เที่ยวญี่ปุ่นฤดูกาลไหนก็สวย มาดูกันช่วงไหน ไฮไลท์มีอะไรบ้าง สภาพอากาศเป็นยังไง

 

ว่ากันว่าญี่ปุ่นนับเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เราสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลยนะคะ นั่นก็เพราะว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีฤดูกาลให้ท่องเที่ยวมากถึง 4 ฤดูมีทั้งใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี และฤดูหนาว ซึ่งบอกเลยว่าแต่ละฤดูเค้ามีดีไม่แพ้กันนะคะ แม้ว่าปกติแล้วช่วงพีคๆในการท่องเที่ยวของชาวไทยจะเป็นฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้เปลี่ยนสีซะส่วนมาก จึงทำให้เวลาไปช่วงนั้นราคาตั๋วหรือที่พักมักจะแพงกว่าเวลาปกติทั่วไปพอสมควรเลยล่ะค่ะ แต่เอาจริงๆแล้วแต่ละฤดูกาลก็มีดีไม่แพ้กันเชียวล่ะค่ะ จะมีอะไรน่าสนใจกันบ้างเราตามมาดูกันค่ะ

 

เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม – พฤษภาคม สภาพอากาศนี่ถือได้ว่าดีมากไม่หนาวเกินไปและก็ไม่ร้อนเดินได้สบายสุดๆ อย่างในโตเกียวเดือนมีนาคมเฉลี่ยแล้วอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 5 องศา และช่วงกลางวันจะอยู่ประมาณ 13 องศา เรียกได้ว่าเป็นช่วงยอดฮิตติดลมบนตลอดกาล เพราะช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ซากุระบานนั่นเองล่ะค่ะ โดยช่วงเวลาที่สามารถชมดอกซากุระได้สวยมากที่สุดก็คือ ปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงพฤษภาคมนี่แหล่ะค่ะ แน่นอนว่าเทศกาลชมซากุระนับเป็นไฮไลท์การท่องเที่ยวในฤดูนี้ เพราะทั่วทั้งญี่ปุ่นเราจะสามารถชมซากุระได้หลากหลายสถานที่ทั้งวัด ศาลเจ้า หรือจุดชมวิวต่างๆอีกเพียบ แต่หากมีแพลนจะไปเที่ยวแถบฮอกไกโดหรือโทโฮขุแล้วตั้งใจจะมาชมซากุระด้วยแนะนำให้มาช่วงต้นๆเดือนพฤษภาคมจะสวยสุดค่ะ อีกอย่างหนึ่งในช่วงต้นๆเดือนพฤษภาคมของญี่ปุ่นจะเป็นช่วง Golden Week ซึ่งจะเป็นวันหยุดยาวของชาวญี่ปุ่น ข้อดีของการมาเที่ยวช่วงนี้คือความเงียบสงบแม้เมืองใหญ่ๆอย่างโตเกียว แต่ที่น่าจะเป็นข้อเสียที่เห็นได้ชัดๆก็เป็นร้านค้าที่ปิดกันเยอะมากๆอาจจะทำให้แพลนต่างๆสะดุดเอาได้ค่ะ

เทศกาลน่าสนใจ

• เทศกาลฮานามิ คือ เทศการที่ผู้คนมักจะรวมตัวกันมานั่งสังสรรค์กินดื่มกันบริเวณต้นซากุระ พร้อมๆไปกับการชมความสวยงามของดอกซากุระไปด้วย ใครอยากลองนี่แนะนำให้ไปเร็วๆนะคะไม่งั้นที่อาจเต็มเอาง่ายๆ หากก็นับเป็นบรรยากาศที่รื่นเริงสนุกสนานไม่น้อยเลยล่ะค่ะ
• เทศกาลชิบะซากุระ คือ ช่วงที่ดอกชิบะซากุระหรือพิงค์มอสจะบายสะพรั่งเต็มท้องทุ่ง บอกเลยว่าสวยไม่แพ้ซากุระที่เราคุ้นเคยกันเลยนะคะ ปกติจะเริ่มมีกันประมาณปลายๆเดือนเมษายนนี่เองค่ะ สถานที่ยอกนิยมที่จัดเทศกาลนี้ก็จะมีเมืองคาวากุจิโกะที่สามาถชมทุ่งดอกชิบะซากุระพร้อมๆกับวิวทิวทัศน์ด้านหลังเป็นภูเขาฟูจิอีกด้วย และอีกที่นึงที่อยากแนะนำอย่างสวน Hitsujiyama จังหวัดไซตามะที่นอกจากความงดงามของดอกชิบะซากุระแล้วนั้นยังจะเห็นวิวทิวทัศน์ล้อมรอบด้วยภูเขาและธรรมชาติอันสุดแสนจะสมบูรณ์ด้วยล่ะค่ะ ที่สำคัญทั้งสองแห่งนี้เดินทางง่ายเพราะใกล้กับโตเกียวอีกต่างหาก

 

 

 

เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม นับได้ว่าเป็นช่วง Low Season สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเลยนะคะ เพราะอากาศที่ค่อนข้างจะร้อนพอสมควร แต่ก็ถือเป็นข้อดีนะคะเพราะเวลาเตรียมเสื้อผ้าไม่ได้ต่างจากที่ไทยมาก กระเป๋าเลยจะไม่หนักเท่าช่วงหนาวๆ อุณหภูมิเฉลี่ยในโตเกียวอย่างในเดือนมิถุนายนต่ำสุดประมาณ 19 องศาและสูงสุดอยู่ที่ 26 องศา ซึ่งก็ถือว่ากำลังดีไม่ได้ร้อนมากนะคะ จะมาร้อนสุดก็ช่วงเดือนสิงหาคมที่อาจจะแตะเลขสามแต่กลางคืนก็ไม่ได้อบอ้าวมาก แถมยังมีเทศกาลฤดูร้อนที่น่าสนใจอีกมากมายให้ได้เลือกไปชมกัน อีกทั้งนับได้ว่าเป็นช่วงที่สามารถชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์งามๆในแถบฮอกไกได้อีกนะคะ เรียกได้ว่าแต่ละเทศกาลของฤดูร้อนนี่จัดหยักจัดเต็มทั้งคึกคักและอลังกาลแบบสุดๆไปเลยล่ะค่ะ

เทศกาลน่าสนใจ

• เทศกาลเนบุตะ มัตสึริ คือ เทศกาลหุ่นโคมไฟที่จัดกันมายาวนานหลายร้อยปี ซึ่งจะมีการจัดขึ้นตามเมืองต่างๆของจังหวัดอะโอะโมะรินั่นเองล่ะค่ะ จริงๆแล้ววัตถุประสงค์ในการจัดนี่ก็เพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไป นับได้ว่าเป็นเทศกาลที่ทั้งได้ชมศิลปวัฒนธรรมเพราะจะมรการตีกลองและร่ายรำไปตลอดขบวนพาเรด แถมยังได้ชมโคมไฟใหญ่ยักษ์ที่จะมีการสร้างสรรค์รูปทรงให้ได้ตื่นตาตื่นใจกันอีกด้วย
• เทศกาลยามางาตะฮานะกาสะ คือ เทศกาลสุดยิ่งใหญ่จัดที่จังหวัดยะมะงะตะ มีชื่อเสียงโด่งดังจนติดอันต้นของภูมิภาคโทโฮขุเลยล่ะค่ะ โดยเทศกาลนี้จะมีขบวนแห่ร่ายรำของชาวเมืองอย่างสนุกสนาน ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็เป็นการแต่งกายแบบท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ และความคึกคักจากการร้องรำทำเพลงและเสียงกลองพร้อมๆกับให้ผู้ชมสามารถร้องตะโกนYassho Makkasho ไปได้อีกด้วย
• เทศกาลพลุไฟมิยาจิมะ คือเทศากลพลุไฟที่อลังการมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเชียวล่ะค่ะ โดยเป็นเทศกาลประจำปีของเมืองมิยาจิมะ ที่สำคัญนอกจากจะมีพลุไฟมากกว่า 5,000 ดอกแล้วนั้น ยังจะได้ดูพลุริมน้ำบริเวณริมฝั่งทะเลบริเวณประตูโทริอิที่ตั้งกลางน้ำของศาลเจ้าอิสึคุชิมะ เรียกได้ว่าสวยจนแทบลืมหายใจเลยล่ะค่ะ

 

 

 

เริ่มต้นตั้งแต่เดือนกันยายน – พฤศจิกายน สภาพอากาศช่วงต้นๆดูจะเย็นกำลังดี ปลายๆก็จะหนาวๆหน่อยแต่ไม่มากเท่าฤดูหนาว อย่างในเดือนพฤศจิกายนโตเกียวอุณหภูมิช่วงกลางวันจะประมาณ 17 องศาและตอนกลางคืนจะประมาณ 9 องศา ช่วงนี้นับว่าเป็นอีกช่วงยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเพราะอากาศเย็นๆไม่หนาวเกิน แถมยังจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงดงามของใบไม้เปลี่ยนสีทั่วทั้งญี่ปุ่นอีกต่างหาก การได้เห็นใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดงสีส้มไปหมดก็ทำให้มันสวยงามแปลกตาไป ซึ่งเราสามารถหาที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีได้หลายจุดทั้งวัด ศาลเจ้า และจุดชมวิวต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาตินี่บอกเลยว่าการได้เห็นใบไม้แดงล้อมรอบมันเป็นอะไรที่ฟินจริงๆ นับได้ว่าเป็นช่วงที่เราจะได้เห็นถึงความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติได้แบบเต็มๆตาจริงๆค่ะ อีกทั้งยังได้แต่งตัวแบบจัดเต็มแต่ไม่ถึงกับฤดูหนาวแบบชิคๆอีกต่างหาก

เทศกาลน่าสนใจ

• เทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสี คือช่วงที่เราสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ทั่วทั้งญี่ปุ่น โดยช่วงที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สุดสุดของเมืองโตเกียวก็จะประมาณเดือนพฤศจิกายน
• เทศกาลจิได คือ หนึ่งในสามของเทศสุดยิ่งใหญ่ของเมืองเกียวโต สิ่งที่ทำให้เทศกาลนี้ดังมากๆจนคนมากมายหลั่งไหลเข้าไปดูแบบแน่นทุกปีก็ตรงมีขบวนที่ผู้คนจะแต่งตัวแบบเต็มยศ มีการแบ่งออกเป็นแต่ละยุคแต่ละสมัย ซึ่งจะมีการแสดงออกถึงพิธีสำคัญของแต่ละยุครวมถึงชุดที่จัดเต็มมากๆแบบแทบจะละสายตาไปไม่ได้เลยล่ะค่ะ ประหนึ่งหลุดออกมากภาพวดสมัยโบราณอย่างไรอย่างนั้น
• เทศกาลกิออน โอโดริ คือเทศกาลที่หาดูได้เฉพาะช่วงนี้ในเมืองเกียวโตเท่านั้น โดยความพิเศษจะเป็นการออกมาร่ายรำกันแบบดั้งเดิมของเหล่า Maiko และ Geisha ที่การได้ชมนี่บอกเลยว่ายากสุดๆค่ะ ยิ่งมากันเยอะขนาดนี้นับว่าน่าดูมากๆ ซึ่งเทศกาลนี้ได้สืบทอดต่อๆกันมาเกือบๆจะร้อยปีแล้ว ที่น่าจับตามอก็เป็นการแต่งกายแบบเต็มยศที่ทุกคนแต่งมาเต็มมาก มางานนี้รับรองเมมเต็มแน่ๆคะ

 

 

 

เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ เรียกได้ว่าอากาศหนาวครอบคลุมทั่วทั้งประเทศโดยเฉพาะแถบฮอกไกโดที่จะหนาวกว่าโตเกียวอู่พอสมควรเลยล่ะค่ะ ช่วงนี้เทศกาลจะแน่นและมีบรรยากาศความคึกคักในการท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ อุณหภูมิในโตเกียวของเดือนธันวาคมกลางวันก็จะประมาณ 12 องศา ส่วนกลางคืนจะประมาณ 4 องศา ซึ่งแม้จะดูหนาวแต่ก็ฟินนะคะ ยิ่งช่วงกลางคืนแล้วในเดือนธันวาถึงมกรามักจะมีการประดับประดาไฟอย่างสวยงามตามท้องถนนไปจนถึงจุดแลนด์มาร์กต่างๆ แถมเทศกาลน่าสนใจยังมีอีกเพียบ อีกทั้งการแต่งตัวช่วงนี้เราจะได้จัดเต็มกันแบบที่เมืองไทยทำไม่ได้อีกต่างหากนะคะ รวมทั้งยังมีกิจกรรมที่เราสามารถทำได้อย่างการเล่นสกีตามสกีรีสอร์ตไปจนถึงแค่การได้เล่นบอร์ดชิลๆที่เหมือนได้กลับไปเป็นเด็ดอีกครั้งเลยล่ะค่ะ

เทศกาลน่าสนใจ

• เทศกาลหิมะซัปโปโร คือเทศกาลอันดับหนึ่งของเมืองซัปโปโรเลยนะคะ โดยจะมีการจัดแสดงรูปสลักงามๆเรียงรายไปทั่วทั้ง Odori Park ช่วงเวลากาลจัดก็ประมาณต้นๆเดือนกุมภาพันธ์ ฝีมืองานแกะสลักแต่ละอันนี่ไม่ธรรมดาเชียวล่ะค่ะ เพราะงานนี้นับได้ว่าเป็นการรวมตัวของนักแกะสลักน้ำแข็งชื่อดังทั่วโลก ย่งกลางคืนจะมีการจัดแสดงไฟกันอีกด้วย บอกเลยว่าจะกลางวันหรือกลางคืนนี่สวยไม่แพ้กันแน่ค่ะ
• เทศกาลหิมะโอตารุ คือเทศกาลยิ่งใหญ่ประจำปีที่จุดขึ้นทุกปีในช่วง ต้นๆเดือนกุมภาพันธ์ที่เมืองโอตารุ ภายในเมืองจะมีการประดับประด้วยแสงไฟแทรกไปทั่วทั้งพื้นที่ พออยู่ท่ามกลางหิมะขาวๆที่ปกคลุมอยู่ทั่วทั้งเมืองยิ่งทำให้ดูสวยแบบคลาสสิกมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในพื้นที่ Unga Kaijo และ Temiyasen Kaijoที่จะมีการประดับไฟตลอดทั้วันด้วยล่ะค่ะ