คู่มือ Tokyo Marathon 2026 สำหรับนักวิ่งมือใหม่และมือโปร

ทุกปีจะมีการจัดแข่งขันทดสอบความอึดที่เปิดโอกาสให้นักวิ่งมาราธอนทั่วโลกได้เข้าร่วมแข่งขัน สำหรับ Tokyo Marathon 2026 นี้จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2025 ถึงวันที่ 1 มีนาคม 2026 โดยที่มีวันวิ่งจริงคือวันที่ 1 มีนาคม 2026 ใครที่สนใจต้องอ่านบทความนี้เลย เอาคู่มือการเตรียมตัวมาบอกกัน ขั้นตอนการสมัครทำอย่างไร คลิกสมัครได้ที่ไหน การเดินทางไปอย่างไร เตรียมตัวแบบไหนถึงเข้าใกล้ชัยชนะ มาดูไปพร้อมกันเลย
Tokyo Marathon คืออะไร

หนึ่งในงานวิ่งมาราธอนที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น Tokyo Marathon เป็นหนึ่งใน 6 สนามวิ่งมาราธอนหลักของโลก (Six Stars Marathon) ร่วมกับ Boston, London, Berlin, Chicago และ New York City การได้เข้าร่วมและวิ่งจบครบทั้ง 6 สนาม ถือเป็นความสำเร็จอันสูงสุดของนักวิ่งมาราธอนหลาย ๆ คน ทำให้เป็นอีกสนามวิ่งมาราธอนที่ดึงดูดทั้งนักวิ่งชั้นนำระดับโลกและนักวิ่งทั่วไปจากทั่วโลกมารวมตัวกัน เส้นทางวิ่งโดยทั่วไป การแข่งขันจะเริ่มต้นที่อาคารศาลาว่าการกรุงโตเกียวในย่านชินจูกุ และสิ้นสุดที่สถานีโตเกียว หรือ Tokyo Big Sight (มีการปรับเปลี่ยนเส้นทางบ้างในแต่ละปี) นักวิ่งจะได้วิ่งผ่านย่านสำคัญและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ของโตเกียว เช่น นิฮงบาชิ, อาซากุสะ, กินซ่า, ชินางาวะ ทำให้เป็นเหมือนการท่องเที่ยวชมเมืองไปในตัว
ทุก ๆ ปีมีผู้สมัครเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก แต่มีจำนวนผู้เข้าร่วมที่จำกัด (ประมาณ 38,000 คน) ทำให้การได้สิทธิ์เข้าร่วมต้องผ่านการจับสลาก (Lottery) ที่มีอัตราการแข่งขันสูงมาก มีการแข่งขันสำหรับนักกีฬาวีลแชร์ทั้งชายและหญิงด้วย Tokyo Marathon มีโครงการวิ่งเพื่อการกุศลที่เริ่มขึ้นในปี 2011 โดยนักวิ่งสามารถระดมเงินบริจาคเพื่อองค์กรการกุศลต่าง ๆ และมีสิทธิ์ได้รับโควต้าเข้าร่วมการแข่งขันเป็นพิเศษ ไม่ใช่แค่งานวิ่ง แต่เป็นมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่และเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของกรุงโตเกียว ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมการวิ่งของญี่ปุ่น การจัดการงานระดับโลก และการส่งเสริมสุขภาพและสังคมไปพร้อมกัน
เส้นทางการวิ่ง Tokyo Marathon 2026

การสมัครและการได้เข้าร่วม (Entry Process)
อย่างที่บอกไปแล้วว่า Tokyo Marathon มีผู้สนใจจากทั่วโลกเข้าลงแข่งเยอะมาก ๆ จึงมีขั้นตอนในการคัดเลือก เป็นขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุด เพราะโควต้ามีจำกัดและมีการแข่งขันสูงมาก ๆ โดยการเข้าเลือกแบ่งออกเป็น
Lottery (การจับสลาก)
การจับฉลากคือช่องทางหลักสำหรับนักวิ่งทั่วไป หากเป็นนักวิ่งมือใหม่หรือนักวิ่งส่วนใหญ่ จะต้องลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมการจับสลาก ซึ่งอัตราการได้สิทธิ์ค่อนข้างต่ำ ประมาณ 10% เท่านั้น
– ช่วงเวลาสมัคร มักจะเปิดรับสมัครช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนสิงหาคมของปีก่อนหน้าการแข่งขัน Tokyo Marathon 2026 วันที่เปิดรับสมัครคือ 15 – 29 สิงหาคม 2025
– ประกาศผล มักจะประกาศผลช่วงปลายเดือนกันยายนหรือต้นเดือนตุลาคม
Charity Runner (นักวิ่งการกุศล)
เป็นอีกหนึ่งช่องทางเข้าร่วม Tokyo Marathon ที่น่าสนใจและมีโอกาสได้เข้าร่วมสูงกว่า คุณจะต้องบริจาคเงินจำนวนหนึ่ง ประมาณ 100,000 เยนขึ้นไปให้กับองค์กรการกุศลที่ร่วมโครงการ ปีที่แล้วยอดบริจาคอยู่ที่ 150,000 – 200,000 เยน ปี 2026 คาดว่า 200,000 เยนขึ้นไปมักจะเปิดรับช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคมของปีก่อนหน้า (ก่อนการจับสลากทั่วไป) ซึ่งปี 2026 คือ 24 มิ.ย. – 9 ก.ค. 2025
Semi-Elite / Elite Runner (นักวิ่งอีลีท/กึ่งอีลีท)
สำหรับนักวิ่งที่มีผลงานดีเลิศตามเกณฑ์เวลาที่กำหนดในมาราธอนอื่น ๆ เช่น ผู้ชายต้องต่ำกว่า 2:28:00 ชั่วโมง, ผู้หญิงต่ำกว่า 3:09:00 ชั่วโมง สำหรับ Tokyo Marathon 2026 จะเปิดรับสมัครการเข้าร่วมประเภทนี้ในวันที่ 1 – 14 ส.ค. 2025 คัดเลือกนักวิ่ง 50 คน (ชาย 25 + หญิง 25) ที่เวลาดีที่สุด ถ้าไม่ได้รับเลือก จะถูกส่งชื่อไปจับสลาก (Lotto) อัตโนมัติ
Tokyo Marathon One Race Entry (สำหรับ Six Star Finisher)
สำหรับนักวิ่งที่วิ่งจบ World Marathon Majors มาแล้ว 5 สนาม และต้องการจบสนามที่ 6 ที่โตเกียว แต่การเข้าร่วมแบบนี้มีโควต้าจำกัดและต้องลงทะเบียนก่อน
ท่องเที่ยวกับทัวร์ (Tour Package)
เอเจนซีท่องเที่ยวบางแห่งมีแพ็กเกจที่พักพร้อมโควต้าวิ่งให้ แต่ตามมาด้วยราคาทัวร์ที่สูงกว่าปกติมาก แม้จะมีราคาที่สูงแต่นักวิ่งทั่วโลกก็ยังสนใจ ยอมจ่ายแพงเพื่อซื้อแพ็กเกจนี้ เพราะไม่เพียงแต่ได้เข้าร่วมเท่านั้น ยังไม่ต้องยุ่งยากเรื่องที่พัก ตั๋วหรือการเดินทางอื่น ๆ เรียกได้ว่าสะดวกสบายสุด ๆ
วันรับป้ายหมายแลขประจำตัว (BIB) และงาน Expo
งาน Expo ของ Tokyo Marathon 2026 จัดที่ Tokyo Big Sight South Exhibition Halls วันที่ 26-28 กุมภาพันธ์ 2026 นักวิ่งต้องนำ passport ไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อรับบิบด้วยตนเองเท่านั้น
การเตรียมตัวก่อนลง Tokyo Marathon 2026 สนามจริง
ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือโปร การซ้อมอย่างมีวินัยคือกุญแจสู่ความสำเร็จ โดยที่การฝึกซ้อม (Training Plan) มีขั้นตอนดังนี้
1. ปรึกษาโค้ช/ผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะนักวิ่งมือใหม่ ควรมีโค้ชหรือผู้รู้ช่วยวางแผนการซ้อมที่เหมาะสมกับร่างกายและเป้าหมาย
– วางแผนการซ้อมล่วงหน้า (16-20 สัปดาห์)
– มือใหม่เน้นการสร้างฐานความอึด (Endurance) ค่อย ๆ เพิ่มระยะทางวิ่ง ฝึกวิ่ง Long Run และวิ่งในเพซที่หลากหลาย
– มือโปรเน้นการซ้อม Interval, Tempo Run, Hill Training และ Long Run ที่ความเข้มข้นสูงขึ้น เพื่อพัฒนาความเร็วและความอึด
2. วิ่งให้สม่ำเสมอตามแผนที่วางไว้ ไม่ขาดการซ้อมโดยไม่จำเป็น
3. การพักผ่อนและการฟื้นตัวมีความสำคัญไม่แพ้การซ้อม ควรมีการพักผ่อนที่เพียงพอ นอนหลับให้เต็มที่
4. กินอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ เน้นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน โปรตีน และไขมันดี ดื่มน้ำให้เพียงพอ
5. เส้นทาง Tokyo Marathon ส่วนใหญ่ค่อนข้างราบ (มีเนินบ้างเล็กน้อยแต่ไม่ชันมาก) การซ้อมบนทางราบจะช่วยให้ร่างกายคุ้นชินกับสภาพสนาม
6. ซ้อมวิ่งระยะไกล (Long Run) อย่างน้อย 1-2 ครั้งที่วิ่งเกิน 30 กม. ก่อนวันแข่งขันจริง 3-4 สัปดาห์
7. ลดความเข้มข้นและระยะทางการซ้อมลงในช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อนวันแข่ง เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นตัวเต็มที่และเก็บพลังงานไว้ใช้ในวันจริง
8. เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core), กล้ามเนื้อขา และสะโพก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง
9. ยืดเหยียดกล้ามเนื้อเป็นประจำ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและลดอาการปวดเมื่อย
10. ซ้อมวิ่งด้วยรองเท้าวิ่ง ชุดวิ่ง และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะใช้ในวันแข่งขันจริง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอาการเสียดสี หรือไม่สบายตัว
11. ลองใช้เจลพลังงานหรือเครื่องดื่มเกลือแร่ที่วางแผนจะใช้ในวันแข่งจริง ระหว่างการซ้อม Long Run เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายไม่มีปฏิกิริยาเชิงลบ
12. ความมาราธอนคือการแข่งขันที่ต้องใช้ความอดทนทั้งร่างกายและจิตใจ ฝึกฝนการควบคุมความคิด การตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ระหว่างทาง
สิ่งที่ต้องรู้ในวันวิ่งจริง

วิ่ง Tokyo Marathon 2026 คือวันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม 2026 ปล่อยตัวเวลา 9:10 น. ที่หน้า Tokyo Metropolitant Government Building (เข้าบล็อคก่อน 8:45 น.) Cutoff 7 ชั่วโมง พูดง่าย ๆ คือต้องมาถึงเส้นชัยก่อน 16:10 น. เส้นชัยอยู่ที่ประตูหน้า Imperial Palace
เตรียมตัววันจริงเริ่มจาก กินอาหารเช้าที่คุ้นเคยและให้พลังงานเพียงพอ (เช่น ข้าว/ขนมปัง) ก่อนเวลาแข่งอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เผื่อเวลาเดินทางให้เพียงพอ เนื่องจากอาจมีผู้คนจำนวนมาก ยืดเหยียดและวอร์มอัพกล้ามเนื้อเบา ๆ ก่อนเข้าบล็อกสตาร์ท ยึดแผนการวิ่ง อย่าออกตัวเร็วเกินไปในตอนแรก อย่ารอให้รู้สึกหิวหรือกระหาย และเตรียมมีความสุขกับการวิ่งที่จะได้กำลังใจอย่างล้นหลามตลอดเส้นทาง
ของที่ต้องเตรียม

– หากได้สิทธิ์ Tokyo Marathon จองตั๋วเครื่องบินและที่พักล่วงหน้าให้เร็วที่สุด เพราะเป็นช่วงที่มีคนเดินทางไปโตเกียวจำนวนมาก ราคาอาจสูงขึ้นและที่พักดี ๆ อาจเต็ม เลือกที่พักใกล้สถานีรถไฟสะดวกในการเดินทางไปจุดสตาร์ทและกลับจากจุด finish
– ตรวจสอบวันหมดอายุของพาสปอร์ต และเตรียมเอกสารที่จำเป็นสำหรับการเดินทางเข้าญี่ปุ่น
– ศึกษาเส้นทาง Race Expo สถานที่รับ BIB และอุปกรณ์การแข่งขัน มักจะจัดขึ้น 2-3 วันก่อนวันแข่งจริง ควรไปรับให้เรียบร้อย
– ศึกษาเส้นทางวิ่งและจุดบริการ จดจำเส้นทางวิ่งหลัก ๆ, จุดให้น้ำ, จุดให้พลังงาน, และจุดปฐมพยาบาล
– เตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์ให้พร้อม:
・เสื้อผ้าสำหรับวิ่ง ตรวจสอบสภาพอากาศในเดือนมีนาคมที่โตเกียว (มักจะเย็นสบาย) และเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสม
・อุปกรณ์กันหนาว/กันฝน เตรียมเสื้อกันลม, เสื้อแจ็คเก็ตบางๆ, ถุงมือ, หมวก และอุปกรณ์กันฝนเผื่อไว้
・อุปกรณ์ฟื้นตัวหลังวิ่ง เสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนหลังวิ่ง, อุปกรณ์นวด, ยาแก้ปวด
สรุป
Tokyo Marathon มหกรรมเพื่อนักวิ่งทั่วโลกที่ต้องการวัดสมรรถภาพร่างกายของตัวเอง ใครที่ต้องการเข้าร่วมต้องติดตามข่าวสาร กำหนดการต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด รวมทั้งในความสำคัญกับการเตรียมตัวสำหรับ Tokyo Marathon ด้วย แม้เป็นการเตรียมตัวที่ยาวนาน แต่รับรองว่าคุ้มค่ากับประสบการณ์ที่จะได้รับอย่างแน่นอน