รีวิว วิธีการสั่งซื้อ JR Pass แบบออนไลน์ง่ายๆ ในราคาประหยัดกับ KKDay

Photo: Antonio Tajuelo [CC BY-sa 2.0] from flickr.com/photos/antoniotajuelo/14781324931
ในบทความนี้เราจะมาแนะนำการสั่งซื้อ ตั๋ว JR Pass ออนไลน์ แบบ how-to step by step กันเลย กับเว็บไซต์ KKDay.com ที่เป็นเอเจนซี่ขายตั๋วท่องเที่ยวต่างๆหลากหลายรูปแบบ และราคาก็ไม่แพง แถมยังมีคนคอยซัพพอร์ทตลอด 24 ชม.ด้วย ข้อดีนอกจากนี้ก็คือเราสามารถจะเลือกรับของได้ที่ทั้งสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง หรือจะไปรับก่อนล่วงหน้าที่สถานี BTS อโศกที่ใจกลางเมืองเลยก็ได้เช่นกัน ถึงวิธีการจองจะค่อนข้างง่ายแบบเข้าไปจองกันเองเลยก็ไม่น่าจะงงอะไร แต่เราก็ทำรีวิวการจองเอาไว้ให้เผื่อใครจะอยากดูกันเป็นแนวทางก่อนจองจริง ว่าแล้วเราไปดูกันเลยว่าจะมีขั้นตอนอะไรกันบ้าง
*** หมายเหตุที่สำคัญจากเว็บของ KKDay คือให้ระบุสถานที่และเวลาให้ตรงกับวันที่เราจะไปรับ ตามข้อความนี้เลยคร้าบบบ
“กรุณาเลือกวันให้ตรงกับวันที่คุณต้องการไปรับสินค้า และกรุณาระบุเคาน์เตอร์ที่คุณต้องการไปรับสินค้าที่สนามบินหรือสถานีบีทีเอสลงในส่วน ‘หมายเหตุ’ เมื่อทำการจอง (กรุณาไปรับสินค้าให้ตรงกับวันที่คุณเลือก)”
ขั้นแรกของคนจะซื้อ JR Pass แบบทั่วญี่ปุ่น ก็กดเข้าไปที่ลิงค์นี้ https://bit.ly/2Juabf4 หรือถ้าสนใจแบบเฉพาะพื้นที่เข้าไปเลือกพาสทั้งหมดได้จากลิงค์นี้ https://bit.ly/2Lk9KBq ครับ

เข้าไปหน้าสั่งซื้อ JR Pass แบบทั่วประเทศญี่ปุ่น(All Japan)

เลือกวันที่เราต้องการจะไปรับบัตร JR Pass

จากนั้นก็เลือกประเภทและจำนวนของพาสที่เราต้องการ แล้วกดปุ่ม “จองเลย” ด้านขวา

ถ้าใครยังไม่ได้ สมัครสมาชิกหรือ login ก็ให้ทำก่อนเพื่อจะได้เก็บเป็นของมูลของเราด้วยครับ
ให้กรอกรายละเอียดต่างๆให้ครบถ้วนครับ โดยเฉพาะที่ช่องหมายเหตุ ในส่วนของ “ข้อมูลผู้เดิน” ให้ใส่ไปด้วยว่าเราต้องการไปรับของที่ไหนนะครับ เช่น ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หรือที่ BTS อโศก เป็นต้น ซึ่งเมื่อเราใส่ข้อมูลและทำการชำระเงินเรียบร้อยแล้วก็ถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้นการสั่งซื้อทันที

จากนั้นก็จะเป็นหน้าให้กรอกข้อมูลต่างๆของเรา และของผู้ใช้บัตรให้ถูกต้อง รวมทั้งเลือกสถานที่รับพาสในช่องหมายเหตุด้วยนะครับ

เมื่อกรอกข้อมูลและทำการชำระเงินเรียบร้อยแล้วก็จะได้หน้านี้ออกมา เป็นอันว่าเสร็จสมบูรณ์

แล้วก็จะมีอีเมลส่งให้เราหน้าตาเป็นแบบนี้อีกทีด้วยครับ
ตรงนี้อย่างที่บอกว่าเราเลือกไปรับได้ทั้งในเมืองและที่สนามบิน ถ้าในเมืองก็จะเป็นการไปรับที่ Skybox บนสถานี BTS โดยเราแค่นำเอาบัตรประชาชนไปก็รับใบ Exchange Order มาได้เลย

ก่อนถึงวันที่เรานัดรับของหนึ่งวันเราจะได้รับ SMS มาแบบในรูปเลยครับ

ถ้าเราไปรับที่ Skybox ก็จะมีหน้าตาแบบนี้ เราก็ไปแจ้งเค้าได้เลย ใช้แค่บัตรประชาชน

พอได้มาแล้ว แพคเกจก็จะเป็นประมาณนี้เลยคร้าบบ
หรือเราอาจจะเลือกไปรับที่สนามบินในวันที่เราจะออกเดินทางเลยก็ได้เหมือนกันครับ โดยสามารถไปรับได้ที่ 7-11 ของแต่ละสนามบินทั้ง สุวรรณภูมิและดอนเมืองเลยครับ

ถ้าเลือกเราที่สนามบินก็จะมี SMS มาเหมือนกัน ประมาณนี้ครับ

ที่สนามบินทั้งสุวรรณภูมิและดอนเมือง จะเป็นการไปรับที่ 7-11 ครับซึ่งก็เหมือนกันกับ Skybox คือใช้บัตรประชาชนครับ

ที่สนามบินทั้งสุวรรณภูมิและดอนเมือง จะเป็นการไปรับที่ 7-11 ครับซึ่งก็เหมือนกันกับ Skybox คือใช้บัตรประชาชนครับ
หลังจากที่เราได้รับ Exchange Order มาแล้ว เราก็แค่นำไปแลกเป็นพาสตัวจริงได้ที่สถานีรถไฟ JR ที่ประเทศญี่ปุ่นได้เลยครับ
เป็นอันว่าจบครบทุกกระบวนการแล้ว ใครมั่นใจแล้วก็ไปเข้าไปดูที่ราคาและรายละเอียดที่หน้าเว็บกันได้เองเลยนะครับ ใครจะซื้อ JR Pass แบบทั่วญี่ปุ่น ก็กดเข้าไปที่ลิงค์นี้ https://bit.ly/2Juabf4 หรือถ้าสนใจแบบเฉพาะพื้นที่เข้าไปเลือกพาสทั้งหมดได้จากลิงค์นี้ https://bit.ly/2Lk9KBq ครับ
*** แถมท้ายหน่อยครับ เผื่อใครยังไม่รู้จักกับ JR Pass ว่าคืออะไร มันก็คือบัตรเบ่งระดับสุดที่ใช้ขึ้นรถไฟได้ทั่วญี่ปุ่น ทุกแบบซึ่งรวมรถไฟความเร็วสูง หัวกระสุนชินคันเซน ไปจนถึงรถบัสและเรือเฟอรี่ที่เป็นบริการจาก JR หรือการรถไฟญี่ปุ่นทั้งหมดด้วย เรียกว่าใบเดียวเที่ยวทั่วเลย ซึ่งก็จะมี option ให้เราเลือกหลายแบบ ทำให้ราคาก็แตกต่างกันไป เช่น ระยะเวลา, พื้นที่การให้บริการ และ การเลือกใช้รถไฟแบบหรู เป็นต้น
โดยปกติการซื้อ JR Pass จะเป็นการซื้อภายในประเทศไทยซึ่งจะได้ตั๋วแลกเปลี่ยนหรือที่เรียกว่า Exchange Order มาเพื่อนำไปแลกเป็น พาสตัวจริงที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันก็มีให้เลือกทั้งการไปซื้อกับเอเจนซี่ทั้งหลายรวมถึงการสั่งซื้อทางออนไลน์ที่สะดวกกว่าด้วยเช่นกัน
เผื่อใครยังไม่มั่นใจ เรามารู้จักกับ KKDay.com กันซักนิดนะครับ โดย KKDay เป็นเว็บไซต์ท่องเที่ยว E-commerce ที่มาจากไต้หวันครับ ปัจจุบันมีสาขา Office หลายแห่งรวมทั้งประเทศไทยด้วย เวลามีปัญหาอะไรจึงมีคนไทยคอยให้การช่วยเหลือ สอบถามพูดคุยได้อย่างสะดวก ถึงแม้ว่าเขาจะมีตั๋วหรือบัตรพาสขายหลายอย่าง แต่สินค้าหลักที่น่าสนใจจะเป็นบริการทัวร์จากคนท้องถิ่นต่างๆมากกว่า ทั้งที่ไปตามสถานที่ฮิตๆและสถานที่ที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักให้เลือกค่อนข้างมาก เปิดมาตั้งแต่ปี 2014 ก็คงเรียกได้ว่าน่าเชื่อถือมากระดับหนึ่งเลยทีเดียวเลยครับ