ซากะ

ซากะ(Saga)เป็นจังหวัดที่อยู่ติดกับจังหวัดฟุกุโอกะ สามารถเดินทางโดยรถยนส่วนตัวใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงครึ่งหรือ 2 ชั่วโมง เป็นจังหวัดติดทะเลที่มีชื่อเสียงด้านเครื่องเคลือบดินเผา และอาหารทะเลสดๆครับ รวมทั้งคนไทยหลากคนน่าจะคุ้นหูกันดี เพราะเป็นจุดถ่ายละครดังเรื่องหนึ่งของไทยด้วย นั่นก็คือ Stay Saga ของหนุ่มซันนี่จากค่าย GDH นั่นเอง   ตลาดเช้าโยบุโกะนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมากถึง 130 ปีเลยทีเดียว เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารทะเลที่สดใหม่ โดยเฉพาะปลาหมึก ที่เป็นปลาหมึกซาชิมิจากปลาหมึกกล้วยครับ ที่ตลาดปลาโยบุโกะสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปี เปิดตั้งแต่เช้าตรู่จนไปถึงเที่ยง ช่วงวันไหนที่หนาวหรือว่าอากาศเย็นเกินไปก็อาจจะมีปลาหมึกที่ออกมาให้จับน้อย แต่ที่ตลาดนี้ก็ไม่ได้มีแค่ปลาหมึกอย่างเดียวนะจะมีหอยคล้ายๆหอยสังข์วางขายอยู่ด้วยนะครับ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทะเลต่างๆเช่นปลาหมึกบดปลาหมึกตากแห้งปลาตากแห้ง และอีกสิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือขนมจีบปลาหมึกครับ โดยจะมีสองแบบคือแบบนึ่งและแบบทอด ซึ่งอร่อยทั้งสองอย่าง แนะนำว่าถ้ามาแล้วอยากจะมาให้ถึงตลาดโยบุโกะต้องลองปลาหมึกและขนมจีบปลาหมึกให้ครบนะครับ อีกเมนูหนึ่งที่แนะนำให้ไปลองนะครับก็คือ ขนมเซมเบ้ปลาหมึก ซึ่งพิเศษมากๆเพราะเขาจะทำเซมเบ้สดๆตรงนั้นเลยแล้วก็เอาปลาหมึกกล้วยทั้งตัวลงไปอัดพร้อมกับเมเป้เลยทำให้เต็มที่ได้ออกมามีขนาดใหญ่บ้านเสร็จปุ๊บเนี่ยเขาก็จะฉีดโชยุเลยทำให้ขนมเซมเบ้ที่ได้นั้นค่อนข้างที่จะมีรสเค็มนิดๆแล้วก็มีรถมันของปลาหมึกหน่อยๆอร่อยไปอีกแบบครับ       อยู่ห่างจากตลาดปลาโยบุโกะแค่ประมาณ 10 นาทีจะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่คู่รักนิยมมา ที่นี่ชื่อว่าแหลมฮาโดะ 波戸岬 หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่าฮาโดะมิซากิ ที่นี่เป็นสวนสาธารณะที่อยู่ตรงแหลมริมทะเล เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ดีครับ โดยที่แหลมนี้จะมีแท่นไว้สำหรับลงไปดูพันธุ์ปลาชนิดต่างๆใต้น้ำแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดซากะ เรียกว่าเป็นอควาเรี่ยมธรรมชาติเลยก็ได้ โดยเมื่อลงไปแล้วจะเห็นปลานาชนิดเลยครับ สำหรับค่าเข้าชมแท่นดูปลาริมทะเลนะครับ ผู้ใหญ่ราคา 550 เยนส่วนเด็กราคา 270 เยนเปิดทำการทุกวันตั้งแต่…

น้ำตกโทโดโรกิ (Todoroki no taki waterfall)อยู่ใกล้กับเมืองออนเซน ยูเรชิโนะ(Ureshino) จังหวัดซากะ(Saga) ห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตรเท่านั้น เป็นน้ำตกที่แบ่งเป็น 3 ชั้น มีความสูงทั้งหมด 11 เมตร มีชื่อภาษาญี่ปุ่น ที่แปลว่า เสียงระเบิด “บูม” จากเสียงของน้ำตกเมื่อกระแทกลงสู่แอ่งน้ำด้านล่าง บริเวณรอบๆถูกสร้างให้เป็นสวนเพื่อการพักผ่อน ทำให้เหมาะกับการเป็นทริปสั้นๆหลังจากแช่ออนเซนมาแล้ว ทางตอนใต้จะมีสะพานแขวนสีแดงเล็กๆที่ชื่อว่าทาคามิ(Takimi Bridge) ซึ่งเป็นจุดที่เหมาะในการถ่ายภาพน้ำตกนี้ที่สุด นอกจากนี้ในฤดูใบไม้ผลิ จะมีต้นซากุระในสวนที่บานและร่วงลงน้ำ ทำให้น้ำในแม่น้ำเป็นสีชมพูสวยงามมาก  

เมืองออนเซน ยูเรชิโนะ(URESHINO ONSEN) เป็นเมืองออนเซนที่มีน้ำแร่ธรรมชาติที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะคิวชู(Kyushu) และเป็นหนึ่งใน 3 ออนเซนที่ดีที่สุดสำหรับผิวในญี่ปุ่น(Top three Bihada Hot Spring) มีแหล่งน้ำแร่มากถึง 17 แหล่งที่มีน้ำมากตลอดเวลา ในน้ำแร่จะประกอบด้วยเกลือ กรดคาร์บอนิก ในส่วนผสมที่ลงตัว และมีอุณหภูมิสูงถึง 100 องศาเซลเซียส จนมีที่มาของชื่อในภาษาญี่ปุ่นว่า “Ureshii” ที่แปลว่า “เยี่ยมไปเลย” ที่ราชนีจิงกุ(Empress Jingu) อุทานออกมา ในสมัยเอโดะ(Edo)เมืองออนเซน ยูเรชิโนะ(URESHINO ONSEN)เป็นสถานีบนถนน Nagasaki Kaido ที่คึกคัก ทำให้มีโรงแรมแบบญี่ปุ่นอยู่มากตลอดเส้นทางนี้ โดยเฉพาะบริเวณริมแม่น้ำ Ureshino-gawa และยังหลงเหลือมาจนถึงยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงเพราะเป็นแหล่งผลิตชาเขียวแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นด้วย 3 โรงแรมที่เมืองออนเซน ยูเรชิโนะ ที่แนะนำคือ โรงแรม Ureshino Hotel Shinsenkaku ที่เป็นโรงแรมใหม่ ทันสมัย และมีบ่อออนเซนให้เลือกหลายแบบ เรียวกัง Ureshino Onsen Taishouya Shiibasanso หรือ Shiiba-sanso ที่อยู่ริมแม่น้ำมีบรรยากาศที่สวยงามมาก เว็บภาษาญี่ปุ่น และ เรียวกัง…

ไฮเซน ยูเมไคโดะ(Hizen Yumekaido)เป็นธีมปาร์คที่ตกแต่งตามรูปแบบของหมู่บ้านญี่ปุ่นในยุคเอโดะ(Edo) อยู่ใกล้กับเมืองออนเซนอูเรชิโนะ(Ureshino) จังหวัดซากะ(Saga)  มีชื่อเสียงว่าเป็นหมู่บ้านนินจาเพราะมีการแสดงนินจาที่น่าประทับใจ จนมีชื่อเสียงในญี่ปุ่น สร้างตามแบบของเมืองออนเซนญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงในสมัยก่อนที่ชื่อว่า Ureshino ภายในมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น ตัวละครต่างๆที่แต่งตัวเป็นซามูไร นินจา เจ้าหญิงที่จะเดินไปเดินมาให้ถ่ายรูปด้วย จุดเช่าชุดนินจา พร้อมอุปกรณ์ครบมือ สำหรับถ่ายรูปเล่นได้ด้วย Karakuri Muge Yashiki ที่มีโชว์หุ่นเชิดนินจา Ninpou Gojaru ที่มีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆของนินจา Hagakure Ninja Yashiki ที่เป็นสถานที่แสดงโชว์ต่างๆของนินจา Hizen Yume Kobo เป็นสถานที่สำหรับทดลองวาดภาพลงบนเครื่องปั้นดินเผาหรือแก้วน้ำของตัวเอง Gen-san เป็นการแสดงโชว์เลียนแบบที่ดีที่สุดแบบหนึ่งของญี่ปุ่น Namisum พื้นที่สร้างใหม่ที่เลียนแบบเกาะนามิของเกาหลี ที่เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Winter Sonata ที่โด่งดังในญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน ยังมีสิ่งที่น่าสนใจจากนี้อีกหลายอย่าง เช่น ศาลเจ้า Benzaiten และหมอดูที่หลายคนเชื่อกันว่าแม่นมากๆ เป็นต้น

สวนเครื่องเคลือบดินเผา(Porcelain Park and Zwinger Palace)เป็นเหมือนสวนสนุกขนาดย่อมของเมืองอาริตะ(Arita) ก่อสร้างด้วยธีมแบบพระราชวัง Zwinger ที่มีชื่อเสียงของเมือง desden ประเทศเยอรมันนี ทั้งตัวอาคาร และสวนรอบๆ   ด้านในพระราชวังมีการจัดแสดงผลิตภัณท์เครื่องเคลืบดินเผาแบบต่างๆ ทั้งที่ผลิตในญี่ปุ่นและจากประเทศแถบยุโรป มีร้านค้าเครื่องเคลือบดินเผาที่ขายทั้งสินค้าที่เป็น Japan made และนำเข้ามาจากยุโรป และยังเตาเผาสำหรับทำเครื่องเคลือบดินเผาขนาดใหญ่จัดแสดงไว้ด้วย ส่วนทางด้านหลังพระราชวังจะมีสวนสไตล์ยุโรปที่ได้วิวภูเขาที่สวยงามด้วย

“STAY ซากะ..ฉันจะคิดถึงเธอ” ซีรีส์สุดฟินที่พาให้อินไปกับความเป็นญี่ปุ่น โดยเฉพาะเมืองซากะที่ถือได้ว่าเป็นสถานที่ถ่ายทำหลักๆของเรื่องนี้นี่เองค่ะ เรียกได้ว่าฉากสวยๆที่ถ่ายทำให้จังหวัดซากะอย่างเพียบ บางคนที่เคยไปเที่ยวเกาะคิวชูมาแล้ว แต่อาจจะยังไม่เคยแวะเที่ยวซากะมาก่อน จังหวัดนี้อยู่ใกล้ๆกับ ฟูกุโอกะ และ นางาซากิ มีชื่อเสียงในเรื่องของเครื่องปั้นดินเผา อาหารทะเลสดอย่างจริงจัง และธรรมชาติที่สวยงามที่น่าตื่นตาตื่นใจ ในครั้งนี้ตะลอนเจแปนจะพาเพื่อนๆไปตามรอย “STAY ซากะ..ฉันจะคิดถึงเธอ” โดยรวบรวมทั้งที่สถานเที่ยว ของขึ้นชื่อที่ห้ามพลาดของจังหวัดนี้มาให้ได้ชมกัน ตามไปดูกันเลยจ้า   1. ตลาดเช้าโยบูโกะ(Yobuko Morning Market) “เป็นตอนที่หมีพาจุกไปเดินเล่นตอนเช้าที่ตลาด ซื้อของสด และกินหอยสังข์” ตลาดเช้าโยบูโกะ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของท่าเรือโยบูโกะ(Yobuko port) ยาวประมาณ 200 เมตร เต็มไปด้วยแผงขายอาหารทะเลสดๆ อาหารแปรรูป ผัก และดอกไม้ให้เลือกซื้อกันอย่างเพลิดเพลินเลยทีเดียว ช่วงเช้าๆอยากหาอะไรเต็มท้องที่ทั้งอร่อย สด ราคาไม่แพงมาเลยค่ะมีให้เลือกเพียบ ดูวิธีการเดินทางและรายละเอียดเพิ่มเติม    2. เนื้อซากะ เนื้อระดับพรีเมี่ยมของเมืองซากะ Saga Beef “คุณลุงเจ้าของบ้านทำสุกี้เนื้อซากะให้ทาน วิธีทานแบบญี่ปุ่นให้เอาเนื้อสุกี้จิ้มกับไข่ดิบแล้วกิน รสชาติจะอร่อยขึ้น” เนื้อซากะ ถือเป็นเนื้อลายหินอ่อนเกรด 4-5 คนรักการกินเนื้อจากทั่วทุกมุมโลกต่างมาเพื่อลิ้มรสเนื้อที่มีชื่อเสียงชนิดนี้เลยทีเดียว สายเนื้อตัวจริงมาเยือนยังถิ่นกำเนิดทั้งทีจะพลาดได้ยังไงใช่ไหมคะ เนื้ออย่างนุ่มเข้าปากทีแทบละลายไม่ต้องเคี้ยว ที่สำคัญราคาเบากว่าไปซื้อที่อื่นด้วยนะคะ…

ภูเขาคางามิยาม่า(Mount Kagamiyama) ตั้งอยู่ที่จังหวัดซากะ(Saga) บนเกาะคิวชู(Kyushu) เรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันเลื่องชื่อที่สุดแห่หนึ่งของซากะเลยก็ว่าได้ค่ะ มีทั้งความสวยงามอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวสุดปังด้วยนะคะ โดยภูเขาแห่งนี้สูง 284 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เส้นทางที่นำขึ้นไปสู่ยอดเขา เป็นระยะทาง 5 กิโลเมตรที่ค่อนข้างคดเคี้ยว ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นด้านขวามือของเมืองคาราสึได้อย่างทั่วถึง รวมทั้งมองเห็นนิชิ โน มัตสึบาระ(Nishi-no-Matsubara) อ่าวคาราสึ(Karatsu Bay) และในวันฟ้าโปร่งก็จะมองได้ไกลถึงเกาะอิคิ(Iki Island)ในจังหวัดนางาซากิ(Nagasaki)อีกด้วย การจะมาเที่ยวนี่ปกติกสามารภถมาได้ตลอดทั้งปีนะคะ แต่ถ้าพีคๆสุดต้องยกให้ในช่วงฤดูใบไม้ผลินี่แหล่ะค่ะคิดดูว่าทั้งภูเขาที่เต็มไปด้วยเหล่าดอกไม้นานาพันธุ์นำด้วยดอกซากุระยอดนิยม ตามมาติดๆด้วยดอกอาซาเลีย และดอกไม้ชนิดอื่นๆแข่งกันบานสะพรั่งมันจะสวยงามขนาดไหน แล้วถ้าไม่อยากแค่เดินชมเฉยๆที่นี่เค้าก็กิจกรรมสุดปังให้ได้ทำกันอย่างการลองร่อนพาราไกลด์ดิ้ง(paragliding) เพื่อชมทิวทัศน์ของท้องฟ้า ภูเขา และผืนน้ำเบื้องล่างอันงดงาม ก็เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างหนึ่งที่ได้ทั้งความท้าทาย ให้ความรู้สึกอิสรเสรี ท่ามกลางเทือกเขาและท้องฟ้าใสๆ แค่นึกภาพตามนี่ก็ฟินแล้วล่ะค่ะ    

ปลาหมึกตัวใส(Saga Squid) ถูกยกให้เป็นอาหารขึ้นชื่อติดหนึ่งในสามอันดับแรกที่ต้องลองเมื่อมาเยือนยังเมืองซากะแห่งนี้เชียวล่ะค่ะ เพราะของเค้าสดจริงจังแบบจับมาจากทะเลปุ๊บก็ส่งตรงถึงร้านอาหารเลยแบบวันต่อวัน ซึ่งปลาหมึกนั้นจับได้จากทะเลเกนไค(Sea of Genkai)ภาคเหนือของจังหวัดซากะ ความสดขั้นเทพนี่เองทำให้มีรสหวาน ละลายในปาก รสสัมผัสกรุบกรอบ มักเสิร์ฟเป็นซาซิมิปลาหมึกแบบดิบๆไม่ต้องปรุงก็อร่อยล้ำแล้ว จริงๆก็จะมีเมนูปลาหมึกอื่นๆให้เลือกชิมกันที่ที่กาดอกจันทน์ตัวโตๆไว้เลยก็ต้องทานแบบซาซิมิปลาหมึก เพื่อลิ้มรสชาติที่สดใหม่ของปลาหมึกชื่อดังนี่แหล่ะค่ะมันเทพสุดแล้ว การเสริฟ์ปลาหมึกนั้นเค้าก็มีกรรมวิธีการทำแบบเฉพาะของท้องถิ่นที่เรียกว่า อิคิซูคุริ(Ikizukuri) โดยใช้เวลาในการฆ่าและแล่น้อยกว่า 1 นาที เพื่อทำให้ยังคงรสชาติแบบธรรมชาติที่แม้จะสดมากๆแต่ก็ไม่มีความคาวซักนิด แบบว่าขนาดคนที่ไม่ชอบทานของดิบยังทานได้เลยนะคะสามารถหาชิมได้ตามโรงแรม หรือร้านอาหารทั่วไปในคาราสึ นอกจากนี้ยังสามารถนำปลาหมึกมาปรุงโดยการย่างเกลือ หรือทำเป็นเทมปุระไม่ต้องกลัวว่าจะเบื่อกับปลาหมึกง่ายนะคะ เพราะเมืองคาราสึที่เป็นแหล่งวัตถุนั้นยังมีปลาหมึกอีก 4-5 ชนิด รอให้คุณได้ไปลิ้มลองได้ทุกฤดูกาลตลอดทั้งปีอีกด้วย