8 สะพานแขวนชมธรรมชาติสุดหวาดเสียวของญี่ปุ่น 2567

Photo: cotaro70s from flickr.com/photos/cotaro70s/13101499044 [CC by 2.0]

ประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะเป็นหมู่เกาะรายล้อมไปด้วยทะเลที่อุดมสมบูรณ์และทรัพยากรธรรมชาติอันแสนสวยงาม ทั้งยังเต็มไปด้วยหุบเขาน้อยใหญ่จำนวนมาก จากการหุบเขาที่มีช่องเขาที่มีความลึกและแม่น้ำที่ไหลผ่าน ทำให้มีการสร้างมีสะพานแขวนมากมายหลายแห่ง ที่สามารถใช้ประโยชน์รวมไปถึงเป็นจุดที่ใช้ในการชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม ท่ามกลางความตื่นเต้นจากสะพานแขวนที่อาจมีการสั่นคลอนอยู่ตลอดเวลา ครั้งนี้เราได้รวบรวมเอาสะพานแขวนทั่วญี่ปุ่นที่แต่ละแห่งทั้งมีเอกลักษณ์ หวาดเสียว และมีวิวทิวทัศน์ที่มีเสน่ห์แตกต่างกันไป

1. สะพานโกโกโนเอะ ยูเมะ สึริบาชิ (Kokonoe’s Yume Tsuribashi Bridge)

สะพานโกโกโนเอะ ยูเมะ สึริบาชิ ตั้งอยู่ในเขตกุสุของจังหวัดโออิตะ นับเป็นสะพานแขวนแห่งแรกและมีความยาวมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น จากความยาว 390 เมตรและสูง 173 เมตร ท่ามกลางหุบเขาอันอุดมสมบูรณ์ เรียกได้ว่าวิวสวยจนแทบลืมหายใจ จนได้รับสมญานามว่า “Walkway to Heaven” สะพานที่เป็นเส้นทางแห่งสวรรค์บนดิน มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม ได้แก่ ทั่วไป (อายุมากกว่า 13 ปี ) 500 เยน เด็กอายุระหว่าง 6-12 ปี 200 เยน ต่ำกว่า 6 ปี สามารถเข้าได้ฟรี พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกมากกมาย อีกทั้งยังอยู่ระหว่างจุดท่องเที่ยวน้ำตกชั้นนำ “อาทิ น้ำตกชินโด (Shindo Falls) และน้ำตกโอดะกิ (Odaki Falls)”  หากคุณไม่กลัวความสูงและต้องการสัมผัสประสบการณ์ชมวิวทิวทัศน์แบบหวาดเสียวนิดๆ  ไม่ควรพลาดสะพานแห่งนี้ด้วยประการทั้งปวง

สถานที่ตั้ง : 1208 Tano, Kokonoe-cho, Kusu-gun, Oita

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟบังโกะ-นาคามุระ (Bungo-Nakamura Station) สาย Kyudai Main Line แล้วต่อด้วยรถบัส

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.yumeooturihashi.com

2. สะพานซะโอะ (Zaoh Bridge)

สะพานซะโอะ ตั้งอยู่ในเขตอะริดะกะว่าของจังหวัดวากายะม่า สะพานมีสีแดงเข้มทำให้โดดเด่นสะดุดตา มีความยาว 160 เมตร ตั้งอยู่เหนือเขื่อนฟุตะกะวะ (Futagawa) ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จะได้ชมดอกซากุระบานสะพรั่ง รวมทั้งยังมีเสน่ห์ที่สวยงามแตกต่างกันไปในทุกๆฤดูกาล และที่นี่ยังถือเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากเมื่อมาเยือนยังจังหวัดวากายะม่าอีกด้วย

สถานที่ตั้ง : 〒643-0542 Futagawa, Aridagawa-cho, Arida-gun, Wakayama

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟวากายะม่า (Wakayama Station) ต่อด้วยรถบัส ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.town.aridagawa.lg.jp/kankokyokai/saijiki/haru/148.html

Photo by Akiyoshi’s Room from commons.wikimedia.org/wiki/File:Zaoubashi_Aridagawa_Wakayama_PA070873.jpg [Public Domain]

3. สะพานทานิเสะ โนะ สึริบาชิ (Tanize no Tsuribashi Suspension Bridge)

สะพานทานิเสะ โนะ สึริบาชิ ตั้งอยู่ในเขตโยชิโนะของจังหวัดนาระ นับเป็นสะพานที่มีความยาวมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นด้วยความยาว 297.7 เมตร ระดับความสูง 54 เมตร มีพื้นที่ให้เดินอยู่น้อย อยู่เหนือแม่น้ำโทซึกาวะ (Totsukawa) ที่ไหลผ่านหุบเขากว้าง ตัวตัวพื้นไม้ทำจากวัสดุไม้ ยึดด้วยสายเคเบิ้ลที่มีความสลับซับซ้อนเชื่อมต่อระหว่างอูเอโนะจิกับทานิเซะ และจากความยาวของสะพานเวลาเดินจึงทำให้มีความสั่นมาก จึงนับว่าเป็นท้าทายความสามารถของผู้เดินสุดๆ แต่ก็คุ้มค่ากับวิวทิวทัศน์หุบเขาแบบพาโนราม่า ทั้งนี้บริเวณจุดเริ่มต้นของสะพานยังมีร้านขายกาแฟที่สามารถนั่งพักชมวิวแบบชิลล์ๆได้ ช่วงสวยที่สุดในการมาชมวิวบนสะพานคือ ฤดูใบไม้ผลิหรือปลายฤดูใบไม้ร่วง และช่วงต้นเดือนสิงหาคมจะมีการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจของทีมกลอง ไทโกะ (和太鼓) ที่จะทำการแสดงบนสะพานให้ชมอีกด้วย

สถานที่ตั้ง : 〒637-1106 Totsukawa-mura, Yoshino-gun, Nara

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟโยชิโนะ (Yoshino Station) นั่งรถยนต์ต่อใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://totsukawa.info/joho/kanko

Photo by Nkns from commons.wikipedia.org/wiki/ファイル:Tanise_no_tsuribashi.jpg [CC by 3.0]

4. สะพานคิมุทาเตะอิวะ สึริบาชิ (Kinutateiwa Tsuribashi Suspension Bridge)

สะพานคิมุทาเตะอิวะ สึริบาชิ ตั้งอยู่ในเมืองนิกโก เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในทิวเขาในจังหวัดโทะชิงิ มีความยาว 140 เมตร ระดับความสูง 40 เมตร อยู่ไม่ไกลจากคินุกาว่า ออนเซ็น (Kinugawa Onsen) มากนัก โดยสามารถชมวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ตัดสลับกับความเป็นเมือง ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ อีกทั้งยังมีที่พักพักผ่อนบริเวณจุดเริ่มต้น ให้สามารถนั่งผ่อนคลายพร้อมชมวิวสบายๆ

สถานที่ตั้ง : Kinugawaonsen-ohara, Nikko, Tochigi/Kinugawaonsen-taki, Nikko, Tochigi

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟคินุกาว่า ออนเซ็น (Kinugawa Onsen Station) เดินต่ออีกใช้เวลาประมาณ 15 นาที

Photo by 掬茶 from commons.wikimedia.org/wiki/File:Kinu-Tateiwa_Ō-Tsuribashi_bridge.jpg [CC by-sa 3.0]

5. สะพานมิโนะบาชิ (Minobashi Bridge)

สะพานมิโนะบาชิ ตั้งอยู่ในเมืองมิโนะของจังหวัดกิฟุ นับเป็นสะพานแขวนที่มีความเก่าแก่แห่งหนึ่ง ที่ได้ทำการสร้างเสร็จสมบูรณ์ในเดือนสิงหาคมปี ค.ศ. 1916 มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ มีความยาว  116 เมตร ความกว้าง กว้าง 3.1 เมตร สามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำนากะระ (Nagara) โดยเป็นที่นิยมทั้งการเดินเพลินๆหรือแม้กระทั่งปั่นจักรยานรับลมเย็นๆ รวมทั้งได้รับการยอมรับว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และยังเป็นจุดยอดนิยมในการชมใบไม้เปลี่ยนสีของจังหวัดกิฟุอีกด้วย

สถานที่ตั้ง : 〒501-3741 Mino City, Gifu Prefecture

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟมิโนะ-โอตะ (Mino-Ota Station) สาย Nagaragawa Tetsudo ต่อด้วยรถยนต์หรือรถประจำทางใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที หรือจากสถานีรถไฟอูเมะยามะ (Umeyama Station) เดินต่ออีกประมาณ 16 นาที ระยะทาง 1.3 กิโลเมตร

Photo by Alpsdake from commons.wikimedia.org/wiki/File:Mino_Bridge_over_Nagara_River_s2.jpg [CC by-sa 4.0]

6. สะพานไอยะ โนะ คาซุระ (Iya no Kazura Bridge)

สะพานไอยะ โนะ คาซุระ ตั้งอยู่ในเมืองมิโยชิของจังหวัดโทะกุชิมะ สะพานนี้มีความพิเศษกว่าแห่งอื่นๆจากการที่ใช้เถาวัลย์ของพื้นท้องถิ่นที่มีความเหนียวแน่นและแข็งแรง นำมาใช้สร้างตัวสะพานทำให้มีลักษณะที่แปลกแตกต่างจากที่อื่น มีความยาว 45 เมตร กว้าง 2 เมตร และมีความสูง 14 เมตร ด้านล่างเป็นลำธาร รายล้อมไปด้วยป่าเขาแมกไม้นานาพันธุ์ แต่เดิมสะพานถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการอำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างหุบเขา Miyama Kagae และจะมีการสร้างใหม่ทุกๆสามปี แต่ในปัจจุบันมีการบูรณะทำให้สะพานมีความคงทนปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเน้นไปที่เป็นจุดชมวิวธรรมชาติ โดยจะมีการเก็บค่าเข้าผู้ใหญ่ราคา  550 เยน ส่วนเด็ก ราคา 350 เยน

สถานที่ตั้ง : 162-2 Seondeok , Miyoshi ,Tokushima

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟโอโบะเกะ (Oboke Station) ต่อด้วยรถบัสลงที่ป้าย Kazurabashi เดินต่ออีกประมาณ 5 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.miyoshinavi.jp

Photo by 京浜にけ from commons.wikimedia.org/wiki/File:Tokushima_Miyoshi_Okuiya_Double_Kazurabashi_3.JPG [CC by-sa 3.0]

7. สะพานสวนอุเมะโนะคิโตะโดโระ (Umenokitodoro Park’s Suspension Bridge)

สะพานสวนอุเมะโนะคิโตะโดโระ ตั้งอยู่ในเมืองยัตสูชิโร่ของจังหวัดคุมาโมโตะ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1998 มีความสูง 116 เมตร ความยาว 55 เมตร แวดล้อมด้วยป่าไม้และขนาบด้วยหุบเขาสูง โดยมีการบูรณะดูแลรักษาอยู่เสมอเพื่อให้มีความมั่นคงแข็งแรง เดิมทีสะพานแห่งนี้สร้าขึ้นเพื่อใช้ในการเดินทางไปยังน้ำตกอุเมะโนะคิโตะโดโระ (Umenokitodoro Falls) หากปัจจุบันกลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวและจุดชมวิวธรรมชาติที่งดงามแห่งหนึ่งของจังหวัดคุมาโมโตะ

สถานที่ตั้ง : Yasushiro City, Kumamoto Prefecture

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟยัตสูชิโร่( Yasushiro Station) ต่อด้วยรถยนต์หรือรถบัส

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.city.yatsushiro.lg.jp/

Photo by STA3816 from commons.wikimedia.org/wiki/File:Umenokitodoro_Park_Suspension_Bridge.jpg [CC by-sa 3.0]

8. สะพานโยเมะ โนะ สึริบาชิ (Yume no Tsuribashi Suspension Bridge)

สะพานโยเมะ โนะ สึริบาชิ ตั้งอยู่ที่ช่องเขาสุมะตะเคียวในจังหวัดชิซุโอกะ บริเวณที่ตั้งนั้นเป็นจุบบรรจบกันของแม่น้ำโอมะและแม่น้ำสุมะตะ ทำให้เกิดเป็นทัศนียภาพที่งดงามทั้งจากวิวทิวทัศน์ของป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์และผิวน้ำสีเขียวมรกตใสที่หาได้ยากในญี่ปุ่น สะพานข้ามแม่น้ำแห่งนี้มีการออกแบบให้มีความโปร่งตรงพื้นที่สำหรับเดินมีความยาว 90 เมตร ความสูง 8 เมตร บวกกับลักษณะของสะพานแขวนที่มีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา ทำให้มีการจำกัดคนเดินได้ครั้งละ 10 คนท่านั้น จากการที่สะพานระหว่างจุดเชื่อมต่อธรรมชาติหลายอย่าง ทำให้นับเป็นจุดชมธรรมชาติที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีท่ามกลางท้องน้ำใสเขียวมรกต จนได้รับการโหวตให้ติด 1 ใน 100 ธรรมชาติที่ควรต้องรักษาไว้ในศตวรรษที่ 21 และติด 1 ใน 100 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ที่สวยงามมากที่สุดของญี่ปุ่น นอกจากนี้หากเดินไปอธิฐานเกี่ยวกับความรักตรงกลางสะพานก็จะทำให้ความความรักนั้นสมหวังอีกด้วย

สถานที่ตั้ง : Haibara-gun, Kawanehon-cho, Shizuoka Prefecture

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟเซ็นซุ (Senzu Station) สาย Oigawa Railway Line ต่อด้วยรถบัสไปลงยังสุมะตะออนเซ็น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 30 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.sumatakyo-spa.com

Photo by Morigen from commons.wikimedia.org/wiki/File:Yume_no_tsuribashi.JPG [CC by-sa 3.0]