10 ศาลเจ้า – วัด ญี่ปุ่น ที่สายมูห้ามพลาด ขอพรความรัก การงาน การเงิน

นอกจากการเที่ยวชมธรรมชาติ เช็กอินร้านอาหารแสนอร่อย หรือแหล่งช้อปปิ้งสุดคึกคัก อีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เมื่อมาญี่ปุ่นก็คือ การไปไหว้พระขอพรที่วัดและศาลเจ้าต่างๆ ซึ่งมีอยู่แทบทุกเมือง ทุกภูมิภาค แถมแต่ละที่ยังขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ธรรมดา หลายคนไปมูมาแล้วบอกเลยว่าปังมาก ! ใครที่รู้สึกว่าช่วงนี้ดวงไม่ค่อยดี หรืออยากเสริมดวงเรื่องความรัก การงาน การเงิน โชคลาภ วันนี้เรารวบรวม 10 ศาลเจ้า – วัด ญี่ปุ่น ชื่อดังมาให้แล้ว เตรียมตัวไปขอพรกันเลย !

ศาลเจ้า วัด ญี่ปุ่น แนะนำสำหรับสายมู

วัดคิโยมิซุ (Kiyomizu-dera Temple)

วัด คิโยมิซุ ตั้งอยู่บนเขาโอโตวะ ทางตะวันออกของเมืองเกียวโต ญี่ปุ่น คนไทยนิยมเรียกว่า “วัดน้ำใส” เพราะคำว่า คิโยมิซุ หมายถึง น้ำที่บริสุทธิ์สะอาด นอกจากนี้ภายในวัดยังมี น้ำตกโอโตวะ ที่ไหลลงมาเป็น 3 สาย สายที่ 1 ให้พรเรื่องการเรียน สายที่ 2 ให้พรเรื่องความรัก ส่วนสายที่ 3 ให้พรเรื่องสุขภาพ ใครอยากเสริมดวงด้านไหนก็เลือกดื่มได้เลย อีกหนึ่งไฮไลต์คืออาคารไม้ที่มีระเบียงยื่นออกมาจากภูเขา เป็นจุดชมวิวซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามมาก ภายในประดิษฐาน เจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ 1,000 กร และ เทพเอบิสึ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ที่คนนิยมมาขอพรเรื่องการงานให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง ค้าขายร่ำรวย

วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple)

วัดเซนโซจิ เป็น วัด ญี่ปุ่น ที่ตั้งอยู่ในอาซากุสะ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 645 ถือเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว โดดเด่นด้วยโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่หนักกว่า 700 กิโลกรัม ที่ติดอยู่หน้าประตูวัด เมื่อเดินผ่านเข้ามาจะเจอ ถนนนาคามิเสะ ซึ่งเป็นถนนช้อปปิ้งที่มีร้านขายของและขนมมากมาย เคล็ดลับในการขอพรคือ ก่อนเข้าไปสักการะในอาคาร ให้เอามือกวักธูปที่กระถางใหญ่เข้าตัว เชื่อกันว่าจะช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดี ส่วนใครชอบเสี่ยงเซียมซีก็มาลองกันได้ หลายคนคอนเฟิร์มว่าแม่นมาก ! หรือจะซื้อเครื่องรางเสริมดวง ก็มีให้เลือกหลายด้าน ทั้งการเงิน การงาน การเรียน ความรัก สุขภาพ ฯลฯ

ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)

ศาลเจ้าเมจิ เป็นศาลเจ้าญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1920 เพื่ออุทิศให้จักรพรรดิเมจิ มีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 710,000 ตารางเมตร แม้จะตั้งอยู่ใจกลางโตเกียว แต่พอก้าวผ่านประตูโทริอิเข้ามา ความวุ่นวายทั้งหมดก็ถูกแทนที่ด้วยความเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ที่เรียงรายนับแสนต้น ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของญี่ปุ่น ในช่วงปีใหม่จึงมีผู้คนหลั่งไหลมากกว่า 3 ล้านคนเพื่อฮัตสึโมเดะ หรือสวดมนต์ครั้งแรกของปี สามารถขอพรได้ทุกเรื่อง ด้านนอกอาคารจะมีซุ้มสำหรับเขียนคำอธิษฐานด้วย 

วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple)

อีกหนึ่ง วัด ญี่ปุ่น ที่คนไทยนิยมไปขอพรกันก็คือ วัดนันโซอิน ในจังหวัดฟุกุโอกะ เป็นวัดนิกายชินงอนซึ่งมีไฮไลต์คือ พระนอน หรือพระพุทธรูปปางไสยาสน์ทองสัมฤทธิ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1995 เพื่อบรรจุอัฐิของพระพุทธเจ้า โดยมีความสูงถึง 11 เมตร ยาว 41 เมตร น้ำหนักรวมกว่า 300 ตัน ขึ้นชื่อในการขอพรเรื่องโชคลาภ ความมั่งคั่งร่ำรวย ใครอยากถูกหวยต้องลอง ! นอกจากนี้ในอาคารหลักและบริเวณรอบๆ ยังมีพระพุทธรูปอีกมากมายให้สักการะเสริมความเป็นสิริมงคลกันด้วย

วัดฮาเซเดระ (Hasedera) 

วัดฮาเซเดระ เป็นวัดญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่บนเนินเขาท่ามกลางป่าเขียวขจี ในเมืองคามาคุระ จังหวัดคานากาว่า จึงสามารถมองเห็นวิวเมืองและชายฝั่งทะเลได้แบบเต็มตา ภายในประดิษฐานพระโพธิสัตว์คันนง หรือเจ้าแม่กวนอิม สูง 9.18 เมตร ซึ่งถือเป็นรูปแกะสลักไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตามตำนานเล่าว่า เมื่อปี ค.ศ. 721 มีการสร้างเจ้าแม่กวนอิมขึ้นมา 2 องค์ โดยองค์หนึ่งนำไปประดิษฐานในเมืองนารา อีกองค์ถูกนำไปลอยน้ำเป็นเครื่องบูชา ก่อนจะพบมาเกยฝั่งที่คามาคุระในปี ค.ศ. 736 จึงอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ นอกจากนี้ยังมีถ้ำเบ็นเท็นคุตสึ ที่ประดิษฐานเทพเบ็นไซเท็น เทพีแห่งความงามและโชคลาภ พร้อมบริวารทั้ง 16 ด้วย

ศาลเจ้าอิคุตะ (Ikuta Shrine)

ส่วนใครที่อยากขอพรเรื่องความรัก ต้องมาที่ ศาลเจ้าอิคุตะ ในเมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโงะ หนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น มีอายุมากกว่า 1,800 ปี เป็นที่ประดิษฐานของ เทพีวากาฮิรุเมะ หรือเทพีแห่งการทอผ้า ซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยเชื่อมโยงหัวใจของผู้คนให้รักใคร่เป็นหนึ่งเดียวกัน เสมือนเส้นด้ายที่ถูกถักทออย่างเหนียวแน่น มาแล้วแนะนำให้ลองเสี่ยงเซียมซีด้วย เพราะเซียมซีของที่นี่มีความพิเศษตรงที่ไม่ต้องเขย่า เพียงแค่นำไปจุ่มน้ำ คำทำนายก็จะค่อยๆ ปรากฏขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีแผ่นไม้รูปหัวใจให้เขียนคำอธิษฐาน และเครื่องรางรูปหัวใจสุดน่ารัก เหมาะสำหรับคนที่อยากเสริมดวงชะตาด้านความรัก

ศาลเจ้าอิซุโมะ (Izumo Taisha) 

อีกหนึ่งศาลเจ้าญี่ปุ่นที่แนะนำสำหรับคนโสดคือ ศาลเจ้าอิซุโมะ ในเมืองอิซุโมะ จังหวัดชิมาเนะ มาถึงแล้วจะต้องสะดุดตากับ ชิเมะนะวะ หรือเชือกฟางศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของลัทธิชินโต ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีความยาวถึง 13.6 เมตร และหนัก 5.2 ตัน ด้านในเป็นที่ประดิษฐาน เทพโอคุนินุชิ หรือเทพผู้สร้างความผูกพันระหว่างมนุษย์ จึงไม่เพียงแต่จะมีคนมาขอพรเรื่องความรักเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน เพื่อนร่วมงาน และยังมีคู่รักหลายคู่มาจัดงานแต่งงานที่นี่ด้วย  

ศาลเจ้าคาเนะเฮะบิ ซุย (Kanahebi sui Shrine)

ศาลเจ้าคาเนะเฮะบิ ซุย เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ ตั้งอยู่ในเมืองอิวานูมะ จังหวัดมิยางิ ขึ้นชื่อในการขอพรเรื่องโชคลาภ ความรุ่งเรือง เสริมดวงการงาน สะเดาะเคราะห์ ภายในนอกจากจะเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าแห่งโชคลาภ เบ็นไซเท็น ยังมี หินจามนเซกิ ที่เป็นลายงู เชื่อกันว่าถ้าเอากระเป๋าสตางค์ไปลูบจะทำให้เงินทองไหลมาเทมา หากใครมาช่วงเดือนพฤษภาคม ทางศาลเจ้าจะมีการจัดเทศกาลดอกไม้ ซึ่งมีทั้งอุโมงค์ดอกวิสทีเรียที่ห้อยระย้าลงมาเหมือนเหมือนม่าน และดอกโบตั๋นอีกกว่า 1,000 ต้น ที่บานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว

วัดชิเทนโนจิ (Shitennoji Temple)

ตามมามูกันต่อเลยที่ วัดชิเทนโนจิ ในย่านเทนโนจิ ของโอซาก้า เป็นวัดพุทธแห่งแรกของญี่ปุ่นถูกสร้างขึ้นโดยเจ้าชายโชโตคุ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,400 ปี แม้ในอดีตจะได้รับความเสียหายทั้งจากพายุ ไฟไหม้ และการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ก็ได้รับการบูรณะอย่างดีจนมีสภาพสวยงามอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ภายในประกอบไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมมากมาย เช่น เจดีย์ห้าชั้น, หอสมบัติ, ศาลเจ้า และวิหารหลักที่คนนิยมมาขอพรเจ้าแม่กวนอิมให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองประสบความสำเร็จ

ศาลเจ้าซาคัตสึระ อิโซซากิ (Sakatsura Isosaki Shrine)

ปิดท้ายกันที่ศาลเจ้าซาคัตสึระ อิโซซากิ ในเมืองฮิตาชินากะ จังหวัดอิบารากิ ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 856 ความพิเศษเริ่มตั้งแต่ทางเดินเข้าสู่ศาลเจ้า ซึ่งเป็นอุโมงค์ต้นไม้ที่มีอายุมากกว่า 500 ปี ให้บรรยากาศเงียบสงบและศักดิ์สิทธิ์ราวกับเดินอยู่ในแดนสวรรค์ ภายในประดิษฐาน เทพเจ้าสุคุนะบิโคนะ ซึ่งเป็นเทพแห่งการแพทย์และยารักษาโรค ที่ผู้คนมักมาขอพรเพื่อสุขภาพและอายุยืน แต่ที่นี่ก็ขึ้นชื่อเรื่องโชคลาภไม่แพ้กัน เพราะเคยมีผู้มาขอพรแล้วถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ถึง 100 ล้านเยนมาแล้ว 15 คน ใครชอบเสี่ยงดวงลองมาขอพรที่นี่กันได้เลย

ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นก็แวะไปไหว้พระที่วัดและศาลเจ้าเหล่านี้กันได้ นอกจากจะได้ขอพรในเรื่องต่างๆ แล้วยังจะได้สัมผัสกับความงดงามของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ รวมถึงบรรยากาศอันแสนสงบที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติสวยๆ ที่จะทำให้การเดินทางครั้งนี้พิเศษและน่าจดจำยิ่งขึ้นไปอีก