แนะนำ โรงแรมที่พัก โตเกียว ญี่ปุ่น อัพเดตล่าสุด

10 เรียวกังและโรงแรม มีรอยสักก็ลงแช่ออนเซ็นได้ 2567


หลายคนที่มีมีรอยสักอาจจะเซ็งอยู่บ่อยๆเวลาไปญี่ปุ่นทั้งทีแต่เข้าไปแช่ออนเซ็นไม่ได้ใช่มั้ยคะ นั่นก็เพราะปกติแล้วออนเซ็นที่ต่างๆจะมีข้อห้ามคนมีรอยสักในการลงแช่ออนเซ็นนั่นเอง ด้วยเพราะเกิดจากความหวาดกลัวของคนทั่วไปที่มีต่อคนมีรอยสัก เนื่องจากแต่เดิมทีคนที่จะมีรอยสักของญี่ปุ่นสมัยก่อนนั้นมักจะเป็นยากูซ่ากันทั้งนั้น เลยพาให้คนที่รักศิลปะการสักทั้งหลายพากันอดแช่กันไปด้วย สายสักทั้งหลายต่อไปนี้ไม่ต้องนั่งจับเจ่าอดแช่กันอีกต่อไปค่ะ เพราะหลังๆมาคนเข้าใจและยอมรักเกี่ยวกับรอยสักในแง่ของศิลปะมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ จึงทำให้มีหลายๆออนเซ็นภายในเรียวกังทั่วประเทศอนุญาตให้ผู้มีรอยสักสามารถลงแช่ได้แล้วนะคะ โดยที่เราคัดมาจะเน้นไปที่สามารถเข้าได้แม้มีรอยสักหลายแห่งนะคะ จะมีที่ไหนกันบ้างนั้นตามกันมาด่วนๆเลยจ้า

 

1. Kusatsu Hot Spring Hotel Takamatsu

เรียวกังสไตล์โมเดิร์น ตั้งอยู่ภายในจังหวัดกุมมะ นับว่าเป็นเรียวกังที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ บรรยากาศเงียบสงบเหมาะกับการพักผ่อนและอากาศดีสุดๆ  คนมีรอยสักสบายหายห่วงเพราะเข้าได้ชิลๆค่ะ  ที่สำคัญออนเซ็นของที่จะมาจาก Kusatsu Onsen ซึ่งเป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติจากภูเขาไฟ แร่ธาตุอย่างเยอะและยังช่วยด้านการรักษาหลากโรคทั้ง โรคผิวหนัง ความดัน เบาหวาน โรคข้ออักเสบ และผ่อนคลายร่างกายจากความตึงเครียดต่างๆ มีให้เลือกแช่ทั้งบ่อรวมและบ่อแบบส่วนตัวนะคะ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรวมทั้งบริการต่างๆไม่ว่าจะเป็น อาหารมื้อค่ำแบบ kaiseki ryori  ห้อง Pool ห้องเกมส์ เก้าอี้นวด และบาร์

ราคา

เริ่มต้นที่ 10,000 เยน

การเดินทาง

จากสถานีกุมมะ โอสึ (Gumma-Otsu Station) ต่อด้วยรถยนต์ประมาณ 19 นาที

 

 

2. Anshin Oyado Akihabara Denkigai

โรงแรมสไตล์แคปซูนที่ไม่ใช่ผู้ชายอดนะคะ โดยที่นี่ตั้งอยู่ในย่านอากิบาฮาระของ โตเกียวใกล้กับสถานีอากิฮาบาระ (JR Akihabara Station) เรียกได้ว่าเป็นโรงแรมราคาเบาๆสำหรับคนที่ไม่ซีเรียสว่าต้องพักในแบบห้องส่วนตัวเท่านั้นนะคะ ต้อนรับคุณผู้ชายที่มีรอยสักทุกแบบเล็กกลางใหญ่มาได้หมดค่ะ น้ำพุร้อนองที่นี่เค้าไม่ธรรมดานะคะ เพราะจะเป็นน้ำพุร้อน Akiba no Yu ที่จะมีสีขาวขุ่นๆ บอกเลยว่าสีแบบนี้นี่แหล่ะค่ะสรรพคุณดีนักแล เนื่องจากเต็มไปด้วยแร่ธาตุธรรมชาติมากกว่า 40 ชนิด อาทิ แคลเซียม แมกนีเซียม โซเดียมโพแทสเซียม และสังกะสี แช่แล้วมีดีกว่าแค่ผ่อนคลายเพราะจะช่วยเรื่องรักษาโรคต่างๆพร้อมไปกับช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิต และเมตาบอลิซึม ที่สำคัญมาได้ตลอด 24 ชั่วโมงกันไปเลยค่ะ มาแช่ออนเซ็นนี่ไม่เอาอะไรมาก็ไม่ต้องกลัวไป เค้ามีอุปกรณ์อาบน้ำให้ฟรีๆทั้งสบู่ แชมพู ดร์เป่าผม โลชั่นโลชั่นรวมไปถึงเจลแต่งผมแบรนด์ดังด้วย เห็นเป็นแคปซูนขนาดกะทัดรัดแบบนี้สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้เข้าพักก็จัดเต็มนะคะ มีทั้งอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) ฟรี เก้าอี้นวดแผนกต้อนรับส่วนหน้า 24 ชั่วโมง บริการซักรีด เครื่องจำหน่ายของว่าง โทรทัศน์จอแบนพร้อมช่องรายการวิดีโอออนดีมานด์ ปลั๊กไฟฟ้า และหูฟัง

ราคา

เริ่มต้นที่ 9,000 เยน

การเดินทาง

จากสถานีอากิบาฮาระ (JR Akihabara Station) ทางออก Electric Street Exit เดินเท้าต่ออีกประมาณ 2 นาที

 

 

3. Totsukawa Onsen Hotel Subaru

รีสอร์ทที่อยู่ท่ามกลางเทือกเขาและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ตั้งอยู่ภายในเมืองโทซึคาวะของจังหวัดนารา หากอยากลงแช่ออนเซ็นแบบชิลๆท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพรจัดไปอย่างให้เสียค่ะ ทำเลที่ตั้งของที่นี่เค้าขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของธรรมชาติมากๆ น้ำพุร้อนก็มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติแบบ 100% มาที่นี่แช่แล้วรับรองผิวพรรณเปล่งปลั่งแบบชัดเจนเชียวค่ะ เพราะตัวน้ำพุร้อนจะเป็นด่างอ่อน ๆ ที่มีค่า pH 6.9 รวมกับแร่ธาตุต่างๆที่ดีกับผิวพรรณล้วนๆ แช่เสร็จปุ๊บผิวเนียนปั๊บ แช่เสร็จจะมาต่อด้วยสปาก็ดีงามขึ้นไปอีกค่ะ ซึ่งสปาเค้าหรูหราน่าเข้าสุดๆไปเลย อยากว่ายน้ำเค้าก็มีสระว่ายน้ำในร่มขนาดกว้างขาวงให้ได้แหวกว่ายกันอย่างจุใจด้วยนะคะ เรียกได้ว่าถ้าเสาะหาที่พักธรรมชาติแน่นๆ คนมีรอยสักแช่ได้ และน้ำพุร้อนธรรมชาติ บอกเลยว่ามาแล้วโดนใจแน่นอนค่ะ

ราคา

เริ่มต้นที่ 12,000 เยน สำหรับห้องพักมาตรฐาน และ30,000 เยน สำหรับห้องพักแบบ Special room

การเดินทาง

จากสถานียามาโตะ ยากิ (Yamato-Yagi Station) ต่อด้วยรถบัส Nara-Kotsu ไปลงที่สถานีชินกุ (Shingu Station) แล้วต่อรถบัสท้องถิ่นมาลงที่ป้ายของโรงแรม

 

 

4. Tsuchiyu Onsen Sansuiso

Photo from Booking.com

เรียวกังระดับพรีเมี่ยมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่วิวดีงามมากมาย ตั้งอยู่ภายในเมืองสึชิยุของจังหวัดฟูกูชิมะ ใครอยากพักผ่อนชาร์ตแบทให้กับร่างกายมาแล้วฟินจริงจังค่ะ เอาแค่มาถึงปุ๊บได้รับบริการอย่างใส่ใจสุดๆพร้อมชิลไปกับวิวล๊อบบี้นี่ก็สุดจะเลิฟแล้วล่ะค่ะ ออนเซ็นของที่นี่จัดเต็มมากๆมีทั้งองอาบน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ 4 ประเภท 3 ห้องอาบน้ำกลางแจ้ง และ 5 ห้องอาบน้ำแบบส่วนตัว เรียกได้ว่าอยากลองแบบไหนมีครบจบทุกสิ่งในที่เดียว แน่นอนว่าก็เป็ฯอีกที่ที่เค้าโอเคกับผู้ที่มีรอยสักนะคะสบายใจได้ค่ะ ซึ่งจุดที่แช่แล้วฟินสุดต้องยกให้บริเวณชั้นสองอย่าง Yuchi no yu เนื่องจากจุดนี้จะเป็นออนเซ็นแบบโอเพ่นนะคะ นอนแช่ทีมองวิวเทือกเขาป่าไม้กันอย่างเสรีสุดๆ ถ้ายังไม่พอมาต่อกันที่ Taki no yu มีความพีคตรงสามารถมองเห็นน้ำตกชื่อดังของเมืองด้วยนะเออ แล้วถ้าอยู่ๆดึกๆอยากแช่ขึ้นมากลางดึกมาชั้น 2 ที่ห้องอาบน้ำสาธารณะได้เลยค่ะ เพราะจุดนี้เค้าจะเปิดตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากมีออนเซ็นให้เลือกหลายแบบแล้วคุณภาพของน้ำพุร้อนของที่นี่ก็เลิศมาก เนื่องจากมาจากแหล่งธรรมชาติโดยตรงและยังมีอุณหภูมิที่เหมาะสมทำให้แช่แล้วหายเหนื่อยเมื่อยล้าเป็นปลิดทิ้ง อีกทั้งบริเวณทำเลที่ตั้งที่มีเส้นทางปั่นจักรยานมันส์ๆแบบว่าสายผจญภัยพลาดไม่ได้อย่างแรงเลยค่ะ

ราคา

เริ่มต้นที่ 12,960 เยน

การเดินทาง

จากสถานีฟูกูชิม่า  (Fukushima Station) นั่งรถบัสต่ออีกประมาณ 45 นาที

 

 

5. Takimi Onsen Takimi no Ie

เรียวกังสไตล์โมเดิร์นที่ดูเรียบหรูผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นอย่างลงตัว ตั้งอยู่ภายในเมืองคิโซะของจังหวัดนางาโนะ สำหรับคนที่อยากพักผ่อนจริงจังชอบแนวบ้านพักส่วนตัวเงียบๆอันนี้ใช่เลยค่ะ อ่างออนเซ็นของที่นี่จะมีความพิเศษตรงที่ใช้วัตถุจากต้นไม้จำพวกสนมาทำ ซึ่งทำให้ได้อีกฟิลลิ่งหนึ่งอ่างจากอ่างปกติทั่วๆไป แถมยังจะมีอ่างอาบน้ำวนแบบโอเพ่นแอร์ที่แช่ไปพร้อมชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของน้ำตกได้ในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญมีอ่างแบบส่วนตัวให้ได้แช่กันชิลๆไม่ต้องสนใจสายตาใครอีกต่างหาก  ความโดดเด่นอีกอย่างเห็นจะเป็นการทานอาหารค่ะ เพราะเค้าจะมีการทำเป็นเตาย่างสไตล์โบราณ เวลาเสิร์ฟทีเหมือนหลุดเข้าไปยุคก่อนเลยมันดีต่อใจมากๆ โดยเฉพาะเมนูปลาท้องถิ่นย่างที่เค้าจะปิ้งเลยสดๆตรงเตาที่นั่งลูกค้า เรียลกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

ราคา

เริ่มต้นที่ 29,000 เยน

การเดินทาง

จากสถานีนาจิโสะ (Nagiso Station) ต่อด้วยรถยนต์ใช้เวลาเดินทางประมาณ 18 นาที (สามารถแจ้งทางที่พักเพื่อของบริการรับส่งฟรีจากสถานีนี้ได้ โดยต้องแจ้งล่วงหน้าเท่านั้น)

 

 

6. Jigokudani Onsen Korakukan

เรียวกังสไตล์ธรรมชาติเรียลๆที่ลิงก็เข้ามาแจมได้ โดยตั้งอยู่ที่ภายในเมืองยามาโนอูจิ ซึ่งเมืองนี้เค้าขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์รวมไปถึงออนเซ็นลิงนั่นเองค่ะ ตัวเรียวกังเองถูกออกแบบมาเรียบๆง่ายๆเพื่อให้กลมกลมไปกับแมกไม้นานาพันธุ์ที่รายล้อมอยู่อย่างเนืองแน่น บอกเลยว่าที่นี่มาไม่ได้ง่ายๆนะคะเนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ด้านหลังของภูเขา เรียกได้ว่าเดินกันมันส์ไปเลยค่ะ แต่เชื่อว่าถ้ามาถึงนี่หายเหนื่อยแน่นอนเพราะเค้าสวยจริงจัง มีความเป็นธรรมชาติไม่ปรุงแต่งมาก แถมบริเวณออนเซ็นแบบโอเพ่นแอร์ยังจะมีเจ้าลิงรักสบายมาแช่ออนเซ็นโชว์ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งเดียวของญี่ปุ่นที่เราจะได้เห็นระยะประชิดขนาดนี้เชียวล่ะค่ะ ห้องอาบน้ำจะมีทั้งหมดสองห้องมีทั้งแบบกลางแจ้งผสมและแบบรวมที่เข้าได้เฉพาะคุณผู้หญิงเท่านั้นนะคะ ช่วงที่สวยที่สุดต้องยกให้เวลาพระอาทิตย์ตกมันเหมือนกับเราหลุดเข้ามาที่ดินแดนอันไกลโพ้นที่มีเพียงป่าไม้และความเงียบสงบ ยิ่งแช่ไปนอนฟังเสียงน้ำไหลไปเพลินอย่าบอกใคร ถ้าพูดถึงห้องพักมีไม่มากค่ะแค่ 13 ห้อง   ซึ่งมันก็จะให้ความเป็นส่วนตัวไม่วุ่นวายเหมาะสำหรับวันที่ต้องการการพักผ่อนจากทั้งงานและหลีกหนีจากความวุ่นวายจากโลกภายนอกอย่างแท้จริง

ราคา

เริ่มต้นที่ 12,000 เยน

การเดินทาง

สามารถสอบถามได้ที่เบอร์โทร  0269-33-4376 หรือได้ที่เว็บไซต์ http://www.jigokudanionsen.com/

 

 

7. Capsule Hotel Anshin Oyado Shinjuku

Anshin Oyado Premiere Shinjuku Ekimae

โรงแรมสไตล์แคปซูนแนวล้ำๆที่ตั้งอยู่ในแถบชินจูกุของโตเกียว ใกล้ๆกับ Kabukicho ย่านบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยที่นี่นั้นถือได้ว่าเป็น “โอเอซิสแห่งชินจูกุ” เชียวนะคะ เพราะสามารถมาแช่เมื่อไหร่ก็ได้ เนื่องจากออนเซ็นของที่นี่เค้าเปิดตลอด 24 ชั่วโมง แบบว่าร่างกายต้องการออนเซ็นเมื่อไหร่ก็แวะมาแช่ได้ตลอดๆ ที่สำคัญเค้ายังโอเคกับรอยสักทุกประเภท เรียกว่าจะมีรอยสักมากสักน้อยจัดมาค่ะได้ทุกสิ่ง แม้จะเป็นโรงแรมเล็กๆแต่บริการเค้าดีงามมากนะคะ มีบริการฟรีหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ซุปมิโซะ ขนมปัง ข้าวปั้น และเครื่องดื่มทั้งหมด 24 ชนิดแบบบุฟเฟ่ต์ (บริการเฉพาะช่วงเวลา 5:00 -10:00 น.) อินเทอร์เน็ต Wi-Fi เก้าอี้นวด ไมโครเวฟ  ปริ้นท์เอกสาร ที่อุดหู  ที่ครอบแว่นตา ผ้าขนหนู และชาเพื่อสุขภาพ

ราคา

เริ่มต้นที่ 1,580 เยน

การเดินทาง

จากสถานีชิจุกุ (Shinjuku Station) เดินเท้าอีกประมาณ 4 นาที

 

 

8. Kogashimaso

โรงแรมสไตล์เรียบง่ายตั้งอยู่ติดกับทะเลสาบซุยเกตสึ ภายในจังหวัดฟูกูอิ บรรยากาศทั้งเงียบสงบ พร้อมวิวทะเลสาบที่เวลาแช่ออนเซ็นไปได้ยลวิวแบบนี้ไปมันผ่อนคลายอย่างบอไม่ถูกไปเลยค่ะ ห้องพักของที่นี่เค้ามีกลางๆไม่เยอะมากประมาณ 25 ห้อง แต่บอกเลยว่าทุกห้องหันหน้าเข้าทะเลสาบหมดค่ะ เรียกได้ว่าไม่มีใครน้อยหน้าใครได้ชมกันทุกคนอย่างทั่วถึง ออนเซ็นจะมีการแยกชายหญิงชัดเจน รวมทั้งยังมีแบบโอเพ่นแอร์ให้ได้ชมวิวกันเต็มพิกัดด้วยนะคะ เมนูอาหารจำพวกปลานี่สดแบบสุดๆเนื่องจากส่วนมากเค้าจะจับมาจากทะเลสาบ แบบว่าทั้งวิวดี อาหารเด่น ออนเซ็นพร้อมเชียวล่ะค่ะ

ราคา

เริ่มต้นที่ 14,000 เยน

การเดินทาง

สามารถสองถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 0770-45-0255 หรือ http://www.wakasa-resort.jp/

 

 

9. Ryokan Uchidaya

เรียวกังสไตล์เรียบง่ายแวดล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ตั้งอยู่บริเวณแถบเดียวกับจุดสัญลักษณ์ที่เป็นทางประวัติศาสตร์อายุมากกว่า 1,200 ปีของแถบยานาสึภายในจังหวัดฟูกูชิมะ บอกเลยว่ามา 10 ครั้งพักที่เดิมก็ยังไหวเพราะเค้ามีการตกแต่งให้มีเอกลักษณ์ต่างกันไปทั้ง 10 ห้องที่เปิดให้บริการ แอบมีเสน่ห์เบาๆช่วงเช้าหรือเย็นที่จะมีเสียงระฆังดังกังหวานพาให้ใจสงบๆ เมนูอาหารที่จะเสิร์ฟดูเหมือนธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาด้วยความใส่ใจนะคะ เอาตั้งแต่ข้าวก็เลือกข้าวชั้นดีของท้องถิ่น วัตถุดิบอื่นๆก็เน้นตามฤดูกาลเลยจะสดใหม่มากเป็นพิเศษ ในส่วนของออนเซ็นก็มีทั้งแบบในร่มและโอเพ่นแอร์เปิดโล่งๆให้ได้แช่ไปด้วยชมวิวไปด้วยในเวลาเดียวกัน แถมแช่เสร็จยังสามารถมาเดินเล่นบริเวณรอบๆชมนั่นนี่เพลินๆได้อีกด้วยล่ะค่ะ

ราคา

เริ่มต้นที่ 10,800 เยน

การเดินทาง

จากสถานีไอซุ ยานะไอซุ (Aizu-Yanaizu Station) เดินเท้าต่อประมาณ 9 นาที

 

 

10. Takata Greenland Kumotori Onsen

เรียวกังสไตล์ญี่ปุ่นท่ามกลางบรรยากาศอันแสนเงียบสงบ ตั้งอยู่ภายในจังหวัดวากายาม่า ชอบความแตกต่างและความง่ายๆสบายๆต้องมาโดนซักครั้งค่ะ โดยน้ำพุร้อนที่นี่เค้ามีชื่อเสียงมากๆจะเป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติสีน้ำนมจางๆมีค่า  pH 9.7 แช่แล้วผิวนุ่มมากเว่อร์ จะมาค้างหรือเช้าไปเย็นกลับก็ได้ทั้งนั้นนะคะ ซึ่งส่วนมากคนจะนิยมแบบเช้าไปเย็นกลับซะมาก คิดดูว่าถ้าได้แช่ออนเซ็นไปฟังเสียงน้ำไหลเบาคลอๆจะดีซักแค่ไหน เค้ามีทั้งน้ำพุร้อนแบบรวมและแบบจากุซซี่ให้เลือกนะคะ แถมยังจะมีการอาบน้ำสมุนไพรท้องถิ่นชื่อว่า Tendai uyaku ที่หาได้เฉพาะแถบนี้อีกต่างหาก อยากเอาน้ำพุร้อนกลับไปเป็นที่ระลึกก็ทำได้ค่ะ โดยเราสามารถเอาน้ำพุร้อนความจุ  1 ลิตรกลับบ้านได้ในราคา 10 เยน เรียกได้ว่าเป็นเรียวกังสไจตล์คันทรีที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใครดีค่ะ

ราคา

เริ่มต้นที่ 30,000 เยน

การเดินทาง

จากสถานีชินกุ (JR Shingu Station) ต่อด้วยนั่งรถบัส Kumano Kotsu ใช้เวลาเดินทางประมาณ 26 นาที


วันหยุดสงกรานต์ ปี 2019 ดูดอกซากุระ Full Bloom ที่ไหนได้บ้าง
50 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ที่ทำให้ต้องไปแล้วไปอีก