คิตะคิวชู เที่ยวง่าย เดินทางสะดวก ครบทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม

คิตะคิวชู (Kitakyushu) คือเมืองขนาดใหญ่ในจังหวัดฟุกุโอกะที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมเก่าแก่ สถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป และความทันสมัยในแบบญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว เมืองนี้เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และอาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อ นอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างโมจิโกะ เรโทร (Mojiko Retro) ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติแล้ว ยังเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญสำหรับการเดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ บนเกาะคิวชูอีกด้วย
เมืองนี้มีภูมิประเทศที่หลากหลาย ทั้งภูเขา แม่น้ำ ทะเล และท่าเรือ จึงเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสายธรรมชาติ สายประวัติศาสตร์ หรือสายชิลล์ที่ชอบเดินเล่นชมเมือง พร้อมชิมของอร่อยตามร้านท้องถิ่น บรรยากาศ ผู้คนเป็นมิตร และยังคงเสน่ห์ความดั้งเดิมของญี่ปุ่นไว้อย่างดี เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ซ้ำใคร หากกำลังมองหาเมืองที่ครบครันทั้งเรื่องกิน เที่ยว ชม และสัมผัสวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่น หนึ่งในเมืองที่น่าค้นหาของญี่ปุ่น ที่ยังคงความสงบ เรียบง่าย และเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร ถือว่าเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
แนะนำ คิตะคิวชู เกร็ดน่าสนใจ
เดิมเป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในยุคเมจิที่ญี่ปุ่นเริ่มเปิดประเทศ จึงไม่แปลกใจที่เมืองนี้จะเต็มไปด้วยอาคารและสิ่งก่อสร้างที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตก เช่น อาคารเก่าในย่านโมจิโกะ เรโทร ที่ยังคงรักษารูปลักษณ์เดิมไว้อย่างสวยงาม นอกจากความเก่าแก่ทางสถาปัตยกรรมแล้ว คิตะคิวชู ยังขึ้นชื่อเรื่องความสะอาด เป็นเมืองต้นแบบการจัดการขยะและสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่นอีกด้วย เมืองนี้ยังมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนแต่ยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีอุโมงค์ใต้ทะเลเชื่อมต่อกับเมืองชิโมะโนะเซกิบนเกาะฮอนชู ซึ่งสามารถเดินหรือขี่จักรยานผ่านอุโมงค์ได้ เป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้ในเมืองอื่น
อยู่ตรงไหนของญี่ปุ่น วิธีเดินทาง

ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะคิวชู ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่เกาะหลักของญี่ปุ่น เมืองนี้เป็นศูนย์กลางสำคัญของภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku) และคิวชู (Kyushu) โดยมีสะพานคัมมง (Kanmon Bridge) เชื่อมต่อกับเมืองชิโมะโนะเซกิ (Shimonoseki) บนเกาะฮอนชู นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาที่นี่ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะโดยรถไฟชินคันเซ็น สาย Sanyo Shinkansen ที่มีสถานีหลักคือ Kokura Station ซึ่งเชื่อมต่อโดยตรงกับเมืองใหญ่ๆ เช่น ฮากาตะ โอซาก้า หรือโตเกียว นอกจากนี้ยังมีสนามบิน คิตะคิวชู (Kitakyushu Airport) ที่ตั้งอยู่บนเกาะเทียมกลางทะเล ให้บริการทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและบางเส้นทางระหว่างประเทศ การเดินทางภายในเมืองสามารถใช้รถไฟท้องถิ่น, โมโนเรล, รถบัส หรือแม้กระทั่งจักรยานเช่าที่สามารถหาได้ทั่วไป เป็นเมืองที่เดินทางง่ายและมีโครงสร้างการคมนาคมที่ยอดเยี่ยม
สถานที่เที่ยว แหล่งชอปปิ้ง ของกิน
คิตะคิวชู มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายเหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ธรรมชาติ วัฒนธรรม หรือแหล่งชอปปิ้งที่น่าตื่นตาตื่นใจ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินเล่นท่ามกลางสถาปัตยกรรมเก่า ควรแวะไปที่ย่านโมจิโกะเรโทร ส่วนผู้ที่อยากสัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นดั้งเดิมสามารถไปเที่ยวปราสาทโคคุระ (Kokura Castle) ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สำหรับสายชอป แนะนำให้ไปที่ AMU Plaza Kokura หรือ Riverwalk Kitakyushu ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านค้าแฟชั่น ร้านอาหาร และซูเปอร์มาร์เก็ตครบครัน ด้านของกินก็ไม่แพ้เมืองไหน โดยเฉพาะราเมงจากฟุกุโอกะสไตล์ทงคตสึ และซูชิสด ๆ จากตลาดปลาคาราโตะ รวมถึงอาหารท้องถิ่นอย่าง “ยากิคาระอาเกะ” (ไก่ทอดรสจัด) และขนมพื้นเมืองชื่อดัง “บันบังแมนจู” ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด
โมจิโกะ เรโทร (Mojiko Retro)

โมจิโกะเรโทร (Mojiko Retro) เป็นย่านเมืองเก่าริมทะเลที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมแบบยุโรปเอาไว้อย่างดี ที่นี่เคยเป็นท่าเรือสำคัญในช่วงยุคเมจิถึงไทโช และในปัจจุบันได้ถูกพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของ คิตะคิวชู ภายในย่านนี้นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับอาคารประวัติศาสตร์ เช่น Mojiko Station ที่ถือเป็นหนึ่งในสถานีรถไฟเก่าที่สุดของญี่ปุ่น อาคารท่าเรือเก่า Retro Building และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่บอกเล่าเรื่องราวของเมืองในอดีต ไฮไลต์คือการเดินเล่นริมอ่าวพร้อมวิวทะเลสวย ๆ และการลิ้มลอง Banana Manju ขนมขึ้นชื่อของพื้นที่นี้ นอกจากนี้ยังมีอาหารขึ้นชื่ออย่าง “ยากิแกงกะหรี่” (Baked Curry) เมนูประจำย่านที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ย่านนี้ยังเต็มไปด้วยร้านคาเฟ่น่ารัก ๆ ร้านของที่ระลึก และงานศิลปะร่วมสมัย เหมาะกับทั้งสายถ่ายภาพและนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกลิ่นอายของเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์
จุดชมวิวภูเขาซาราคุระ (Mount Sarakura)

ภูเขาซาราคุระ (Mount Sarakura) เป็นหนึ่งในจุดชมวิวกลางคืนที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น โดยสามารถมองเห็นเมือง คิตะคิวชู ทั้งเมืองได้จากมุมสูงแบบพาโนรามา จุดชมวิวแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่า “หนึ่งในสามวิวกลางคืนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น” (Three Great Night Views of Japan) นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปยังยอดเขาได้ด้วยการนั่งรถเคเบิลคาร์และรถราง ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ที่ยอดเขามีลานชมวิวพร้อมร้านอาหารและคาเฟ่ให้บริการ การขึ้นไปชมวิวช่วงพระอาทิตย์ตกจะได้บรรยากาศที่โรแมนติกมาก โดยเฉพาะในวันที่อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าเปลี่ยนสีและแสงไฟของเมืองเริ่มเปิด ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนคิวชู และเหมาะสำหรับคู่รักหรือครอบครัวที่อยากสร้างความทรงจำพิเศษร่วมกัน
ตลาดปลาคาราโตะ (Karato Fish Market)
ตลาดปลาคาราโตะตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งเมืองชิโมะโนะเซกิ ตรงข้ามเมือง คิตะคิวชู โดยสามารถเดินทางข้ามสะพานคัมมงหรืออุโมงค์ใต้ทะเลมายังตลาดแห่งนี้ได้ง่ายดาย ตลาดปลาคาราโตะมีชื่อเสียงเรื่องความสดใหม่ของอาหารทะเล และเป็นหนึ่งในตลาดปลาที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบมากที่สุดในภูมิภาคคิวชู ไฮไลต์คือการได้เลือกซื้อซูชิสดๆ จากบูธของพ่อค้าแม่ค้าโดยตรง ซึ่งจะจัดวางเมนูไว้ให้ลูกค้าเลือกได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นปลามากุโระ ปลาฮามาจิ หอยเม่น หรือแม้แต่ปลาปักเป้าก็มีให้ลอง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารทะเลสไตล์ท้องถิ่นมากมายให้เลือกชิม รวมทั้งสามารถนั่งริมท่าเรือเพื่อสัมผัสบรรยากาศแบบชาวประมงแท้ ๆ ตลาดนี้จะคึกคักเป็นพิเศษในช่วงสุดสัปดาห์และวันหยุด ใครเป็นสายกินต้องไม่พลาด
ปราสาทโคคุระ (Kokura Castle) จุดเช็กอินแห่ง คิตะคิวชู

ปราสาทโคคุระเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมือง ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บรรยากาศโดยรอบมีสวนญี่ปุ่นและลำคลองเล็ก ๆ ให้เดินเล่นได้อย่างเพลิดเพลิน ตัวปราสาทเป็นแบบดั้งเดิมที่ได้รับการบูรณะให้สวยงาม ภายในมีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่น่าสนใจมาก เหมาะกับการเรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบลึกซึ้ง นอกจากนี้ยังมีหอชมวิวชั้นบนสุดที่มองเห็นทิวทัศน์เมืองได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะฤดูซากุระจะมีต้นซากุระรอบ ๆ ปราสาทเบ่งบานอย่างงดงาม เหมาะทั้งกับครอบครัว คู่รัก และผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์
Riverwalk Kitakyushu ห้างชอปปิ้งริมน้ำสุดทันสมัย

Riverwalk Kitakyushu เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ใกล้ปราสาทโคคุระ ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมสมัยใหม่สวยงาม ติดริมแม่น้ำ Murasaki ทำให้บรรยากาศดีมาก เหมาะสำหรับการเดินเล่น ถ่ายรูป และพักผ่อน มีร้านค้าแฟชั่นญี่ปุ่นและแบรนด์ระดับโลก ร้านอาหาร คาเฟ่ และโรงภาพยนตร์ครบครัน ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาเยือน คิตะคิวชู อีกทั้งยังมีงานอีเวนต์และนิทรรศการศิลปะหมุนเวียนตลอดปี เหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย
Tanga Market ตลาดสดท้องถิ่นเก่าแก่
ตลาดทันงะ (Tanga Market) หรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่า “ครัวของคิตะคิวชู” เป็นตลาดสดอายุกว่า 100 ปีที่รวบรวมอาหารท้องถิ่น ผักสด ผลไม้ อาหารทะเล และของกินเล่นมากมาย ไฮไลต์ของที่นี่คือร้านขายซาชิมิสดและข้าวหน้าอาหารทะเลที่เราสามารถเลือกวัตถุดิบเองได้ นักท่องเที่ยวนิยมซื้ออาหารแบบ “Kaisendon” แล้วไปนั่งทานตรงโซนนั่งด้านใน บรรยากาศเรียบง่าย เป็นกันเอง และเปิดโอกาสให้สัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นแท้ๆ
Aru Aru City แหล่งรวมวัฒนธรรมโอตาคุ
Aru Aru City คือสวรรค์ของสายอนิเมะ มังงะ และเกม ตั้งอยู่ติดสถานี JR Kokura เดินทางสะดวกมาก อาคารนี้มีหลายชั้น เต็มไปด้วยร้านการ์ตูน ฟิกเกอร์ คาเฟ่ธีมอนิเมะ และร้านเสื้อผ้าแฟชั่นสไตล์ญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีโซนงานศิลปะจากนักวาดชื่อดังและงานแฟนอาร์ตที่หมุนเวียนจัดแสดง เหมาะทั้งสำหรับแฟนคลับแอนิเมะและผู้ที่สนใจวัฒนธรรมย่อยของญี่ปุ่น เมื่อเรามาเที่ยว คิตะคิวชู แล้วอยากหาความสนุกแบบเจแปนสไตล์ ที่นี่คือจุดแวะห้ามพลาด
พิพิธภัณฑ์สิ่งแวดล้อม Kitakyushu Eco Town Center
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าด้านการรีไซเคิลและพัฒนาอย่างยั่งยืนของเมือง คิตะคิวชู ซึ่งเคยเป็นเมืองอุตสาหกรรมหนักมาก่อน จุดเด่นของที่นี่คือการจัดแสดงเทคโนโลยีรีไซเคิลล่าสุด รวมถึงมีโรงงานที่สามารถเข้าชมได้จริง นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมและบทบาทในฐานะ “เมืองสิ่งแวดล้อมต้นแบบ” ของญี่ปุ่น เหมาะทั้งสำหรับครอบครัวและผู้สนใจเรื่องรักษ์โลก
Kawachi Fujien สวนดอกวิสทีเรียสุดอลังการ

สวน Kawachi Fujien ตั้งอยู่ในย่าน Yahata ของ คิตะ คิวชู โด่งดังจากอุโมงค์ดอกฟูจิ (Wisteria) ที่เบ่งบานในฤดูใบไม้ผลิช่วงปลายเมษายนถึงต้นพฤษภาคม สีม่วงอ่อนและขาวของดอกไม้ที่ห้อยลงมาเป็นสาย สร้างทัศนียภาพโรแมนติกสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีสะพานชมวิว จุดถ่ายรูปมากมาย และสวนดอกไม้อื่น ๆ อีกหลากชนิด Kawachi Fujien ถือเป็นหนึ่งในสวนดอกไม้ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ
Kitakyushu Manga Museum พิพิธภัณฑ์มังงะเพื่อแฟนการ์ตูน
พิพิธภัณฑ์มังงะแห่ง คิตะคิวชู ตั้งอยู่ในอาคาร Aru Aru City แต่มีขนาดใหญ่และเนื้อหาครอบคลุมมาก ภายในจัดแสดงประวัติของวงการมังงะญี่ปุ่น มีมุมอ่านหนังสือการ์ตูนมากกว่า 50,000 เล่ม พร้อมเวิร์กช็อปสำหรับเด็กและผู้ที่สนใจการวาดการ์ตูน จุดเด่นอีกอย่างคือจัดแสดงผลงานของนักเขียนการ์ตูนชื่อดังที่มาจากเมืองนี้ เช่น Leiji Matsumoto เจ้าของผลงาน Galaxy Express 999 เหมาะสำหรับสายโอตาคุและผู้สนใจศิลปะญี่ปุ่นสมัยใหม่
ตลาดผลิตภัณฑ์ทะเล Kokusai Market สวรรค์ของคนรักอาหารทะเล
ตลาด Kokusai Market หรือ International Market ตั้งอยู่ใกล้กับย่าน Mojiko Retro เป็นตลาดสดที่เน้นขายอาหารทะเลสด ๆ ส่งตรงจากทะเลญี่ปุ่นฝั่ง คิตะ คิวชู ไม่ว่าจะเป็นปู ปลา หมึก หรือหอยหลากหลายชนิด นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารที่สามารถเลือกวัตถุดิบจากตลาดแล้วให้ปรุงเป็นเมนูได้ทันที เช่น ข้าวหน้าปลาดิบ หรือเทมปุระสดใหม่ เป็นประสบการณ์ที่สนุกและอร่อยในคราวเดียว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบอาหารทะเลสด ๆ ห้ามพลาด
Space World Remains & Aeon Mall Yahatahigashi
แม้ว่า Space World สวนสนุกชื่อดังจะปิดไปแล้วในปี 2018 แต่พื้นที่แห่งนี้ได้ถูกปรับปรุงใหม่ให้เป็นเขตชอปปิ้งและพักผ่อนที่เรียกว่า “Aeon Mall Yahatahigashi” ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางการชอปปิ้งแห่งใหม่ของคิวชู ตัวห้างมีขนาดใหญ่ มีร้านค้าแฟชั่น ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร และโรงภาพยนตร์ครบครัน บรรยากาศภายนอกยังคงมีบางจุดที่ระลึกถึง Space World เช่น จรวดจำลอง จึงเหมาะสำหรับครอบครัวและนักท่องเที่ยวที่มองหาทั้งแหล่งชอปปิ้งและสถานที่ผ่อนคลายในวันหยุด
การวางแผนการเดินทาง
1. เลี่ยงการเดินทางช่วงวันหยุดยาวญี่ปุ่น (Golden Week / Obon / ปีใหม่) H3
ช่วงวันหยุดยาวในญี่ปุ่นจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและต่างชาติออกเดินทางจำนวนมาก ส่งผลให้รถไฟ, โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวแน่นขนัด ราคาที่พักก็พุ่งสูงกว่าปกติอย่างมาก ถ้าหลีกเลี่ยงได้ ควรเลือกช่วงโลว์ซีซั่น เช่น ต้นพฤศจิกายน หรือต้นเดือนมีนาคม
2. อย่ามองข้ามการเช่ารถเมื่อต้องขับไปนอกตัวเมือง H3
แม้ว่า คิตะคิวชู จะมีระบบขนส่งมวลชนดีในตัวเมือง แต่สถานที่ท่องเที่ยวอย่าง Kawachi Fujien หรือ สวนธรรมชาติ บางแห่งนั้นอยู่ห่างจากสถานีรถไฟ การเช่ารถอาจทำให้สะดวกกว่า โดยเฉพาะหากเดินทางเป็นกลุ่ม แต่ควรมีใบขับขี่สากลและศึกษากฎจราจรของญี่ปุ่นล่วงหน้า
3. หลีกเลี่ยงการไม่ตรวจสอบเวลาปิดของสถานที่เที่ยว H3
สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งใน คิตะ คิวชู เช่น พิพิธภัณฑ์ หรือสวนต่าง ๆ มักจะปิดเร็ว (ประมาณ 17:00 น.) และบางแห่งอาจปิดในวันธรรมดา เช่น วันจันทร์ ควรตรวจสอบข้อมูลล่วงหน้าเพื่อไม่ให้พลาด
4. ไม่ควรพลาดการชิมของกินท้องถิ่น
หลายคนไปคิตะคิวชูแล้วมักมุ่งหน้าไปยังร้านดังระดับประเทศ แต่จริง ๆ แล้วเมืองนี้มีของกินขึ้นชื่อเฉพาะถิ่น เช่น ราเมนโทงะ, ปลาปักเป้าสด, หรือ ข้าวหน้าปลาในตลาดท้องถิ่น อย่าพลาดของอร่อยเฉพาะถิ่นที่หากินยากนอกพื้นที่
5. หลีกเลี่ยงการพักโรงแรมไกลจากสถานีใหญ่
สถานีหลักอย่าง Hakata (ฟุกุโอกะ) หรือ Kokura มีความสะดวกในการต่อรถไฟ หากเลือกที่พักห่างไกลเกินไป อาจเสียเวลาเดินทางกลับเข้าเมืองมากในแต่ละวัน ควรเลือกที่พักใกล้สถานีหรือมีรถบัสผ่าน