คากาวะ

ชิโกกุ (Shikoku) คือหนึ่งในสี่เกาะหลักของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะฮอนชู แม้จะมีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาเกาะหลัก แต่ชิโกกุกลับเต็มไปด้วยเสน่ห์และธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ไว้ได้อย่างดี ที่นี่ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ โทคุชิมะ (Tokushima), คางาวะ (Kagawa), เอฮิเมะ (Ehime) และโคจิ (Kochi) ซึ่งแต่ละจังหวัดล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งวัฒนธรรม ประเพณี อาหารท้องถิ่น และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นวัดเก่าแก่ในเส้นทางแสวงบุญ 88 วัด, ออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น, หุบเขาอิยะอันเงียบสงบ ไปจนถึงชายฝั่งทะเลสวยๆ ที่เหมาะแก่การพักผ่อน สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสญี่ปุ่นในแบบเรียบง่ายและเงียบสงบ ชิโกกุถือเป็นจุดหมายที่ตอบโจทย์อย่างแท้จริง ด้วยการเดินทางที่สะดวกขึ้นในปัจจุบัน ทั้งทางรถไฟ เรือ และทางอากาศ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงภูมิภาคนี้ได้ง่ายขึ้น แม้จะยังไม่เป็นที่นิยมเท่าเมืองใหญ่ในญี่ปุ่น แต่ชิโกกุกลับมีความน่าค้นหาในแบบที่แตกต่าง ด้วยผู้คนที่เป็นมิตร วิถีชีวิตที่เรียบง่าย และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่ แล้วมาค้นหาความสงบงามของญี่ปุ่นในอีกแง่มุมหนึ่ง แนะนำภูมิภาค ชิโกกุ สภาพอากาศ  โดยทั่วไปสภาพอากาศที่แตกต่างกันไปตามฤดูกาล โดยโดยรวมจะอยู่ในเขตอากาศแบบอบอุ่นชื้น ทำให้เที่ยวได้ตลอดทั้งปี  ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค. – พ.ค.) มีอากาศเย็นสบาย…

จังหวัดคางาวะ (Kagawa) ตั้งอยู่ในภูมิภาคชิโกกุ เป็นจังหวัดที่มีขนาดเล็ก แต่มีเอกลักษณ์และมีความสำคัญในด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และมีธรรมชาติที่งดงาม นอกจากนี้ที่นี่ยังมีชื่อเสียงในด้านอาหาร โดยเฉพาะ อุด้งซานุกิ (Sanuki Udon) ที่มีเส้นเหนียวนุ่มและน้ำซุปกลมกล่อม การเดินทางมาคางาวะยังช่วยให้เราได้สัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร อย่างเช่น 12 สถานที่ท่องเที่ยวต่อไปนี้ ที่บอกได้เลยว่าหากได้ลองมาสักครั้ง จะรู้สึกประทับใจอีกนาน       mTaira/shutterstock.com Sanga Park/shutterstock.com AndyLai/shutterstock.com ศาลเจ้าโคโตฮิระกุ (Kotohira-gu Shrine) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “คอมปิระซัง” (Konpira-san) เป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพโอโมโนชิ-นุชิ โนะ มิโคโตะ (Omononushi-no-Mikoto) เทพแห่งท้องทะเล ในอดีตที่นี่เคยเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญ เพราะตั้งอยู่ใกล้ทะเลเซโตะ (Seto Inland Sea) ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านในพื้นที่ แต่การเยี่ยมชมต้องใช้ความอดทนพอสมควร เนื่องจากศาลเจ้าตั้งอยู่บนภูเขา Zozu นักท่องเที่ยวต้องเดินขึ้นบันไดมากถึง 785 ขั้น เพื่อไปยังศาลเจ้าหลักและหากต้องการไปถึงศาลเจ้าชั้นในจะต้องเดินเพิ่มอีก 583 ขั้น รวมเป็นบันไดทั้งหมด 1,368 ขั้นเลยทีเดียว…

Zenigata Sunae (銭形砂絵, เซนิกาตะ ซุนาเอะ) เป็นงานศิลปะทรายขนาดยักษ์ที่มีรูปทรงเหรียญ Kan’ei Tsuho (เหรียญเงินสมัยเอโดะ) ตั้งอยู่ใน Kotohiki Park (琴弾公園, โคโตฮิกิ พาร์ค) เมือง Kanonji (観音寺, คันนอนจิ) จังหวัดคากาวะ โดยมีความเชื่อว่า ถ้าได้เห็นเหรียญนี้จะนำมาซึ่งโชคดี สุขภาพแข็งแรง และความมั่งคั่ง ยิ่งมองจากจุดชมวิวด้านบน จะเห็นรูปเหรียญได้อย่างชัดเจนและสวยงาม     Kotohiki Park ที่นี่เป็นสวนขนาดใหญ่ประมาณ 48 เฮกตาร์ มีทั้งป่าสนและชายหาดสวยๆ จุดไฮไลต์คือจุดชมวิวบนเนิน Kotohiki Hill (琴弾山, โคโตฮิกิ ยามะ) ที่เราสามารถมองเห็น Zenigata Sunae ได้แบบเต็มๆ กิจกรรม Sunazarae (砂さらえ, ซุนะซะระเอะ) ในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง ชาวบ้านจะร่วมกันทำความสะอาดและปรับแต่งลวดลายของทราย ซึ่งบางปีเปิดให้เราเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้ด้วย ถ้าโชคดีก็อาจจะได้สัมผัสประสบการณ์พิเศษนี้เลย      …

เกาะ Shishijima (ชิชิจิมะ) ตั้งอยู่ในทะเลเซโตะ (Seto Inland Sea) เป็นเกาะเล็กๆ ในจังหวัดคากาวะที่เหมาะกับการมาสัมผัสชีวิตเรียบง่ายแบบดั้งเดิมในญี่ปุ่น เกาะนี้มีพื้นที่เพียง 0.74 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรแค่ประมาณ 20 คนเอง! ในอดีต เกาะนี้เคยเป็นแหล่งทำการประมงและการเกษตร โดยเฉพาะการปลูกพืชอย่างพริกและดอกไพรีทรัม แต่ตอนนี้เหลือเพียงความสงบที่รอให้เรามาสัมผัส บรรยากาศแบบบ้านๆ ที่นี่เหมาะมากสำหรับการพักผ่อน     ต้นคามเฟอร์ยักษ์ (Great Camphor Tree หรือ โอคุสุ) ต้นคามเฟอร์อายุกว่า 1,200 ปี เป็นสัญลักษณ์ของเกาะ Shishijima (ชิชิจิมะ) ยืนต้นตระหง่านให้เรารู้สึกถึงพลังธรรมชาติ ใครมาเกาะนี้ต้องแวะมาดู จุดชมวิว Kusunokura (คุซุโนะคุระ) จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทะเลเซโตะและเกาะใกล้เคียงได้แบบพาโนรามา ใช้เวลาเดินจากท่าเรือประมาณ 20 นาที วิวดีจนต้องเก็บภาพไว้แน่นอน! Flower Field in the Sky (ฟลาวเวอร์ฟิลด์อินเดอะสกาย) ทุ่งดอกไม้บนเนินที่ชาวบ้านช่วยกันสร้าง มีดอก Calendula และ…

Mt. Shiude (ชิอุเดะ) เป็นภูเขาสูงประมาณ 352 เมตร ตั้งอยู่บนคาบสมุทรโชนาอิ (Shonai Peninsula) ในเมืองมิโทโยะ (Mitoyo) จังหวัดคากาวะ (Kagawa) โดดเด่นด้วยวิวพาโนรามาสุดตระการตาของทะเลเซโตะใน (Seto Inland Sea) และหมู่เกาะที่กระจายอยู่ทั่ว นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต่างยกให้ที่นี่เป็นจุดชมซากุระที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ที่นี่เคยถูกเลือกให้ติดอันดับ “52 Places to Go in 2019” จาก New York Times และยังได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 15 จุดชมซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย     Akio Miki JP/shutterstock.com Shawn.ccf/shutterstock.com     ซากุระช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่ Mt. Shiude มีต้นซากุระกว่า 1,000 ต้น ทั้งพันธุ์โยชิโนะและพันธุ์ป่าธรรมชาติ ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเมษายน ภูเขาทั้งลูกจะถูกปกคลุมด้วยสีชมพูตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าและทะเล ดอกไฮเดรนเยียช่วงต้นฤดูร้อน ช่วงต้นฤดูร้อนที่นี่จะมีดอกไฮเดรนเยียบานสะพรั่ง…

Takaya Shrine (ทาคายะจินจะ) หรือที่รู้จักในชื่อ “Torii in the Sky” เป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่บนยอดเขา Inazumi ที่ระดับความสูงประมาณ 404 เมตร ในเมือง Kanonji (คาโนนจิ) จังหวัดคางาวะ จุดเด่นของที่นี่คือโทริอิที่เหมือนลอยอยู่บนท้องฟ้า มีวิวสวยๆ ของทะเลเซโตะและตัวเมืองด้านล่าง ศาลเจ้าแห่งนี้มีประวัติยาวนานกว่าพันปี ถูกกล่าวถึงใน “Engishiki” (เอ็นงิชิกิ) ซึ่งเป็นเอกสารทางประวัติศาสตร์ในสมัยโบราณ เดิมศาลเจ้าตั้งอยู่ที่เชิงเขา แต่ถูกย้ายขึ้นมาบนยอดเขาในภายหลัง ศาลเจ้าแห่งนี้อุทิศให้กับเทพเจ้าหลายองค์ เช่น Ninigi no Mikoto (นินิงิโนะมิโคโตะ) และ Ukemochi no Kami (อุเคโมจิโนะคามิ) ซึ่งเชื่อกันว่าช่วยปกป้องครอบครัว ธุรกิจรุ่งเรือง และสุขภาพดี     SAND555UG/shutterstock.com SAND555UG/shutterstock.com     ไฮไลท์ของศาลเจ้า Takaya Shrine Skyview Torii Gate โทริอิที่เป็นไฮไลต์ของ Takaya…

พิพิธภัณฑ์ศิลปะบ้านเบเนส เกาะนาโอชิมะ (Benesse House Naoshima) พิพิธภัณฑ์ที่รวมผลงานศิลปะแบบเก๋ ๆ ชิค ๆ สมัยใหม่ทั้งจากในประเทศญี่ปุ่นเองไปจนจากต่างประเทศ มาจัดแสดงได้อย่างน่าสนใจ แบบว่าให้ลืมงานแบบอื่น ๆ ไปเลย เพราะแต่ละงานนี่สุดครีเอท มีทั้งการผสมผสานสิ่งต่างๆ รอบตัวไปจนธรรมชาติแล้วดึงออกมาเป็นจุดเด่นที่ทำให้แต่ละงานที่จัดแสดงมีเอกลักษณ์และเสน่ห์หาตัวจับยาก ถือได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ชุบชีวิตเกาะนาโอชิมะให้กลับมามีชีวิตชีวาและกลายเป็นเกาะแห่งศิลปะที่เป็นจุดหมายปลายทางของคนรักงานศิลป์อย่างแท้จริง            

JR West Pass ปรับราคาพาสใหม่ยังคุ้มอยู่ไหม??   สำหรับคนที่มีแพลนท่องเที่ยวในแถบคันไซและโอซาก้า เกียวโต โซนตะวันออกของญี่ปุ่น สบายใจหายห่วงได้ด้วยบัตร JR West Pass ที่จะทำให้การเดินทางด้วยรถไฟ JR ทั้งง่ายและสะดวกมากขึ้นไม่ต้องมายืนต่อคิวยาวๆในแต่ละทีแล้วมานั่งกลัวว่าว่าแพลนเที่ยวจะเป๋ แถมไม่จำกัดจำนวนการขึ้นจะกี่ครั้งของได้ภายในวันที่กำหนดไว้ ที่สำคัญเค้ายังมีสิทธิพิเศษให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีตราประทับในหนังสือเดินทางเป็นประเภท “Temporary Visitor” ด้วยส่วนลดพิเศษอีกต่างหาก การซื้อล่วงหน้าทางออนไลน์หรือจากเอเจนซี่ที่ได้นอกประเทศญี่ปุ่นจะถูกกว่าการซื้อภายในประเทศญี่ปุ่นซะอีก โดยปัจจุบันจะมีให้ลือกทั้งหมด 10 ประเภทตามพื้นที่และระยะเวลา โดยมีรายละเอียดดังนี้   * JR Pass รูปแบบใหม่หลังโควิด จะไม่ได้เป็นเล่มๆ ที่เวลาเข้าออกประตูกั้นรถไฟต้องเดินออกทางประตูด้านข้างแล้ว แต่จะมีลักษณะเหมือนกับตั๋วรถไฟทั่วไปที่เสียบที่ช่องทางเดินเข้าออกอัตโนมัติได้เลย แต่อย่าลืมหยิบคืนจากเครื่องมาด้วยนะ         JR WEST ALL AREA PASS เป็นพาสมาใหม่ล่าสุดของ JR WEST ที่สามารถใช้โดยสารได้ทุกเส้นทางในการเดินทางของ JR West ทำให้กินบริเวณการเดินทางที่กว้างที่สุด และแพงที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการท่องเที่ยวหลายๆเมือง และข้ามภูมิภาค ประกอบด้วย Osaka, Kyoto,…