แนะนำ โรงแรมที่พัก โตเกียว ญี่ปุ่น อัพเดตล่าสุด

10 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในภูมิภาคชูบุ ศูนย์รวมวัฒนธรรม และธรรมชาติอันสมบูรณ์ 2567

บทความนี้เป็น Advertorial Content เนื้อหา ข้อมูล และรูปภาพทั้งหมดมาจากผู้สนับสนุน เว็บไซต์นี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบใดๆ

อัพเดตล่าสุดเมื่อ 2 ธันวาคม 2565

 

10 พิกัดแหล่งท่องเที่ยวสุดฟินในภูมิภาคชูบุหรือภาคกลางของญี่ปุ่น ที่คุณสามารถใช้เป็นจุดศูนย์กลางในการเดินทางต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ ในภูมิภาคชูบุและใกล้เคียงได้อย่างสะดวกสบายจากเมืองนาโกย่า หลังจากลงเครื่องบินที่สนามบินชูบุ เซ็นแทรร์ นาโกย่า ด้วยเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยสถานที่อันเป็นเอกลักษณ์ วัฒนธรรมและธรรมชาติ ที่เรียกได้ว่าเที่ยวทริปนี้ทริปเดียว ไม่ว่าจะมาเที่ยวกับแก๊งเพื่อน คนรู้ใจ หรือครอบครัว ก็ได้สัมผัสความญี่ปุ่นแบบครบรสไปเลย อาทิ หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ หนึ่งในออนเซ็นชื่อดัง เกโระ ออนเซ็น พิพิธภัณฑ์นินจาอิงะ กระท่อมอามะซัง ฯลฯ

การเดินทางไปภูมิภาคชูบุ มีเที่ยวบินตรงสู่นาโกย่าถึง 5 เที่ยวบินต่อวัน กับสายการบินหลักอย่าง TG, JAL และ Air Asia X และเร็วๆ นี้ Thai Lion Air ก็กำลังจะเปิดให้บริการบินตรงด้วย เดินทางง่ายขนาดนี้ รีบไปเที่ยวชูบุกันเลยดีกว่า

 

ชิราคาวาโกะ (Shirakawago) จังหวัดกิฟุ

หมู่บ้านโบราณกลางหุบเขาอันสวยงามที่ได้รับการคัดเลือกจากองค์การ UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1995 ให้เป็นหมู่บ้านมรดกโลก ด้วยบ้านที่ปลูกสร้างแบบญี่ปุ่นโบราณทรงกัสโช บางหลังมีอายุมากกว่า 250 ปี ใช้วัสดุในการสร้างจากธรรมชาติทั้งหมด ไม่มีการใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว หลังคามุงด้วยต้นหญ้าที่ปลูกในหมู่บ้านและมีความชันถึง 60 องศาเพื่อป้องกันหลังคาพังทลายเมื่อหิมะตกหนัก หมู่บ้านชิราคาวาโกะแห่งนี้ประกอบไปด้วยบ้านประมาณ 200 หลังที่ยังมีชาวบ้านอาศัยอยู่จริง และบางหลังเปิดเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสประสบการณ์ค้างคืนในบ้านโบราณแบบกัสโชอีกด้วย

การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ลงที่สถานีทาคายาม่า (Takayama Station) แล้วเดินไป 2 นาที เพื่อสถานีต่อรถบัส Nohi Bus ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงถึงชิราคาวาโกะ

 


เมืองเก่าทาคายาม่า (Takayama Old Town) จังหวัดกิฟุ

ย่านเมืองเก่าในอ้อมกอดแห่งภูเขาในจังหวัดกิฟุ ที่ยังคงบรรยากาศสุดคลาสสิกและสภาพบ้านเรือนโบราณของญี่ปุ่นที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ยังคงมีให้เห็นได้บริเวณถนนซันโนะมาจิและตามตรอกซอยบริเวณวัดต่างๆ และนอกจากนี้คุณยังสามารถเช่าชุดกิโมโนใส่เพื่อเดินเล่นถ่ายรูป พร้อมแวะร้านรวงสองข้างทางได้อย่างเพลิดเพลิน

การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ลงที่สถานีทาคายาม่า (Takayama Station) แล้วเดินต่ออีก 12 นาที

 


เกะโระ ออนเซ็น (Gero Onsen) จังหวัดกิฟุ

ชุมชนเก่าแก่ “เกะโระ ออนเซ็น” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำฮิดะ เกิดขึ้นเมื่อราว 400 ปีก่อนในช่วงยุคเอโดะ เป็นแหล่งรวมของบ่อน้ำร้อนออนเซ็นจำนวนมาก ซึ่งบางแห่งเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง และบางแห่งนักท่องเที่ยวสามารถแช่เท้าเพื่อผ่อนคลายได้ฟรี คุณสามารถเลือกพักผ่อนที่เรียวกัง เพื่อสัมผัสประสบการณ์ในการแช่น้ำร้อนพร้อมชมทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองและเทือกเขา จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งบริเวณนี้คือ หมู่บ้านโบราณเกะโระ ทางด้านเหนือของเมืองที่มีบ้านแบบญี่ปุ่นโบราณกัสโชประมาณ 10 หลัง

การเดินทาง : นั่งรถไฟด่วนพิเศษ JR Wide View สายฮิดะ มาลงที่สถานีเกะโระ (Gero Station) ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 50 นาที

 


พิพิธภัณฑ์นินจาอิงะ (Iga Ninja Museum) จังหวัดมิเอะ

พิพิธภัณฑ์นินจาอิงะ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านที่เป็นต้นกำเนิดนินจาของประเทศญี่ปุ่น โดยในศตวรรษที่ 15 หมู่บ้านแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ฝึกวิชาให้กับเหล่านินจาตระกูลอิงะ ที่มีชือเสียงโด่งดังและเป็นตำนานของนินจาญี่ปุ่น ปัจจุบันมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงวิธีการฝึกฝนวิชาและทักษะการเป็นนินจามืออาชีพในสมัยก่อน พร้อมด้วยบ้านพักอาศัยและเครื่องใช้นินจา ส่วนแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับอาวุธและอุปกรณ์ของนินจาโบราณ ทั้งนี้ยังมีการแสดงโชว์อันน่าตื่นตาตื่นใจเกี่ยวกับนินจาให้ชมอีกด้วย

การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Kintetsu Limited Express ลงที่สถานี Iga-Kambe แล้วนั่งรถไฟสาย Iga Railway ไปลงที่สถานี Ueno-shi แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที

 


หินแต่งงาน Futami meoto iwa (Wedding Rock) จังหวัดมิเอะ

หินที่มีรูปร่างเป็นเอกลักษณ์ดูคล้ายกับการสวมด้ายมงคลของคู่บ่าวสาวในพิธีแต่งงาน โดยมีหินก้อนหนึ่งเล็กและอีกก้อนหนึ่งใหญ่ตั้งอยู่ในทะเลริมชายฝั่ง หินทั้งสองถูกคล้องด้วยเชือกซานาวิและเทพเจ้าอิซานามิ (Izanami no Okami) ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นผู้สร้างสรรพสิ่งบนโลกและเป็นผู้ให้กำเนิดเทพเจ้าทั้งหลาย ด้วยลักษณะของหินคู่ดังกล่าวทำให้ทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวเดินทางมาเพื่อสักการะและขอพรเกี่ยวกับความรัก ด้านคู่ครอง โดยคนโสดจะขอพรให้เจอเนื้อคู่และคนที่มีคู่หรือคู่แต่งงานจะขอพรเพื่อให้มีความรักที่ยืนยาวอย่างมีความสุข

การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ลงที่สถานี Futaminoura Station และนั่งแท็กซี่ต่อประมาณ 10 นาที

 


กระท่อมอามะซัง Hachiman Kamado จังหวัดมิเอะ

สถานที่ที่นักดำน้ำหรืออามะซังแบบดั้งเดิมมาพักผ่อนและคลายหนาวหลังจากดำน้ำ  โดยภายในบ้าน จะมีเหล่าอามะซังคอยยินดีต้อนรับ พร้อมบริการปรุงอาหารทะเลสดๆ ย้ำว่าสดมากๆ ให้ชิมกันอย่างเต็มอิ่ม อาทิ ล็อบสเตอร์ หอยเป๋าฮื้อ หอยซาซาเอะ ปลาไท ปลาหมึก ฯลฯ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ซุปมิโสะ ซึ่งเราสามารถเลือกรับประทานเซ็ตอาหารทะเลมื้อกลางวันชุดเล็กชุดใหญ่ได้ตามต้องการ แล้วอามะก็จัดการเสิร์ฟความสดอร่อยให้เราอิ่มจนพุงกาง นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกับอามะซังแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำน้ำอย่างใกล้ชิด แถมได้ลองแต่งตัวเป็นอามะซังได้ด้วยล่ะ

การเดินทาง : รถรับส่งให้บริการฟรีระหว่างสถานีรถไฟ Toba และกระท่อมอามะซังสำหรับผู้จองทัวร์เยี่ยมชม

ราคา : ราคาอาหารต่อคอร์สเริ่มต้นที่ 3,780 เยน

 


ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Shrine) จังหวัดมิเอะ

ศาลเจ้าชินโตที่ที่เลื่องชื่อด้านความศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งในทุกปีจะมีชาวญี่ปุ่นเดินทางมาสักการะมากถึง 7 ล้านคนทีเดียว ตั้งอยู่ในเมืองอิเสะ จังหวัดมิเอะ ท่ามกลางป่าสนแสนเงียบสงบ  การมาสักการะขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้เริ่มจากศาลเจ้าด้านนอกที่เรียกว่า เกะคู (Geku) จากนั้นจึงข้ามสะพานอุจิบาชิ (Ujibashi Bridge) มุ่งไปยังศาลเจ้าด้านในหรือไนคู (Naiku) โดยตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอซูซุ (Isuzu River) เพื่อสักการะเทพเจ้า อะมะเทะระสุ (Amaterasu) ที่เชื่อกันว่าเป็นเทพสูงสุดของญี่ปุ่นคือ เทพแห่งดวงอาทิตย์ ผู้คอยปกป้องคุ้มครองชาวญี่ปุ่นให้แคล้วคลาดปลอดภัยและร่มเย็น ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่อายุกว่า 2,000 ปี และที่สำคัญทุกๆ 20 ปี จะมีพิธีการอัญเชิญเทพเจ้าไปสถิตยังศาลแห่งใหม่ ที่สืบทอดมากว่า 1,300 ปีจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ตรงบริเวณก่อนทางเข้าศาลเจ้าด้านในหรือไนคู ยังมีย่านเมืองเก่า โอฮะไรมะชิ (Oharai-machi) ด้วยบรรยากาศอาคารบ้านเรือนสถาปัตยกรรมเก่าในสมัยเอโดะและสมัยเมจิขนาบสองข้างทางถูกปรับเปลี่ยนเป็นถนนช็อปปิ้ง ความยาวถึง 800 เมตร เต็มไปด้วยร้านรวงมากมายที่ยังคงเสน่ห์ดั้งเดิมเอาไว้ อาทิ ร้านอาหาร ร้านขนมหวาน ร้านขายสินค้าที่ระลึก ให้เลือกชิม ช็อป และมีอาคาร Okage-yokocho ตั้งอยู่ใจกลางถนนที่มุ่งหน้าสู่ศาลเจ้าอิเสะ ซึ่งบริเวณนี้มีการแสดงกลองญี่ปุ่น แสดงภาพเรื่องราว kamishibai และพิพิธภัณฑ์ Okageza ที่แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับการแสวงบุญของอิเสะ ให้คุณได้เพลิดเพลินอีกด้วย

การเดินทาง : นั่งรถบัส JR หรือ Kintetsu มาลงที่สถานี Iseshi แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที

 


โกไซโช โรปเวย์ Gozaisho Ropeway จังหวัดมิเอะ

ภูเขาโกไซโช มีความสูงราว 1,212 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ทุกฤดู ซึ่งสามารถนั่งกระเช้าชมวิวมุมสูง หรือ Gozaisho Ropeway ที่จะพาทุกคนไปชมทิวทัศน์ของภูเขาในมุมมองใหม่ๆ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่คุณจะได้ชมความงามของใบไม้สีส้มแดงเต็มภูเขาสุดอลังการ รวมทั้งในฤดูหนาว ภูเขาโกไซโชจะถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา ก็สวยงามไปอีกแบบ

การเดินทาง : นั่งรถไฟ Kintetsu สาย Yokkaichi ไปลงที่สถานี Kintetsu Yunoyama Onsen Station แล้วนั่งรถบัส Mie Kotsu bus อีก 8 นาที ไปลงสถานี Sanko Yunoyama Onsen Station จากนั้นเดินต่อไปอีก 10 นาทีไปที่โรปเวย์

 


สวนนาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana  no Sato) จังหวัดมิเอะ

สวนดอกไม้ขนาดใหญ่บนเนื้อที่ราว 3 แสนตารางเมตร อันเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิดที่จะผลิบานตามฤดูกาลตลอดทั้งปี สาวๆ ที่ชื่นชอบดอไม้ต้องลองมาสัมผัสสักครั้ง แต่ไฮไลท์สำคัญห้ามพลาด คือ งานอิลลูมิเนชั่นยิ่งใหญ่อลังการของแสงไฟที่จัดขึ้นในช่วงฤดูหนาวของทุกปียาวไปจนถึงเดือนพฤษภาคม โดยแต่ละปีก็จะมีธีมของการประดับไฟแตกต่างกันไป ที่เดินชมได้ไม่รู้เบื่อ ถ่ายรูปสวยมากๆ โดยเฉพาะทางเดินในอุโมงค์ไฟที่มีบรรยากาศแสงไฟระยิบระยับรอบตัวสวยงามราวกับอยู่ในความฝัน

การเดินทาง : จากสถานีคุวานะ (Kuwana Station) นั่งรถบัส Mie Transportation ประมาณ 10 นาที ลงที่ป้ายนาบานะ โนะ ซาโตะ

 


ย่านช็อปปิ้งซากาเอะ (Sakae Area Nagoya) เมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ

ย่านซากาเอะเป็นแหล่งช็อปปิ้งหลักใจกลางเมืองนาโกย่าที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินสำรวจและซื้อของได้อย่างสะดวกสบาย มีห้างสรรพสินค้าอยู่ชั้นใต้ดินเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีซากาเอะ เพียบพร้อมไปด้วยร้านค้าหลากหลายเหมาะกับทุกช่วงวัยตั้งแต่เด็ก หนุ่มสาว ไปจนถึงผู้สูงอายุ เป็นสถานที่สำหรับการช็อปปิ้งกับครอบครัวหรือเพื่อนๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่มากมายให้เลือกรับประทาน ย่านนี้ยังมีตึก “โอเอซิส 21” ที่มีรูปทรงทันสมัยคล้ายยานอวกาศ ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์กของย่านนี้เลยก็ว่าได้ ที่ชั้นใต้ดินของตึกเป็นแหล่งสังสรรค์ยอดนิยมเนื่องจากมีร้านอาหารและคาเฟ่มากมาย

การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Meijo Line มาลงสถานี Sakae

 


วิธีการเดินทางจากสนามบินชูบุ เซ็นแทรร์ เข้าสู่เมืองนาโกย่า

1. รถไฟ – เดินทางด้วยรถไฟสาย Meitetsu Railways จากสนามบิน (สถานี Central Japan International Airport) ไปยังสถานี Nagoya (ไม่มีรถไฟ JR ให้บริการ) ใช้เวลาเดินทางดังต่อไปนี้

            รถด่วน  “μ-SKY” (อ่านว่า MU-Sky) ใช้เวลาเดินทาง 28 นาที

            รถไฟ Limited Express ใช้เวลาเดินทาง 35 นาที

            รถไฟ Semi Express ใช้เวลาเดินทาง 48 นาที

2. รถบัส – เดินทางเข้าเมืองนาโกย่าและเมืองอื่นด้วยรถบัส Meitetsu Bus ซึ่งสามารถเลือกปลายทางในเมืองได้ 2 แห่ง คือ สถานีรถบัส Meitetsu Bus Center ติดกับสถานีรถไฟ Nagoya และสถานีรถบัส Sakae Bus Terminal (ตึกโอเอซิส 21) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที

3. รถแท็กซี่ – การเดินทางด้วยรถแท็กซี่จากสนามบินชูบุ เซ็นแทรร์ ไปยังย่านกลางเมืองนาโกย่า จะเสียค่าโดยสารประมาณ 13,000 เยน โดยรถแท็กซี่ในประเทศญี่ปุ่นสามารถโดยสารได้สูงสุด 4 ท่าน

 

 

ติดตามข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจได้ที่

 

รวม 15 ที่เที่ยว สวยแจ่ม ห้ามพลาดของ นาโงะยะ(Nagoya)


บทความนี้เป็น Advertorial Content เนื้อหา ข้อมูล และรูปภาพทั้งหมดมาจากผู้สนับสนุน เว็บไซต์นี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบใดๆ
3 กระดาษซับมันยอดฮิต ขายดีในญี่ปุ่น
รีวิวแลกเงินไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบไหนประหยัดที่สุด!