ค้นหาคูปองและบทความ

Close
สมัครสมาชิก

แนะนำภูมิภาค โทโฮคุ ดินแดนเหนือที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ไม่รู้จบ

กรุณาเข้าสู่ระบบ

แนะนำภูมิภาค โทโฮคุ ดินแดนเหนือที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ไม่รู้จบ

หากญี่ปุ่นที่เคยรู้จักมีแค่โตเกียวที่เต็มไปด้วยแสงสี หรือโอซาก้าที่คึกคักไม่เคยหลับ ลองเปิดใจให้กับ โทโฮคุ ดินแดนทางตอนเหนือของเกาะฮอนชู ที่สวยสงบแต่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ที่นี่คือญี่ปุ่นในแบบที่ยังคง ความดิบและความจริงใจเอาไว้ครบ ไม่ว่าจะเป็นภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ บ้านไม้เก่าริมลำธาร ทุ่งนาที่ทอดยาวสุดสายตา หรือผู้คนที่ยิ้มต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ทุกสิ่งใน โทโฮคุ เหมือนถูกแต่งแต้มด้วยความเรียบง่ายที่ดูมีเสน่ห์

ฤดูใบไม้ผลิที่นี่อบอวลด้วยกลิ่นซากุระบานกลางปราสาท ฤดูร้อนเต็มไปด้วยเสียงกลองจากเทศกาลท้องถิ่น ฤดูใบไม้ร่วงใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีแดงทองสวยสะกด ส่วนฤดูหนาว เมืองทั้งเมืองจะถูกห่มด้วยหิมะหนา และบ่อน้ำพุร้อนจะกลายเป็นที่หลบหนาวสุดโรแมนติก แม้จะอยู่ห่างจากโตเกียวเพียงไม่กี่ชั่วโมงโดยรถไฟชินคันเซ็น
แต่โทโฮคุกลับให้ความรู้สึกเหมือนได้เดินทางข้ามเวลา กลับไปยังยุคที่ผู้คนยังยิ้มให้กันบนท้องถนน และธรรมชาติยังเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน

ในบทความนี้ จะพาไปรู้จักโทโฮคุให้มากขึ้น ทั้งตำแหน่งที่ตั้ง วิธีเดินทางจากไทย จังหวัดสำคัญที่ควรไปเยือน สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด อาหารท้องถิ่นที่ต้องลอง รวมถึงข้อมูลเล็ก ๆ ที่จะทำให้การเดินทางอบอุ่นและน่าจดจำยิ่งขึ้น เตรียมกล้องให้พร้อม แล้วไปค้นพบญี่ปุ่นอีกมุม ที่อาจกลายเป็นมุมโปรดในทันทีที่ได้สัมผัส

ภูมิภาค โทโฮคุ อยู่ตรงไหนของญี่ปุ่น?

โทโฮคุ

โทโฮคุ (Tohoku ) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะฮอนชู เกาะหลักของประเทศญี่ปุ่น โดยอยู่เหนือภูมิภาคคันโต (ที่มีโตเกียว) ขึ้นไป และอยู่ใต้เกาะฮอกไกโด เรียกได้ว่าเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโตเกียวกับฮอกไกโด พื้นที่ส่วนใหญ่ของภูมิภาคนี้รายล้อมด้วยภูเขา ป่าไม้ และทะเล จึงมีสภาพอากาศเย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี

ในฤดูใบไม้ผลิ ดอกซากุระจะบานช้ากว่าภาคอื่น ทำให้ใครพลาดช่วงซากุระในโตเกียว ยังสามารถมาชมได้ที่นี่ ส่วนฤดูใบไม้ร่วง โทโฮคุถือเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีใบไม้เปลี่ยนสีสวยที่สุดในญี่ปุ่น และในฤดูหนาว เมืองต่าง ๆ จะกลายเป็นโลกหิมะที่เงียบสงบ สวยงามจนเหมือนภาพในนิทาน

เดินทางจากไทยไป โทโฮคุ ได้อย่างไร

ปัจจุบันยังไม่มีเที่ยวบินตรงจากไทยไปยังเมืองหลักของ โทโฮคุ โดยตรง แต่นักท่องเที่ยวสามารถบินจากกรุงเทพฯ ไปลง โตเกียว (สนามบินฮาเนดะ หรือ นาริตะ) แล้วต่อรถไฟชินคันเซ็นสาย Tohoku Shinkansen ที่วิ่งตรงจากโตเกียวไปยังเมืองสำคัญต่าง ๆ เช่น เซนได (Sendai), โมริโอกะ (Morioka), อาโอโมริ (Aomori) หรือฮาจิโนเฮะ (Hachinohe) ได้สะดวก

เส้นทางนี้ใช้เวลาเพียง 1.5–3 ชั่วโมงเท่านั้น และตลอดทางจะเห็นวิวชนบทของญี่ปุ่นที่สวยจนต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายตลอดเวลา นอกจากนี้ สำหรับคนที่อยากเดินทางประหยัด ยังสามารถใช้ JR East Pass (โTohoku Area) ที่ให้สิทธิ์นั่งรถไฟ JR ภายในภูมิภาคได้ไม่จำกัดภายในระยะเวลาที่กำหนด ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับผู้ที่วางแผนเที่ยวหลายจังหวัดในทริปเดียว

ภูมิภาค โทโฮคุ มีกี่จังหวัด?

โทโฮคุ

ภูมิภาคนี้ประกอบด้วยทั้งหมด 6 จังหวัด แต่ละจังหวัดมีเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งด้านธรรมชาติ อาหาร และวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไป

1.      อาโอโมริ (Aomori) เมืองเหนือสุดของ โทโฮคุ มีชื่อเสียงเรื่องแอปเปิ้ลและเทศกาลเนบุตะ (Nebuta Matsuri)

2.      อิวาเตะ (Iwate) ดินแดนแห่งภูเขา วัดเก่าแก่ และชายฝั่งสวยของซันริคุ (Sanriku Coast)

3.      มิยางิ (Miyagi) เมืองเอกคือเซนได เมืองใหญ่ที่อบอุ่นและทันสมัยที่สุดในภูมิภาค

4.      อากิตะ (Akita) แหล่งกำเนิดหมาอากิตะและข้าวญี่ปุ่นชั้นเยี่ยม

5.      ยามากาตะ (Yamagata) มีชื่อเสียงด้านผลไม้ เช่น เชอร์รี่ และบ่อน้ำพุร้อน (ออนเซ็น)

6.      ฟุกุชิมะ (Fukushima) เมืองแห่งธรรมชาติ ภูเขา และทะเลสาบสวยงาม รวมถึงหมู่บ้านโบราณโออุจิจูกุ

ที่เที่ยวแนะนำ

การเที่ยวในโทโฮคุ เหมาะกับคนที่รักธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย ต่อไปนี้คือที่เที่ยวห้ามพลาดที่คัดมาให้ครบทุกจังหวัด

1. เซนได (Sendai) เมืองแห่งต้นไม้

เมืองใหญ่ที่สุดของโทโฮคุ แต่ยังคงความร่มรื่นและไม่วุ่นวาย มีจุดท่องเที่ยวเด่นอย่าง ปราสาทเซนได (Sendai Castle) และ อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) ซึ่งเป็นหนึ่งในสามวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ฤดูใบไม้ร่วงที่นี่สวยเป็นพิเศษ และในเดือนสิงหาคมยังมีเทศกาล Tanabata Matsuri ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่

2. ฮิโรซากิ (Hirosaki, Aomori) ซากุระแห่งแดนเหนือ

ถ้าอยากเห็นซากุระบานท่ามกลางปราสาทโบราณ ที่นี่คือจุดหมายในฝัน Hirosaki Castle Park มีต้นซากุระกว่า 2,600 ต้น ที่จะบานพร้อมกันราวปลายเดือนเมษายนถึงต้นพฤษภาคม

3. คาคุโนะดาเตะ (Kakunodate, Akita) เมืองซามูไรในอดีต

ถนนเก่าในคาคุโนะดาเตะยังคงเต็มไปด้วยบ้านซามูไรสมัยเอโดะที่อนุรักษ์ไว้ได้อย่างดี เป็นเมืองที่เงียบสงบและโรแมนติก โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง

4. ภูเขาซาโอะ (Mount Zao, Yamagata–Miyagi)

ยอดเขาซาโอะคือสวรรค์ของคนรักหิมะและออนเซ็น ฤดูหนาวจะได้เห็น Snow Monster หรือภูเขาน้ำแข็งรูปทรงประหลาดที่เกิดจากลมและหิมะ
ส่วนฤดูร้อนสามารถขึ้นกระเช้าไปชม ทะเลสาบสีเขียวมรกต Okama Crater Lake

5. หมู่บ้านโออุจิจูกุ (Ouchi-juku, Fukushima)

หมู่บ้านโบราณที่ยังคงสถาปัตยกรรมแบบยุคเอโดะ มีบ้านหลังคามุงฟางเรียงรายตลอดแนวถนนหลัก และร้านค้าขายอาหารพื้นเมือง เช่น โซบะ และข้าวย่างไม้ไผ่

6. วัดชูซอนจิ (Chuson-ji, Iwate)

วัดมรดกโลกอายุกว่า 1,000 ปี มีเจดีย์ทองคำ Konjikido ที่สวยงามมาก ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี วัดนี้จะเปลี่ยนเป็นสีทองแดงทั่วทั้งพื้นที่

7. อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay, Miyagi)

เป็นจุดชมวิวทะเลที่ขึ้นชื่อที่สุดของญี่ปุ่น มีเกาะเล็ก ๆ กว่า 260 เกาะเรียงรายกลางน้ำ
นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชมวิวได้ตลอดปี

H2 อาหารและของกินขึ้นชื่อ

อาหารของภูมิภาคนี้มีความเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยรสชาติจากธรรมชาติ

  • เนื้อย่างเซนได (Gyutan) ลิ้นวัวย่างสูตรดั้งเดิมของเมืองเซนได กินคู่กับข้าวสวยและซุปหางวัว
  • ราเม็งคิตะคาตะ (Kitakata Ramen) เมืองเล็กในฟุกุชิมะที่ขึ้นชื่อเรื่องราเม็งเส้นหนานุ่ม น้ำซุปกลมกล่อม
  • ข้าว Akita Komachi หนึ่งในสายพันธุ์ข้าวที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น
  • แอปเปิ้ลอาโอโมริ หวานกรอบ สดชื่น มีให้เลือกหลายพันธุ์
  • อุนะงิชิโระอิชิ (Unagi Shirakawa) ปลาไหลย่างหอมจากจังหวัดฟุกุชิมะ
  • ซากุระโมจิและขนมพื้นบ้านยามากาตะ ของหวานโฮมเมดที่หากินได้เฉพาะท้องถิ่น

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเดินทาง

  • ฤดูกาล: โทโฮคุ หนาวกว่าภูมิภาคอื่นในญี่ปุ่นมาก โดยเฉพาะธันวาคม–มีนาคม ควรเตรียมเสื้อกันหนาวดี ๆ
  • การเดินทางภายใน: รถไฟ JR ครอบคลุมเกือบทุกเมือง และมีบัสท้องถิ่นเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน
  • ภาษาญี่ปุ่น: คนท้องถิ่นพูดอังกฤษไม่คล่อง แต่เป็นมิตรและยินดีช่วยเหลือเสมอ
  • ที่พัก: มีทั้งเรียวกังแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม และโรงแรมสมัยใหม่ โดยเฉพาะในเมืองเซนไดและอาโอโมริ
  • เทศกาลน่าสนใจ: Nebuta Matsuri (Aomori – สิงหาคม) / Kanto Matsuri (Akita – สิงหาคม) / Snow Monsters Festival (Zao – กุมภาพันธ์)

บทส่งท้าย

เมื่อได้เดินทางผ่านหุบเขา ลัดเลาะหมู่บ้านเล็ก ๆ และได้ยินเสียงลมพัดผ่านต้นไม้ในโทโฮคุ จะเข้าใจว่าความงามของญี่ปุ่นไม่ได้อยู่แค่ในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยไฟและเสียง แต่มันอยู่ในความเงียบที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ อยู่ในรอยยิ้มของคนท้องถิ่นที่ต้อนรับด้วยความจริงใจ และอยู่ในช่วงเวลาเล็ก ๆ ที่ทำให้เรารู้สึกว่าการเดินทางยังมีความหมาย

โทโฮคุ คือญี่ปุ่นที่ยังคงเป็นญี่ปุ่น ภูมิภาคที่ธรรมชาติและผู้คนยังเดินเคียงข้างกันอย่างกลมกลืน ที่ที่สามารถตื่นเช้ามาแช่ออนเซ็นกลางหิมะ จิบชาเขียวมองภูเขาที่ปกคลุมด้วยหมอก หรือเดินเล่นในหมู่บ้านที่เหมือนหลุดออกมาจากภาพวาด มันไม่ใช่เพียงสถานที่ท่องเที่ยว แต่คือประสบการณ์ที่จะอยู่ในใจไปอีกนาน เพราะทุกเสียง ทุกกลิ่น ทุกสีในโทโฮคุจะค่อย ๆ ซึมเข้าสู่ความทรงจำ เหมือนบทกวีที่เรียบง่ายแต่กินใจ บทกวีที่อยากกลับมาอ่านซ้ำอีกครั้งในวันหนึ่ง

ไม่ว่าจะเป็นนักเดินทางสายธรรมชาติ คนรักวัฒนธรรม หรือแค่ต้องการพื้นที่สงบ ๆ เพื่อพักใจจากความวุ่นวาย โทโฮคุจะต้อนรับเสมอด้วยความอบอุ่นแบบที่ไม่ต้องแปลเป็นคำพูด ญี่ปุ่นอาจมีหลายมุมให้หลงรัก แต่มุมเหนือแห่งนี้ คือมุมที่อบอุ่นที่สุดของหัวใจ

กดบันทึกคูปองและบทความไว้เพื่อทำให้การเดินทางไปญี่ปุ่นของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น!

ถ้ากดบันทึกคูปองหรือบทความที่ชอบเอาไว้ ก็จะสามารถค้นหาได้อย่างง่ายดายจาก "My Page" ในระหว่างการเดินทาง ลองใช้กันดูนะ!

สมัครสมาชิก

ロンタ

บันทึกแล้ว!