โตเกียว

ออนเซ็น(Onsen)นับเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เป็นที่นิยมอย่างมากทั้งในหมู่ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ การแช่ออนเซ็นถือเป็นวัฒนธรรมการแช่น้ำร้อนที่คนญี่ปุ่นนิยมกันมาอย่างยาวนาน รวมทั้งยังมีที่มีประโยชน์หลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นบำรุงผิวกาย บรรเทาอาการเจ็บป่วยต่างๆและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เมื่อมาเยือนยังดินแดนแห่งออนเซ็นทั้งทีจึงควรจะมีโอกาสได้ลองแช่ดูสักครั้ง โดยออนเซ็นมีหลายหลายประเภททั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง อีกทั้งยังไม่ได้มีเฉพาะในโรงแรมหรือเรียงกังเท่านั้น หากยังมีแบบสาธารณะให้ได้ลองสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ซึ่งแต่ละแบบนั้นล้วนมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป อีกทั้งหากมีเวลาจำกัดไม่สามารถพักค้างคืนได้ก็มีแบบที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า “ฮิกาเอริ ออนเซ็น” ที่แปลว่า ออนเซ็นแบบเช้าไปเย็นกลับได้อีกด้วย ครั้งนี้เราจะมาแนะนำ 7 เมืองออนเซ็นที่สามารถเดินทางไปกับจากโตเกียวได้ภายในหนึ่งวัน ที่แต่ละแห่งล้วนแต่มีเสน่ห์ไม่ซ้ำกันเลยทีเดียว อ้างอิง：20 แหล่งน้ำพุร้อนญี่ปุ่นที่แนะนำ【อัปเดตล่าสุด】 7 ออนเซ็นใกล้โตเกียวที่เดินทางไปแบบไปเช้า–เย็นกลับได้ ฮาโกเนะ (Hakone) ฮาโกเนะ เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงและประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 800 ปี เป็นเมืองในเขตอาชิงาระชิโมะของจังหวัดคานางาวะ ตั้งอยู่บริเวณเชิงทิวเขาฮาโกเนะด้านตะวันออก  นับเป็นเมืองที่เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างประเทศเดินทางมาเพื่อท่องเที่ยวแหล่งออนเซ็น เนื่องจากการเดินทางที่ไม่ไกลจากโตเกียวมากนัก รวมทั้งยังมีชื่อเสียงในด้านแหล่งออนเซ็นน้ำพุร้อนซึ่งเกิดจากความร้อนของภูเขาไฟ อีกทั้งยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิที่งดงามไปพร้อมๆกับแช่ออนเซ็นเพลินๆอีกด้วย โดยจะมีบ่อน้ำพุน้ำให้เลือกกว่า 20 แห่งทั้งแบบสาธารณะและแบบเรียวกัง ซึ่งบ่อน้ำพุน้ำที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานได้แก่ ยุโมโตะ(Yumoto) โดดเด่นด้วยสรรพคุณด้านการบรรเทาอาการปวดหลังและด้านระบบการหมุนเวียนโลหิต หรือจะเป็น ยุเนะซัน (Yunessun) ที่มีความแปลกใหม่จากการมีบ่อให้เลือกทั้งบ่อชาเขียวและกาแฟ แบ่งออกเป็น 2 โซนไม่ว่าจะเป็นแบบทั่วไปหรือแบบธรรมชาติ ช่วงที่เหมาะกับการมาที่สุดเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เพราะสามารถแช่ออนเซ็นพร้อมชื่นชมทัศนียภาพที่สวยงามไปพร้อมๆกัน ระยะเวลาเดินทาง : จากโตเกียวมายังฮะโกเนะ  ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1…

“ทริปโตเกียว-ฟูจิสุดโรแมนติก” พร้อมพาทุกคนไปสัมผัสกับบรรยากาศช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เริ่มจากเที่ยวตามจุดแลนด์มาร์กชมความงดงามของธรรมชาติ ต่อด้วยการไปเยือนฟูจิซัง ขับรถเที่ยวไปยังฮาโกเนะ ทุกสถานที่มั่นใจว่าจะสร้างความประทับใจแบบไม่รู้ลืม ไม่ว่าจะมาแบบคู่รัก กลุ่มเพื่อน หรือครอบครัว เที่ยวโตเกียวทริปนี้จะต่างไปจากเดิม ยืนหนึ่งเรื่องความโรแมนติกแน่นอน ตารางแพลนเที่ยว 4 วัน 3 คืน โตเกียว – ฟูจิ – คาวากุจิโกะ – ฮาโกเนะ วันที่ 1 : ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โตเกียวแบบจัดเต็ม 8:00 – 8:45 กินมื้อช้าที่โรงแรม Via inn Shinjuku 9:00 – 9:30 สักการะศาลเจ้าฮานะโซโนะ (Hanazono Shrine) 10:30 – 12:00 เดินเล่นชมสวน Showa Kinen Park 12:30 – 13:15 มื้อกลางวันที่ร้าน Gyukatsu Motomura Tachikawa Grand…

มาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีถ้าจะพักแต่โรงแรมธรรมดาๆก็เหมือนมาไม่ถึง ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากสัมผัสวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นอย่างแท้จริงแนะนำให้พักที่โรงแรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมหรือที่เรียกกันว่า เรียวกัง(Ryokan) เลยค่ะ ซึ่งก็คือที่พักในสไตล์ญี่ปุ่นห้องพักปูเสื่อตาตามิ, มีอ่างอาบน้ำรวม และผู้เข้าพักจะต้องสวมยูกาตะเพื่อให้กลมกลืนไปกับบรรยากาศด้วย โดยทั่วไปแล้วที่พักแบบเรียวกังนั้นจะมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับโรงแรมทั่วไป ครั้งนี้เราได้เสาะหาที่พักแบบเรียวกังประจำเมืองหลวงโตเกียว ซึ่งส่วนใหญ่จะกระจุกตัวกันอยู่ที่ย่านเมืองเก่าที่ยังคงกลิ่นอายญี่ปุ่นแบบโบราณอยู่ เช่น ย่านอาสากุซะ(Asakusa) โดยเราเน้นเฉพาะ เรียวกังที่ บรรยากาศดี ราคาไม่แรงมากนัก เพื่อให้คนที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศที่พักและต้องการสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆให้สามารถพักได้ ในราคาที่เอื้อมถึง ▶︎ แนะนำ 30 ที่พักโตเกียว ญี่ปุ่น ย่านเด็ด ใกล้สถานีรถไฟ เดินทางสะดวก ราคาถูก อยู่สบาย เรียวกัง อาซะกุซะ ชิเกตสึ มีการตกแต่งอย่างมีสไตล์ ตั้งอยู่ในอาซากุซะ เดินทางได้สะดวกเพราะอยู่ ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ JR Asakusa ใช้เวลาเดินเพียง 3 นาที และรถไฟใต้ดินสถานี Tawaramachi ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที ที่สำคัญยังใกล้แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่งอย่าง วัดอาซากุซะ, ถนนนากะมิเซะ และย่านอาซะกุซะ ที่พักแห่งนี้ให้บริการห้องพักทั้งหมด 22 ห้อง มีสิ่งอำนวยสะดวกมากมายไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์จอแบน อินเทอร์เน็ตไร้สาย…

ไปเที่ยวตามสไตล์สาย Hopping จะไม่แวะเช็กอินคาเฟ่ในโตเกียวก็คงจะไม่ได้ อย่างที่เราทราบกันดีว่าโตเกียว เป็นมหานครของประเทศญี่ปุ่นที่มัดรวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว โดดเด่นให้เรื่องวัฒนธรรม เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวหลายรูปแบบ การเดินทางก็สะดวกสบายมากกว่าในอดีต และวันธรรมดาจะพิเศษมากขึ้น หากได้ลิ้มลองกาแฟรสชาติดีสักแก้วบวกกับขนมโฮมเมดสักชิ้น อิ่มเอมไปกับบรรยากาศสบาย ๆ ในร้านคาเฟ่สักร้าน บอกเลยว่าโตเกียวในปัจจุบัน กลายเป็นแหล่งรวมคาเฟ่หลากสไตล์ที่คอกาแฟไม่ควรพลาด ตอบโจทย์สายเที่ยวที่กำลังมองหาจุดเช็กอินชิค ๆ หากไม่อยากพลาดการเดินทางที่สมบูรณ์แบบ ตามเราไปอัปเดตร้านคาเฟ่ในโตเกียว 2025 ที่ฟีลดีเกินห้ามใจ รวมมาให้แล้วทั่วเมือง ต้องแวะไปถ่ายรูปก่อนกลับไทยเสียหน่อย 1. Blue Bottle Coffee Shibuya Cafe เริ่มต้นด้วยร้านดังส่งตรงจากซานฟรานที่มาเปิดสาขาในโตเกียว ไฮไลต์อยู่ที่เมนูกาแฟ เน้นเสิร์ฟแบบ Drip Coffee Single Origin ภายในร้านตกแต่งในสไตล์ที่มีเอกลักษณ์ มีเคาน์เตอร์กระเบื้องดีไซน์โค้งสุดเก๋ ถ่ายรูปสวย จัดโซนที่นั่งไว้บริการหลายรูปแบบ ทั้งในและนอกร้าน จะมาคนเดียว มาเป็นคู่ หรือมากับแก๊งเพื่อนก็เพลิดเพลินไปกับกลางบรรยากาศชิล ๆ กับเมนูกาแฟสไตล์ญี่ปุ่นได้ในเมืองโตเกียว แถมตอนเย็นยังมีเมนูอาหารและไวน์ธรรมชาติบริการอีกด้วย การเดินทางก็ง่ายแสนง่าย เพียงนั่งรถเมล์มาลงที่ป้าย Shibuya City Hall เดินต่ออีกนิดก็ถึงร้านแล้ว 2….

อิเคะบุคุโระ เป็นหนึ่งในย่านฮิตที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวโตเกียว เพราะที่นี่คือแหล่งช้อปปิงสุดคึกคักที่มีครบทุกอย่างในย่านเดียว ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารแสนอร่อย คาเฟ่เก๋ ๆ สวนสาธารณะที่ร่มรื่น หรือแหล่งช้อปปิงที่ขายของสารพัดตั้งแต่สินค้าแฟชั่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสินค้าอนิเมะ นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่พลุกพล่านที่สุดของเมือง มีรถไฟสายสำคัญผ่านหลายสาย เชื่อมต่อทั้งในและนอกเมือง เช่น JR Lines, Tokyo Metro, Seibu Ikebukuro Line, Tobu Tojo Line สำหรับใครที่จะมาเที่ยวย่านนี้แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเช็กอินที่ไหนบ้างดี หรือมีกิจกรรมอะไรสนุก ๆ ให้ทำบ้าง บทความนี้มีพิกัดแลนด์มาร์กเด็ดมาฝาก เตรียมปักหมุดกันได้เลย 1. Sunshine City  Sunshine City คือหนึ่งในแลนด์มาร์กยอดนิยมของย่านอิเคะบุคุโระที่มีผู้มาเยือนกว่า 30 ล้านคนทุกปี เป็นกลุ่มอาคารคอมเพล็กซ์ที่รวมสิ่งอำนวยความสะดวกและสารพัดความบันเทิงเอาไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นสำนักงาน, โรงแรม, ศูนย์การค้าที่มีร้านค้าแบรนด์ต่าง ๆ กว่า 150 ร้าน, คาเฟ่, ร้านอาหาร, โรงละคร, พื้นที่จัดกิจกรรม, อควาเรียม, ท้องฟ้าจำลอง, สวนสนุกในร่ม, พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ…

นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาโตเกียวส่วนใหญ่จะนิยมบินมาลงที่สนามบินนาริตะ หรือสนามบินฮาเนดะ ซึ่งถึงแม้ว่าทั้งสองสนามบินจะเป็นประตูที่เปิดรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเหมือนกัน มีบริการที่ครบครันไม่แพ้กัน แต่ก็มีความแตกต่างกันในหลาย ๆ ด้านที่อาจส่งผลต่อความสะดวกและประสบการณ์ในการเดินทางของแต่ละคน บทความนี้จึงจะมาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัด ๆ ไปเลยว่าสนามบินไหนเหมาะกับใคร และมีข้อดีข้อเสียอะไรที่ควรรู้ก่อนซื้อตั๋วบ้าง สนามบินนาริตะ สนามบินนาริตะ ตั้งอยู่ในเมืองนาริตะ จังหวัดชิบะ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 1978 เป็นสนามบินที่ให้บริการเที่ยวบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ โดยมีอาคารผู้โดยสาร 3 แห่ง ส่วนใหญ่สายการบินในเครือ Star Alliance และ SkyTeam จะใช้อาคารที่ 1 ขณะที่สายการบินเครือ Oneworld รวมถึง Japan Airlines จะใช้อาคาร 2 ส่วนอาคารผู้โดยสาร 3 จะเป็นเที่ยวบินภายในประเทศ และเที่ยวบินราคาประหยัด จุดเด่นของสนามบินนาริตะ – สายการบินหลากหลาย สนามบินนาริตะมีเที่ยวบินระหว่างประเทศมากกว่า จึงมีตัวเลือกหลากหลายทั้งสายการบิน เวลาเดินทาง ราคา ไปจนถึงเส้นทาง  – ค่าตั๋วถูก สายการบินที่มาลงสนามบินนาริตะมีทั้งสายการบินแบบ Full Service และ  Low Cost…

โตเกียวเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะนอกจากจะเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางของประเทศ ที่นี่ยังมีครบทุกอย่าง ตั้งแต่ย่านช้อปปิงสุดคึกคัก แหล่งรวมร้านอาหารแสนอร่อย คาเฟ่เก๋ ๆ พิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ ไปจนถึงวัดวาอารามและย่านโบราณที่ยังคงมีบรรยากาศเหมือนในอดีต แต่หากใครคิดว่ามาโตเกียวแล้วต้องจ่ายแพงแน่ ๆ บอกเลยว่าไม่จำเป็น เพราะวันนี้เรามีพิกัดจองตั๋วสำหรับที่เที่ยวโตเกียว ได้ดีลดี ๆ ราคาสุดคุ้มมาฝาก รับรองว่าช่วยเซฟเงินไปได้เยอะ แถมไม่ต้องลดความสนุกด้วย เตรียมตัวให้พร้อม แล้วตามไปเก็บดีลกันเลย 1. Sanrio Puroland Tokyo ใครเป็นสายคิวท์ที่ใจละลายทุกครั้งเวลาเห็นคิตตี้ มายเมโลดี้ หรือชินนามอนโรล ต้องไม่พลาด Sanrio Purolan เป็นสวนสนุกในร่มที่ตั้งอยู่ในเมืองทามะ จังหวัดโตเกียว เที่ยวได้สบายไม่ว่าจะฝนตก แดดออก หรือวันที่หิมะโปรยปราย กิจกรรมภายในจัดเต็มทั้งขบวนพาเหรด การแสดงโชว์จากเหล่าคาแรกเตอร์ จุดถ่ายรูปที่มีให้โพสแบบไม่ซ้ำมุม และโซนเครื่องเล่นอีกมากมาย เช่น My Melody Drive ขึ้นรถไฟตะลุยโลก Maryland ของมายเมโลดี้และผองเพื่อน และ Cinnamoroll’s Little Adventure โรงภาพยนตร์แบบอินเตอร์แอคทีฟที่จะพาไปผจญภัยไขปริศนาสายรุ้งกับชินนามอน ส่วนใครเป็นสายช้อปก็เตรียมเงินไว้เลย เพราะที่นี่มีสินค้ามากมายที่มีจำหน่ายเฉพาะใน…

สวนฮามะริเคียว (Hama Rikyu) ตั้งอยู่ใกล้กับอ่าวโตเกียว Tokyo Bay ในใจกลางกรุงโตเกียว นับเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางตึกอาคารอันทันสมัย ที่เปรียบเสมือนปอดของคนโตเกียวเลยก็ว่าได้ ในอดีตสวนนี้เคยถูกใช้เป็นที่สำหรับล่าสัตว์ของขุนนางในสมัยเอโดะ ภายหลังการเปลี่ยนแปลจึงได้มีการปรับเปลี่ยนให้สวนแห่งนี้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจและยังเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังอิมพีเรียล หากแต่ปัจจุบันได้มีการเปิดให้เป็นสวนสาธารณะที่ไม่ว่าใครก็สามารถเข้ามาเดินเล่นหรือทำกิจกรรมได้อย่างที่เห็นๆกันนี่แหล่ะ ซึ่งนอกจากจะมีความร่มรื่นจากต้นไม้ใบหญ้าที่ตกแต่งอย่างงดงามแล้วนั้นภายในจะมีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางซึ่งน้ำในบ่อนี้จะเป็นน้ำทะเล โดยจะมีความเปลี่ยนแปลงตามระดับน้ำทะเลที่ไม่ว่าจะขึ้นจะลงสระน้ำด้านในก็จะเป็นเหมือนกันเป๊ะๆเลยล่ะ อีกทั้งยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์แบบเมืองใหญ่ของย่าน Shiodome ที่อยู่ใกล้เคียงที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้าด้วยนะ เรียกได้ว่าเป็นที่ที่สามารถพักผ่อนรับอากาศดีๆพร้อมๆกับชมวิวเมืองงามๆไปพร้อมกันดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้วค่า ▶︎ 32 ที่เที่ยวโตเกียว｜รวมสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ใหม่ล่าสุด 2025 ดอกบ๊วย: ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์หรือต้นเดือนมีนาคม ดอกบ๊วยจะเริ่มบานสวยงาม ดอกซากุระ: ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ดอกซากุระจะบานสะพรั่ง ใบไม้เปลี่ยนสี: ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม ใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีสันสดใส วันที่ 4 พฤษภาคม: เป็นวัน Greenery Day (みどりの日 Midori no Hi) ซึ่งเป็นหนึ่งในวันหยุดราชการของญี่ปุ่น เป็นวันที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ธรรมชาติและการใกล้ชิดกับสิ่งแวดล้อม วันที่ 1 ตุลาคม: เป็นวัน Tokyo Citizens’ Day (都民の日 Tomin no Hi)…