20 แหล่งออนเซนที่ต้องให้ไปลองซักครั้งในชีวิตของญี่ปุ่น

Photo by Fumiaki Yoshimatsu from commons.wikimedia.org/wiki/File:Tsurunoyu_Onsen_02.jpg [CCSA3.0]
หากพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นของญี่ปุ่นเชื่อเลยค่ะว่าหลายๆคนต้องนึกถึงการแช่ออนเซ็นเป็นอันดับต้นๆแน่ๆ นั่นก็เพราะญี่ปุ่นเรียกได้ว่ามีแหล่งออนเซ็นกระขายอยู่หลายพันแห่งทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่มีเยอะนะคะแต่ยังคุณภาพคับแก้วอีกต่างหาก ซึ่งคุณสมบัติในการรักษาก็จะแตกต่างกันออกไป ยิ่งคุณสาวๆนี่ต้องมาโดนให้เพราะการแช่ออนเซ็นนี่ดีต่อผิวพรรณมากมาย ดีขนาดนี้ไม่ไปไม่ได้แล้วใช่มั้ยคะ ถ้าอย่างงั้นตามเรามาดูกันค่ะว่าแหล่งออนเซ็นที่ไหนว่าดีที่ไหนว่าเด็ดพลาดไม่ได้แบบครั้งนึงในชีวิตต้องมาดูซักครั้ง

บรรยากาศช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของเมืองคุโรคาวะ ออนเซน Kurokawa Onsen
เมืองออนเซ็นคุโรคาวะ (Kurokawa Onsen) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของภูเขาเอโซะ(Aso Mount)ในจังหวัดคุมาโมโต้ ที่อยู่ทางตอนกลางของเกาะคิวชู(Kyushu) ที่บอกได้เลยว่าเป็นเมืองออนเซนที่ฮอตอิตตลอดกาลของญี่ปุ่นเลยทีเดียวค่ะ เรียกได้ว่าถ้าพูดถึงเมืองออนเซนจะต้องมีชื่อเมืองคุโรคาวะ(Kurokawa)ติดอันดับต้นๆอยู่ตลอดๆ ด้วยความมีเสน่ห์จากบรรยากาศที่ยังคงรักษาความเก่าแก่ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม เข้ามาปุ๊บจะเห็นเลยว่าจะไม่มีอาคารแนวทันสมัยหรือป้ายไฟอะไรๆแบบที่เห็นตามเมืองใหญ่ๆเลยนะคะ ด้วยความที่ชาวเมืองรวมตัวกันรักษาสภาพความเป็นเมืองเก่าเอาไว้ได้ ตึกอาคารบ้านเรือนเน้นสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเป็นหลัก ทำให้คุโรคาวะเป็นเมืองที่ยังคงความเป็นขลังของหมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณและธรรมชาติที่สวยงามเอาไว้ได้มาก เมืองมีขนาดเล็กๆที่เดินได้รอบแบบสบายๆ เพราะมีเส้นทางเดินที่เป็นไม้และหิน มีแม่น้ำไหลผ่านและดูมีทั้งมีความชนบทและย้อนยุคไปพร้อมๆกัน


บรรยากาศออนเซนกลางแจ้งที่โรงแรม Ureshino Hotel Shinsenkaku
เมืองออนเซน ยูเรชิโนะ(URESHINO ONSEN) เป็นเมืองออนเซนที่มีน้ำแร่ธรรมชาติที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะคิวชู(Kyushu) และเป็นหนึ่งใน 3 ออนเซนที่ดีที่สุดสำหรับผิวในญี่ปุ่น(Top three Bihada Hot Spring) มีแหล่งน้ำแร่มากถึง 17 แหล่งที่มีน้ำมากตลอดเวลา ในน้ำแร่จะประกอบด้วยเกลือ กรดคาร์บอนิก ในส่วนผสมที่ลงตัว และมีอุณหภูมิสูงถึง 100 องศาเซลเซียส จนมีที่มาของชื่อในภาษาญี่ปุ่นว่า “Ureshii” ที่แปลว่า “เยี่ยมไปเลย” ที่ราชนีจิงกุ(Empress Jingu) อุทานออกมา


photos by Tomoaki INABA from flickr.com/photos/ist4u/15294296411( cc by 2.0)
กินซังออนเซน(Ginzan Onsen) เป็นเมืองน้ำพุร้อนที่เงียบสงบในภูเขาของจังหวัดยามากาตะ ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่รอบเหมืองแร่เงินที่ได้ปรับปรุงและพัฒนาใหม่ มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่นว่าเป็นเมืองออนเซนที่สวยงามที่สุดด้วยห้องพักแบบเรียวกังที่เรียงรายตามสองข้างทางของแม่น้ำ


Photo by Soul of Japan from commons.wikimedia.org/wiki/File:Kyounso_Matsukawa_Onsen_-_panoramio.jpg [CCSA3.0]


photos by 663highland from commons.wikimedia.org/wiki/File:Arima_Onsen_Gosho-bessho02s5s4272.jpg(cc by 3.0)
เบสโชออนเซน(Bessho Onsen) เป็นเมืองน้ำพุร้อนเล็กๆที่ตั้งอยู่นอกใจกลางเมืองอูเอดะ(Ueda) ของจังหวัดนากาโน่(Nagano) ในสมัยคามาคุระ(1192-1333) เคยเป็นสำนักงานว่าราชการประจำภูมิภาคชินชู(Shinshu Region; Nagano Prefecture) เนื่องจากภายในเมืองเต็มไปด้วยวัดและวัฒนธรรมคามาคุระ ทำให้เมืองเบสโชออนเซนกลายเป็นศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรืองทางการศึกษาและศาสนา


Photo: Petr Meissner [CC BY 2.0] from flickr.com/photos/myneur/10796298533/
การเดินทาง : จากสถานี Shin-Osaka นั่งรถไฟ Limited Express Konotori ลงที่สถานี JR Kinosaki Onsen


photos by Wei-Te Wong from flickr.com/photos/wongwt/34325087542( cc by 2.0 )
โดโกะอนเซ็น ตั้งอยู่ภายในจังหวัดเอะฮิเมะ(Ehime) ถูกยกให้เป็นอีกหนึ่งออนเซ็นที่ควรค่าแก่การมาซักครั้งจากการที่ตัวออนเซ็นเองมีอายุกว่า 3,000 ปี แบบว่าแค่ดูด้วยตานี่ก็ซึมซับความโบราณเข้าไปเต็มๆแล้ว จุดที่อยากให้ได้มาจริงๆจะเป็นโรงอาบน้ำโดโกะอนเซ็นฮงคัง (Dogo Onsen Honkan) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเชียวล่ะค่ะ ไม่เพียงแค่จะได้ดูแต่ที่นี่เค้ายังคงเปิดให้ได้ลงแช่กันอีกด้วย คุณภาพน้ำแร่นั้นหายห่วง แถมถ้าหลังแช่แล้วยังจะมีสถานที่ท่องเที่ยวแนวโบราณๆให้ได้ไปเช็กอินกันอีกต่างหาก
การเดินทาง : จากสถานี Shin-Osaka นั่งรถไฟ JR Sanyo Shinkansen ลงที่สถานี Okayama ต่อด้วย นั่งรถไฟ LTD. EXP SHIOKAZE ลงที่สถานี Matsuyama สุดท้ายให้เดินไปที่สถานี Matsuyama Ekimae แล้วขึ้นรถรางไปลงที่สถานี Dogo Onsen
อะชิซุริ ออนเซ็น ตั้งอยู่ภายในจังหวัดโคชิ (Kochi) บริเวณแหลมอะชิซุริ (Cape Ashizuri) ซึ่งเป็นจุดที่ดังมากๆเรื่องคุณภาพของน้ำพุร้อนที่ช่วยเรื่องทำให้สุขภาพดีหลายด้าน แถมยังได้แช่ออนเซ็นไปมองวิวทิวทัศน์ที่งดงามของตัวแหลมแห่งนี้ในเวลาเดียวกัน ไม่ใช่แค่ได้รับการยกย่องการคนญี่ปุ่นเท่านั้นนะคะ ความงดงามของแหลมแห่งนี้ยังได้รับการยอมรับจากระดับโลกมาแล้ว คิดดูว่าได้ทั้งแช่น้ำพุร้อนชั้นเยี่ยมกับดูวิวชั้นยอดมันจะสุขกายสบายใจขนาดไหน
การเดินทาง : จากสถานี Shin-Osaka นั่งรถไฟ JR Sanyo Shinkansen ลงที่สถานี Okayama แล้วต่อด้วย รถไฟ JR Dosan Line ลงที่สถานี Nakamura จากนั้นขึ้นรถบัส Kochi Seinan Kotsu Bus มาลงที่ Ashizuri Misaki


photos by Fumiaki Yoshimatsu from flickr.com/photos/luckypines/2167246957(cc by 2.0)
นิวโตะ ออนเซ็น ตั้งอยู่ภายในเมืองเซ็มโบคุ จังหวัดอาคิตะ โดยตัวออนเซ็นจะอยู่ในอุทยานแห่งชาติโทวาดะฮาจิมันไต อังนั้นความสมบูรณ์เรื่องทัศนียภาพของธรรมชาตินี่แน่นมาก เรียกได้ว่าสูดโอโซนได้เต็มปอดไปเต็มๆ บ่อแช่เค้ามีสไตล์แบบดั้งเดิมเปิดโอเพ่นชมวิวสวยๆได้อย่างฟิน ที่นี่จะน้ำแร่จะมีสรรพคุณเด่นด้านช่วยรักษาโรคผิวหนังรวมไปถึงช่วยเรื่องระบบการย่อยอาหาร จากการที่มีส่วนประกอบของแคลเซียมและแมกนีเซียมอยู่เป็นปริมาณมาก นั่นก็เป็นสาเหตุที่หลายๆคนขนานนามให้ว่า “ออนเซ็นน้ำนม” เพราะสีน้ำจะออกขาวๆขุ่นน้อยๆคล้ายกับน้ำนมนั่นเองค่ะ
การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Tazawako ต่อด้วยขึ้นรถบัส Ugo kotsu ลงป้าย Nyuto Ganiba Onsen


Photo by MIKI Yoshihito from flickr.com/photos/mujitra/8346369496 [CC by 2.0]


Photo from Yugawara Ohnoya Ryokan @ agoda.com/yugawara-ohnoya-ryokan/hotel/hakone-jp.html
ยูกาวาระ(Yugawara) เป็นแหล่งออนเซนที่ตั้งอยู่ในมุมตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดคานากาว่า(Kanagawa)นับเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็นมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ด้วยการที่มีแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ ชายทะเลที่สวยงามซึ่งอยู่ทางตะวันตก ป่าไม้ที่สมบูรณ์เขียวชอุ่ม และยังหันหน้าไปทางอ่าวซากามิ (Sagami) ทำให้มีรีสอร์ทน้ำพุร้อนออนเซ็นเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวมากนักและยังอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม Hakone ด้วย จึงกลายเป็นอีกจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับเหล่านักท่องเที่ยวมี่หลงใหลในเสน่ห์ของน้ำพุร้อน


Photo by Alpsdake from commons.wikimedia.org/wiki/File:Hida_River_and_Gero_Onsen_from_Mutsumi_Bridge.jpg [CCSA3.0]
ออนเซนอันเซน (雲仙温泉, Unzen Onsen) เป็นเมืองท่องเที่ยวน้ำพุร้อนที่อยู่ใกล้กับยอดเขาอันเซน(Mount Unzen) ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองนางาซากิ(Nagasaki)มากนัก บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งออนเซนที่คนรักออนเซนและธรรมชาติที่ต้องมากันให้ได้เลยล่ะค่ะ เพราะออนเซนอันเซนแห่งนี้จะถูกห้อมล้อมไปด้วยบ่อน้ำพุร้อน ทำให้หลายส่วนของเมืองจะถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควัน ไอร้อน กลิ่นกำมะถัน มาจากบ่อน้ำพุร้อน ซึ่งที่นี่เรียกว่านรก(Jigoku)ซึ่งในอดีตเป็นสถานที่ที่ใช้ประหารชีวิตกลุ่มกบฏศาสนาคริส แต่เดิมถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเมืองแห่งวัด ที่เทียบเท่ากับเมืองวัดของภูเขาโคยะ(Koyasan) แต่เมืองเริ่มเปลี่ยนเป็นที่พักตากอากาศในยุคเมจิ(Meiji) จึงทำให้กลายมาเป็นเมืองตากอากาศสำหรับชาวตะวันตกแห่งแรกของญี่ปุ่นนี่เอง สำหรับที่อยากแช่ออนเซนแบบฟินๆแล้วกลัวจะหาที่แช่ยากนี่หมดห่วงได้เลยนะคะ บอกเลยว่าเรียวกังที่เป็นโรงแรมแบบญี่ปุ่นแท้ๆนี่มีให้เลือกเพียบ


Source: Noboribetsu Onsen Dai-ichi Takimotokan from agoda.com/th-th/noboribetsu-onsen-dai-ichi-takimotokan/hotel/noboribetsu-jp.html
ย่านบ่อน้ำพุร้อนโนโบริเบทสึ(Noboribetsu Onsen)เรียกได้ว่าเป็นย่านบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งของฮอกไกโด(Hokkaido)เลยนะคะ เรียกได้ว่าคิดถึงบ่อน้ำพุร้อนปุ๊บต้องนึกถึงที่นี่ก่อนเป็นอันดับแรกแน่ๆ จุดที่ทำที่โด่งดังก็มากจากการที่มีน้ำพุร้อนมากถึง 11 ชนิดด้วยกัน แถมยังได้รับการยอมรับว่าเป็นน้ำพุร้อนที่ดีและมีประสิทธิดีเยี่ยมมากที่สุดของญี่ปุ่นเชียวล่ะค่ะ จากความนิยมอย่างล้นหลามก็ทำให้ภายในย่านนี้มีที่พักเพียบ ทั้งแบบโรงแรมและเรียวกันเลยนะคะ รวมทั้งยังมีทั้งขนาดใหญ่ไปจนถึงขนาดย่อมที่สามารถเลือกให้เหมาะกับงบประมาณของแต่ละคนได้แบบสบายๆเลยล่ะค่ะ ส่วนมากห้องอาบน้ำออนเซ็นเปิดให้บริการกับทั้งผู้เข้าพัก และไม่ได้เข้าพัก ราคาอยู่ที่ประมาณ 700-2,000 เยน และถ้าอยากสัมผัสความเรียลๆของคนท้องถิ่นจริงๆแนะนำให้ลองไปยังมีห้องอาบน้ำสาธารณะ 1 แห่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองได้อีกด้วย


Photo by Asahidake Onsen Grand Hotel Daisetsu from agoda.com/th-th/asahidake-onsen-grand-hotel-daisetsu/hotel/asahikawa-jp.html
อะซาอิดาเกะออนเซ็น(Asahidake Onsen) นั้นถือเป็นรีสอร์ทน้ำพุร้อนเล็กๆของจังหวัดฮอกไกโด(Hokkaido) ที่ตั้งอยู่บริเวณฐานภูเขาอะซาฮิดาเกะ(Mount Asahidake) ซึ่งภูขาแห่งนี้นั้นขึ้นชื่อว่าสูงที่สุดในฮอกไกโดด้วยความสูงถึง 2,290 เมตร ซึ่งใกล้เคียงกับอุทยานแห่งชาติไดเซสึซัง(Daisetsuzan National Park) อีกด้วย ถ้าอยากดูใบไม้แดงแรกแล้วล่ะก็แนะนำให้มาที่นี่เลยค่ะ เพราะอะซาฮิดาเกะ เป็นแห่งแรกของญี่ปุ่นที่จะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และหิมะในทุกๆปี ประมาณกลางเดือนกันยายน ถ้าอยากจะเล่นสกีก็สามารถมาได้ช่วงฤดูหนาวที่จะเริ่มตั้งแต่ประมาณเดือนธันวาคม-ต้นเดือนพฤษภาคมนั่นเองค่ะ
ทาคาระกะว่า ออนเซ็น ตั้งอยู่ภายในจังหวัดกุนมะ (Gunma) บอกเลยคนพักอยู่โตเกียวนี่ต้องจัดเพราะสามารถนั่งรถไฟจากโตเกียวมาแค่ชั่วโมงนิดๆเองค่ะ บ่อน้ำพุร้อนนี้อยู่ในเรียวกังOsenkaku เก่าแก่ที่ถือเป็นที่สุดของออนเซ็นกลางแจ้งอันดับต้นๆของญี่ปุ่นต้องที่นี่เลยค่ะ เพราะจะเป็นออนเซ็นแบบกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดแล้วของญี่ปุ่น มีลักษณะแบบเปิดโล่งติดริมแม่น้ำ ทำให้เวลาแช่ทีก็สามารถนั่งชมวิวแม่น้ำที่งดงามไปเพลินๆ เรียกได้ว่าฟินไปเลยสองต่อ คุณสมบัติการรักษานี่ก็ดังยาวนานแล้วนะคะจนมาถึงปัจจุบันก็ยังคงได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย ยิ่งช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนี่มันจะแลดูสวยและเต็มไปด้วยสีสัน หรือจะเป็นฤดูหนาวที่ขาวโพลนไปด้วยสีขาวของหิมะนั่งแช่ออนเซ็นร้อนๆไปนี่สุขสุดๆแล้วค่ะ
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Joetsu Shikansen ลงที่สถานี Jomokogen
ยูบาระออนเซ็น ตั้งอยู่ภายในจังหวัดโอคายาม่า Okayama ) สาวๆแร่เข้ามาเลยค่ะใครอยากผิวสวยเหมือนสาวญี่ปุ่นต้องมาทางนี้ เพราะที่นี่นับเป็นหนึ่งในสามของออนเซ็นเสริมความงามของญี่ปุ่นเชียวนะเออ โดยที่นี่จะมีบ่อแบบโอเพ่นเปิดโล่งดังชื่อว่า ซูนะยู (Sunayu) ตัวบ่อจะล้อมด้วยโหดหินมีด้านหลังเป็นเขื่อนแลดูสวยแปลกไม่ซ้ำใครดีค่ะ จุดที่ทำให้ดีขึ้นไปอีกก็ตรงเปิด 24 ชั่วโมงและใช้ฟรีไม่มีค่าบริการนี่เองค่ะ ใครว่าของฟรีและดีไม่มีอยู่จริงลองมาพิสูจน์ดูค่ะ
การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Okayama ขึ้นรถบัสไปลงที่ Yuharaonsenguchi Bus Stop เดินต่ออีกประมาณ 15 นาที
ทากามะกะฮาระ ออนเซ็น จังหวัดโทยามะ (Toyama) เรียกได้ว่าถ้าไม่รักจริงมีเหนื่อยอ่ะค่ะ เพราะเป็นออกเซ็นที่อยู่บนภูเขาฮิดะ (เทือกเขาแอลป์ตอนเหนือ) ระดับความสูงอยู่ที่ 2,100 เมตร สูงมากๆและไปยากโคตร ด้วยความอยู่บนภูเขาทำให้ต้องเดินทางด้วยวิธีการเดินป่าเพื่อเข้าถึงเท่านั้น แต่ถ้าขึ้นไปรับรองหายเหนื่อยค่ะทั้งน้ำแร่คุณภาพเลิศจากธรรมชาติเน้นๆ รวมไปถึงวิวทัศน์หลักล้านที่หาจากที่อื่นไม่ได้ โดยช่วงที่ดีที่สุดในการไปจะเป็นเดือน กรกฎาคม – กันยายน ยากขนาดนี้ไม่แปลกใจเลยที่ได้รับการขนานนามว่า “ออนเซ็นที่เข้าถึงยากที่สุด” ใครรักธรรมชาติอยากไปในที่ลึกลับซับซ้อนแบบไม่ใช่ทุกคนจะไปได้ต้องจัดค่ะ
การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Toyama แล้วขึ้นรถบัสมาลงที่ Oritate จากนั้นต้องเดินขึ้นเขา


Photo by Douglaspperkins from commons.wikimedia.org/wiki/File:Jinata_Onsen.1.jpg [CC by 3.0]
การเดินทาง : จากภายในเมืองโตเกียวสามารถนั่งเรือเฟอรี่ไปลงบนเกาะได้
ซาวาดะ โอเอ็น โรเท็นบุโระ ออนเซ็น ตั้งอยู่ภายในจังหวัดชิซูโอกะ (Shizuoka) ความพีคของที่ก็เป็นวิวนี่แหล่ะค่ะ เพราะความที่เป็นออนเซ็นกลางแจ้งที่ตั้งอยู่บนหน้าผาทางตะวันตกสุดของคาบสมุทรอิซุ ทำให้สามารถมองเห็นวิวมุมสูงของมหาสมุทรในมุมสูงแบบที่สวยจนแทบลืมหายใจ ยิ่งมาแช่ช่วงเย็นๆที่พระอาทิตย์ใกล้จะลาลับขอบฟ้า แสงมาโรยๆนี่เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Tokaido-Sanyo Shinkansen ลงที่สถานี Shizuoka ต่อด้วยนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Shuzenji แล้วนั่งรถบัสมาลงที่ป้าย Norihama
ครบแล้วกับแหล่งออนเซนแนะนำ 20 แห่งทั่วญี่ปุ่น น่าจะพอจุใจกันบ้างไม่มากก็น้อย แต่อันที่จริงก็ยังมีเมืองหรือแหล่งออนเซนยอดนิยมอื่นๆทั่วญี่ปุ่นอยู่อีกมากมายหลายร้อยแห่ง หรืออาจจะถึงพัน เพราะนี่เป็นวัฒนธรรมสำคัญที่ชาวญี่ปุ่นยังคงนิยมกันอยู่ในปัจจุบัน ใครกำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่นก็ควรจะหาโอกาสไปลองด้วยตัวเองซักครั้งแล้วโดยเฉพาะในช่วงที่อากาศหนาว แล้วจะเข้าใจว่าทำไมชาวญี่ปุ่นถึงนิยมแก้ผ้าแช่น้ำร้อนกลางแจ้งกันนัก