แพลนเที่ยว ฮอกไกโด 5 วัน 4 คืน ไม่ต้องขับรถ ใช้รถสาธารณะก็เก็บที่เที่ยวหลักเมืองซัปโปโร โอตารุ และโจซังเค ได้ครบ สัมผัสความงดงามของช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เพราะฮอกไกโดแห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่ตอนหน้าหนาว ปักหมุดที่เที่ยวดังย่านใจกลางเมือง เข้าชมพิพิธภัณฑ์ชื่อดัง เก็บให้ครบกับสวนสาธารณะชั้นนำที่คนนิยมไปชมใบไม้เปลี่ยนสี เที่ยวหมู่บ้านน้ำพุร้อน สัมผัสกับคลองโอตารุ และยังได้ชมวิวมุมสูงสุดน่าประทับใจอีกด้วย รับรองว่าจะประทับใจกับทริปนี้แน่นอน ไปดูแพลนนี้กันเลย ตารางแพลนเที่ยวฮอกไกโด 5 วัน 4 คืน ซัปโปโร – โอตารุ – โจซังเค วันที่ 1 : ถ่ายรูปสวย ๆ ในเมืองซัปโปโร 8:00 – 8.45 กินมื้อเช้าที่โรงแรม JR-East Hotel Mets Premier Sapporo 9:15 – 10:15 ชมวิวต้นแปะก๊วยที่ Hokkaido University Gingko Avenue  10:45…

หากพูดถึงเส้นทางสำหรับปั่นจักรยานที่ดีที่สุดของโลก เชื่อว่าประเทศญี่ปุ่นต้องติดอยู่ในอันดับต้นๆอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นภายในตัวเมืองที่คับคั่ง หรือเขตชนบทห่างไกล เพราะมีการพัฒนาเส้นทางของแต่ละแห่งให้มีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล โดยเฉพาะเส้นทางจักรยานท่องเที่ยวพิเศษตามพื้นที่สวยงามต่างๆทั่วประเทศญี่ปุ่น ทำให้นักท่องเที่ยวได้เต็มอิ่มกับความงามทั้งทางธรรมชาติและสถาปัตยกรรมอันมีเอกลักษณ์ ก็นับเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ญี่ปุ่นถือเป็นจุดหมายปลายทางของนักปั่นทั่วโลกเลยทีเดียว ในบทความนี้เราจะมาแนะนำ 8 เส้นทางปั่นจักรยานสุดพิเศษของประเทศญี่ปุ่นกัน 50 สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง【อัปเดตล่าสุด】 8 เส้นทางปั่นจักรยานสุดชิว 1. เส้นทางปั่นจักรยานไอมะบาริปละชิมานิ ไคโด Imabari and the Shimanami Kaido Cycling Road เส้นปั่นจักรยานแห่งแรกของญี่ปุ่นและมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “สวรรค์ของนักปั่นจักรยาน” ซึ่งเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น มีระยะทาง 70 กิโลเมตร มีสะพานเชื่อมต่อเกาะหลักของเกาะฮอนชูไปยังเกาะชิโกะกุผ่านเกาะขนาดเล็กอีก 6 แห่งประกอบด้วยเกาะมุไกชิมะ, อินโนะชิมะ,ไอคุชิจิมะ, โอมิชิมะ,ฮากะตะจิมะ และโอชิมะ เส้นทางเริ่มต้นที่ฮอนชูในเมืองโอโนมิชิและสิ้นสุดที่ชิโกะกุที่เมืองไอมะบาริ โดยสามารถเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลเซะโตะและหมู่เกาะขนาดเล็กต่างๆได้ตลอดทาง 2. เกาะอะวะจิ Awaji Island เกาะอะวะจิตั้งอยู่ในจังหวัดเฮียวโงะ นับเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของทะเลเซะโตะมีระยะทางประมาณ ประมาณ 150 กิโลเมตร เกาะแห่งนี้ล้อมรอบด้วยช่องแคบอะคาชิและช่องแคบนารุโตะ เชื่อมต่อกับเกาะฮอนชู โดยสะพานอะคาชิ ที่ยาวที่สุดในโลก ซึ่งตอนกลางคืนสะพานจะมีการส่องไฟประดับเจ็ดสี โดยนักปั่นจักรยานสามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ทะเล ชายหาดและธรรมชาติ…

คงไม่ต้องบอกก็เป็นที่ทราบกันดีว่า ญี่ปุ่นมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ทั้งในด้านธรรมชาติ วัฒนธรรม และความหลากหลายของธรรมชาติ การขับรถเที่ยวเป็นวิธีการเดินทางที่มีอิสระและยืดหยุ่น ช่วยให้แวะชมสถานที่สวยงามได้อย่างเต็มที่ ตามเวลาของเราเอง อีกทั้งในประเทศญี่ปุ่นเองก็มีเส้นทางชมวิวสองข้างที่สวยงามอยู่มากมาย และยังปลอดภัยมากๆด้วย ในบทความนี้เราจะมายกตัวอย่าง เส้นทางขับรถในญี่ปุ่นที่สวยงาม 10 เส้นทางทั่วประเทศ มาให้ได้ลองออกสำรวจไปด้วยกัน มาดูกันว่ามีจุดไหนที่น่าสนใจบ้าง 50 สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง【อัปเดตล่าสุด】 ห้ามพลาดกับ คูปองส่วนลดพิเศษ 1,000 เยน ตอนท้ายของบทความ การขับรถท่องเที่ยวในญี่ปุ่นเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและธรรมชาติที่หลากหลายอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าเราจะไปเที่ยวฮอกไกโดที่หนาวเย็น ศิลปะวัฒนธรรมเก่าแก่ของเกาะฮอนชู จนถึงบรรยากาศสุดชิลที่เกาะโอกินาว่า เราจะได้พบกับสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์, เทศกาลท้องถิ่น และประเพณีที่มีลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละภูมิภาค ตั้งแต่เทศกาลหิมะของซัปโปโรไปจนถึงวัดโบราณของเกียวโตและปราสาทที่พังทลายของโอกินาวา การขับรถเที่ยวจะช่วยให้เราไปเที่ยวศาลเจ้าที่ไม่ค่อยมีผู้คนรู้จัก และตลาดท้องถิ่นได้มากขึ้น นอกจากนี้ การขับรถผ่านญี่ปุ่นยังช่วยให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลอย่างใกล้ชิด การใช้รถยนต์ช่วยให้ผู้เดินทางสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของดอกซากุระที่เดินทางไปทางเหนือในฤดูใบไม้ผลิหรือไล่ตามสีสันที่สดใสของใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วงจากภูเขาไปยังที่ราบ แต่ละฤดูกาลนำสีสันที่แตกต่างกันมาสู่สถานที่เดียวกัน ซึ่งทำให้การขับรถเต็มไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงามและช่วยเพิ่มประสบการณ์การเดินทาง รวมทั้งความปลอดภัยและโครงสร้างพื้นฐานที่ดีมากของถนนในญี่ปุ่นทำให้การขับรถเที่ยวนั้นสะดวกสบายมากด้วย แต่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด คือ ประเทศญี่ปุ่นมีเส้นทางขับรถชมวิว ลัดเลาะไปตามหุบเขาและชายฝั่งท้องทะเลมากมาย จนเป็นที่มาของบทความนี้นั้นเอง ฤดูร้อนในฮอกไกโดคือช่วงเวลาที่ดอกไม้ต่างๆ บานสะพรั่ง โดยเส้นทางนี้เรียกว่า “Hanabito Kaido” หรือ “Flower Road” (Route 237) ที่เชื่อมระหว่างเมือง…

ทริปเที่ยวเกาะคิวชู ชมใบไม้เปลี่ยนสี จัดเต็ม 5 วัน 4 คืน เที่ยวครบทุกเมืองหลักไม่ว่าจะเป็นฟุกุโอกะ (Fukuoka) ยูฟุอิน (Yufuin) เบปปุ (Beppu) และ คุมาโมโตะ (Kumamoto)  เก็บครบจุดเที่ยวยอดฮิต ขึ้นกระเช้าชมวิว แช่ออนเซ็น ทานอาหารแบบไคเซกิ แวะเยี่ยมหมีคุมะมงสุดน่ารัก ชมปราสาทชื่อดัง ไปจนถึงแวะช็อปปิงก่อนกลับกันแบบจัดเต็ม เปิดประสบการณ์ขับรถเที่ยวบนเกาะคิวชูที่จะต้องหลงรัก ไม่ว่าจะไปกับคู่รัก กลุ่มเพื่อน หรือไปแบบครอบครัว มั่นใจเลยว่าทริปนี้ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน ตารางแพลนเที่ยว 5 วัน 4 คืน ฟุกุโอกะ – ยูฟุอิน – เบปปุ – คุมาโมโตะ วันที่ 1 : เที่ยวแลนด์มาร์กดังในเมืองฟุกุโอกะ 8:00 – 8:45 กินมื้อเช้าที่โรงแรม Nishitetsu Hotel Croom Hakata 9:15 – 10:30…

หากพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นของญี่ปุ่นเชื่อเลยค่ะว่าหลายๆคนต้องนึกถึงการแช่ออนเซ็น onsen เป็นอันดับต้นๆแน่ๆ นั่นก็เพราะญี่ปุ่นเรียกได้ว่ามีแหล่งออนเซ็นกระจายอยู่มากมายทั่วประเทศ และไม่ใช่แค่มีเยอะนะคะแต่ยังคุณภาพคับแก้วอีกต่างหาก ซึ่งแต่ละแห่งก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป ยิ่งคุณสาวๆนี่ต้องมาลองเลยเพราะการแช่ออนเซ็นนอกจากจะเป็นการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจแล้ว ยังดีต่อผิวพรรณมากมายด้วย ตามเรามาดูกันค่ะว่าแหล่งออนเซ็นญี่ปุ่นที่ไหนว่าดีที่ไหนว่าเด็ดพลาดไม่ได้แบบเห็นแล้วร้องกรี๊ดว่าจะไปให้ได้!!! 50 สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง【อัปเดตล่าสุด】 เมืองออนเซ็นคุโรคาวะ (Kurokawa Onsen) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของภูเขาเอโซะ(Aso Mount)ในจังหวัดคุมาโมโต้ ทางตอนกลางของเกาะคิวชู(Kyushu) ที่บอกได้เลยว่าเป็นเมืองออนเซนที่ฮอตอิตตลอดกาลของญี่ปุ่นเลยทีเดียวค่ะ เรียกได้ว่าถ้าพูดถึงเมืองออนเซนจะต้องมีชื่อเมืองคุโรคาวะ(Kurokawa)ติดอันดับต้นๆอยู่ตลอดๆ ด้วยความมีเสน่ห์จากบรรยากาศที่ยังคงรักษาความเก่าแก่ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม เข้ามาปุ๊บจะเห็นเลยว่าจะไม่มีอาคารแนวทันสมัยหรือป้ายไฟอะไรๆแบบที่เห็นตามเมืองใหญ่ๆเลยนะคะ ด้วยความที่ชาวเมืองรวมตัวกันรักษาสภาพความเป็นเมืองเก่าเอาไว้ได้ ตึกอาคารบ้านเรือนเน้นสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเป็นหลัก ทำให้คุโรคาวะเป็นเมืองที่ยังคงความเป็นขลังของหมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณและธรรมชาติที่สวยงามเอาไว้ได้มาก เมืองมีขนาดเล็กๆที่เดินได้รอบแบบสบายๆ เพราะมีเส้นทางเดินที่เป็นไม้และหิน มีแม่น้ำไหลผ่านและดูมีทั้งมีความชนบทและย้อนยุคไปพร้อมๆกัน เมืองออนเซน ยูเรชิโนะ(URESHINO ONSEN) เป็นเมืองออนเซนที่มีน้ำแร่ธรรมชาติที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะคิวชู(Kyushu) และเป็นหนึ่งใน 3 ออนเซนที่ดีที่สุดสำหรับผิวในญี่ปุ่น(Top three Bihada Hot Spring) มีแหล่งน้ำแร่มากถึง 17 แหล่งที่มีน้ำมากตลอดเวลา ในน้ำแร่จะประกอบด้วยเกลือ กรดคาร์บอนิก ในส่วนผสมที่ลงตัว และมีอุณหภูมิสูงถึง 100 องศาเซลเซียส จนมีที่มาของชื่อในภาษาญี่ปุ่นว่า “Ureshii” ที่แปลว่า “เยี่ยมไปเลย” ที่ราชนีจิงกุ(Empress Jingu) อุทานออกมา กินซังออนเซน(Ginzan Onsen) เป็นเมืองน้ำพุร้อนที่เงียบสงบในภูเขาของจังหวัดยามากาตะ ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่รอบเหมืองแร่เงินที่ได้ปรับปรุงและพัฒนาใหม่ มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่นว่าเป็นเมืองออนเซนที่สวยงามที่สุดด้วยห้องพักแบบเรียวกังที่เรียงรายตามสองข้างทางของแม่น้ำ มัตสึคาว่าออนเซน(Matsukawa Onsen) เป็นเมืองน้ำพุร้อนขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากภูเขาฮาจิมังไทไปทางด้านจังหวัดอิวาเตะในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติโทวาดะ-ฮาจิมังไท…

ฤดูร้อนของญี่ปุ่นเป็นช่วง Low Season ของการท่องเที่ยวโดยเฉพาะคนไทยที่ไม่ค่อยนิยมไปในช่วงนี้กันซักเท่าไหร่ แต่ในช่วงนี้จะเป็นฤดูกาลของที่คนญี่ปุ่นนิยมออกมาใส่ชุดยูกาตะ เดินเล่นชมสวน อาบแดด และที่สำคัญคือเป็นช่วงที่ทั่วประเทศญี่ปุ่นจะจัดงานเทศกาลดอกไม้ไฟที่น่าตื่นตาตื่นใจ ลองมาดู 10 งานจุดผลุสุดอลังการของญี่ปุ่นที่จะทำให้คุณอยากจะไปญี่ปุ่นในช่วงนี้กัน 50 สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง【อัปเดตล่าสุด】 10 งานเทศกาลดอกไม้ไฟญี่ปุ่นที่ต้องไปชมให้ได้！อัปเดตล่าสุด 1. เทศกาลดอกไม้ไฟ ซุชิอูระ(Tsuchiura Fireworks Festival) เป็นหนึ่งใน 3 งานแข่งขันการทำผลุทั่วประเทศญี่ปุ่น หรือ All Japan Fireworks Competition ที่จัดขึ้นที่เมือง Tsuchiura, จังหวัด อิบารากิ(Ibaraki) ทำให้เป็นงานแสดงดอกไม้ไฟที่จะได้เห็นผลงานจากศิลปินจากทั่วประเทศญี่ปุ่นในงานนี้ เป็นงานแข่งขันเก่าแก่ที่เริ่มจัดกันมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1946 โดยจะเริ่มจัดกันในวันเสาร์แรกของเดือนตุลาคมทุกๆปี เวลาประมาณ 18:00-21:00 2. เทศกาลดอกไม้ไฟที่ทะเลสาบบิวะ(Biwako Fireworks Festival) เป็นงานเทศกาลที่จัดขึ้นที่ทะเลสาบบิวะ(Biwako)ซี่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อยู่ที่จังหวัดชิงะ(Shiga) ซึ่งห่างจากเมืองเกียวโตประมาณ 30 นาทีเท่านั้น จุดเด่นสำคัญของที่นี่นอกจากจะมีดอกไม้ไฟมากกว่า 10,000 ดอกที่สวยงามแล้ว ยังเป็นการจุดผลุที่มองเห็นสะท้อนกับน้ำในทะเลสาบยิ่งสวยงามเข้าไปใหญ่ โดยมีช่วงเวลาที่จัดงานประมาณ ต้นเดือนสิงหาคมของทุกปี 3. เทศกาลดอกไม้ไฟอากะกาวะ(Akagawa Fireworks Festival) เป็นหนึ่งในงานเทศกาลดอกไม้ไฟที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่น…