ท่องญี่ปุ่นเหนือสุดแบบ Luxury กับโรงแรมหรูในเมืองหนาวฮอกไกโด

ดื่มด่ำมนต์เสน่ห์แห่งฮอกไกโดในฤดูหนาวอย่างเหนือระดับ สัมผัสความหรูหราท่ามกลางทัศนียภาพอันงดงามของหิมะขาวบริสุทธิ์ ณ โรงแรมฮอกไกโดสุดพิเศษที่จะมอบประสบการณ์การพักผ่อนอันแสนประทับใจในดินแดนเหนือสุดของญี่ปุ่น แนะนำ 5 โรงแรมติดอันดับในฮอกไกโด บรรยากาศห้อมล้อมด้วยธรรมชาติอันสวยงาม มีห้องพักและบริการที่เรียกได้ว่า Luxury สุด ๆ โรงแรมแต่ละที่มีความโดดเด่นอย่างไร ห้องพักมีรูปแบบไหน ราคาเริ่มต้นที่เท่าไหร่ วันนี้เรารวมข้อมูลไว้ให้เก็บข้อมูลกันแล้ว

---

Hoshino Resorts TOMAMU RISONARE

โรงแรมฮอกไกโดที่แรกที่เอามาแนะนำกันคือ “Hoshino Resorts TOMAMU RISONARE” หนึ่งในโรงแรมในเครือ Hoshino Resorts TOMAMU ที่เน้นความหรูหราและความเป็นส่วนตัว ตั้งอยู่บนเนินเขาในป่าของฮอกไกโด ทุกห้องเป็นห้องสวีทขนาดใหญ่กว่า 100 ตร.ม. พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรู เช่น อ่างจากุซซี่ชมวิวและซาวน่าส่วนตัวในห้องพัก และทุกห้องที่อยู่ตั้งแต่ชั้น 16 ขึ้นไป สามารถมองเห็นวิวธรรมชาติได้อย่างงดงาม 

และที่ห้ามพลาดเลยคือ “Unkai Terrace” จุดชมทะเลหมอกวิวหลักล้านถ่ายรูปออกมาเหมือนล่องลอยอยู่บนสวรรค์ นอกจากจุดชมวิวหลักแล้ว ยังมีจุดชมวิวและกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ระเบียงไม้ที่ยื่นออกไปให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่บนก้อนเมฆ ตาข่ายขนาดใหญ่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนลอยตัวอยู่ท่ามกลางทะเลหมอก เก้าอี้สูงรูปทรงแปลกตา และคาเฟ่ที่ให้บริการเครื่องดื่มและขนมหวานในธีมก้อนเมฆ

สำหรับแขกที่ไม่ได้เข้าพักที่ Hoshino Resorts TOMAMU จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับกระเช้าลอยฟ้า ผู้ใหญ่ 1,900 เยน และเด็ก 1,200 เยน ส่วนแขกที่เข้าพักที่รีสอร์ตสามารถใช้บริการได้ฟรี

ผู้เข้าพักสามารถใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดของรีสอร์ตได้ เช่น หมู่บ้านน้ำแข็งที่สร้างขึ้นในช่วงฤดูหนาว (Ice Village) สระว่ายน้ำในร่มขนาดใหญ่ (Mina-mina Beach) ถนนสายร้านอาหารและร้านค้า (Hotalu Street) และลานสกีที่มีกิจกรรมสำหรับผู้เล่นทุกระดับ สามารถเดินทางจากสนามบิน New Chitose ด้วยรถไฟ JR ไปยังสถานี Tomamu และต่อรถ Shuttle Bus ของรีสอร์ตได้ ราคาห้องพักเริ่มต้นอยู่ที่ 21,900 เยน

The Windsor Hotel Toya Resort & Spa

“The Windsor Hotel Toya Resort & Spa” เป็นโรงแรมฮอกไกโดหรูระดับโลกที่ตั้งอยู่บนยอดเขาโปโรโมอิ (Mount Poromoi) ในจังหวัดฮอกไกโด มีชื่อเสียงจากการเป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอดผู้นำ G8 ในปี 2008 และมอบทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบโทยะและอ่าวอุจิอุระ (Uchiura Bay)

โรงแรมมีห้องพัก 2 สไตล์ คือ “Casual Style” และ “Premier Style” โดยทุกห้องมีขนาดกว้างขวางและมีวิวที่สวยงามจากหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานห้องพักทั่วไปมีทั้งห้องเตียงเดี่ยว เตียงคู่ และห้องแบบญี่ปุ่น (Tatami) ส่วนห้องสวีทมีห้องสวีทขนาดใหญ่ รวมถึง G8 Summit Suite ซึ่งเป็นห้องที่เคยใช้ในการประชุมผู้นำ 

มีสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องครบครัน เช่น มินิบาร์, โทรทัศน์ LCD, อ่างอาบน้ำพร้อมเครื่องใช้ในห้องน้ำจากดีไซเนอร์ และเสื้อคลุมอาบน้ำ แน่นอนว่ามีบริการอินเทอร์เน็ตแบบมีสายฟรี และ Wi-Fi ฟรีในห้องพัก ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ 48,000 เยน

กิจกรรมของโรงแรม เช่น มีออนเซ็น “Sansen” ที่มีทั้งบ่อหิน บ่อกลางแจ้ง และบ่อไม้สนฮิโนกิ (Cypress) ซึ่งสลับให้ชายหญิงใช้ในแต่ละวัน นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำในร่มพร้อมหลังคากระจก, ห้องซาวน่า, และบริการนวด มีห้องอาหารให้เลือกหลากหลายกว่า 9 แห่ง รวมถึงห้องอาหารที่ได้รับดาวมิชลิน 

ส่วนเรื่องกิจกรรมนั้นมีกิจกรรมตามฤดูกาลต่าง ๆ เช่น สนามกอล์ฟ, สนามเทนนิส, สกี (ช่วงฤดูหนาว), และกิจกรรมเดินป่า และยังมีคลับสำหรับเด็ก บริการรับเลี้ยงเด็ก ห้องสมุด และบาร์ อีกด้วย โรงแรมอยู่ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 90 นาทีโดยรถยนต์ หรือมีบริการรถรับส่งฟรีจากสถานี JR Toya (ต้องจองล่วงหน้า)

Higashiyama Niseko Village, a Ritz-Carlton Reserve

“Higashiyama Niseko Village, a Ritz-Carlton Reserve” เป็นรีสอร์ตหรูระดับ 5 ดาวแห่งแรกในญี่ปุ่นและแห่งที่ 5 ของโลกในเครือ Ritz-Carlton Reserve ตั้งอยู่ในหมู่บ้านนิเซโกะ (Niseko Village) ที่ฮอกไกโด

โรงแรมฮอกไกโดแห่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากความงามของธรรมชาติรอบด้าน ผสมผสานความหรูหราแบบคลาสสิกเข้ากับการออกแบบร่วมสมัยแบบญี่ปุ่น รีสอร์ตมีห้องพักและห้องสวีททั้งหมด 50 ห้อง แต่ละห้องได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อมอบประสบการณ์การพักผ่อนท่ามกลางภูเขา 

ไฮไลต์ของห้องพัก คือหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน มองเห็นวิวภูเขาที่สวยงามของภูเขาโยเท (Mount Yotei) และภูเขานิเซโกะ อันนุปุริ (Mount Niseko Annupuri) ผู้เข้าพักแต่ละคนจะมีผู้ดูแลส่วนตัวที่เรียกว่า “Do San” ซึ่งจะคอยให้ความช่วยเหลือตลอดการเข้าพัก โดยมีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และประเพณีท้องถิ่นของฮอกไกโด

มีห้องน้ำสไตล์ออนเซ็นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากออนเซ็นในท้องถิ่น มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ฝักบัวแบบเรนฟอร์เรสท์ และหน้าต่างบานใหญ่ที่ให้แสงธรรมชาติและวิวภูเขา มีสปาที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติและตำนานของชาวไอนุ (Ainu) ชื่อ “Spa Chasi La Sothys” มีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับการผ่อนคลาย และมีฟิตเนสเซ็นเตอร์ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมอุปกรณ์ทันสมัยและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม

ห้องอาหาร “Yukibana” เปิดให้บริการตลอดวัน (All-day dining) ที่มองเห็นวิวภูเขาโยเท ให้บริการอาหารนานาชาติ อาหารเอเชีย และอาหารเพื่อสุขภาพที่เน้นวัตถุดิบจากท้องถิ่นตามฤดูกาล และห้องอาหาร “Sushi Nagi” นำเสนอศิลปะการทำซูชิแบบ Omakase-style โดยให้เชฟเลือกสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดในแต่ละวัน นอกจากนี้ยังมี “Ume Lounge” เลานจ์ที่อบอุ่นและหรูหรา พร้อมเตาผิง มีเมนูเครื่องดื่มหลากหลาย ทั้งค็อกเทล เบียร์ท้องถิ่น และวิสกี้ญี่ปุ่น

ในฤดูหนาวที่นี่เหมือนเป็นสวรรค์ของนักเล่นสกีและสโนว์บอร์ด ด้วยปริมาณหิมะที่อุดมสมบูรณ์ มีเส้นทางสกีให้เลือกมากมาย รวมถึงการเดินรองเท้าหิมะ ส่วนฤดูร้อน ภูเขาจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว มีกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ตีกอล์ฟ (มีสนามกอล์ฟ 18 หลุมอยู่ใกล้ ๆ) ปั่นจักรยาน และเดินป่า

การเดินทางที่สะดวกที่สุดคือ บริการรับส่งตรงจากสนามบิน New Chitose (CTS) ไปยังโรงแรมในหมู่บ้านนิเซโกะ ประมาณ 2.5 – 3 ชั่วโมง ค่าโดยสารประมาณ 2,200 – 6,600 เยนต่อคน แต่ควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 4 วัน เนื่องจากบางบริการอาจมีเฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น หรือสามารถนั่งรถไฟจากสนามบิน New Chitose ไปยังสถานี Kutchan หรือ Niseko จากนั้นต่อแท็กซี่ไปยังโรงแรม สุดท้ายคือขับรถยนต์ส่วนตัวจากสนามบิน New Chitose (CTS) โดยมีระยะทางประมาณ 110 กิโลเมตร และใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ

Zaborin Ryokan

“Zaborin Ryokan” คือเรียวกังหรูหราที่ซ่อนตัวอยู่ในป่านอกเมืองนิเซโกะ ฮอกไกโด ติดอันดับโรงแรมฮอกไกโดที่โดดเด่นด้วยการผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมเข้ากับการออกแบบที่ทันสมัยและเรียบง่าย แนวคิดของที่นี่คือการสร้างพื้นที่ที่ช่วยให้แขกได้ “นั่งและลืม” ความวุ่นวายในชีวิตเพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติและสุนทรียภาพ มีห้องพักแบบวิลล่าเพียง 15 หลัง แต่ละหลังมีชื่อตามเกล็ดหิมะที่มีลวดลายเฉพาะตัว และได้รับการออกแบบให้เป็นอิสระจากกันเพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุด 

ภายในวิลล่ามาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีจุดเด่นคือ แต่ละวิลล่าออกแบบให้มีหน้าต่างบานใหญ่เพื่อรับแสงและวิวป่าไม้โดยรอบ ทั้งป่า Hanazono, ภูเขา Yotei หรือเทือกเขา Annapuri ซึ่งมอบบรรยากาศที่เงียบสงบในทุกฤดูกาล ภายในห้องพักมีทั้งเตียงแบบตะวันตกและฟูกแบบญี่ปุ่น (Futon) ให้เลือก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย เช่น เครื่องเสียง Bose และเครื่องชงกาแฟ Nespresso ราคาเริ่มต้นที่ 155,000 เยน

Zaborin มีความพิเศษที่เมนูอาหาร เพราะทางเรียวกังมีเชฟฝีมือดีที่เน้นการใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลในท้องถิ่นฮอกไกโดเพื่อรังสรรค์ “Kita Kaiseki” อาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ผสมผสานรสชาติแบบฮอกไกโดลงไปในแต่ละคอร์ส ไม่เพียงรสชาติที่แสนจะเลิศรสเท่านั้น เชฟยังรังสรรค์หน้าตาอาหารอย่างประณีตและสวยงาม Exclusive ด้วยการเสิร์ฟอาหารค่ำและอาหารเช้าให้ถึงในห้องอาหารส่วนตัวที่แยกเป็นสัดส่วน เพื่อให้แขกได้เพลิดเพลินกับมื้ออาหารได้อย่างเต็มที่ 

โรงแรมแห่งนี้ไม่มีสปาหรือสระว่ายน้ำ เพราะอยากเน้นประสบการณ์การพักผ่อนแบบเรียวกังดั้งเดิม จึงไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ แต่แขกสามารถเพลิดเพลินกับการผ่อนคลายในออนเซ็นส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ การเดินทางที่สะดวกที่สุดคือรถยนต์ส่วนตัวใช้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง หรือใช้บริการรถบัสรับส่งจากสนามบินชินชิโตเซะไปยังลานสกี Hanazono Ski Resort ซึ่งเป็นจุดหมายที่ใกล้ที่สุด ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที หลังจากนั้นจะต้องใช้บริการรถรับส่งของเรียวกังเพื่อเดินทางต่อไปยัง Zaborin แต่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า

Park Hyatt Niseko Hanazono

“Park Hyatt Niseko Hanazono” เป็นโรงแรมฮอกไกโดสุดหรูหราที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ฮานาโซโนะ (Hanazono) ของนิเซโกะ โดดเด่นด้วยทำเลแบบ Ski-in Ski-out ที่สามารถเข้าถึงลานสกีได้โดยตรง และมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหราท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามของภูเขาอันนุปุริ (Mount Annupuri) และภูเขาโยเท (Mount Yotei)

โรงแรมมีห้องพักถึง 100 ห้อง รวมห้องสวีทและเรสซิเดนซ์ที่มีให้เลือกหลายสไตล์ ทุกห้องได้รับการออกแบบอย่างประณีต เน้นความกว้างขวางเป็นพิเศษ เพื่อให้แขกได้สัมผัสกับความสะดวกสบายสูงสุด ห้องพักมีการตกแต่งภายในที่หรูหราและทันสมัย ไฮไลต์อยู่ที่หน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่เผยให้เห็นวิวภูเขาและลานสกีที่สวยงาม แต่ละห้องมีพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารแยกเป็นสัดส่วน พร้อมห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำ ห้องพักบางประเภทมาพร้อมกับห้องครัวที่มีอุปกรณ์ครบครัน และบางห้องสวีทมีบ่อน้ำพุร้อนส่วนตัวทั้งในร่มและกลางแจ้ง ซึ่งเป็นจุดเด่นที่มอบประสบการณ์การผ่อนคลายที่เหนือระดับท่ามกลางความสวยงามของภูมิภาคฮอกไกโด ราคาเริ่มต้นของห้องพักอยู่ที่ 43,000 เยน

มีซิกเนเจอร์สปา ขนาดใหญ่ถึง 190 ตารางเมตร พร้อมห้องทรีตเมนต์และออนเซ็นส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำในร่มขนาด 25 เมตร และ ฟิตเนสเซนเตอร์ ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โรงแรมมีบริการ Ski Valet Service ที่จะคอยดูแลอุปกรณ์สกี รวมถึงบริการให้เช่าอุปกรณ์สกีและบทเรียนสอนสกี ทำให้การเล่นสกีเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย

ทางโรงแรมมีร้านอาหารและบาร์หลากหลายถึง 11 แห่ง โดยแต่ละแห่งนำเสนอเมนูที่แตกต่างกัน เพื่อตอบสนองความต้องการของแขกทุกคน ทั้งอาหารญี่ปุ่นที่ห้องอาหาร Sushi Mitsukawa ให้บริการซูชิและซาชิมิแบบดั้งเดิม, Teppan ให้บริการอาหารเทปันยากิที่ปรุงจากวัตถุดิบพรีเมียมของฮอกไกโด และ Robata ห้องอาหารที่เน้นเมนูย่างถ่านสไตล์ญี่ปุ่น

ไม่เพียงแค่อาหารญี่ปุ่นเท่านั้นแต่ยังมีเมนูอาหารนานาชาติให้บริการด้วย ร้านอาหาร China Kitchen จะเสิร์ฟอาหารจีนต้นตำรับรังสรรค์เมนูจีนแท้ ๆ ให้บริการ, Olivio ร้านอาหารอิตาเลียนที่เน้นวัตถุดิบในท้องถิ่น และ Moliere Montagne ร้านอาหารฝรั่งเศสที่ใช้เทคนิคแบบดั้งเดิมมาเป็นจุดขายในการปรุงอาหาร และทางโรงแรมยังมี Mountain Lounge ที่มองเห็นวิวภูเขาโยเท, The Cellar ไวน์เซลลาร์ที่เหมาะสำหรับการชิมไวน์แบบส่วนตัว และ Deli ที่ให้บริการเบเกอรี่และของว่างแบบซื้อกลับบ้าน

สำหรับการเดินทางจากสนามบิน New Chitose (CTS) ไปยัง Park Hyatt Niseko Hanazono มีบริการรถบัสรับ-ส่งโดยสาร เช่น Hokkaido Resort Liner หรือ Hokkaido Access Network ซึ่งมีค่าโดยสารประมาณ 5,000 – 5,500 เยน และใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง หรือตัวเลือกที่ 2 คือสามารถนั่งรถไฟจากสนามบิน New Chitose ไปยังสถานี JR Kutchan จากนั้นต่อรถแท็กซี่หรือรถบัสรับส่งของโรงแรม ค่าโดยสารรถไฟประมาณ 4,983 – 6,462 เยน และใช้เวลาเดินทางรวมประมาณ 3 ชั่วโมง

การขับรถเป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดที่สุด โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 47 นาที ค่าใช้จ่ายประมาณ 1,800 – 2,700 เยน โรงแรมมีบริการรถรับส่งฟรีระหว่างโรงแรมกับสถานี JR Kutchan และมีบริการรถรับส่งไป-กลับสนามบิน New Chitose ซึ่งต้องจองล่วงหน้า สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้โดยตรงกับโรงแรม

---

สรุป

และนี่คือโรงแรมฮอกไกโดทั้ง 5 แห่งที่เอามาแนะนำกัน แต่ละโรงแรมเรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการพักผ่อนยังเหนือสุดประเทศญี่ปุ่นมาก ๆ ไม่ใช่แค่ช่วงฤดูหนาวเท่านั้น แต่ยังสามารถเข้าพักในช่วงฤดูอื่น ๆ เพื่อซึมซับบรรยากาศที่ต่างออกไปได้ด้วย ไม่เพียงแค่บรรยากาศสุด Exclusive เท่านั้นแต่ยังมีบริการเหนือระดับในด้านของห้องพักที่หรูหรามีสไตล์ อาหารการกินจากวัตถุดิบชั้นเลิศของฮอกไกโด และกิจกรรมให้เข้าร่วมได้เพียบแบบไม่มีเบื่อ รับรองว่าการเดินทางเที่ยวฮอกไกโดครั้งนี้จะถูกเติมเต็มอย่างแน่นอน