ค้นหาคูปองและบทความ

Close
สมัครสมาชิก

แพลนเที่ยว อิบารากิ – โทชิงิ 4 วัน 3 คืน : รวมทุกสถานที่ที่ห้ามพลาด

กรุณาเข้าสู่ระบบ

แพลนเที่ยว อิบารากิ – โทชิงิ 4 วัน 3 คืน : รวมทุกสถานที่ที่ห้ามพลาด

“โทชิงิ” จังหวัดที่มีความงามของธรรมชาติสุดอลังการ ใครที่ชอบชมธรรมชาติที่หลากหลายมาที่นี่ไม่ผิดหวัง จะได้เข้าชมทั้งทะเล น้ำตก ทะเลสาบ หุบเขาสูงและดอกไม้นานาพรรณ เก็บวิวมุมสูงของเมืองนิกโก้ครบทุกจุด สูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด ก่อนเดินทางเก็บอารยธรรมตะวันออกยุคเอโดะอย่างใกล้ชิด พร้อมกิจกรรมแสนสนุกที่เข้าร่วมได้ทุกเพศทุกวัย

ชมมรดกโลกได้แบบใกล้ชิด เดินทางเก็บเส้นทางแสวงบุญที่ทั่วโลกยกย่อง ทุกสถานที่ท่องเที่ยวมีเรื่องเล่าความเป็นมาที่น่าสนใจ พร้อมเปิดให้เข้าชมและดื่มด่ำกับเรื่องราวเหล่านั้น ตลอดเส้นทางจะได้ลิ้มรสอาหารที่ปรุงอย่างพิถีพิถันด้วยวัตถุดิบจากท้องถิ่น เป็นอีกทริปที่จะสร้างความอิ่มเอมใจ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย


แพลนเที่ยว อิบารากิ – โทชิงิ 4 วัน 3 คืน

วันที่ 1 : สักการะพระใหญ่ เดินชมดอกไม้ ความอลังการน้ำตก
07:50 – 08:50เดินทางไปสถานีซึชิอุระ (Tsuchiura Station)
09:00 – 09:30รับรถเช่าที่ Toyota Rent-A-Car สาขา Tsuchiura Eki Nishiguchi Ten
10:00 – 10:30เที่ยวชมพระใหญ่อุชิคุไดบุตสึ (Ushiku Daibutsu)
11:45 – 14:30เที่ยวสวนฮิตาชิซีไซด์ (Hitachi Seaside Park)
15:45 – 17:00 เที่ยวน้ำตกฟุคุโรดะ (Fukuroda Falls)
18:30 – 18:45เช็กอินโรงแรม Utsunomiya Tobu Hotel Grande
19:20 – 20:20รับประทานอาหารเย็นที่ร้าน Utsunomiya Min Min
20:30 – 22:00เดินเล่นที่ Mega Donki
22:00กลับโรงแรม Utsunomiya Tobu Hotel Grande
วันที่ 2 : เก็บวิวมุมสูงของเมืองนิกโก้ครบทุกจุด สูดอากาศบริสุทธิ์ 2 น้ำตกขึ้นชื่อ
06:30 – 07:30รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
07:30 – 07:40เช็กเอาต์โรงแรม Utsunomiya Tobu Hotel Grande
09:40 – 10:50ขึ้นกระเช้าไปยังจุดชมวิวอาเคจิไดระ (Akechidaira Lookout)
11:25 – 11:45ชมวิวที่จุดชมวิวฮังเก็ตสึยามะ (Hangetsuyama Observation Deck)
12:20 – 13:20รับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน Tonkatsu Asai
13:20 – 14:00เดินเล่นที่สวนริมทะเลสาบชูเซ็นจิ (Lake Chuzenji)
14:20 – 15:20ฟังเสียงน้ำกระทบหินที่น้ำตกริวซู (Ryuzu Falls)
16:00 – 17:00รับละอองน้ำเพิ่มความสดชื่นที่ น้ำตกเคกอง (Kegon Falls) 
18:00 – 18:15คืนรถเช่าที่ Toyota Rent-A-car สาขา Nikko Branch
18:20 – 18:40เช็กอินโรงแรม Nikko Station Hotel Nibankan
19:00 – 20:30รับประทานอาหารเย็นที่ร้าน Hanamusubi Izakaya 
20:45กลับโรงแรม Nikko Station Hotel Nibankan
วันที่ 3 : ขอพรศาลเจ้าในบรรยากาศเงียบสงบก่อนจบทริป นิกโก้ โทงิชิ
08:00 – 08:15เช็กเอาต์และฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม
08:45 – 10:00รับประทานอาหารเช้าที่ร้าน Meguri Coffee
10:10 – 10:20ชมสะพานแดงชินเคียว (Shinkyo bridge)
10:30 – 11:20เที่ยวชมวัดรินโนจิ (Rinnoji Temple)
11:30 – 12:50รับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน Meiji no Yakata
13:00 – 14.00เที่ยวชมศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine)
14:10 – 14:40เที่ยวชมศาลเจ้าฟุตะระซัง (Futarasan Shrine)
14:45 – 15:30เที่ยวชมไทอุอิน (Taiyuin)
16:10 – 16:20รับกระเป๋าที่ฝากไว้จากโรงแรม
17:30เช็กอินโรงแรม Nikko Kinugawa Hotel Mikazuki
วันที่ 4 : ส่งท้ายทริปที่จุดหมายสุดท้าย ย้อนยุคไปเอโดะที่ เอโดะวันเดอร์แลนด์
08:30 – 09:45รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
10:00 – 10:15เช็กเอาต์พร้อมฝากสัมภาระไว้ที่โรงแรม
11:00 – 15:30ย้อนยุคไปเอโดะที่ เอโดะวันเดอร์แลนด์ (Edo Wonderland)
16:20 – 16:30รับกระเป๋าที่ฝากไว้จากโรงแรม
16:40 – 18:45เดินทางกลับโตเกียว
19:15เช็กอินโรงแรม Keio Presso Inn Tokyo Station Yaesu

วันที่ 1: สักการะพระใหญ่ เดินชมดอกไม้ ความอลังการน้ำตก

★ 07:50 – 08:50 น. เดินทางไปสถานีซึชิอุระ (Tsuchiura Station)

Tsuchiura Station

การเดินทางในครั้งนี้เริ่มต้นที่โตเกียว โดยจะซื้อตั๋วรถไฟด่วนพิเศษที่สถานีโตเกียว (Limited Express Train) เพื่อเดินทางไปยังสถานีซึชิอุระ

・วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟด่วนพิเศษ Hitachi 3 Limited Express Sendai รอบเวลา 07:52 ที่สถานีโตเกียว ไปยังสถานีซึชิอุระ (Tsuchiura Station) ใช้เวลาเดินทาง 57 นาที *ต้องสำรองที่นั่งก่อนเดินทางเท่านั้น (Reserved Seats Only)

・ค่าเดินทาง: ประมาณ 2,190 เยน

・MAP: https://maps.app.goo.gl/6E6C5ep5ZfSAAy9AA

★ 09:00 – 09:30 น. รับรถเช่าที่ Toyota Rent-A-Car สาขา Tsuchiura Eki Nishiguchi Ten

★ 10:00 – 10:30 น. เที่ยวชมพระใหญ่อุชิคุไดบุตสึ (Ushiku Daibutsu)

Ushiku Daibutsu

พระใหญ่อุชิคุไดบุตสึ (Ushiku Daibutsu) เป็นหนึ่งในรูปปั้นพระพุทธรูปที่สูงที่สุดในโลก แลนด์มาร์กสำคัญของเมืองอุชิคุ จังหวัดอิบารากิ องค์พระมีฐานกว้างถึง 120 เมตร ได้รับการบันทึกงานกินเนสบุ๊คว่าเป็นรูปปั้นที่สูงที่สุดในโลกจนถึงปี 2002 ภายในองค์พระมีลิฟต์ที่สามารถขึ้นไปชมวิวได้ที่ความสูง 85 เมตร  

ภายในองค์พระมีทั้งหมด 5 ชั้น นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นลิฟต์เพื่อชมทิวทัศน์จากด้านบนได้ แต่ละชั้นมีความหมายแตกต่างกันไปคือ ชั้น 1 (โลกแห่งแสงสว่าง) เป็นส่วนแรกที่ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบ, ชั้น 2 (โลกแห่งความรู้) จัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับองค์พระและภาพวาดต่างๆ, ชั้น 3 (โลกแห่งดอกบัว) เป็นห้องโถงหลักที่มีพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่, ชั้น 4 และ 5 (โลกแห่งอากาศ) เป็นจุดชมวิวที่ความสูง 85 เมตร ซึ่งสามารถมองเห็นวิวเมืองโดยรอบได้ หากอากาศเป็นใจก็อาจมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อีกด้วย

・วิธีเดินทาง : ขับรถผ่านถนนหมายเลข 125 และถนนหมายเลข 34 ระยะทาง 13 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 23 นาที

・เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 09:30 – 17:00 น.

・ค่าเข้าชม : ค่าเข้าทั้งสวนและองค์พระราคา 800 เยน, ค่าเข้าเฉพาะสวน ผู้ใหญ่ 500 เยน

・MAP : https://maps.app.goo.gl/8hhGhcye3PmmX3re6

★ 11:45 – 14:30 น. เที่ยวสวนฮิตาชิซีไซด์ (Hitachi Seaside Park)

Hitachi Seaside Park

มารับประทานอาหารกลางวัน และชมดอกไม้นานาพรรณที่ผลัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาลบนพื้นที่กว่า 215 เฮกตาร์ความสวยงามของดอกไม้ที่เบ่งบานต้อนรับทำให้เดินชมได้แบบเพลิน ๆ ไม่มีเหนื่อย เก็บภาพที่นี่ได้แทบจะทุกมุมเลยทีเดียว

ภายในประกอบส่วนต่าง ๆ คือ เนินมิฮาราชิ (Miharashi Hill) เป็นจุดชมวิวทุ่งดอกไม้ตามฤดูกาลที่สวยงาม, สวนสนุก (Pleasure Garden) มีเครื่องเล่นหลากหลายชนิด รวมถึงชิงช้าสวรรค์ที่สามารถมองเห็นวิวสวนจากมุมสูงได้, พื้นที่ปั่นจักรยานและทำกิจกรรมกลางแจ้ง มีพื้นที่กว้างขวางสำหรับกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ และยังมีร้านค้าร้านอาหารมากมายไว้บริการ

・วิธีเดินทาง : ขับรถจากพระใหญ่อุชิคุไดบุตสึ ไปสวนฮิตาชิซีไซด์ 85 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาที

・เวลาทำการ : แต่ละเดือนมีช่วงเวลาเปิดทำการแตกต่างกันไป คือ เดือนมีนาคม – กรกฎาคม เปิดทำการเวลา 09:30 – 17:00 น. /เดือนกรกฎาคม – สิงหาคม เปิดทำการเวลา 09:30 – 18:00 น. /เดือนกันยายน – ตุลาคม เปิดทำการเวลา 09:30 – 17:00 น. และเดือนพฤศจิกายน – สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ เปิดทำการเวลา 09:30 – 16:30 น. (ส่วนใหญ่ปิดทุกวันอังคาร แต่หากวันอังคารเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะหยุดในวันธรรมดาถัดไปและอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล ควรตรวจสอบเว็บไซต์ของสวน)

・ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชมช่วงปกติ ผู้ใหญ่ อายุ 15 ปีขึ้นไป ราคา 450 เยน, ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ราคา 210 เยน, ค่าเข้าชมช่วงฤดูกาลพิเศษ ผู้ใหญ่ 15 ปีขึ้นไป ราคา 800 เยน, ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ราคา 560 เยน และเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าฟรี

・MAP : https://maps.app.goo.gl/ddd3qPdxjiJjKWTA6

★ 15:45 – 17:00 น. เที่ยวน้ำตกฟุคุโรดะ (Fukuroda Falls)

Fukuroda Falls

น้ำตกฟุคุโรดะ (Fukuroda Falls) เป็นหนึ่งในสามน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองไดโกะ “น้ำตกที่ต้องมาชมในสี่ฤดูกาล” เพราะมีความงดงามที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดู น้ำตกแห่งนี้มีความสูงถึง 120 เมตร กว้างถึง 73 เมตร มีจุดชมวิว 3 จุดที่มีมุมมองของน้ำตกแตกต่างกันไป ต้องตามเก็บภาพให้ครบ เป็นความงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ได้อย่างสวยงามและมีความอลังการสุด ๆ

ทัศนียภาพสี่ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้สีเขียวอ่อนสดใสจะห้อมล้อมน้ำตก / ฤดูร้อน ความเย็นและความสดชื่นจากน้ำตกเป็นที่ดึงดูดผู้คน / ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้รอบน้ำตกจะเปลี่ยนเป็นสีแดงและส้ม ทำให้เกิดทิวทัศน์ที่งดงามที่สุด และฤดูหนาวน้ำตกจะกลายเป็นน้ำแข็งเมื่ออุณหภูมิลดต่ำลง สร้างทัศนียภาพอันน่าอัศจรรย์ ไปครบทั้ง 4 ฤดูจะได้ภาพความงามของน้ำตกฟุคุโรดะแบบครบเซต

・วิธีเดินทาง : ขับรถจากสวนฮิตาชิซีไซด์มาทางถนนหมายเลข 118 เป็นระยะทาง 58 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 19 นาที

・เวลาทำการ : เดือนพฤษภาคม – ตุลาคม เปิดทำการเวลา 08:00 – 18:00 น./ เดือนพฤศจิกายน เปิดทำการเวลา 08:00 – 17:00 น. และเดือนธันวาคม – เมษายน เปิดทำการเวลา 09:00 – 17:00 น.

・ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 เยน, เด็ก 150 เยน  

・MAP : https://maps.app.goo.gl/knGNEd8W3PNdr3639

★ 18:30 – 18:45 น. เช็กอินโรงแรม Utsunomiya Tobu Hotel Grande

Utsunomiya Tobu Hotel Grande
Utsunomiya Tobu Hotel Grande

เก็บสัมภาระก่อนเตรียมตัวออกไปรับประทานอาหารเย็น

・วิธีเดินทาง : ขับรถจากน้ำตกฟุรุโคดะ ไปโรงแรม เป็นระยะทาง 67 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 28 นาที

・ค่าที่พัก : ประมาณ 16,500 เยน/คืน  

・MAP : https://maps.app.goo.gl/4HJvj6ojvKSd4AvZ8

★ 19:20 – 20:20 น. รับประทานอาหารเย็นที่ร้าน Utsunomiya Min Min

Utsunomiya Min Min
Utsunomiya Min Min

เกี๊ยวซ่าถูกนำเข้ามาในญี่ปุ่นโดยทหารที่กลับมาจากแมนจูเรียหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และเมืองอุสึโนะมิยะซึ่งเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการทหารในขณะนั้นก็ได้กลายเป็นแหล่งแพร่หลายของอาหารชนิดนี้ เนื่องจากสภาพอากาศและวัตถุดิบทางการเกษตร เช่น กระเทียมและกะหล่ำปลีมีความคล้ายคลึงกับพื้นที่ในประเทศจีน

ร้านเกี๊ยวซ่า Utsunomiya Min Min เป็นหนึ่งในร้านเกี๊ยวซ่าที่มีชื่อเสียงและเป็นตำนานของเมืองอุสึโนมิยะ ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1958 เมนูของร้านมีทั้งแบบต้มและแบบทอด เกี๊ยวซ่าของร้านมีจุดเด่นที่ไส้ซึ่งเน้นกะหล่ำปลีเป็นหลัก ทำให้มีรสชาติเบาและไม่เลี่ยน และมีกลิ่นกระเทียมที่ไม่แรงจนเกินไป ทำให้ร้านเป็นที่นิยมจนบางสาขาต้องต่อคิวยาวเป็นเวลานาน ๆ แต่รับรองเลยว่ารสชาติจะสมกับที่รอคอยอย่างแน่นอน 

・วิธีเดินทาง : เดินจากโรงแรม Utsunomiya Tobu Hotel Grande ไปร้านเกี๊ยวซ่า Utsunomiya Min Min ระยะทางประมาณ 550 เมตร ใช้เวลาเดินทางเพียง 8 นาที

・เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 11:00 – 20:00 น. (ตรวจสอบวันหยุดทางเว็บไวต์ของร้าน)

・ค่าใช้จ่าย : เริ่มต้นเมนูเกี๊ยวซ่า 6 ชิ้นที่ราคาเพียง 240 เยน

・MAP : https://maps.app.goo.gl/dXrNATCnFyxpEdij6

★ 20:30 – 22:00 น. เดินเล่นที่ Mega Donki

Mega Donki

Mega Donki คือห้างสรรพสินค้าในเครือ Don Quijote (ดองกิโฮเต้) ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น จุดเด่นของ Mega Donki คือเป็นร้านที่มีขนาดใหญ่กว่าร้าน Don Quijote ทั่วไปมาก และเน้นการตอบโจทย์ลูกค้าแบบครอบครัวที่ต้องการซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันอย่างครบครัน

สามารถเข้าไปยัง Mega Donki เพื่อชอปปิงสินค้าราคาน่ารัก ๆ ของญี่ปุ่นตั้งแต่ ขนม อาหาร เครื่องสำอาง สินค้าแบรนด์เนม ของเล่น ตุ๊กตา เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องใช้ส่วนตัวอื่น ๆ ได้ตามอัธยาศัย เตรียมงบกันไว้ให้ดีเลยเพราะสินค้าที่มีขายใน Mega Donki จะแตกต่างกับสาขาที่ไทย ใครอยากช้อปของฝากก็สามารถเลือกซื้อกันได้เลยที่นี่แต่อย่าลืมเผื่อพื้นที่ในกระเป๋าให้ดี

คลิกดูคูปองส่วนลดพิเศษที่ห้าง Don Quijote (ดองกิโฮเต้) ทุกสาขาทั่วญี่ปุ่น

・วิธีเดินทาง : เดินจากร้านเกี๊ยวซ่า Min Min ไป Mega Donki ระยะทาง 300 เมตร ใช้เวลาประมาณ 5 นาที

・เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 09:00 – 23:00 น.

・MAP : https://maps.app.goo.gl/RVjbFwAoSvP6fn9i9

★ 22:00 น. กลับโรงแรม Utsunomiya Tobu Hotel Grande


วันที่ 2 : เก็บวิวมุมสูงของเมืองนิกโก้ครบทุกจุด สูดอากาศบริสุทธิ์ 2 น้ำตกขึ้นชื่อ

★ 06:30 – 07:30 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ สะดวก และไม่ต้องออกไปหาร้านอาหารด้านนอก

★ 07:30 – 07:40 น. เช็กเอาต์โรงแรม Utsunomiya Tobu Hotel Grande

★ 09:40 – 10:50 น. ขึ้นกระเช้าไปยังจุดชมวิวอาเคจิไดระ (Akechidaira Lookout)

Akechidaira Lookout

จุดชมวิวอาเคจิไดระ (Akechidaira Observation Deck) ตั้งอยู่ในเมืองนิกโก้ จังหวัดโทชิกิ กระเช้านี้มีอายุเก่าแก่กว่า 90 ปี แต่ยังมีรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามเหมือนใหม่อยู่ และไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะที่นี่มีการเช็กระบบการทำงานของกระเช้าสม่ำเสมอ 

จุดชมวิวอาเคจิไดระเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่ดีที่สุดในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี การขึ้นกระเช้ายิ่งทำให้เห็นทิวทัศน์ได้แบบพราโนรามาทั้ง ภูเขานันไต, ทะเลสาบชูเซ็นจิ, น้ำตกเคกอง และวิวของถนนฮิโรฮะซากะที่ตัดผ่านช่วงหุบเขา ทำให้ช่วงเวลา 4 นาทีที่อยู่ในกระเช้านั้นน่าจดจำสุด ๆ 

・วิธีเดินทาง : ขับรถผ่านเส้นทางหลัก Nikko Utsunomiya Road ระยะทาง 52 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 60 นาที

・เวลาทำการ : เวลาทำการของกระเช้าลอยฟ้าเดือนเมษายน – พฤศจิกายน เปิดเวลา 08:40 – 15:30 น. / เดือนธันวาคม – มีนาคม เปิดเวลา 09:00 – 15:30 น. กระเช้าอาจปิดให้บริการในวันที่สภาพอากาศไม่ดี เช่น มีหมอก ลมแรง หรือฟ้าผ่า

・ค่าบริการ :  สำหรับผู้ใหญ่ เที่ยวเดียว ราคา 600 เยน, ไป-กลับราคา 1,000 เยน / สำหรับเด็ก เที่ยวเดียว ราคา 300 เยน, ไป-กลับ 1,000 เยน

・MAP : https://maps.app.goo.gl/DbXWEwBwbW2eASsh9

★ 11:25 – 11:45 น. ชมวิวที่จุดชมวิวฮังเก็ตสึยามะ (Hangetsuyama Observation Deck)

Hangetsuyama Observation Deck

จุดชมวิวฮังเก็ตสึยามะ (Hangetsuyama Observation Deck) เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่งดงามที่สุดในนิกโก้ โดยตั้งอยู่บนภูเขาฮังเก็ตสึยามะซึ่งมีความสูง 1,753 เมตร และมีชื่อที่แปลว่า “ภูเขาพระจันทร์ครึ่งซีก” เพราะมีรูปร่างของภูเขาที่คล้ายกับพระจันทร์เสี้ยวเมื่อมองจากระยะไกล การเดินทางไปยังจุดชมวิวอาจต้องใช้ความพยายามเล็กน้อย โดยจะต้องขับรถตามเส้นทาง Chuzenjiko Skyline และเดินเท้าต่ออีกประมาณ 30-45 นาที เส้นทางเดินนั้นไม่ถึงกับยากมาก แต่การได้ขึ้นไปถึงด้านบนและมองเห็นทิวทัศน์ที่กว้างใหญ่ไพศาลนั้นให้ความรู้สึกคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง

จุดชมวิวฮังเก็ตสึยามะเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่งดงามที่สุดในนิกโก้ เมื่อขึ้นไปยังมุมสูงจะสามารถมองเห็นทะเลสาบชูเซ็นจิได้แบบชัดเจนสุด ๆ และยังเห็นวิวภูเขานันไตภูเขาไฟศักดิ์สิทธิ์ของนิกโก้ได้อย่างชัดเจน จุดชมวิวแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่น่าตื่นตาตื่นใจในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ประมาณกลางถึงปลายเดือนตุลาคม แม้การเดินทางค่อนข้างท้าทาย เมื่อขึ้นไปจุดสูงสุดมองลงมาจะรู้ว่าคุ้มค่าที่เดินทางขึ้นมา 

・วิธีเดินทาง : ขับรถผ่านถนนหมายเลข 250 ประมาณ 11 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จะถึงจุดชมวิว แต่หากใครที่ต้องการเดินทางไปยังยอดต้องเดินเท้าต่ออีกประมาณ 45 นาที

・เวลาทำการ : ทุกวันตั้งแต่เวลา 07:00 – 17:00 น. มีข้อควรระวังเกี่ยวกับถนน Chuzenjiko Skyline ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางไปยังจุดชมวิวจะปิดให้บริการในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน – กลางเดือนเมษายน และจะปิดในช่วงกลางคืน ช่วงเวลา 17:00 – 07:00 น. ตลอดทั้งปี

・MAP : https://maps.app.goo.gl/zxpqHWKHQLAqEP778

★ 12:20 – 13:20 น. รับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน Tonkatsu Asai

Tonkatsu Asai
Tonkatsu Asai

・วิธีเดินทาง : ขับรถจากจุดชมวิวมายังร้าน Tonkatsu Asai ผ่านถนนหมายเลข 250 ระยะทาง 9 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

・เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 11:30 – 14:30 น.

・ค่าใช้จ่าย : เมนูเริ่มต้นที่ 900 เยน

・MAP : https://maps.app.goo.gl/YouDswDhcGjwsh5U9

★ 13:20 – 14:00 น. เดินเล่นที่สวนริมทะเลสาบชูเซ็นจิ (Lake Chuzenji)

Lake Chuzenji

ทะเลสาบชูเซ็นจิเกิดจากการปะทุของ ภูเขาไฟนันไต เมื่อประมาณ 20,000 ปีที่แล้ว ซึ่งลาวาที่ไหลลงมาได้ปิดกั้นแม่น้ำที่เคยไหลผ่าน ทำให้เกิดการก่อตัวของทะเลสาบขึ้น ซึ่ง “ภูเขาไฟนันไต” ถือเป็นหนึ่งในสามภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของนิกโก้ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนและผู้แสวงบุญในอดีต ว่ากันว่าทะเลสาบแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางจาริกแสวงบุญที่สำคัญทะเลสาบชูเซ็นจิได้รับความนิยมจากทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติมานานหลายศตวรรษในฐานะสถานที่พักผ่อนที่เงียบสงบในอ้อมกอดของธรรมชาติ

บริเวณริมทะเลสาบ ซึ่งรวมถึงจุดจอดรถแห่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนและทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้นอกจากการเดินย่อยชมบรรยากาศเพลิน ๆ แล้วยังสามารถทำกิจกรรมทางน้ำ เช่น ปั่นเรือหงส์ หรือพายเรือชมรอบทะเลสาบ ดื่มด่ำกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ได้อย่างเต็มที่

・วิธีเดินทาง : ขับรถจากร้าน Tonkatsu Asai ไปยัง Chuzenji Parking Lot เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยมีระยะทางประมาณ 220 เมตร ใช้เวลาขับรถย้ายที่จอดไม่ถึง 2 นาที

・ที่จอดรถ:  ค่าจอดรถ 500  เยน

・เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 08:30 – 15:30 น.

・MAP : https://maps.app.goo.gl/LA9sXfn3fQQEJpKQ8

★ 14:20 – 15:20 น. ฟังเสียงน้ำกระทบหินที่น้ำตกริวซู (Ryuzu Falls)

Ryuzu Falls

น้ำตกริวซู (Ryuzu Falls) หรือ “น้ำตกหัวมังกร” เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในนิกโก้ โดยตั้งชื่อตามลักษณะของน้ำตกที่ไหลแยกออกเป็นสองสายรอบโขดหิน ทำให้ดูเหมือนหัวของมังกร น้ำตกนี้มีความสูงถึง 210 เมตร  มีเรื่องเล่าขานกันว่า ชื่อ “น้ำตกหัวมังกร” มาจากรูปทรงของน้ำตกที่ไหลแยกออกเป็นสองสายรอบโขดหิน ทำให้ดูเหมือนหัวของมังกรที่กำลังหันหน้าเข้าหากัน เป็นภาพที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นอย่างน่าทึ่ง มาที่นี่รับรองได้รับออกซิเจนได้แบบเต็มปอด สามารถสัมผัสน้ำตกได้อย่างใกล้ชิดที่จุดชมวิว และยังสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ที่ร้านค้ารอบ ๆ ด้วย

น้ำตกแห่งนี้ตั้งบนแม่น้ำยูคาวะ (Yukawa River) น้ำจะไหลลงสู่ทะเลสาบชูเซนจิ(Lake Chuzenji) เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่ถือเป็นแหล่งกำเนิดของทะเลสาบชูเซนจิเลยก็ว่าได้ น้ำตกแห่งนี้ขนาบข้างด้วยต้นไม้ที่หนาแน่น ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและแดงในช่วงฤดูใบไม้ร่วงประมาณต้นเดือนตุลาคม ทำให้มีทิวทัศน์ที่สวยงามยิ่งขึ้น จุดที่ชมน้ำตกได้สวยงามแห่งหนึ่งคือจุดชมวิวของด้านหลังร้านขายของที่ระลึก และซุ้มอาหาร หรืออาจจะเดินขึ้นไปยังต้นน้ำระยะทาง 300 เมตร เพื่อชมวิวมุมอื่น ๆ ของแม่น้ำแห่งนี้ได้อีกด้วย

・วิธีเดินทาง : ขับรถจากที่จอดรถทะเลสาบชูเซ็นจิ ไปยังน้ำตกริวซู ผ่านถนนหมายเลข 120 ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร

・เวลาทำการ : 24 ชั่วโมง

・MAP : https://maps.app.goo.gl/1A67Ub8W5ysfReQm9

★ 16:00 – 17:00 น. รับละอองน้ำเพิ่มความสดชื่นที่ น้ำตกเคกอง (Kegon Falls) 

Kegon Falls

น้ำตกเคกอง (Kegon Falls) อีกน้ำตกที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟนันไตเมื่อหลายพันปีก่อน ลาวาที่ไหลลงมาได้ปิดกั้นแม่น้ำ ทำให้เกิดทะเลสาบชูเซ็นจิ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำหลักของน้ำตกเคกอง ชื่อของน้ำตก “เคกอง” มาจากคัมภีร์พุทธศาสนา “เคกองสูตร” (Kegon Sutra) ซึ่งเชื่อว่าถูกตั้งชื่อโดยพระโชโด โชนิน (Shodo Shonin) ผู้ก่อตั้งวัดและศาลเจ้าสำคัญหลายแห่งในนิกโก้

ที่นี่เป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดสามแห่งในญี่ปุ่น มีความสูงถึง 97 เมตร สามารถใช้ลิฟต์ลงไปชมน้ำตกในระยะใกล้จากจุดชมวิวที่ฐานน้ำตกได้ ซึ่งจะให้มุมมองที่แตกต่าง มีจุดชมวิวฟรีที่ชั้นบนอีกด้วย จุดชมวิวอะเคะจิไดระ (Akechidaira Observatory) บนเนินอิโระฮะซะกะ (Iroha-zaka Slope) ซึ่งอยู่ระหว่างทาง มองลงมาจะได้เห็นภาพทิวทัศน์พาโนรามาอันน่าตื่นตาจากน้ำตกและหมู่ต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจีแห่งขุนเขา มองแล้วสบายตาสบายใจสุด ๆ

・วิธีเดินทาง : ขับรถจากน้ำตกริวซู ไปยังน้ำตกเคกอง ผ่านถนนหมายเลข 120 ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ระยะทางประมาณ 5.8 กิโลเมตร

・เวลาทำการ : เวลาทำการของลิฟต์ชมน้ำตก คือ ช่วงเดือนมีนาคม – พฤศจิกายน เปิดเวลา 08:00 – 17:00 น. / เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ เปิดเวลา 09:00 – 16:30 น. (เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)

・ค่าเข้าชม : ค่าบริการลิฟต์ ผู้ใหญ่ 600 เยน, นักเรียนประถม 400 เยน และเด็กเล็กใช้บริการฟรี 

・MAP : https://maps.app.goo.gl/ppks7FkJRDrCNEwN6

★ 18:00 – 18:15 น. คืนรถเช่าที่ Toyota Rent-A-car สาขา Nikko Branch

・วิธีเดินทาง : ขับรถจากน้ำตกเคกอง ไป Toyota Rent-A-car สาขา Nikko Branch ใช้เวลาประมาณ 28 นาที ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร

・MAP : https://maps.app.goo.gl/Zr8Sy45e49J2cBHy5

★ 18:20 – 18:40 น. เช็กอินโรงแรม Nikko Station Hotel Nibankan

Nikko Station Hotel Nibankan
Nikko Station Hotel Nibankan

・วิธีเดินทาง : เดินจาก Toyota Rent-A-car ไปโรงแรม 2 นาที ระยะทาง 170 เมตร

・ค่าที่พัก : ประมาณ 16,900 เยน/คืน

・MAP : https://maps.app.goo.gl/sGBcLPY6hfoy2Jt88

★ 19:00 – 20:30 น. รับประทานอาหารเย็นที่ร้าน Hanamusubi Izakaya 

Hanamusubi Izakaya

ร้าน Hanamusubi Izakaya เป็นร้านอิซากายะแบบดั้งเดิม มีเมนูหลากหลาย เช่น ปีกไก่ทอด, ซาชิมิ, และเทมปุระ นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องเมนูพิเศษอย่าง “คามาเมชิ (Kamameshi)” และเนื้อหมูหมักมิโซะ ร้านเป็นสไตล์ครอบครัว มีบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง มีที่นั่งแบบเคาน์เตอร์และแบบเสื่อทาตามิ ร้านนี้รับการจองโต๊ะทางไลน์และทางโทรศัพท์แต่เวลาชำระเงินรับเป็นเงินสดเท่านั้น

ร้าน Hanamusubi Izakaya เป็นร้านอาหารที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นของนิกโก้ได้เป็นอย่างดี โดยเป็นสถานที่ที่คนในพื้นที่มาใช้เวลาร่วมกันหลังเลิกงาน เมนูต่าง ๆ จะถูกสร้างสรรค์จากวัตถุดิบตามฤดูกาล ทำให้ลูกค้าได้ลิ้มรสความสดใหม่ตามธรรมชาติของเมืองนิกโก้ ความเป็นกันเองของเจ้าของร้านและรสชาติอาหารที่อร่อยถูกปาก ทำให้ร้านนี้กลายเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์แบบชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

・วิธีเดินทาง : เดินจากโรงแรม ไปยัง Hanamusubi Izakaya ใช้เวลาประมาณ 2 นาที ระยะทางประมาณ 140 เมตร

・เวลาทำการ : วันอังคาร – วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 17:00 – 22:30 น. (หยุดวันอาทิตย์และวันจันทร์)

・ค่าใช้จ่าย :  เริ่มต้นที่ 500 – 1,500 เยน ขึ้นอยู่กับเมนูที่สั่ง

・MAP : https://maps.app.goo.gl/J8xNTxWJCD8QkyLz8

★ 20:45 น. กลับโรงแรม Nikko Station Hotel Nibankan


วันที่ 3 : ขอพรศาลเจ้าใบรรยากาศเงียบสงบก่อนจบทริป นิกโก้ โทงิชิ

★ 08:00 – 08:15 น. เช็กเอาต์และฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม

★ 08:45 – 10:00 น. รับประทานอาหารเช้าที่ร้าน Meguri Coffee

Meguri Coffee

ร้าน Meguri Coffee ขึ้นชื่อว่าเป็นคาเฟ่วีแกนที่เน้นอาหารเพื่อสุขภาพ มีเมนูที่ทำจากส่วนผสมจากพืชธรรมชาติที่ไม่ใช้สารเคมี และมีกาแฟคั่วเอง นอกจากนี้ยังมีเมนูของหวานวีแกนและเครปบริการ สมที่เป็นร้านแห่งนิกโก้เมืองแห่งธรรมชาติจริง ๆ ร้านตั้งอยู่ไม่ไกลจากสะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge) และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในนิกโก้ เช่น ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) ภายในร้านมีบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง เจ้าของร้านเป็นมิตรและยินดีให้คำแนะนำ มีที่นั่งทั้งแบบโต๊ะและแบบเสื่อทาตามิให้บรรยากาศสบาย ๆ เหมาะสำหรับรับประทานอาหารเช้ามาก ๆ 

 “เมกุริ” มาจากคำภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า “การโคจร” หรือ “การหมุนเวียน” ซึ่งสะท้อนปรัชญาของร้านที่ต้องการสร้างวงจรที่ดีระหว่างคนกับธรรมชาติ ด้วยการใช้วัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติและให้ความสำคัญกับสุขภาพ ตัวร้านมีบรรยากาศที่อบอุ่นและสบาย ๆ เหมือนบ้านพักตากอากาศ มีที่นั่งทั้งแบบโต๊ะและแบบเสื่อทาตามิที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เจ้าของร้านเป็นมิตรและพร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับเมนูหรือสถานที่ท่องเที่ยวในนิกโก้ ทำให้เป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการเติมพลังในบรรยากาศที่สงบและเป็นส่วนตัว

เจ้าของร้านเป็นคนท้องถิ่นที่หลงใหลในธรรมชาติของนิกโก้และต้องการแบ่งปันความงามนี้ผ่านอาหารและกาแฟ เมนูทั้งหมดจึงถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากกาแฟที่คั่วเองแล้ว ยังมีเมนูของหวานวีแกนและเครปที่ทำสดใหม่ ใครได้มารับประทานอาหารที่ร้านนี้ต่างออกปากชมถึงความสดใหม่และรสชาติของอาหาร เป็นอีกร้านอาหารที่ทริปนี้จะพาไปลิ้มลอง

・วิธีเดินทาง : เดินจากโรงแรม ไปยังร้าน Meguri Coffee 21 นาที ระยะทางประมาณ 1.4 กิโลเมตร

・เวลาทำการ : 08:30 – 18:00 น. (หยุดวันพฤหัสบดี)

・ค่าใช้จ่าย :  กาแฟเริ่มต้น 400 เยน, ของหวานเริ่มต้นที่ 800 เยน และอาหารเริ่มต้นที่ 1,200 เยน

・MAP : https://maps.app.goo.gl/i24YoemurbuJsj9LA

★ 10:10 – 10:20 น. ชมสะพานแดงชินเคียว (Shinkyo bridge)

Shinkyo bridge

สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge) เป็นสะพานสีแดงสดใสที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของเมืองนิกโก้ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1636 เป็นส่วนหนึ่งของศาลเจ้าฟุตะระซัง (Futarasan Shrine) โดยมีความเชื่อว่าเป็นประตูทางเข้าสู่พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของนิกโก้สะพานแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสามสะพานที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ.1999 อีกด้วย

ตำนานที่โด่งดังที่สุดของสะพานแห่งนี้เกี่ยวข้องกับพระสงฆ์ โชโด โชนิน (Shodo Shonin) ผู้ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งวัดและศาลเจ้าสำคัญในนิกโก้ เรื่องมีอยู่ว่า ในปี ค.ศ.766 ขณะที่ท่านกำลังพยายามข้ามแม่น้ำไดยะที่เชี่ยวกรากเพื่อขึ้นไปปฏิบัติธรรมบนภูเขา ก็มีพระพุทธรูปพันกรปรากฏขึ้นและได้เรียกพญางูใหญ่สองตัวให้มาช่วย

พญางูทั้งสองได้แปลงร่างเป็นสะพานโค้งสีแดงและมีพืชตระกูลหญ้าขึ้นปกคลุม ทำให้พระโชโดและลูกศิษย์สามารถข้ามแม่น้ำไปได้อย่างปลอดภัย สะพานนี้จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์อันศักดิ์สิทธิ์นี้

・วิธีเดินทาง : เดินจากร้าน Meguri Coffee ไปยังสะพานชินเคียว ระยะทางประมาณ 230 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 4 นาที

・เวลาทำการ : เดือนเมษายน – ตุลาคม เปิดเวลา 09:30 – 16:30 น. และเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม เปิดเวลา 09:30 – 15:30 น.

・ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 เยน, นักเรียนมัธยมปลาย 200 เยน  

・MAP : https://maps.app.goo.gl/WSmRkiMpwpFP5fXAA

★ 10:30 – 11:20 น. เที่ยวชมวัดรินโนจิ (Rinnoji Temple)

Rinnoji Temple

วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple) เป็นวัดพุทธที่สำคัญที่สุดในเมืองนิกโก้ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกพร้อมกับศาลเจ้านิกโก้โทโชกูและศาลเจ้านิกโก้ฟุตาระซัน วัดรินโนจิเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ.766 เมื่อพระสงฆ์ โชโด โชนิน (Shodo Shonin) ผู้เป็นนักบวชผู้เปี่ยมด้วยศรัทธา ได้เดินทางมาถึงนิกโก้และได้ก่อตั้งวัดเล็ก ๆ ขึ้นที่นี่เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางของศาสนาพุทธนิกายชูเก็นโด (Shugendo) ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างพุทธศาสนากับความเชื่อในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ โดยพระโชโดเชื่อว่าภูเขานันไต, ภูเขาเนียวโฮ และภูเขาทาโร่ คือที่ประทับของพระพุทธเจ้า

สิ่งที่น่าสนใจของที่นี่คือ ห้องโถงซันบุตซึโด ส่วนนี้เป็นอาคารหลักของวัด ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ 3 องค์, คงโกซากุระ คือ ต้นซากุระอายุ 500 ปี ที่ตั้งอยู่หน้าห้องโถงซันบุตซึโดและจะบานในช่วงฤดูซากุระ และสวนโชโยเอ็น เป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่สวยงาม ซึ่งจะยิ่งงดงามเป็นพิเศษในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง ฤดูใบไม้ร่วง ช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเยี่ยมชมที่สุด เพราะใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีสันสดใสทำให้บรรยากาศดูโรแมนติก แต่ในฤดูหนาวช่วงมีหิมะตกก็จะทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไปเป็นเงียบสงบได้ความสวยงามไปอีกแบบ

・วิธีเดินทาง : เดินจากสะพานชินเคียวไปยังวัดรินโนจิ ตามถนน Old Nikko Kaido มีระยะทางประมาณ 450 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 9 นาที

・เวลาทำการ : เดือนเมษายน – ตุลาคม เวลาทำการคือ 08:00 – 17:00 น. และเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม เวลาทำการคือ 08:00 – 16:00 น. นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้จนถึง 30 นาทีก่อนเวลาปิดทำการ

・ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชมสำหรับสวนภายนอก แต่มีค่าเข้าชมส่วนของห้องโถงซันบุตซึโด (Sanbutsudo) ราคา ผู้ใหญ่ 400 เยน / สวนโชโยเอ็น (Shoyoen Garden) ราคา ผู้ใหญ่ 300 เยน และบัตรเข้าชมรวมทั้งสองแห่ง ราคา 900 เยน

・MAP : https://maps.app.goo.gl/py94R6yPCex9FAa29

★ 11:30 – 12:50 น. รับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน Meiji no Yakata

Meiji no Yakata

รับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน Meiji no Yakata  ร้านที่มีเมนูอาหารเน้นเป็นอาหารตะวันตกแบบดั้งเดิม เช่น สเต๊กแฮมเบอร์เกอร์ และ ข้าวห่อไข่ ที่ได้รับความนิยมมาก  

ในอาคารตกแต่งสไตล์ศตวรรษที่ 19 มีระเบียงไม้สวยให้ได้เก็บภาพเป็นที่ระลึก เป็นการผสมผสานความหรูหราแบบตะวันตกเข้ากับความสงบของธรรมชาติในนิกโก้ได้อย่างลงตัว สามารถเลือกนั่งรับประทานอาหารในห้องโถงที่ตกแต่งอย่างงดงาม หรือจะเลือกนั่งที่ระเบียงไม้เพื่อชมทิวทัศน์โดยรอบก็ทำได้  

เรื่องเล่าของร้านนี้คือ เดิมเป็นบ้านพักของพ่อค้าชาวอเมริกันนามว่า จอห์น แอนตัน โมโรว (John Anton Morrow) ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงยุคเมจิ (ค.ศ.1868-1912) สถาปัตยกรรมของอาคารสะท้อนถึงอิทธิพลตะวันตกที่เข้ามาในญี่ปุ่นช่วงนั้น มีระเบียงไม้ที่สวยงามและหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่

หลังจากคุณโมโรวกลับประเทศ บ้านพักแห่งนี้ได้ถูกนำมาปรับปรุงและกลายเป็นร้านอาหารในปี ค.ศ. 977 เพื่อให้ผู้คนได้สัมผัสบรรยากาศย้อนยุคและลิ้มรสอาหารชั้นเยี่ยมในสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เป็นอีกร้านที่น่าสนใจมาก ๆ ในจังหวัดโทชิงิ

・วิธีเดินทาง : เดินจากวัดรินโนจิไปยังร้าน Meiji no Yakata ใช้เวลาประมาณ 6 นาที มีระยะทาง 400 เมตร

・เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 11:30 – 19:30 น. ทุกวัน

・ค่าใช้จ่าย :  เริ่มต้นที่ 600 เยนสำหรับอาหารทานเล่น / เมนูอาหารจานหลักเริ่มต้นที่ 1,600 เยน

・MAP : https://maps.app.goo.gl/s54sRj8SwtrdAmgH7

★ 13:00 – 14.00 น. เที่ยวชมศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine)

Toshogu Shrine

ศาลเจ้านิกโกโทโชกุ (Nikko Toshogu Shrine) เป็นศาลเจ้าชินโตที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงที่สุดในนิกโก้ ประเทศญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มอาคารสำคัญที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO

ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1617 เพื่ออุทิศให้กับ โทกูงาวะ อิเอยาซุ ผู้ก่อตั้งรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ (Tokugawa Shogunate) ที่ปกครองญี่ปุ่นยาวนานกว่า 250 ปี อิเอยาซุเป็นบุคคลสำคัญที่นำความสงบสุขและความเป็นปึกแผ่นมาสู่ประเทศหลังจากสงครามที่ยาวนาน

ว่ากันว่าร่างของท่านอิเอยาซุได้ถูกฝังไว้ที่นี่และได้รับการยกย่องให้เป็นเทพเจ้า สิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ที่เห็นในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1636 โดยหลานชายของท่านคือ โทกูงาวะ อิเอมิตสึ ซึ่งเป็นโชกุนรุ่นที่สาม เพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่และอำนาจของตระกูล

ศาลเจ้านิกโกโทโชกุมีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมที่หรูหราและประณีต อาคารกว่า 55 หลังถูกประดับตกแต่งด้วยงานแกะสลักไม้ที่ซับซ้อนและงดงาม รวมถึงการใช้สีสันสดใสและทองคำเปลว ซึ่งแตกต่างจากสถาปัตยกรรมชินโตแบบดั้งเดิมที่เรียบง่ายประตูลักษณ์โยเมมง (Yomeimon Gate) เป็นประตูหลักที่งดงามที่สุดของศาลเจ้า ประดับด้วยงานแกะสลักรูปสัตว์ในตำนานและดอกไม้กว่า 500 ชิ้น, ลิงสามตัว (Three Wise Monkeys) งานแกะสลักลิงสามตัวในท่าปิดหู ปิดตา และปิดปาก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคอกม้าศักดิ์สิทธิ์ งานแกะสลักนี้สื่อถึงหลักคำสอนที่ว่า “ไม่ดูชั่ว ไม่ฟังชั่ว และไม่พูดชั่ว”, แมวนอนหลับ (Sleeping Cat) งานแกะสลักแมวที่โด่งดังอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสงบสุขที่มาถึงญี่ปุ่นในยุคของตระกูลโทกูงาวะ

・วิธีเดินทาง : เดินจากร้าน Meiji no Yakata ไปยังศาลเจ้าโทโชกุ ใช้เวลาประมาณ 7 นาที มีระยะทาง 400 เมตร

・เวลาทำการ : เดือนเมษายน – ตุลาคม เปิดเวลา 09:00 – 17:00 น. และเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม เปิดเวลา 09:00 – 16:00 น.

・ค่าเข้าชม :  ค่าเข้าชมศาลเจ้าหลัก ผู้ใหญ่ ราคา 1,300 เยน / ค่าเข้าชมรวม คือศาลเจ้าหลักและศาลเจ้าเนมูริเนโกะ ราคา 2,100 เยน

・MAP : https://maps.app.goo.gl/DpPeW2YDYxiSmhnq7

★ 14:10 – 14:40 น. เที่ยวชมศาลเจ้าฟุตะระซัง (Futarasan Shrine)

Futarasan Shrine

ศาลเจ้าฟุตะระซัง (Futarasan Shrine) เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองนิกโก้ โดยสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 782 เพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้าแห่งภูเขาสามลูก ได้แก่ ภูเขาฟุตะระ (ภูเขานันไต) ภูเขาเนียวโฮ และภูเขาทาโร ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นมรดกโลกของ UNESCO เช่นเดียวกับวัดรินโนจิและศาลเจ้าโทโชกุ ศาลเจ้าฟุตะระซังจึงมีชื่อเสียงในฐานะศาลเจ้าที่ให้พรเรื่องความรัก, การมีบุตร, และการเดินทางที่ปลอดภัย

ไฮไลต์ของที่นี่คือ สะพานชินเคียว สะพานสีแดงอันโด่งดังที่อยู่ด้านหน้าศาลเจ้า ถือเป็นประตูทางเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกโก้, ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ภายในศาลเจ้ามีต้นไม้ที่เชื่อกันว่าสามารถช่วยในเรื่องความรักและความสัมพันธ์, บรรยากาศเงียบสงบ เมื่อเทียบกับศาลเจ้าโทโชกูที่อยู่ใกล้เคียง ศาลเจ้าฟุตะระซังจะมีความสงบและเรียบง่ายมากกว่า ทำให้ผู้ที่มาเยือนรู้สึกผ่อนคลายและได้สัมผัสถึงความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่อย่างแท้จริง

・วิธีเดินทาง : เดินจากศาลเจ้าโทโชกุ ไปยังศาลเจ้าฟุตะระซัง (Futarasan Shrine) มีระยะทางประมาณ 300 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที

・เวลาทำการ : เดือนเมษายน – ตุลาคม เปิดเวลา 08:30 – 17:00 น. / เดือนพฤศจิกายน – มีนาคม เปิดเวลา 09:00 – 16:00 น.

・ค่าเข้าชม :  ไม่เสียค่าเข้าชมบริเวณศาลเจ้าหลัก แต่มีค่าเข้าชมสวนชินเคียวโระ (Shinkyo ro Garden) ราคา 200 เยน

・MAP : https://maps.app.goo.gl/E97Qjmv3zUTXphPa8

★ 14:45 – 15:30 น. เที่ยวชมไทอุอิน (Taiyuin)

Taiyuin

ไทอุอิน (Taiyuin) หรือที่รู้จักกันในชื่อ สุสานไทอุอิน (Taiyuin Mausoleum) เป็นสุสานของโทกูงาวะ อิเอมิตสึ โชกุนรุ่นที่ 3 แห่งรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ ซึ่งเป็นหลานชายของโทกูงาวะ อิเอยาสึ ผู้ซึ่งถูกฝังอยู่ที่ศาลเจ้าโทโชกุ สุสานแห่งนี้มีความงดงามไม่แพ้ศาลเจ้าโทโชกุ แต่มีบรรยากาศที่เงียบสงบกว่า 

เรื่องราวที่น่าสนใจที่สุดของไทอุอินคือปรัชญาในการออกแบบที่แสดงถึงความเคารพอย่างลึกซึ้งที่อิเอมิตสึมีต่อปู่ของเขา โชกุนอิเอยาซึได้ถูกฝังไว้ที่ศาลเจ้าโทโชกู ซึ่งเป็นสถานที่ที่หรูหราอลังการที่สุดในนิกโก้

อิเอมิตสึสั่งให้สร้างสุสานของตนเองที่อยู่ใกล้เคียง แต่ได้ออกคำสั่งอย่างเคร่งครัดว่า ห้ามสร้างสุสานให้หรูหราหรือใหญ่โตกว่าของปู่ การออกแบบของไทอุอินจึงเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมที่วิจิตรบรรจงกับความเรียบง่าย แสดงถึงการเคารพและถ่อมตนต่อผู้ก่อตั้งตระกูล โดยหันหน้าเข้าสู่ทิศที่มองเห็นศาลเจ้าโทโชกูได้อย่างชัดเจน

แม้จะเรียบง่ายกว่าศาลเจ้าโทโชกู แต่ไทอุอินก็มีความงดงามไม่แพ้กัน อาคารต่าง ๆ มีการแกะสลักอย่างประณีตและใช้สีสันที่สง่างาม ทำให้มีบรรยากาศที่เงียบสงบและศักดิ์สิทธิ์กว่า สิ่งที่ห้ามพลาดคือ ประตูคารามง (Karamon Gate) ประตูสำคัญที่ตกแต่งอย่างงดงาม, ประตูยามง (Yashamon Gate) อีกประตูหนึ่งที่ตกแต่งอย่างละเอียดอ่อน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการปกป้อง, สุสาน (Okkoin-den) สถานที่ฝังร่างของโชกุนอิเอมิตสึ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบของธรรมชาติ

・วิธีเดินทาง : เดินจากศาลเจ้าฟุตะระซัง ไปยังไทอุอิน มีระยะทางประมาณ 190 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 3 นาที

・เวลาทำการ : เดือนเมษายน – ตุลาคม เปิดเวลา 08:00 – 17:00 น. และ เดือนพฤศจิกายน – มีนาคม เปิดเวลา 08:00 – 16:00 น.

・ค่าเข้าชม :  ผู้ใหญ่ 550 เยน

・MAP : https://maps.app.goo.gl/QaCzPyU4LhsAsh8D8

★ 16:10 – 16:20 น. รับกระเป๋าที่ฝากไว้จากโรงแรม

・วิธีเดินทาง : ขึ้นรถบัสท้องถิ่นจากป้าย Nishisando-iriguchi ไปยังป้ายสถานี Tobu Nikko ใช้เวลาเดินทาง 9 นาที จากนั้นเดินต่อไปยังโรงแรมอีก 230 เมตร

・MAP : https://maps.app.goo.gl/QFSNNwXkAvfunoU68

★ 17:30 น. เช็กอินโรงแรม Nikko Kinugawa Hotel Mikazuki

Nikko Kinugawa Hotel Mikazuki
Nikko Kinugawa Hotel Mikazuki

เมื่อถึงสถานี Kinugawa onsen ก่อนเดินต่อไปยังโรงแรม ให้แวะซื้อตั๋วรถไฟด่วนพิเศษเพื่อเดินทางกลับโตเกียวสำหรับวันถัดไปที่ตู้จำหน่ายตั๋ว และเมื่อถึงโรงแรมเรียบร้อยแล้วให้รับประทานอาหารเย็น และพักผ่อนร่างกายที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันด้วยการแช่ออนเซ็นสบาย ๆ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อพร้อมชมทิวทัศน์อันสวยงามส่งท้ายทริปนิกโก้ โทชิงิ

・วิธีเดินทาง : เดินจากโรงแรมไปสถานี Tōbu-nikkō 5 นาที ประมาณ 230 เมตร เพื่อนั่งรถไฟสาย Tobu-Kinugawa Line ไปลงที่สถานี Kinugawa onsen ใช้เวลาเดินทาง 32 นาที และเดินต่ออีก 300 เมตร ไปยังโรงแรม Nikko Kinugawa Hotel Mikazuki

・ค่าเดินทาง : 330 เยน

・ค่าที่พัก : ประมาณ 37,500 เยน/คืน

・MAP : https://maps.app.goo.gl/YjXkgJmjqPpWtNcK9


วันที่ 4 : ส่งท้ายทริปที่จุดหมายสุดท้าย ย้อนยุคไปเอโดะที่ เอโดะวันเดอร์แลนด์

★ 08:30 – 09:45 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

★ 10:00 – 10:15 น. เช็กเอาต์พร้อมฝากสัมภาระไว้ที่โรงแรม

ทางโรงแรมมีบริการรับฝากกระเป๋าหลังการเช็กเอาต์ จึงขอแนะนำให้ฝากไว้ที่โรงแรม ไม่ต้องเสียค่าบริการล็อกเกอร์หยอดเหรียญเพิ่มเติม

★ 11:00 – 15:30 น. ย้อนยุคไปเอโดะที่ เอโดะวันเดอร์แลนด์ (Edo Wonderland)

Edo Wonderland

เอโดะวันเดอร์แลนด์ นิกโก้ เอโดมุระ (Edo Wonderland Nikko Edomura) เป็นสวนสนุกที่จำลองบรรยากาศของญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ (ค.ศ.1603-1867) โดยนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจอย่างใกล้ชิด 

ภายในหมู่บ้านมีการแสดงนินจา ซามูไร และขบวนพาเหรดโออิรันตามถนนและโรงละครท้องถิ่น ผู้เข้าชมสามารถแต่งตัวย้อนยุคเพื่อเก็บภาพเป็นที่ระลึก มีกิจกรรมสำหรับฝึกทักษะและสำรวจเขาวงกตต่าง ๆ เลียนแบบนินจา พร้อมเวิร์กช็อปให้เข้าร่วมตามชอบ และยังมีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกมากมาย ได้มุมมองการเที่ยวโทชิงิอีกรูปแบบที่อยู่ในโปรแกรมทัวร์ครั้งนี้

*รับประทานอาหารกลางวันที่นี่

・วิธีเดินทาง : ขึ้นรถบัสรับส่งจากหน้าสถานี Kinugawa onsen ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-22 นาที

・เวลาทำการ : ช่วงฤดูร้อน เดือนมีนาคม – พฤศจิกายน เปิดตั้งแต่ 09:00 – 17:00 น. และช่วงฤดูหนาว เดือนธันวาคม – มีนาคม เปิดตั้งแต่ 09:30 – 16:00 น. (หยุดวันพุธ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และช่วงวันหยุดฤดูร้อน)

・ค่าเข้าชม : ตั๋ว 1 วัน ผู้ใหญ่ (อายุ 13 ปีขึ้นไป) ราคา 5,800 เยน , เด็ก (อายุ 6-12 ปี) ราคา 3,000 เยน /ตั๋วช่วงบ่าย (เข้าหลัง 14:00 น. หรือหลัง 13:00 น. ในฤดูหนาว) ผู้ใหญ่ ราคา 5,000 เยน , เด็ก ราคา 2,600 เยน / เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีเข้าฟรี

・MAP : https://maps.app.goo.gl/gp8MKvBpcY34gXv36

★ 16:20 – 16:30 น. รับกระเป๋าที่ฝากไว้จากโรงแรม

・วิธีเดินทาง : ขึ้นรถบัสกลับไปยังสถานี Kinugawa

・MAP : https://maps.app.goo.gl/25aA3kYdj1SSXkNS9

★ 16:40 – 18:45 น. เดินทางกลับโตเกียว

・วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟ SPACIA X 10 จากสถานี Kinugawa Onsen ไปยังสถานี Asakusa

・MAP : https://maps.app.goo.gl/cD5UqswtV6zsYXTEA

★ 19:15 น. เช็กอินโรงแรม Keio Presso Inn Tokyo Station Yaesu

Keio Presso Inn Tokyo Station Yaesu

・วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Ginza จากสถานี Asakusa ไปลงที่สถานี Kyobashi ใช้เวลาเดินทางประมาณ 16 นาที จากนั้นเดินต่อไปยังโรงแรมอีก 350 เมตร

・MAP : https://maps.app.goo.gl/ZHv7eYWk4JjiNKGJ8

บทส่งท้าย

ทริป “โทชิงิ” เป็นอีกทริปที่จะช่วยสร้างประสบการณ์การเที่ยวญี่ปุ่นอีกมิติ ได้เที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวเน้นธรรมชาติช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนสูดออกซิเจนได้อย่างเต็มที่ ทริปพักกายพักใจกับธรรมชาติที่สวยงามเป็นของขวัญให้กับตัวเองหลังจากทำงานเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งปี จบทริปอย่างสวยงามด้วยการสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นยุคเอโดะได้อย่างใกล้ชิด เก็บภาพความประทับใจได้เพียบ ใครที่ชอบวิวสวย ๆ บรรยากาศสงบ ๆ พลาดไม่ได้เลยกับทริปนี้


สรุปค่าใช้จ่ายรวม (ต่อคนโดยประมาณ)

ค่าโรงแรม : ประมาณ 70,900 เยน

ค่าอาหาร : 13,000 – 20,000 เยน

ค่าเข้าสถานที่ : ประมาณ 12,000 เยน

ค่าเดินทาง : ประมาณ 22,000 – 35,000 เยน  (รวมค่าทางด่วน ค่าน้ำมัน)

รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดโดยประมาณ (ต่อคน) : 117,900 – 137,900 เยน 

กดบันทึกคูปองและบทความไว้เพื่อทำให้การเดินทางไปญี่ปุ่นของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น!

ถ้ากดบันทึกคูปองหรือบทความที่ชอบเอาไว้ ก็จะสามารถค้นหาได้อย่างง่ายดายจาก "My Page" ในระหว่างการเดินทาง ลองใช้กันดูนะ!

สมัครสมาชิก

ロンタ

บันทึกแล้ว!