15 เมืองรองญี่ปุ่น น่าเที่ยว เลี่ยงคนหนาแน่น สัมผัสเสน่ห์แบบท้องถิ่น

นอกจากเมืองหลักอย่างโตเกียว เกียวโต โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นยังมีเมืองรองอีกหลายแห่ง ที่น่าเที่ยวไม่แพ้กัน บรรยากาศเงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน แถมยังเต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ เสน่ห์ของวัฒนธรรมท้องถิ่น อาหารแสนอร่อย และมุมถ่ายรูปชิค ๆ ที่ไม่ต้องต่อคิวให้เมื่อย ใครอยากมาเปิดประสบการณ์ สัมผัสมุมใหม่ ๆ ของญี่ปุ่น เตรียมปักหมุดกันได้เลย กับ 15 เมืองรองญี่ปุ่น ที่จะทำให้ตกหลุมรักไม่รู้ตัว
1. นากาโน่ (Nagano)

นากาโน่ เป็นจังหวัดที่ไม่ติดทะเล แต่มีธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งขุนเขา สายน้ำ ออนเซ็นธรรมชาติ และวิวเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japanese Alps) ที่มีความสูงถึง 3,193 เมตร ไฮไลต์เด็ดที่ไม่ควรพลาดคือ สวนลิงจิโกคุดานิ (Jigokudani Monkey Park) ที่มีลิงหิมะกว่า 200 ตัว มาแช่น้ำให้ชมใกล้ ๆ และหุบเขาฮาคุบะ (Hakuba) ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตสำหรับคนเล่นสกี เพราะมีหิมะที่นุ่มละเอียด แถมยังมีสกีรีสอร์ตเปิดให้บริการเป็นสิบแห่ง และกิจกรรมสนุก ๆ อีกเพียบ
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Hokuriku Shinkansen จากโตเกียวประมาณ 80 – 100 นาที
2. กุนมะ (Gunma)

กุนมะ เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโตเกียว รายล้อมด้วยยอดเขาสูงตระหง่าน และทะเลสาบที่ใสสะอาด เหมาะสำหรับสายกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า, พายเรือ, ล่องแก่ง, เล่นสกี, สโนว์บอร์ด หรือผ่อนคลายในบ่อออนเซ็นที่มีอยู่ทั่วทั้งจังหวัด
นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของน้ำตกฟุคิวาเระ (Fukiware no taki falls) ที่ได้ฉายาว่า ไนแองการ่าแห่งตะวันออก มีความสูงถึง 7 เมตร กว้าง 30 เมตร และวัดเบียคุเอะ ไดคันนง (Byakue Dai-Kannon) ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมสูง 41.8 เมตร ที่คนนิยมมาขอพรเรื่องความรักกันด้วย
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Joetsu Shinkansen หรือ Hokuriku Shinkansen จากโตเกียว ลงที่เมืองทากาซากิ จังหวัดกุนมะ ประมาณ 50 นาที
3. นารา (Nara)

จังหวัดนารา ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซ ติดกับโอซาก้าและเกียวโต อดีตเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น จึงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ และวัดวาอารามมากมาย เช่น วัดโทไดจิ (Todai-ji Temple) ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 8 เป็นที่ประดิษฐานพระใหญ่ไดบุตสุ สูง 15 เมตร หนัก 500 ตัน และวัดโฮริวจิ (Horyu-ji Temple) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ภายในมีเจดีย์ 5 ชั้น ซึ่งเป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ มากมายที่มีอายุนับพันปี
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ห้ามพลาดคือ สวนสาธารณะนารา (Nara Park) ซึ่งมีกวางอาศัยอยู่ตามธรรมชาติกว่า 1,300 ตัว สามารถป้อนอาหารและถ่ายรูปใกล้ ๆ ได้ด้วย
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Miyakoji Rapid Trains จากสถานีเกียวโต ลงสถานีนารา ประมาณ 45 นาที หรือนั่ง Kintetsu Limited Express ลงสถานี Kintetsu-Nara ประมาณ 35 นาที
4. วาคายามะ (Wakayama)

มาเที่ยวญี่ปุ่นเมืองรองกันต่อเลยที่ วาคายามะ เป็นจังหวัดตั้งอยู่ทางใต้สุดของเกาะฮอนชู มีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี ขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ มีทั้งภูเขา, ทะเล, ชายหาด และป่าไม้สีเขียวชอุ่ม อาหารก็อร่อย แถมยังมีแลนด์มาร์กให้เที่ยวชมมากมาย เช่น ปราสาทวาคายามะ จากยุคเอโดะที่สามารถปีนขึ้นไปชมวิวเมืองจากด้านบนได้ และ Wakayama Marina City เกาะเทียมที่มีทั้งสวนสนุก, แหล่งช้อปปิง, ตลาดปลา, ออนเซ็น, ร้านอาหาร และโรงแรม
การเดินทาง : นั่งรถบัสจากสนามบินคันไซประมาณ 40 นาที หรือนั่งรถไฟ JR Kuroshio จากโอซาก้าประมาณ 1 ชั่วโมง
5. กิฟุ (Gifu)

จังหวัดกิฟุ มีทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามทุกฤดู เหมาะจะมาเดินเล่น ถ่ายรูป สัมผัสบรรยากาศของเมืองเก่าที่รายล้อมด้วยสถาปัตยกรรมโบราณ และบ้านเรือนเก่าแก่ ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือ หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) หมู่บ้านสุดน่ารักท่ามกลางหุบเขา ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO และปราสาทกุโจฮาจิมัง (Gujohachiman Castle) หนึ่งในปราสาทที่งดงามที่สุดของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้นเมเปิ้ลรอบ ๆ ปราสาทจะพร้อมใจกันผลัดใบเปลี่ยนสีสวยงามมาก
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Tokaido Shinkansen Nozomi จากสถานี Tokyo, Kyoto, Shin-Osaka ลงที่สถานี Nagoya ต่อรถไฟ JR Tokaido Line ลงกิฟุ
6. ชิบะ (Chiba)

ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นที่โตเกียวแล้วอย่าลืมแวะมาเมืองรองอย่างชิบะด้วย ตั้งอยู่ติดกันเลย ใช้เวลาเดินทางแค่ประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ที่นี่เป็นที่ตั้งของสวนสนุกระดับโลกถึง 2 แห่ง คือ Tokyo DisneyLand และ Tokyo DisneySea
และยังมีที่เที่ยวอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ภูเขาโนโคกิริ (Nokogiri) หนึ่งในจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น และวัดนาริตะซัน ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple) ที่มีสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่ง ด้านหน้าจะมีถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้าให้ช้อปปิงขนม ของกินของใช้ ของฝากต่าง ๆ ด้วย
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR Narita Express จากสนามบินนาริตะ ประมาณ 30 นาที หรือนั่งรถไฟ JR Keiyo Line จากสถานี Tokyo ประมาณ 1 ชั่วโมง
7. อาโอโมริ (Aomori)

จังหวัดอาโอโมริ ตั้งอยู่ตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ ถูกล้อมรอบด้วยทะเล 3 ด้าน จึงมีทัศนียภาพที่สวยงามมาก และยังเป็นแหล่งปลูกแอปเปิ้ลที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นด้วย ใครมาเที่ยวที่นี่ต้องแวะไปที่ แม่น้ำโทวาดะ (Lake Towada) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะฮอนชู เป็นจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามราวกับภาพวาด
ต่อด้วยการขึ้นกระเช้าลอยฟ้าไปชมวิวบนเทือกเขาฮัคโคดะ (Hakkoda) ที่มีความสูงถึง 1,585 เมตร และเที่ยวชมปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) อายุกว่า 400 ปี ที่รายล้อมด้วยต้นซากุระกว่า 2,500 ต้น
การเดินทาง : นั่งเครื่องบินจากสนามบินฮาเนดะ ประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที หรือนั่งรถไฟ JR Tohoku Shinkansen Hayabusa จากโตเกียวประมาณ 3 ชั่วโมง
8. ฟุกุโอกะ (Fukuoka)

จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีสีสัน บรรยากาศคึกคัก ผสานความทันสมัยเข้ากับวัฒนธรรมดั้งเดิมได้อย่างลงตัว มีแหล่งช้อปปิงมากมาย รวมถึงร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูขึ้นชื่ออย่างฮากาตะราเมน, หม้อไฟมตสึนาเบะ และข้าวหน้าปลาไหล
แลนด์มาร์กที่คนนิยมมาเที่ยวกันคือ วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple) ที่ประดิษฐานของพระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอนองค์ใหญ่ ความยาว 41 เมตร สูง 11 เมตร และเกาะโนโคโนะชิมะ (Nokonoshima) ที่มีทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีหลายสายพันธุ์
การเดินทาง : นั่งเครื่องบินจากสนามบินฮาเนดะหรือนาริตะ ประมาณ 2 ชั่วโมง หรือนั่งรถไฟสาย Tokaido Shinkansen Nozomi จากเกียวโต หรือสาย Sanyo Shinkansen Nozomi จากสถานี Shin-Osaka ประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที
9. ฮิโรชิม่า (Hiroshima)

ใครสนใจเรื่องราวประวัติศาสตร์ต้องมาเที่ยวญี่ปุ่นเมืองรองที่ ฮิโรชิม่า เป็นเมืองที่ถูกโจมตีในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันจึงมีการสร้างอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า ให้คนได้มาเที่ยวชมกัน ด้านในมีโดมปรมาณูซึ่งเป็นอาคารเพียงไม่กี่แห่งที่เหลือรอด, พิพิธภัณฑ์, อนุสรณ์รำลึกถึงผู้เสียชีวิต และประติมากรรมมากมาย
ข้ามฝั่งมาที่เกาะมิยาจิมะ (Miyajima Island) ก็ยังมีที่เที่ยวสวย ๆ อย่างศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine) ที่มีเสาโทริอิสีแดงตั้งอยู่กลางน้ำ และภูเขามิเซน (Misen) ที่มองเห็นวิวได้ 360 องศา
การเดินทาง : นั่งรถไฟ สาย Tokaido Shinkansen Nozomi จากเกียวโต หรือสาย Sanyo Shinkansen Nozomi จากสถานี Shin-Osaka ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
10. โออิตะ (Oita)

จังหวัดโออิตะ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะคิวชู มีชื่อเสียงในฐานะ “เมืองออนเซ็น” เพราะมีจำนวนแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ และปริมาณน้ำที่ผุดขึ้นมามากที่สุดในญี่ปุ่น จุดหมายปลายทางยอดนิยมคือ เมืองเบปปุ (Beppu) ที่มีจิโกกุ เมกุริ (Jigoku Meguri) หรือบ่อนรกทั้ง 8 ที่มีสีของน้ำแตกต่างกัน และเมืองยูฟุอิน (Yufuin) เมืองออนเซ็นเล็ก ๆ ที่สวยงาม มีบรรยากาศสุดชิล ถนนคนเดินสุดน่ารัก และทะเลสาบคิริน (Kinrin Lake) ที่มักจะมีหมอกปกคลุมเหนือผิวน้ำ
การเดินทาง : นั่งเครื่องบินจากสนามบินฮาเนดะหรือนาริตะ ประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที หรือนั่งรถไฟ Sanyo Shinkansen Nozomi จากสถานี Shin-Osaka ประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที ต่อรถไฟ JR Sonic ลงสถานี Oita ประมาณ 1 ชม. 30 นาที
11. ยามานาชิ (Yamanashi)

ยามานาชิ เป็นที่ตั้งของสวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland) หนึ่งในสวนสนุกยอดฮิตของญี่ปุ่น และยังเป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางสำหรับปีนภูเขาไฟฟูจิด้วย มีจุดชมวิวสวย ๆ หลายแห่งที่เดินทางง่าย เช่น ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko) ที่มองเห็นเงาภูเขาไฟฟูจิสะท้อนบนผืนน้ำ หรือสวนยามานาคะโกะ ฮานะโนะมิยาโกะ (Yamanakako Hana no Miyako Park) ทุ่งดอกไม้ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ ในช่วงกลางเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ จะมีโอกาสได้ชมปรากฏการณ์ Diamond Fuji ที่ดวงอาทิตย์บรรจบกับยอดเขาพอดีด้วย
การเดินทาง : นั่ง JR Chuo Line Limited Express จากสถานี Shinjuku ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง หรือนั่งรถบัสจาก Shinjuku Expressway Bus Terminal ประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที
12. คุมาโมโตะ (Kumamoto)

คุมาโมโตะ เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่บนเกาะคิวชู ได้ฉายาว่า “ดินแดนแห่งไฟ” เพราะเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟอะโสะ (Aso) ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และยังคุกรุ่นอยู่ ใกล้ ๆ กันจะมีศาลเจ้าอะโสะ หนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นตั้งอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังมีแลนด์มาร์กชื่อดังอย่าง ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle) ที่มีขนาดกว้างขวางถึง 980,000 ตร.ม. เป็นจุดที่คนนิยมมาชมความสวยงามของซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิกัน
การเดินทาง : นั่งเครื่องบินจากสนามบินฮาเนดะหรือนาริตะ ประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที หรือนั่งรถไฟ Sanyo Shinkansen Mizuho จากสถานี Shin-Osaka ประมาณ 3 ชั่วโมง
13. ไซตามะ (Saitama)

ใครกำลังหาที่เที่ยวญี่ปุ่นเมืองรองใกล้โตเกียว ลองแวะมาที่ จังหวัดไซตามะ กันได้ ที่นี่เป็นที่ตั้งของเมืองคาสุคาเบะ (Kasukabe) บ้านเกิดของชินจัง ในเมืองจะมี Crayon Shin-chan Buriburi Cinema Studio ที่มีตู้เกม, ตู้สติกเกอร์, มุมถ่ายรูปและขายของที่ระลึก
หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศมาเดินเล่นที่ ย่านเมืองเก่าคาวาโกเอะ (Kawagoe) ก็เหมือนได้ย้อนยุคกลับไปในสมัยเอโดะ มีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย รวมถึงร้านเช่าชุดกิโมโนให้ใส่ถ่ายรูปเก๋ ๆ
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR Utsunomiya จากสถานี Tokyo ลงสถานี Omiya ประมาณ 30 นาที หรือนั่ง JR Shonan Shinjuku Line หรือ Saikyo Line จากสถานี Shinjuku ประมาณ 35 นาที
14. มิเอะ (Mie)

จังหวัดมิเอะ ตั้งอยู่ตอนกลางของเกาะฮอนชู เป็นเมืองที่มีทุกอย่าง ทั้งภูเขา, ชายหาด, ปราสาท, สวนสนุก, ศาลเจ้า, พิพิธภัณฑ์ รวมถึงของอร่อยขึ้นชื่ออย่างเนื้อวัวมัตสึซากะ แลนด์มาร์กยอดฮิตติดอันดับต้น ๆ คือ หินเมโอโตะอิวะ (Meoto Iwa) หินคู่กลางทะเลที่ถูกเชื่อมด้วยเชือกศักดิ์สิทธิ์ และศาลเจ้าอิเสะ (Ise Jingu) ที่ประดิษฐานเทพอามาเทราสึ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นต้นบรรพบุรุษของราชวงศ์ญี่ปุ่น ด้านหน้าจะมีถนนยาวประมาณ 1 กม. ที่เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย มาแวะชิมอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อกันที่นี่ได้เลย
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Kintetsu Express จากโอซาก้า ประมาณ 2 ชั่วโมง
15. ชิซูโอกะ (Shizuoka)

จังหวัดชิซูโอกะ ตั้งอยู่ทางใต้ของภูเขาไฟฟูจิ มีจุดชมวิวที่สวยงามหลายแห่ง เช่น มิโฮะโนะมัตสึบาระ (Miho no Matsubara) ชายฝั่งที่มีแนวต้นสนสีเขียว พร้อมภูเขาไฟฟูจิที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลัง และมิชิมะสกายวอล์ค (Mishima Skywalk) สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น มองเห็นทั้งภูเขาไฟฟูจิและอ่าวซุรุกะ
นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งผลิตชาเขียวอันดับต้น ๆ ของประเทศ จึงมีไร่ชามากมายให้เที่ยวชม เช่น ไร่ชาโอบุจิ ซะซะบะ (Obuchi Sasaba) และ ไร่ชามากิโนะฮาระ ไดฉะเอ็น (Makinohara Daicha-en) ไปเดินเล่นถ่ายรูปและชิมชาอร่อย ๆ กันได้
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR Tokaido Shinkansen Hikari จากโตเกียว ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือนั่งรถไฟ Odakyu Romancecar จากสถานี Shinjuku ลงสถานี Gotemba ประมาณ 90 นาที
บทส่งท้าย
หลายคนอาจจะคิดว่าเมืองรองของญี่ปุ่นเดินทางยาก แต่ความจริงแล้วสะดวกกว่าที่คิด เพราะมีรถไฟหรือรถบัสเชื่อมต่อจากเมืองหลักแบบสบาย ๆ หลายเส้นทางก็สามารถใช้ JR Pass ได้ด้วย แถมระบบขนส่งในแต่ละจังหวัดก็จัดว่าครอบคลุม ไม่ว่าจะรถไฟ รถบัส หรือแท็กซี่ รับรองเที่ยวสนุก เดินทางสบาย และได้ความประทับใจกลับมาเพียบแน่นอน


