ย่านยามาเตะและโมโตมาจิ Yamate and Motomachi
Photo from Official JNTO
ย่านยามาเตะ(Yamate) ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮาม่า(Yokohama) เมืองใหญ่ที่มีประชากรแน่นเป็นอันดับสองรองแค่โตเกียว ภายในจังหวัดคานากาว่า(Kanagawa) ย่านนี้เรียกได้ว่าเป็นย่านสุดคลาสสิกที่มีมนตร์เสน่ห์พาให้นักท่องเที่ยวหลงรักแบบไม่รู้ตัวเลยล่ะค่ะ โดยในส่วนย่านนี้นั้นเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ย่านที่อยู่อาศัยของชาวตะวันตกในโยโกฮาม่า บ้านพักในแถบนี้เรียกว่า “บลัฟ(Bluff)” ในปัจจุบันพื้นที่อยู่อาศัยจะอยู่บนเนินเขาใกล้สวนสาธารณะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้พบโรงเรียนนานาชาติ และคริสตจักรที่แสดงถึงวิถีชีวิตของชาวตะวันตก
บอกเลยว่าแหล่งท่อเงที่ยวย่านนี้เพียบเลยนะคะ แต่ละแห่งนี้เด็ดๆทั้งนั้นส่วนมากก็จะเป็นแนวบ้านหรือแนวพิพิธภัณฑ์ อีกทั้งในปี 1861 ได้มีการสร้างสุสานสำหรับชาวต่างชาติ และในปัจจุบันมีหลุมฝังศพทั้งหมดประมาณ 4,200 หลุม นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมสุสาน และเข้าศึกษาข้อมูลจากพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ใกล้กับทางเข้า โดยจะเปิดให้บริการในช่วงบ่ายของวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการตั้งแต่เดือนมีนาคม-ธันวาคม แต่สายช็อปก็ไม่ต้องเซ็งไปค่ะเพราะบริเวณด้านล่างของภูเขาย่านยามาเตะเป็นที่ตั้งของถนนช้อปปิ้ง Motomachi Shopping Street ซึ่งเป็นเส้นทางยาว 500 เมตรคู่ขนานกับแม่น้ำนากามูระ(Nakamura River) มีบรรยากาศแบบยุโรป ร้านค้าส่วนใหญ่จำหน่ายสินค้าแฟชั่นระดับไฮเอนด์ รวมไปถึงร้านอาหารและร้านกาแฟด้วย และจะเปิดเป็นถนนคนเดินในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา 12:00-18:00 เท่านั้น
แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวมาเมื่อไหร่เป็นต้องแวะกันมาก็อย่าง Harbor View Park สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของแถบนี้ ซึ่งตั้งตามทิวทัศน์ของสวนสาธารณะที่สามารถมองเห็นอ่าวโยโกฮาม่าและสะพานที่สวยงาม และยังมีอาคารที่ตกแต่งแบบตะวันตกเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมอีกด้วย ส่วนแหล่งท่องเที่ยวเด่นๆของย่านยามาเตะและโมโตมาจิมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น บ้านชาวอังกฤษ British House สร้างขึ้นในปี 1937 เดิมเป็นที่พักอาศัยของกงสุลประเทศอังกฤษ ภายในประกอบด้วยห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร และห้องส่วนตัว บ้านหมายเลข 111 Bluff No. 111 เป็นบ้านพักของชาวอเมริกันนามว่า J.E.Laffin ซึ่งเป็นบ้านสไตล์สเปน สร้างขึ้นในปี 1926 โดยสถาปนิก J.H.Morgan ผู้สร้าง Berrick Hall และ Marunouchi Building ในโตเกียว บ้านหมายเลข 234 Bluff No. 234 สร้างขึ้นหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในคันโต ปี 1923 จุดที่น่าสนใจของบ้านหลังนี้คือการออกแบบให้สามารถอาศัยได้หลายคน ภายในมีห้อง 4 ห้องอยู่ในอาคาร 2 ชั้น บ้านพักของเอริสมัน Ehrismann Residence สร้างขึ้นในปี 1926 เป็นบ้านพักของนักธุรกิจชาวสวิส Fritz Chrismann ภายในประกอบด้วยห้องรับประทานอาหาร ห้องวาดภาพ ห้องนอน และห้องที่มีหน้าต่างบานใหญ่สำหรับรับแสงแดด บ้านแห่งนี้ได้ถูกย้ายมาตั้งอยู่ ณ ปัจจุบันในปี 1990 บ้านหมายเลข 18 Bluff No.18 เดิมเคยเป็นที่อยู่อาศัยของนักบวชของคริสตจักรนิกายคาธอลิค สร้างขึ้นกลางปี 1920 ได้รับการบูรณะ และย้ายมายังสถานที่ปัจจุบันในปี 1991 และบ้านของนักการทูต Diplomat’s Houseเป็นบ้านพักอาศัยของ Uchida Sadatsuchi ผู้ดำรงตำแหน่งเอกอัคราชทูตของตุรกี และกงสุลในนิวยอร์ค บ้านหลังนี้สร้างเป็นสไตล์อเมริกันวิคตอเรีย โดยสถาปนิกชาวอเมริกัน James Gardiner
อาจจะเห็นว่าแหล่งท่องเที่ยวมีแนวเป็นบ้านต่างๆเยอะมากๆ นั่นก็เพราะที่ย่านนี้เคยเป็นย่านที่พักอาศัยที่สำคัญในอดีต ซึ่งก็เป็นการเปิดประสบการณ์แนวท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนแนวเมืองๆ อีกทั้งไม่ได้มีแค่บ้านต่างๆเท่านั้นนะคะ เนื่องจากยังมีทั้งหอเบอริก Berrick Hall หอเบอริก เป็นบ้านพักสไตล์ตะวันตกที่ใหญ่ที่สุดในย่านยามาเตะ สร้างขึ้นในปี 1930 เป็นที่อยู่อาศัยของพ่อค้าชาวอังกฤษ B.R.Berrick ออกแบบโดยสถาปนิก J.H.Morgan ผู้สร้าง บ้านหมายเลข 111 และ Marunouchi Building ในโตเกียว และถ้าอยากรู้เรื่องประวัติศาสตร์กีฬาฮอตๆช่วงนั้นก็ต้องลองมาพิพิธภัณฑ์เทนนิส Museum of Tennis กีฬาเทนนิสในประเทศญี่ปุ่นนั้นเริ่มจากการแนะนำของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในย่านยามาเตะ ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเกี่ยวกับอุปกรณ์กีฬา และอธิบายประวัติศาสตร์ความเป็นมาของกีฬาเทนนิส และยังมีชมรมกีฬาเทนนิสตั้งอยู่ข้างๆอีกด้วย
บ้านพักและพิพิธภัณฑ์ในพื้นที่ย่านยามาเตะและโมโตมาจิ
1.บ้านชาวอังกฤษ British House
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: 9:30-17:00 (เดือนกรกฎาคม และสิงหาคม เปิดถึง 18:00)
วันปิดทำการ: วันพุธที่ 4 ของทุกเดือน(หากวันพุธเป็นวันหยุดราการจะปิดในวันถัดไป)
วันที่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคม
2.บ้านหมายเลข 111 Bluff No. 111
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: 9:30-17:00(เดือนกรกฎาคม และสิงหาคม เปิดถึง 18:00)
วันปิดทำการ: วันพุธที่ 2 ของทุกเดือน(หากวันพุธเป็นวันหยุดราการจะปิดในวันถัดไป)
วันที่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคม
3.บ้านหมายเลข 234 Bluff No. 234
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: 9:30-17:00(เดือนกรกฎาคม และสิงหาคม เปิดถึง 18:00)
วันปิดทำการ: วันพุธที่ 4 ของทุกเดือน(หากวันพุธเป็นวันหยุดราการจะปิดในวันถัดไป)
วันที่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคม
4.บ้านพักของเอริสมัน Ehrismann Residence
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: 9:30-17:00(เดือนกรกฎาคม และสิงหาคม เปิดถึง 18:00)
วันปิดทำการ: วันพุธที่ 2 ของทุกเดือน(หากวันพุธเป็นวันหยุดราการจะปิดในวันถัดไป)
วันที่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคม
5.หอเบอริก Berrick Hall
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: 9:30-17:00(เดือนกรกฎาคม และสิงหาคม เปิดถึง 18:00)
วันปิดทำการ: วันพุธที่ 2 ของทุกเดือน(หากวันพุธเป็นวันหยุดราการจะปิดในวันถัดไป)
วันที่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคม
6.พิพิธภัณฑ์เทนนิส Museum of Tennis
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: 10:00-17:00(เข้าชมก่อน 16:30)
วันปิดทำการ: วันพุธที่ 3 ของทุกเดือน(หากวันพุธเป็นวันหยุดราการจะปิดในวันถัดไป)
วันหยุดช่วงปีใหม่
- บ้านหมายเลข 18 Bluff No.18
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: 9:30-17:00(เดือนกรกฎาคม และสิงหาคม เปิดถึง 18:00)
วันปิดทำการ: วันพุธที่ 2 ของทุกเดือน(หากวันพุธเป็นวันหยุดราการจะปิดในวันถัดไป)
วันที่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคม
- บ้านของนักการทูตDiplomat’s House
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: 9:30-17:00(เดือนกรกฎาคม และสิงหาคม เปิดถึง 18:00)
วันปิดทำการ: วันพุธที่ 4 ของทุกเดือน(หากวันพุธเป็นวันหยุดราการจะปิดในวันถัดไป)
วันที่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคม
วิธีการเดินทาง
จาก Yokohama Station โดยสาร Minato Mirai Line ไปลงที่ Motomachi-Chukagai Station (8 นาที 210 เยน) สถานีตั้งอยู่ทางทิศเหนือของ Motomachi Shopping Street และ the Harbor View Park
จาก Yokohama Station โดยสาร JR Negishi Line ไปลงที่ Ishikawacho Station (7 นาที 160 เยน) สถานีตั้งอยู่ทางทิศใต้ของ Motomachi Shopping Street
จากใจกลาง Yokohama โดยสารรถบัส Akaikutsu Loop Bus ไปลงที่ทิศเหนือของยามาเตะ ค่าใช้จ่าย 100 เยน