เข้าสู่ระบบ
คูปอง
เข้าสู่ระบบ
คูปอง
นาริตะ vs ฮาเนดะ ไปโตเกียวลงสนามบินไหนดี อัปเดต 2025
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาโตเกียวส่วนใหญ่จะนิยมบินมาลงที่สนามบินนาริตะ หรือสนามบินฮาเนดะ ซึ่งถึงแม้ว่าทั้งสองสนามบินจะเป็นประตูที่เปิดรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเหมือนกัน มีบริการที่ครบครันไม่แพ้กัน แต่ก็มีความแตกต่างกันในหลาย ๆ ด้านที่อาจส่งผลต่อความสะดวกและประสบการณ์ในการเดินทางของแต่ละคน บทความนี้จึงจะมาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัด ๆ ไปเลยว่าสนามบินไหนเหมาะกับใคร และมีข้อดีข้อเสียอะไรที่ควรรู้ก่อนซื้อตั๋วบ้าง
สนามบินนาริตะ
สนามบินนาริตะ ตั้งอยู่ในเมืองนาริตะ จังหวัดชิบะ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 1978 เป็นสนามบินที่ให้บริการเที่ยวบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ โดยมีอาคารผู้โดยสาร 3 แห่ง ส่วนใหญ่สายการบินในเครือ Star Alliance และ SkyTeam จะใช้อาคารที่ 1 ขณะที่สายการบินเครือ Oneworld รวมถึง Japan Airlines จะใช้อาคาร 2 ส่วนอาคารผู้โดยสาร 3 จะเป็นเที่ยวบินภายในประเทศ และเที่ยวบินราคาประหยัด
จุดเด่นของสนามบินนาริตะ
– สายการบินหลากหลาย สนามบินนาริตะมีเที่ยวบินระหว่างประเทศมากกว่า จึงมีตัวเลือกหลากหลายทั้งสายการบิน เวลาเดินทาง ราคา ไปจนถึงเส้นทาง
– ค่าตั๋วถูก สายการบินที่มาลงสนามบินนาริตะมีทั้งสายการบินแบบ Full Service และ Low Cost เช่น Thai AirAsia X จึงสามารถมาเที่ยวโตเกียวได้แบบไม่ต้องจ่ายแพง
– ร้านค้าเยอะ สนามบินนาริตะเป็นตัวเลือกยอดนิยมของสายช้อป เพราะมีร้านค้าปลอดภาษีเยอะกว่าสนามบินฮาเนดะ ช้อปเพลินทั้งสินค้าแบรนด์เนม เสื้อผ้าแฟชั่น ขนม ของฝากจากทั่วทุกภูมิภาคของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีป๊อบอัพสโตร์ของคาแรกเตอร์ชื่อดัง เช่น Crayon Shinchan Action Department Store, Pokémon Store ด้วย
– ใกล้ตัวเมืองนาริตะ ขากลับสามารถเผื่อเวลามาถึงสนามบินเร็วหน่อย และออกไปเที่ยวในตัวเมืองนาริตะได้ มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง เช่น วัด Naritasan Shinshoji ที่มีอายุนับพันปี, สวน Sakura no Yama Park ที่มีดอกซากุระกว่า 500 ต้น และ Shisui Premium Outlets ที่มีสินค้าให้ช้อปมากมาย
ข้อเสียของสนามบินนาริตะ
– ใช้เวลาเดินทางนาน สนามบินนาริตะอยู่ห่างจากใจกลางโตเกียวประมาณ 50 – 60 กิโลเมตร ทำให้ต้องเผื่อเวลาเดินทางเข้าตัวเมืองประมาณ 1 ชั่วโมง
– ต่อคิวนาน เนื่องจากมีเที่ยวบินระหว่างประเทศเยอะ นักท่องเที่ยวก็เยอะ ทำให้คิวตรวจคนเข้าเมืองค่อนข้างยาว หากต้องต่อไฟลท์ หรือเป็นช่วงวันหยุดเทศกาลควรเผื่อเวลาส่วนนี้ไว้ด้วย
สนามบินฮาเนดะ
สนามบินฮาเนดะ อยู่ในเขตโอตะ ทางตอนใต้ของโตเกียว เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 1931 แต่พอมีการก่อสร้างสนามบินนาริตะขึ้น เที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งหมดก็ถูกย้ายไปลงที่สนามบินนาริตะแทน จนกระทั่งในปี 2010 ได้เปิดทำการอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ จึงเริ่มกลับมาให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศอีกครั้ง ภายในประกอบไปด้วยอาคารผู้โดยสาร 3 แห่งเช่นกัน โดยอาคารผู้โดยสารที่ 1 และ 2 จะมีทางเดินใต้ดินเชื่อมต่อกัน ส่วนใหญ่ใช้สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ หลัก ๆ คือสายการบิน All Nippon Airways (ANA) และสายการบิน Japan Airlines (JAL) ส่วนอาคารที่ 3 จะเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ
จุดเด่นของสนามบินฮาเนดะ
– ใกล้ตัวเมืองโตเกียว สนามบินฮาเนดะอยู่ห่างจากใจกลางโตเกียวเพียง 15 กิโลเมตร สามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเท่านั้น
– เที่ยวบินในประเทศเยอะ สำหรับใครที่มาเที่ยวโตเกียวและมีแผนจะเดินทางไปเมืองอื่น ๆ ด้วย มาลงที่สนามบินฮาเนดะจะสะดวกกว่า เพราะมีเที่ยวบินภายในประเทศที่ครอบคลุมเมืองใหญ่ ๆ ทั่วญี่ปุ่น เช่น ซัปโปโร ฟุกุโอกะ โอซาก้า โอกินาว่า
– สะอาดที่สุดในโลก สนามบินฮาเนดะได้รับการจัดอันดับจาก Skytrax ให้เป็นสนามบินที่สะอาดที่สุดในโลกติดต่อกันถึง 10 ปีซ้อน และยังติด 1 ใน 3 ของสนามบินที่ดีที่สุดในโลกจากการโหวตของนักเดินทางทั่วโลกเป็นเวลา 10 ปีต่อเนื่องเช่นกัน
– แหล่งช้อปปิงสไตล์ย้อนยุค ที่ชั้น 4 ของอาคารผู้โดยสาร 3 จะมีแหล่งรวมร้านค้าและร้านอาหารที่เรียกว่า “เอโดะโคจิ” ซึ่งถูกตกแต่งแบบย้อนยุคเหมือนสมัยเอโดะ และยังมีสะพานนิฮงบาชิจำลองยาว 25 เมตร ที่คนนิยมมาถ่ายรูปกันด้วย
– โซนช้อปปิงเปิดใหม่ ในปี 2023 สนามบินฮาเนดะ ได้เปิดตัวโซนช้อปปิงใหม่ Haneda Airport Garden ซึ่งเป็นอาคารที่เชื่อมต่อโดยตรงกับอาคารผู้โดยสาร 3 มีร้านค้ามากมายกว่า 60 ร้าน รวมถึงของฝากสารพัดชนิด เช่น ขนมญี่ปุ่น สาเกญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีออนเซ็นธรรมชาติพร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
ข้อเสียของสนามบินฮาเนดะ
– สายการบินจากไทยน้อย สำหรับคนที่จะนั่งเครื่องบินจากไทยไปลงสนามบินฮาเนดะ จะมีตัวเลือกอยู่แค่ 3 สายการบินเท่านั้น ได้แก่ Thai Airways (TG), All Nippon Airways (ANA) และ Japan Airlines (JAL) ซึ่งเป็นสายการบินแบบ Full Service ทั้งหมด จำนวนไฟลต์ต่อวันน้อยกว่า และราคาก็มักจะสูงกว่าด้วย
วิธีเดินทางเข้าเมืองจากสนามบินนาริตะ
การเดินทางโดยรถไฟ
การเดินทางด้วยรถไฟเป็นวิธีเข้าเมืองที่สะดวกและประหยัดเวลาที่สุด โดยจะมีจุดขึ้นรถอยู่ที่ชั้น B1 ของอาคารผู้โดยสาร 1 และ 2 หากมาจากอาคารผู้โดยสาร 3 สามารถเดินตามทางเชื่อมมาขึ้นรถที่อาคารผู้โดยสาร 2 ได้เช่นกัน ปัจจุบันมีให้บริการอยู่ 3 สาย คือ
1. JR Narita Express (N’EX)
JR Narita Express เป็นรถไฟด่วนพิเศษที่ให้บริการโดยบริษัท JR East วิ่งตรงจากสนามบินนาริตะไปถึงสถานีโตเกียวภายในเวลา 53 นาที นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับสถานีหลักอื่น ๆ ในโตเกียวอีกหลายจุด เช่น สถานีชินากาวะ, ชิบุยะ, ชินจูกุ และโยโกฮาม่า ข้อดีคือหากใครมีบัตร JR Pass อยู่แล้วก็สามารถใช้จองที่นั่งได้เลย แต่หากไม่มีก็สามารถซื้อตั๋วแยกได้ โดยจะแบ่งเป็น 2 แบบ คือ ตั๋วสำหรับขบวนธรรมดา (Ordinary Car) ราคา 3,070 – 4,700 เยน / เที่ยว และขบวนพิเศษ (Green Car) ราคา 3,840 – 6,970 เยน / เที่ยว
2. Keisei Skyliner
Keisei Skyliner เป็นรถไฟด่วนพิเศษที่ให้บริการโดยบริษัท Keisei Electric Railway ซึ่งเชื่อมต่อสนามบินนาริตะกับใจกลางเมืองโตเกียวเหมือนกัน มีรถออกทุก 20 นาที โดยวิ่งตรงไปถึงสถานี Nippori แบบไม่แวะสถานีใด ๆ ภายในเวลา 36 นาที และไปสิ้นสุดปลายทางที่สถานี Keisei-Ueno แต่จะมีบางขบวนที่แวะสถานี Shin-Kamagaya และสถานี Aoto ก่อน จึงจะใช้เวลาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ราคาตั๋วอยู่ที่ 2,580 เยน / เที่ยว
3. Access Express
Access Express เป็นรถไฟด่วนพิเศษของบริษัท Keisei Electric Railway เช่นกัน ราคาจะถูกที่สุด มีขบวนที่วิ่งเส้นทางเดียวกับ Keisei Skyliner แต่ใช้เวลานานกว่าประมาณ 55 นาที ราคาตั๋วอยู่ที่ 1,240 เยน / เที่ยว และขบวนที่วิ่งอีกเส้นทาง ผ่านสถานี Oshiage, Asakusa, Nihombashi, Higashi Ginza, Shinagawa ไปสิ้นสุดปลายทางที่สนามบินฮาเนดะ ใช้เวลารวม 107 นาที ราคาตั๋วอยู่ที่ 1,170 – 1,810 เยน / เที่ยว
การเดินทางโดยรถบัส
การเดินทางโดยรถบัสจากสนามบินเข้าเมืองจะใช้เวลาประมาณ 60 – 70 นาที เป็นวิธีที่สะดวกเหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่มีสัมภาระเยอะ แถมยังมีให้เลือกใช้บริการหลายเจ้า รอบวิ่งถี่ จุดจอดเยอะ ครอบคลุมหลายพื้นที่ เช่น Airport Limousine Bus และ Keisei Bus จะวิ่งจากสนามบินนาริตะเข้าสู่โตเกียว โดยมีจุดรับส่งตามสถานีรถไฟ โรงแรมใหญ่ ๆ หรือสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในย่านต่าง ๆ เช่น ชิบุยะ, ชินจูกุ, อิเคะบุคุโระ, กินซ่า, รปปงหงิ, โอไดบะ แต่หากตั้งใจจะไปลงสถานีโตเกียว, กินซ่า หรือ Shinonome AEON สามารถนั่ง Airport BUS TYO – NRT ได้เลย จะแวะแค่ 3 สถานีนี้เท่านั้น จึงใช้เวลาน้อยกว่า และราคาก็ถูกกว่าด้วย
วิธีเดินทางเข้าเมืองจากสนามบินฮาเนดะ
การเดินทางโดยรถไฟ
เนื่องจากสนามบินฮาเนดะอยู่ใกล้กว่าสนามบินนาริตะ จึงใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟแค่ประมาณ 20 นาทีเท่านั้น โดยมีผู้ให้บริการ 2 เจ้าคือ
1. Tokyo Monorail Line
Tokyo Monorail Line เป็นรถไฟที่วิ่งระหว่างสนามบินฮาเนดะ กับสถานี Hamamatsucho โดยใช้เวลาเพียง 13 นาที จากจุดนี้จะสามารถเปลี่ยนไปสาย JR Yamanote เพื่อเดินทางไปสถานีอื่น ๆ ได้ เช่น ชิบุยะ, ชินจูกุ, อิเคะบุคุโระ, อากิฮาบาระ, รปปงหงิ, อุเอโนะ ค่าโดยสารประมาณ 520 เยน สามารถใช้ JR PASS ได้ มีรถออกทุก 10 นาที
2. Keikyu Line
Keikyu Line เป็นรถไฟที่วิ่งระหว่างสนามบินฮาเนดะ กับสถานี Shinagawa ซึ่งเป็นสถานีที่สามารถเปลี่ยนรถไฟได้หลายสาย เช่น สาย JR Yamanote, JR Keihin Tohoku , JR Ueno Tokyo , JR Tokaido , JR Yokosuka , JR Tokaido Shinkansen ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ค่าโดยสาร 330 เยน
การเดินทางโดยรถบัส
สนามบินฮาเนดะก็มีรถ Airport Limousine Bus ให้บริการเช่นกัน วิ่งตรงจากสนามบินไปถึงสถานีโตเกียวภายในเวลาประมาณ 35 นาที และยังแวะจอดอีกหลายจุด เช่น สถานี Shinjuku, Nakano, Ikebukuro, ย่านอะคาซากะ, รปปงหงิ, โอไดบะ ฯลฯ
บทส่งท้าย
สนามบินทั้งสองแห่งต่างก็มีดีไปคนละแบบ เพราะฉะนั้นก่อนเลือกจึงควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ให้รอบด้าน ทั้งความสะดวก งบประมาณ และแพลนท่องเที่ยว เช่น คนที่พักในย่านอุเอโนะ เลือกลงสนามบินนาริตะก็จะสะดวกกว่า เพราะนั่งรถไฟต่อเดียวถึง ไม่ต้องเปลี่ยนขบวน หรือหากใครเคยไปลงสนามบินนาริตะแล้ว ครั้งหน้าอาจจะลองเปลี่ยนบรรยากาศไปลงสนามบินฮาเนดะดูบ้าง อาจได้พบกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ทำให้การเดินสนุกกว่าที่เคยก็ได้
