คาโกชิมะ

คน ญี่ปุ่น ชื่นชอบ แมว มาก และมีความผูกพันกับแมวมานานหลายศตวรรษ หากไปดูผลงานศิลปะ ภาพวาด หรือวรรณกรรมโบราณก็จะพบว่ามีแมวปรากฏอยู่เสมอ แถมยังเชื่อกันว่าแมวเป็นสัตว์นำโชคอีกด้วย แต่นอกจากความรักแมวที่ฝังรากลึกในวัฒนธรรมแล้ว ญี่ปุ่นยังเต็มไปด้วยสถานที่น่ารักๆ ที่เต็มไปด้วยแมวเหมียวให้เหล่าทาสได้ฟินกันแบบจุใจ  ใครที่กำลังวางแผนเที่ยวญี่ปุ่น แล้วอยากเติมแมวให้ชื่นใจ วันนี้เรารวมพิกัดน่าไปมาให้แล้ว จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกัน เกาะทาชิโระจิมะ (Tashirojima)  เกาะทาชิโระจิมะ เป็นเกาะขนาดเล็กที่ตั้งอยู่นอกชายฝั่งของเมืองอิชิโนมากิ จังหวัดมิยางิ ที่นี่ไม่ได้มีแค่วิวทะเลสวยๆ และอากาศบริสุทธิ์เท่านั้น แต่ยังมีประชากรแมวหลายร้อยตัวที่ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ร่วมกับชาวบ้านบนเกาะ เดิมทีถูกนำมาเลี้ยงไว้ให้ช่วยจับหนูในฟาร์มหนอนไหม ต่อมาจำนวนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันมีมากกว่าประชากรบนเกาะถึง 4 เท่า ! นอกจากนี้บริเวณใจกลางเกาะยังมี “ศาลเจ้าแมว” หรือเนะโกะคามิซามะ (Nekokamisama) ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับแมวตัวหนึ่งที่ประสบอุบัติเหตุถูกหินร่วงทับจนเสียชีวิตด้วย เกาะนี้เหมาะสามารถเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับได้สะดวก โดยนั่งเรือเฟอร์รี่จากเมืองอิชิโนมากิ ประมาณ 1 ชั่วโมง เรือจะจอดที่สองหมู่บ้านหลัก คือ ท่าเรือโอดามาริทางเหนือ และท่าเรือนิตะทางใต้ หากใครอยากจะค้างคืนก็ทำได้เหมือนกัน เพราะมีที่พักสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมให้บริการด้วย แต่จำนวนไม่เยอะ แนะนำให้จองล่วงหน้าไว้เลย จะได้ไม่พลาด เกาะเอโนะชิมะ (Enoshima)  อีกหนึ่งเกาะที่อยากแนะนำสำหรับทาสแมวที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นคือ เกาะเอโนะชิมะ…

จังหวัดคาโกชิมะ(Kagoshima) เป็นจังหวัดที่อยู่ทางใต้สุดของเกาะคิวชู มีชื่อเสียงหลายอย่าง เช่น ออนเซนทราย รถไฟชมวิว และเนื้อหมูคุโรบูตะ   ขบวนรถไฟ Ibusuki no tamatebako เป็นรถไฟท่องเที่ยวที่ออกเดินทางจากสถานีรถไฟคาโกชิมะชูโอ ที่มีธีมอ้างอิงจากตำนานอุราชิมาทาโร่ กับวังมังกรใต้ทะเล โดยซึ่งก็จะมีกิมมิคหลายอย่างอ้างอิงจากเรื่องนี้ เช่น เมื่อประตูรถไฟเปิดออกจะมีควันสีขาวลอยออกมาเหมือนกับในเรื่องที่เปิดกล่องจากดินแดนบาดาล ภายในตู้ขบวนยังมีการตกแต่งภายในเกี่ยวกับสายพันธุ์ปลาต่างๆ รวมไปถึงมีสิ่งที่กล่าวถึงอุราชิมาทาโร่ด้วย เปรียบได้ดั่งนั่งอยู่ในวังมังกร ระหว่างที่นั่งอยู่นายรถไฟก็ได้เอากระดาษแผ่นเล็กๆที่เหมือนจะเขียนด้วยลายมือตัวเอง มาให้พวกเรา ซึ่งกระดาษแผ่นนั้น คือกระดาษแนะนำจุดต่างๆที่รถไฟจะผ่านด้วยครับ       หนึ่งในไฮไลท์ชื่อดังของจังหวัดคาโกชิมะคือการออนเซนทราย ที่เมือง Ibusuki เป็นการฝังตัวลงในทราย โดยวิธีการเข้าออนเซ็นทรายก็คือ ก่อนอื่นต้องถอดเสื้อผ้าออกให้หมดเลยครับแล้วทางร้านจะมีชุดยูกาตะให้ เราจะใส่แค่ชุดยูกาตะ แล้วก็เดินลงไปที่หาด แล้วเราก็เลือกว่าจะให้เขาฝังที่ไหนระหว่าง indoor หรือ Outdoor สืบเนื่องจากวันนั้นที่เราไปกันแดดแรงมากพวกผมก็เลยเลือกข้างในครับแต่ความร้อนของทรายระหว่างข้างในกับข้างนอกไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ เลือกแบบที่ชอบเลยครับ ส่วนวิธีการออกจากออนเซ็นทรายนั้นก็แค่ลุกขึ้นมาตามปกติเลยครับเดี๋ยวที่เหลือเจ้าหน้าที่จะจัดการเอง ปกติแล้วการฝังออนเซ็นทรายค่าบริการอยู่ที่คนละ 1,300 เยนครับ ไม่จำกัดเวลา 指宿温泉　砂むし会館　　砂楽 (sakura.ne.jp)       ต้นกำเนิดของโซเม็งแห่งประเทศญี่ปุ่น เราอยู่กันที่โทเซ็งเคียวครับ โซเม็ง…

จังหวัดคาโกชิมะ(Kagoshima) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้บนเกาะคิวชูของญี่ปุ่น สายวิวทะเลต้องร้องเฮเพราะมาที่เดียวได้สองวิว เนื่องจากขนาบด้วยคาบสมุทรซัตสึมะและคาบสมุทรโอซูมิ พร้อมทั้งยังติดกับอ่าวคาโงชิมะอีกด้วย เรียกได้ว่าวิวทะเลวิวอ่าวนี่กินขาด เนื่องธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆยิ่งไม่ต้องพูดถึง จัดเต็มทั้งแหล่งท่องเที่ยวแบบเกาะๆ จะออนเซ็นนั้นก็มี ส่วนสายวัฒนธรรมก็ไม่ต้องน้อยใจไป นั่นก็เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวสไตล์วัฒนธรรมและที่เด่นๆก็จะมีวิถีซามุไรให้ดูอีกต่างหาก ขอดีของเด่นที่ถ้ามาต้องโดนนั้นมีทั้งแบบเก๋ๆไปจนถึงสินค้าเกษตรท้องถิ่นเลยนะคะ อย่างที่เป็นที่กล่าวขานมากๆต้องยกให้พวกถ้วยชามดินเผาและเครื่องแก้วคริสตัล โดยเฉพาะเครื่องแก้วนี่เรื่องสีสันยืนหนึ่งในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ จากการก่อตั้งศูนย์วิจัยเพื่อค้นคว้าการแต่งสีเพื่อให้เกิดการพัฒนาเรื่องสีสันอย่างจริงจัง จนสำเร็จกลายเป็นที่แรกที่สามารถทำสีชาดในเครื่องแก้วที่แรกของญี่ปุ่น ส่วนสายของกินนี่ต้องลองมันเทศ หัวไชเท้า และข้าว ที่ดูเผินๆอาจคิดว่ามันไม่น่าจะแตกต่างอะไรจากที่อื่นใช่มั้ยคะ แต่จริงๆแล้วรสชาติและรสสัมผัสถ้าได้ลองแล้วจะรู้เลยค่ะว่ามันต่างจริงๆ ยังค่ะของดีคาโกชิมะยังไม่หมดแค่เท่านั้นเพราะเค้ามีอีกหนึ่งเมนูเด็ดเอาใจคนรักเส้นอย่าง “ราเมงคาโกชิมะ” ที่น้ำซุปจะผสมผสานกันระหว่างกระดูหมูเข้มข้นกับไก่ ทำให้ออกมีรสชติที่ไม่เหมือนใคร ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่สายชิลอยากอินกับธรรมชาติแต่ไม่ขาดด้านวัฒนธรรมควรมาลองซักครั้งเชียวค่ะ   แหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจของจังหวัดคาโกชิมะ ปราสาทคาโงชิมะที่อดีตเคยรุ่งเรืองจนถึงขีดสุดจากการเป็นหนึ่งในปราสาทหลักของไดเมียวที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่นในขณะนั้น โดยถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1601 ลองมานับนิ้วนับๆดูแล้วก็มีอายุปาไป 418 เข้าไปแล้ว เนื่องจากเคยถูกเผาทำลายด้วยไฟไหม้มาก่อนมาในปัจจุบันคงเหลือไว้แค่ซากของปราสาทเท่านั้นนะคะ หากก็ยังคงมีบรรยากาศเก่าๆชวนให้ได้อินเมื่อไปถึง ไปเดินชิลๆนี่ก็ได้ฟิลไปอีกแบบค่ะ     เกาะยากุชิมะ หรือที่หลายคนๆอาจจะคุ้นหูว่าชื่อ เกาะยากุ บอกเลยว่าใครทาอยากมาดื่มด่ำกับธรรมชาติแบบเน้นๆปักหมุดไว้ได้เลยค่ะ เพราะที่นั้นได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางด้านทางธรรมชาติ ฉะนั้นเรื่องความอุดมสมบรูณ์ของป่าเขาลำเนาไพรหายห่วงมาเต็มแน่นอน โดยไฮไลท์ที่เด็ดสุดต้องยกให้ เกาะคือต้นไม้ Cryptomeria อันนี้ต้นไม้อายุเป็นพันปีอย่างเยอะ ยิ่งต้นโจมนซูงิที่อายุกว่า 3,000 ปีอันนี้ห้ามพลาดเลยนะคะ    …

สุนะมุชิ ออนเซ็น ตั้งอยู่ภายในเมืองอิบุสุกิ จังหวัดคาโกชิมะ หลายๆคนที่เริ่มอยากหาออนเซ็นรูปแบบแตกต่างและสามารถใส่เสื้อผ้าลงได้ ซึ่งมันมีอยู่จริงนะเออเพราะที่นี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ โดยสุนะมุชิ ออนเซ็นนั้นเป็นออนเซ็นอบทรายร้อนบนชายหาดน้ำพุร้อน อารมณ์คล้ายๆกับเวลาเราเล่นขุดบ่อทรายแล้วให้คนลงไปอยู่ในนั้นแล้วกลบๆเหลือช่วงหัวกับหน้าอ่ะค่ะ อันนี้ถ้าในโรงอบทรายเค้าจะมีเจ้าหน้าที่คอยกลบให้นะคะสบายๆกันไป ที่สำคัญเค้าจะมีชุดยูกาตะไว้ให้เราเปลี่ยนก่อนลงไปในบ่อออนเซ็นทรายด้วยนะคะ แล้วประโยชน์ของออนเซ็นชนิดนี้ก็ไม่ได้น้อยหน้าจากแบบแช่น้ำพุร้อนเลยนะเออ เพราะช่วงทั้งเรื่องผิวพรรณเปล่งปลั่ง ช่วยดีท๊อกซ์ส่วนต่างๆของร่างกาย และถ้าปวดเมื่อยๆจากการเดินทางอันนี้เริ่ดเลยค่ะ แถมแช่ๆอบๆไปก็สามารถชมวิวทะเลเพลินๆได้ด้วยนะคะ เนื่องจากเป็นออนเซ็นริมหาดติดทะเลเลยคิดดูว่าประโยชน์ก็ได้ ความชิลก็มี ทะเลก็มา ไม่ต้องโป๊อีกด้วย จัดเต็มขนาดนี้ต้องลองแล้วล่ะค่ะ

สวนคาโนยะบาระ หรือ สวนคาโนยะ โรสการ์เดน (Kanoya Rose Garden) ตั้งอยู่ภายในเมืองคาโนยะ จังหวัดคาโกชิม่า นับว่าเป็นที่สุดของดอกไม้ที่เรายกย่องให้เป็นราชินีแห่งหมูมวลดอกไม้ทั้งหลายอย่างกุหลายเชียวค่ะ เพราะที่นี่มีอาณาบริเวณที่กว้างขวางมากถึง 50 ไร่ กุหลาบหลากหลายสายพันธ์ทั่วโลกมากกว่า 35,000 ดอก เรียกได้ว่ามาเดินชมสวนกุหลาบกันให้ฉ่ำปอดกันไปเลย การันตีความอลังการจากการเป็นสวนกุหลาบที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นด้วยนะคะ โดยเฉพาะไฮไลท์อย่างกุหลาบสายพันธ์ท้องถิ่นที่มีถิ่นกำเนิดจากที่นี่ชื่อว่า “พริ๊นซ์คาโนยะ” บอกเลยว่าความเฉิดฉายมันเตะตามากๆแถมหาดูที่อื่นไม่ได้อีกต่างหาก ในส่วนพื้นที่ต่างๆเค้าก็มีการแบ่งออกเป็นโซนๆซึ่งจะมีการตกแต่งหรือองค์ประกอบของสวนให้มีความแตกต่างกันไป ใครที่ชอบแนวเรือนกระจกใสสวยๆที่นี่เค้าก็มีนะคะ คิดดูว่ายิ่งอยู่ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ป่าเขาลำเนาไพรนี่จะสดชื่นขนาดไหน เดินเสร็จยังจะมีร้านค้าให้ซื้อของที่ระลึกและที่สำคัญมีไอศกรีมกุหลาบหอมๆฟินๆให้ได้ลองลิ้มชิมรสให้สมกับมาเยือนยังสวรรค์ของคนรักกุหลาบอีกด้วยล่ะค่ะ แล้วถ้าใครอยากมาแล้วแบบดอกไม้เบ่งบานสะพรั่งไปทั้งสวนแนะนำให้มาช่วงฤดูใบไม้ผลินะคะ เพราะช่วงที่ว่านี้สวยสุดจิตสุดใจแบบมาแล้วจะหลงรักกุหลาบจนโงหัวใจไม่ขึ้นเลยทีเดียวเชียวจ้า

สวนอิชิบาชิ (Ishibashi Park) ตั้งอยู่ในบริเวณตัวเมืองคาโกชิม่า นับได้ว่าเป็นสวนสาธารณะที่ครบเครื่องทั้งความรื่นรื่นของแมกไม้และกลิ่นอายของประวัตศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างหลังนี่ถือว่าเป็นไฮไลท์เลยนะคะ เพราะภายในสวนเค้าจะมีสะพานหินโบราณอายุร้อยกว่าปีที่เมื่อก่อนใช้เป็นเส้นทางหลักในการข้ามไปอีกฝั่งของแม่น้ำน้ำโคสึกิ เมื่อก่อนนี้มีจำนวนมากถึง 5 แห่ง แต่หลังจากเวลาผ่านมาเป็นเวลานานก็เหลือเพียงแค่ 3 แห่งเท่านั้นเอง ซึ่งอันที่ใหญ่ที่สุดนั้นมีชื่อว่า “นิชิดะบาชิ” แม้ว่าปัจจุบันเราอาจไม่ได้ใช้งานเป็นหลักเหมือนสมัยก่อน แต่เค้าก็ยังมีการดูแลที่ดีมากๆแบบที่เห็นแล้วทึ่งกันเลยทีเดียวว่ายังคงแข็งแรงและดูดีมากจริงๆ ที่สำคัญเป็นจุดที่สามารถชมวิวได้สวยที่สุดของสวนนี้และติดอันดับต้นๆของเมืองด้วยล่ะค่ะ อีกทั้งยังมีส่วนของพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อิชิบาชิที่จัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาของสะพานหินทั้ง 5 แห่งของเมืองพร้อมทั้งเทคนิคการสร้าง และของโบราณในยุคนั้นต่างๆให้คนที่สนใจได้เข้ามาชมกันแบบฟรีๆ แล้วที่น่ารักคือเค้าจะมีไกด์เด็กมานำเที่ยวด้วยนะคะ แต่อันนี้มีเฉพาะวันเสาร์ที่ 4 ของเดือน ช่วงเวลา 10:00 – 15:00 เพียงแต่ไม่แน่ใจนักว่ามีภาษาอังกฤษหรือเฉพาะภาษาญี่ปุ่นเท่านั้นอันนี้น่าเพื่อให้ชัวร์น่าจะสามารถสอบถามเพื่อเติมได้ที่จุดบริการอ่ะค่ะ เรียกได้ว่าจะถ่ายรูปก็สวย จะหาที่พักน่องก็ชิล หรืออยากเรียนรู้ก็ฟิน

อ่าวคาโกชิม่า (Kagoshima Bay) ตั้งอยู่แถบใต้สุดของเกาะคิวชู มีลักษณะคั่นกลางระหว่างแหลมสัทซึมะและแหลมโอสึมิได้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มาคาโกชิม่าแล้วไม่มาปักหมุดนี่เหมือนมาไม่ถึงเลยนะคะ โดยเป็นอ่าวที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและมีความงดงามอันเลื่องชื่อ ถ้าอยากชมบนบกก็อาจไปยังหาแหล่งท่องเที่ยวที่มีบริเวณติดๆกับอ่าวแบบสามารถชมวิวอ่าวได้อย่างพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเมืองคาโกชิม่าหรือจะเป็นแถวๆสถานีคาโกชิม่าจุดนี้ก็สามารถชมวิวอ่าวได้เหมือนกันนะคะ รวมถึงไปช็อปปิ้งเพลินๆได้ที่มอลล์ Dolphin Port (Kagoshima Water Front) ที่อยู่บริเวณหน้าอ่าวได้อีกด้วย แต่ถ้าอยากสัมผัสแบบเน้นๆลองล่องเรือชมวิวดูสิคะ นอกจากจะได้ชมวิวทิวทัศน์รอบๆแล้วยังจะได้ชมเกาะซากุระจิมะอีกด้วย แถมวันไหนเจอแจ็คพอตอาจได้เห็นโลมากระโดดโชว์ตัวนี่ยิ่งฟินคูณสิบๆๆๆไปเลยจ้า

หอดูดาวและอวกาศอุจิโนะอุระ ตั้งอยู่บนเนินเขาบริเวณเลียบมหาสมุทรแปซิฟิก ภายในเมืองคิมโทสุกิของจังหวัดคาโกชิมะ  หลักๆแล้วที่นี่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการเป็นศูนย์เกี่ยวกับอวกาศ จรวด และดาวเทียม เพื่อใช้ในการติดตามข้อมูลต่างๆส่งตรงจากอวกาศมายังญี่ปุ่น การได้รับความถี่วิทยุจากดาวเทียมหรือปล่อยจรวดเสียง รวมถึงสนับสนุนการวิจัยวิทยาศาสตร์อวกาศ ที่สำคัญยังเป็นสถานที่ยิงดาวเทียมแรกของญี่ปุ่นที่ชื่อว่า “โอสึมิ” อีกด้วย  บอกเลยว่าสายวิทย์และเทคโนโลยีตัวจริงต้องหลงรักอย่างแรง เนื่องจากภายในนั้นจะมีการแบ่งส่วนที่ให้ผู้สนใจได้เข้าชมชม โดยจะมีการจัดแสดงประวัตศาสตร์เรื่องราวความเป็นมา โมเดลดาวเทียมวิทยาศาสตร์ และจรวด ไม่ต้องกลัวว่าเข้าไปและจะงงๆนะคะ เพราะเค้าจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้การแนะนำพร้อมอธิบายรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆเพื่อให้เราสามารถเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญการที่ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาสูงนั้นทำให้ที่นี่วิวดีงามมากมาย ทำให้เราสามารถดูวิวทิวทัศป่าไม้เทือกเขารอบๆได้อย่างเต็มอิ่มด้วยล่ะค่ะ