลาในการส่งประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ราคาให้การจัดส่งไม่สูงมากนัก อยู่ที่ประมาณ 700 บาท/กิโลกรัม

3. SAL (Surface Air Lifted)

การบริการของ Japan Post ที่เรียกว่า SAL ส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทยที่ประหยัดค่าขนส่งคือการขนส่งทางอากาศโดยที่ใช้ที่ว่างของเครื่องบินโดยสารในการขนส่ง ระยะเวลาในการจัดส่งประมาณ 2 สัปดาห์ – 1 เดือน ราคาประหยัดแต่ยังไม่ใช่วิธีที่ถูกที่สุด ราคาประมาณ 600 บาท/กิโลกรัม

4. Surface Mail 

มาถึงการส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทยวิธีสุดท้ายคือการส่งทางเรือ เป็นวิธีที่ถูกที่สุดในการขนส่งของ Japan Post และเป็นวิธีที่ล่าช้ามากที่สุด เหมาะสำหรับพัสดุที่ไม่เน่าเสีย ไม่ต้องใช้ความเร็วในการขนส่ง เพราะการส่งรูปแบบนี้ใช้เวลา 1 – 3 เดือนเลยทีเดียว ราคาถูกมากอยู่ที่ ประมาณ 250 บาท/กิโลกรัม

วิธีส่งกับ Japan Post

1. เตรียมของและหีบห่อให้เรียบร้อย (สามารถซื้อกล่องและวัสดุกันกระแทกได้ที่ไปรษณีย์)

2. กรอกใบแจ้งรายการสินค้า (Customs Declaration Form) พร้อมรายละเอียดสินค้าและมูลค่า (สำคัญมากสำหรับการพิจารณาภาษี)

3. ชำระเงินและรับใบเสร็จ/Tracking Number

ข้อควรระวังในการจัดส่งกับ Japan Post

– แบบ EMS สามารถส่งได้มากที่สุด 30 กิโลกรัม

– การขนส่งแบบ Airmail ส่งได้ไม่เกิน 2 กิโลกรัม ขนาดกล่องสูงยาวรวมกันไม่เกิน 90 เซนติเมตร 

– ทางเรือส่งของได้ปริมาณเยอะที่สุด แต่ก็ต้องรอนานที่สุดเช่นเดียวกัน

NOTE : สามารถศึกษาวิธีการจัดส่งแบบ Japan Post ด้วยตัวเองได้ที่ www.post.japanpost.jp/int/howto/index_en.html

บริษัทขนส่งเอกชน (Courier Services)

Courier Services

หากมีงบประมาณมากขึ้นอีกนิด และต้องการส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทยให้ไวขึ้น การส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทยด้วยบริษัทเอกชนเป็นทางเลือกที่ดี บริษัทขนส่งระหว่างประเทศที่เปิดบริการในญี่ปุ่น เช่น DHL, FedEx, UPS  เป็นตัวเลือกที่รวดเร็วและมีบริการครอบคลุม มักมีบริการรับของถึงที่ (Pickup Service) และระบบติดตามสถานะที่แม่นยำ มีความเร็วกว่าการจัดส่งกับ Japan Post EMS การจัดส่งด้วยบริษัทขนส่งเอกชนเหล่านี้มักไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเอกสารและขั้นตอนของศุลกากร แต่มีวงเงินประกันภัยที่สูง และตามมาด้วยค่าบริการที่สูงด้วย วิธีส่งกับบริษัทขนส่งเอกชนก็ง่ายแสนง่ายเพียงแค่เดินทางไปแพ็กของ ณ จุดบริการของบริษัทขนส่งนั้น ๆ กรอกเอกสารที่จำเป็น ชำระเงินและเก็บเลขพัสดุเอาไว้ใช้ในการตรวจสอบ ราคาการขนส่งทางอากาศอยู่ที่ประมาณ 900 บาท/กิโลกรัม และทางเรือประมาณ 150 บาท/กิโลกรัม

บริษัท Freight Forwarder (Shipping)

Shipping

หากมีของที่ต้องจัดส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทยปริมาณมาก ๆ น้ำหนักมาก เป็นการส่งสินค้าหรือการย้ายบ้านการขนส่งกับบริษัท Freight Forwarder หรือ Shipping เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ทั้งทางเรือ (FCL/LCL) หรือทางอากาศ (Cargo) การขนส่งรูปแบบนี้จะมีการบริการที่ครบวงจรตั้งแต่ขั้นตอนการแพ็ก เอกสารที่ต้องจัดเตรียมสำหรับกรมศุลกากร การขนส่ง จนถึงการส่งมอบถึงปลายทาง ราคาจะคุ้มค่ามากหากจัดส่งเป็นปริมาณมาก ๆ แต่การขนส่งรูปแบบนี้มักต้องประสานงานหลายขั้นตอน ใช้เวลาส่งล่าช้ากว่าการจัดส่งทางเรือ หากต้องการจัดส่งรูปแบบนี้ต้องค้นหาบริษัท Freight Forwarder ที่มีสาขาในญี่ปุ่นและไทย และติดต่อเพื่อขอใบเสนอราคาและปรึกษาขั้นตอน

ข้อควรระวังในการส่งของ

ส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทยมีข้อควรระวังที่ต้องจดจำไว้คือ 

– ของใช้ส่วนตัว หากมีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาทไทย (CIF: Cost, Insurance, Freight) มักจะได้รับการยกเว้นภาษี

– ของที่มีมูลค่าเกิน 1,500 บาท จะต้องเสียภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) อัตราภาษีนำเข้าจะขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า (พิกัดศุลกากร) มีตั้งแต่ 0% ไปจนถึงหลายสิบเปอร์เซ็นต์ มีการประเมินราคาโดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรเรียกเก็บภาษี

– ของที่ต้องห้าม คือ อาวุธ, สารเสพติด, สื่อลามกอนาจาร, ของลอกเลียนแบบ ของจำกัด คือ อาหารสด, พืช, สัตว์, ยา, เครื่องสำอางบางชนิด ต้องมีใบอนุญาตนำเข้า

คำแนะนำ

–  ในการส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทยแต่ละครั้งต้องระบุรายละเอียดสินค้าให้ชัดเจน เป็นจริง และถูกต้องบนใบแจ้งรายการสินค้า (Customs Declaration Form)

– แนบใบเสร็จ (หากมี) เพื่อประกอบการพิจารณาของเจ้าหน้าที่

– ศึกษาพิกัดอัตราภาษีให้ดี หากส่งของที่มีมูลค่าสูง ควรศึกษาพิกัดอัตราภาษีของสินค้าชนิดนั้น ๆ จากเว็บไซต์ของกรมศุลกากรไทย

– ทำความเข้าใจ Incoterms ให้ละเอียด หากส่งในเชิงธุรกิจ หรือผ่าน Freight Forwarder ควรทำความเข้าใจ Incoterms (International Commercial Terms) เพื่อกำหนดความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายอย่างชัดเจนถูกต้อง

ตารางเปรียบเทียบวิธีส่งของ

วิธีการส่งประเภทบริการความเร็วราคาโดยประมาณ (บาท/กก.)ข้อจำกัด/ข้อแนะนำเหมาะสำหรับ
Japan PostEMS (Express Mail Service)เร็วที่สุด (3-7 วันทำการ)900ส่งได้สูงสุด 30 กก., ตรวจสอบสถานะได้, มีวงเงินประกันเอกสารสำคัญ, พัสดุด่วน, ของมีมูลค่าปานกลาง
Airmailเร็วรองลงมา (1-2 สัปดาห์)700ส่งได้ไม่เกิน 2 กก., ขนาดกล่องสูงยาวรวมไม่เกิน 90 ซม.เสื้อผ้า, ของใช้ส่วนตัว, ของฝากทั่วไป
SAL (Surface Air Lifted)ปานกลาง (2 สัปดาห์ – 1 เดือน)600ประหยัดกว่า Airmail, ใช้ที่ว่างเครื่องบินโดยสารของที่ไม่รีบร้อน, ต้องการประหยัดค่าส่ง
Surface Mail (เรือ)ช้าที่สุด (1-3 เดือน)250ถูกที่สุด, ส่งของได้ปริมาณเยอะที่สุดพัสดุไม่เน่าเสีย, ของหนักมาก, ของย้ายบ้าน, หนังสือจำนวนมาก
บริษัทขนส่งเอกชน (เช่น DHL, FedEx, UPS)ทางอากาศ (Express)เร็วกว่า EMS ของ Japan Post900บริการ Door-to-Door, รับของถึงที่, จัดการศุลกากรดี, วงเงินประกันสูงของสำคัญ, เร่งด่วน, มีมูลค่าสูง
ทางเรือ (Economy)ช้า (ไม่ระบุระยะเวลาที่แน่นอน แต่เร็วกว่า Surface Mail ของ Japan Post)150เหมาะสำหรับของปริมาณมาก, ราคาประหยัดของปริมาณมาก, ย้ายบ้าน, ต้องการประหยัดงบ
บริษัท Freight Forwarderทางอากาศ (Cargo) / ทางเรือ (FCL/LCL)แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับบริการที่เลือกคุ้มค่าเมื่อส่งปริมาณมาก (ต้องขอใบเสนอราคา)บริการครบวงจร (แพ็กกิ้ง, ศุลกากร, ขนส่ง), ต้องประสานงานหลายขั้นตอนการส่งสินค้าเชิงพาณิชย์, ย้ายบ้าน, ของปริมาณมาก ๆ และน้ำหนักมาก


สรุป

ส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทยไม่ได้มีขั้นตอนยุ่งยากวุ่นวายอย่างที่คิด ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เข้ามาช่วยให้การดำเนินขั้นตอนในการจัดส่งง่ายดายมากขึ้น หากไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วช้อปปิ้งเพลิน ไม่สามารถเอากลับมาเองได้ ลองเลือกตัวเลือกที่แนะนำมานี้ดู ว่าแบบไหนที่จะเหมาะกับความต้องการที่สุด แต่ห้ามลืมเด็ดขาดว่าต้องกรอกรายละเอียดอย่างชัดเจน ศึกษาข้อห้ามหรือสอบถามพนักงานที่ดำเนินเรื่องจัดส่งให้ดี รวมทั้งเก็บเลขพัสดุเอาไว้เพื่อใช้ตรวจสอบด้วย

กดบันทึกคูปองและบทความไว้เพื่อทำให้การเดินทางไปญี่ปุ่นของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น!

ถ้ากดบันทึกคูปองหรือบทความที่ชอบเอาไว้ ก็จะสามารถค้นหาได้อย่างง่ายดายจาก "My Page" ในระหว่างการเดินทาง ลองใช้กันดูนะ!

สมัครสมาชิก

ロンタ

บันทึกแล้ว!