อาโอโมริ

เปิดแผนเที่ยว 5 วัน 4 คืน “โทโฮคุ” ไหว้พระขอพร สูดอากาศบริสุทธิ์ อิ่มกันแบบสุด ๆ ด้วยอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อ ไม่พลาดแลนด์มาร์กที่เลื่องลือจนขึ้นทะเบียนมรดกโลก ชมวิวมุมสูงแบบพาโนรามา เดินทางสัมผัสความงามของน่านน้ำกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ชิมอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อร้านดังแบบเต็มอิ่ม พักโรงแรมแช่ออนเซ็นผ่อนคลายกันได้อย่างเต็มที่  ปิดทริปด้วยการย้อนวันวานเดินทางข้ามเวลาไปยังหมู่บ้านซามูไร เที่ยวชมบ้านตระกูลอันยิ่งใหญ่แบบครบทุกบ้าน จะน่าสนใจแค่ไหนไปชมกันเลย แพลนเที่ยวโทโฮคุ 5 วัน 4 คืน วันที่ 1 : เริ่มต้นการเดินทางด้วยการชมวัด สักการะขอพร 08:18 – 10:28 เดินทางไปสถานีโมริโอกะ (Morioka) 10:40 – 10:50 ฝากสัมภาระที่โรงแรม Hotel Metropolitan Morioka 12:20 – 13:20 รับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน Ekimae Bashokan 13:30 – 14:15 เที่ยวชมวัดโมสึจิ (Motsuji Temple) 14:30 – 16:30…

ปราสาท ญี่ปุ่น เป็นสัญลักษณ์สำคัญที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศนี้ โดยเฉพาะปราสาทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติ ซึ่งนอกจากจะมีความงดงามแล้ว ยังมีความสำคัญในด้านประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่ไม่ควรพลาดชมหากคุณมาเยือนญี่ปุ่น บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 5 ปราสาท ญี่ปุ่น ที่ถือเป็นสมบัติชาติ พร้อมทั้งคุณสมบัติที่ทำให้ปราสาทเหล่านี้โดดเด่นและได้รับการยอมรับในระดับชาติ ก่อนจะไปชมเรามาทำความรุ้จักกับปราสาทที่ได้เป็นสมบัติแห่งชาติมีลักษณะแบบไหน เพื่อเพิ่มอถรรสในการเดินชม  ปราสาท ญี่ปุ่น ที่ได้เป็นสมบัติชาติมีลักษณะยังไง? คุณสมบัติ ปราสาท ญี่ปุ่น ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น “สมบัติชาติ” ของญี่ปุ่นไม่ใช่แค่ความงดงามภายนอกเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ไม่สามารถมองข้ามได้ ปราสาทเหล่านี้มักจะถูกสร้างขึ้นในสมัยโบราณ โดยมักมีคุณสมบัติที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ดังนี้ แนะนำ ปราสาท ญี่ปุ่น ทั้ง 5 ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติ แนะนำ 5 ปราสาท ญี่ปุ่น ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติของญี่ปุ่น ซึ่งแต่ละแห่งก็มีความโดดเด่นและมีประวัติที่น่าสนใจ หากใครชื่นชอบประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม อยากแนะนำให้ลองไปดุซักครั้งประทับใจอย่างแน่นอน 1. ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) – จังหวัดอาโอโมริ จุดเด่น ปราสาทฮิโรซากิ: จุดเด่นของปราสาทฮิโรซากิ ยังมีการจัดแสดงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ในหอคอยหลัก (Tenshukaku) ซึ่งทำให้ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสถึงความรุ่งเรืองในยุคสมัยของซามูไร และความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองฮิโรซากิ…

ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ที่ปัจจุบันเชื่อมต่อกับฮอกไกโดด้วยชินคันเซนสายใหม่ มีทัศนียภาพและภูมิประเทศที่สวยงามชวนหลงไหล สภาพภูมิประเทศที่ไม่เหมือนใครของเขตโทโฮะคุเกิดจากภูมิประเทศที่ซับซ้อนของพื้นที่ การรักท้องถิ่นของคนในท้องที่สามารถเห็นได้จากบรรยากาศอันอบอุ่นและความนิยมใน “เทศกาล”ต่างๆ โทโฮคุยังเป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญแห่งหนึ่ง ในช่วงฤดูร้อนทุ่งนาที่เรียงกันสวยงามก่อให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามอย่างยิ่ง ประกอบไปด้วย 6 จังหวัดโดยมี เซนได(Sendai)เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของภูมิภาค โทโฮคุนั้นมีที่เที่ยวสวยๆ และน่าสนใจหลากหลายที่ แต่ที่เด็ดๆนั้นได้คัดมาให้แล้วกับ 15 ที่เที่ยวเด็ดต้องไป ใน โทโฮคุ 2023       หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกซาโอะ(Zao Fox Village) ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองชิโรอิชิในภูเขาของจังหวัดมิยากิ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 1990 ภายในหมู่บ้านมีสัตว์นานาชนิดกว่า 100 ตัว รวมถึงสุนัขจิ้งจอก 6 สายพันธุ์ที่วิ่งไปมาได้อย่างอิสระในพื้นที่กว้าง ในหมู่บ้านจะมีอยู่ 2 โซนด้วยกัน คือโซนที่สัตว์อยู่ในกรงและอีกโซนคือเป็นพื้นที่โล่งแบบเปิด ผู้เข้าชมสามารถเข้าถึงตัวสัตว์ต่างๆได้อย่างใกล้ชิด และสามารถป้อนอาหารได้อีกด้วย แต่ก็ควรระมัดระวังในการให้อาหารด้วยเช่นกัน       ปราสาทฮิโรซากิ(Hirosaki Castle) ถูกสร้างขึ้นในปี 1611 โดยตระกูลซูการุ โครงสร้างปราสาทมีทั้งหมด 3 ชั้น…

เมืองอาโอโมริ(Aomori City) ตั้งอยู่ทางทิศเหนือสุดของเกาะฮอนชู เป็นที่รู้จักจากทัศนียภาพอันงดงาม รวมถึงเทือกเขาชิราคามิ-ซันจิ ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก จังหวัดนี้ยังเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำพุร้อนหลายแห่ง และภูเขาฮักโกดะซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการเล่นสกีและสโนว์บอร์ดในฤดูหนาว นอกจากนี้ อาโอโมริยังมีชื่อเสียงในด้านการผลิตแอปเปิ้ล เราสามารถชิมและซื้อแอปเปิ้ลที่ปลูกในท้องถิ่นได้ที่สวนผลไม้และตลาดต่างๆ รสชาติหวานอร่อย ใครไปอาโอโมริต้องไม่พลายเที่ยวสวยแอปเปิ้ลเลย ลองตามไปดูที่เที่ยวน่าไปของจังหวัดอาโอโมริกันได้ ตามข้อมูลด้านล่างนี้เลยครับ กับ 13 ที่เที่ยวน่าไป ใน อาโอโมริ อัพเดท 2023     ปราสาทฮิโรซากิ(Hirosaki Castle) ถูกสร้างขึ้นในปี 1611 โดยตระกูลซูการุ โครงสร้างปราสาทมีทั้งหมด 3 ชั้น ประกอบด้วย คูปราสาท ป้อม ประตูปราสาท และป้อมตามมุมปราสาท ตั้งอยู่ในบริเวณสวนสาธารณะฮิโรซากิที่มีพื้นที่ประมาณ 0.6 ตารางกิโลเมตร สวนสาธารณะฮิโรซากิเป็นหนึ่งในจุดชมดอกซากุระที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น รอบๆบริเวณปราสาทเต็มไปด้วยต้นซากุระที่มีมากกว่า 2,500 ต้นหลากหลายสายพันธุ์ เสมือนอุโมงค์ดอกซากุระ พร้อมพื้นที่สำหรับนั่งปิกนิก         หุบเขาสัตว์ประหลาดหิมะ (The Frost-Covered Trees of…

หุบเขาสัตว์ประหลาดหิมะ (The Frost-Covered Trees of Hakkoda Mountains) อยู่ที่ภูเขาฮักโกดะในอาโอโมริ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องหิมะตกหนักในช่วงฤดูหนาว ทำให้ต้นไม้ปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็งหนาเป็นชั้นๆ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตินี้สร้างภูมิทัศน์อันน่าทึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก มองไกลๆก็จะดูคล้ายกับสัตว์ประหลาดหิมะนั่นเอง  ต้นไม้ที่ถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็งสีขาวหนาทึบ จะส่องแสงระยิบระยับเมื่อโดดแสงแดด ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมเพราะในแต่ละปีจะมีเพียงแค่ช่วงหน้าหนาวเท่านั้นที่จะเห็นวิวแบบนี้ได้ ภูเขาฮักโกดะยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด รวมทั้งลิงแสมญี่ปุ่นหรือที่รู้จักกันในชื่อลิงหิมะ ลิงเหล่านี้ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการอยู่รอดในฤดูหนาวอันโหดร้ายบนภูเขา ถ้าโชคดีเราอาจจะได้เห็นพวกมันเล่นกันกลางหิมะก็ได้    

พิพิธภัณฑ์โคมไฟ ทาชิเนะพุตะ หรือชื่อในภาษาญี่ปุ่นคือ ทาชิเนะพุตะ โนะ ยากาตะ (立佞武多の館 ,Tachineputa no Yakata) ตั้งอยู่ในเมืองโกโชะงาวาระของจังหวัดอาโอโมริ(Aomori) มีการออกแบบตัวอาหารที่ ทันสมัยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภายในนั้นทางพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมของอาโอโมริ อย่างเทศกาลโกะโชะงาวาระ ทาชิเนะพุตะ (Goshogawara’s Tachineputa Festival) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสี่เทศกาลฤดูร้อนที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 และ 8 สิงหาคมของทุกๆปี โดยมีการจัดแสดงหุ่นโคมไฟขนาดใหญ่สูง 22 เมตรและน้ำหนัก 19 ตัน เรียกว่า “เนบุตะ (Nebuta)”เป็นตุ๊กตาขนาดยักษ์ที่มีลวดลายเป็นรูปตำนานของญี่ปุ่นและมีสีสันสดใส ในช่วงเทศกาลตุ๊กตาจะใช้เป็นโคมไฟที่ใช้ในการแห่ขบวนของเทศกาล อีกทั้งยังมีส่วนของสตูดิโอที่ผู้เข้าชมสามารถมองเห็นการทำงานในแต่ละขั้นตอนของการสร้างหุ่นโคมไฟแบบลอยที่สร้างสรรค์เป็นรูปทรงต่างๆได้อย่างใกล้ชิด ทั้งยังมีมีหน้าจอที่สามารถชมวิดีโอ 8 นาทีของเทศกาล ซึ่งในบางช่วงจะมีการเปิดให้ผู้เข้าชมได้มีส่วนร่วมในการทำกระดาษหรือวาดภาพของโคมไฟตุ๊กตานี้อีกด้วย   ภายในมีห้องโถงนิทรรศการที่มีการออกแบบให้มีความลาดชันของพื้น เพื่อที่ผู้ชมจะสามารถมองเห็นส่วนต่างๆได้ตั้งแต่ด้านบนไปจนถึงด้านล่าง รวมทั้งยังมีแกลเลอรี่ที่รวบรวมเอาผลงานต่างๆของศิลปินที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอาโอโมริมาจัดแสดงไว้ยังที่นี่อีกด้วย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังแบ่งออกเป็นอีกหลายส่วนด้วยกันไม่ว่าจะเป็น ห้องอาหาร Harunire ที่ตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่ลงตัว เพลิดเพลินไปกับอาหารรสชาติเยี่ยมพร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามของที่ราบสูงสึงะรุ (Tsugaru Plateau)  บริเวณสำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ  นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึกและของฝากที่มีทั้งให้เลือกทั้งภาพวาด เสื้อยืด ดีวีดี ที่มาร์กหน้าเนบุตะ…

จังหวัดอาโอโมริอาจจะฟังไม่คุ้นหูชาวไทยเท่าใดนัก เมื่อเทียบกับเมืองใหญ่อย่างโตเกียวหรือโอซาก้า แต่จังหวัดอาโอโมรินี้ก็มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจ และที่สำคัญยังมีความสมบูรณ์ด้านการเกษตร จนเรียกได้ว่าเป็นอีกจังหวัดที่มีของอร่อยหลากหลายเป็นลำดับต้นๆของประเทศ เรียกว่าแต่ละเมืองล้วนมีอาหารอร่อยประจำเมืองเลยทีเดียว และของดีหนึ่งในนั้นก็คือ เซมเบ้จิรุ (Senba-jiru) จากเมืองฮะจิโนเฮะ อาโอโมริ ที่ติดอันดับ 1 ใน 3 อาหารท้องถิ่นยอดเยี่ยมจากงานประกวดอาหารท้องถิ่น (บีคิวกูรูเม่) มายาวนานถึง 5 ปีซ้อน เมืองฮะจิโนะเฮะ เป็นเมืองท่าสำหรับการค้าปลาที่สำคัญมากแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดอาโอโมริ อาหารขึ้นชื่อของเมืองฮาจิโนะเฮะคือเซมเบ้จิรุ หรือซุปใส่ข้าวตังที่เรียกว่านันบุ เซมเบ้ ความอร่อยของเซมเบ้จิรุอยู่ที่การได้ซดน้ำซุปหอมหวานจากผักหลายชนิดพร้อมกับได้เคี้ยวข้าวตังพองนุ่มที่มีรสสัมผัสหนุบหนับจากการดูดซับน้ำซุปไว้เต็มเปี่ยมนี่แหละ ยิ่งถ้าได้รับประทานช่วงฤดูหนาวก็จะยิ่งอร่อยมากเป็นพิเศษ เซมเบ้จิรุนี้เป็นอาหารที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยเอโดะ หรือเมื่อกว่าสองร้อยปีก่อน  และในปัจจุบันร้านอาหารแทบทุกร้านในเมืองก็ต่างมีเมนูนี้ขายทั้งสิ้น นี่ถ้าไม่อร่อยจริงคงไม่อยู่ยืนยงมาได้ขนาดนี้แน่นอน  

JR EAST PASS (Tohoku area)  – บัตรเจอาร์อีสพาส โทโฮคุ ใช้สำหรับเดินทางภายในภูมิภาค Tohoku หรือพื้นที่บริเวณขวาบนของโตเกียว เช่น เมือง Aomori, Sendai, Aizu และ Nikko ส่วนอีกโซนจะเป็น JR EAST PASS(Nagano, Niigata area) สำหรับบริเวณรอบๆเมืองโตเกียวที่แคบกว่าจึงมีราคาถูกกว่าเล็กน้อย หรือถ้าใครมองหาพื้นที่แคบกว่านี้อีก ก็มี JR TOKYO WIDE PASS ให้เลือกอีกใบซึ่งราคาก็ถูกลงไปอีก สำหรับบัตร JR EAST PASS (Tohoku area) เป็นบัตรส่วนลดสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางในญี่ปุ่นในแถบโทโฮคุ ซึ่งสามารถนั่งรถไฟสาย JR East train ได้ทั้งหมดแบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยว โดยเริ่มนั่งได้ตั้งแต่สนามบินนาริตะและฮาเนดะ และนอกจากนี้ยังสามารถนั่งรถไฟสายท้องถิ่นบางขบวนที่ไม่ใช่รถไฟ JR ได้อีกด้วย เช่น บริเวณ Izu และ Nikko   * JR Pass…