แนะนำ โรงแรมที่พัก โตเกียว ญี่ปุ่น อัพเดตล่าสุด

แจกแพลนเที่ยวเจาะลึกทตโตริ ทริปแบบ 3 วัน 2 คืน เที่ยวมันส์ครบรส กินอิ่ม หลับสบาย เดินทางสะดวก


สำหรับเพื่อนๆที่กดเข้ามาอ่านแพลนเที่ยวทตโตริแบบ 3 วัน 2 คืน แบบนี้คงจะพอรู้จักและสนใจอยากไปสัมผัสจังหวัดทตโตริกันบ้างแล้ว ซึ่งจังหวัดนี้ก็อยุ่ใกล้กับเมืองท่องเที่ยวฮิตๆใหญ่ๆอยู่หลายเมือง เช่น Osaka, Hiroshima หรือ Okayama เป็นต้น สามารถเที่ยวด้วยพาสท่องเที่ยวจาก JR West ได้ค่อนข้างจะหลายพาส เช่น JR wide area pass หรือถ้าจะเที่ยวแบบเจาะลึกแบบนี้ ก็สามารถใช้ JR San-in Okayama ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ โอซาก้า โอคายาม่า จนถึงทตโตริเลย

ส่วนถ้าใครยังไม่รู้จักหรือยังไม่แน่ใจว่าทตโตริมีอะไรน่าสนใจบ้าง ผมขอแนะนำให้ลองไปอ่าน 12 แหล่งท่องเที่ยวเด็ดของทตโตริ ก่อนครับ หรือถ้าใครอยากลองไปเที่ยวทตโตริแบบเช้าไปเย็นกลับแค่วันเดียวจากโอซาก้า ลองดู วันเดย์ทริปทตโตริ 3 แบบ ให้เลือกอยู่ครับ

ขอเกริ่นเพิ่มอีกเล็กน้อยว่าจังหวัดทตโตรินั้นเป็นจังหวัดนอกสายยาวติดทะเลซึ่งมีไฮไลท์และสิ่งที่น่าสนใจหลากหลายแบบ นักท่องเที่ยวน้อย ราคาไม่แพง แต่สวยงาม และมีความเฉพาะตัวไม่เหมือนจังหวัดอื่นๆ ทั้งภูเขา ทะเล ตามรอยการ์ตูนมังงะ อาหาร เนื้อวากิว ผลไม้ ย่านเมืองเก่า และอื่นๆที่เรียกได้ว่าครบครันจนเวลาแค่ 3 วัน 2 คืนก็ยังไม่ครบ แต่ก็เต็มอิ่มแน่นอนครับ

สำหรับทริปคร่าวๆของเราจะเป็นแบบนี้ครับ

เนินทรายทตโตริ -> พิพิธภัณท์ทราย -> ค้างที่สถานีทตโตริ -> เมืองโคนัน -> ย่านเมืองเก่า -> พิพิธภัณท์ลูกแพร์ -> ค้างที่สถานีซาคาอิมินาโตะ -> ถนนคิตาโร่ -> พิพิธภัณท์คิตาโร่ -> จบทริป

 

 

วันที่ 1

เริ่มต้นวันแรกกันที่สถานที่ท่องเที่ยวสุดยูนีคแห่งเดียวในญี่ปุ่นนั่นก็คือที่ทะเลทรายหรือเนินทราย(Tottori Sand dunes)ครับ ซึ่งเป็นเนินทรายขนาดใหญ่แห่งเดียวในญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีขนาดใหญ่ยักษ์สูงถึง 50 เมตร และมีอายุยาวนานเป็นพันๆปีครับ จนเป็นหนึ่งในแลนมาร์คของจังหวัดทตโตริ ซึ่งจะมีกิจกรรมแปลกๆให้ทำ เช่น ขี่อูฐหรือ paragliding ที่เนินทรายนี้ด้วย

การเดินทางมาที่เนินทรายแห่งนี้ก็ไม่ได้ยากอะไรครับ สามารถรถบัสจากสถานีรถไฟทตโตริไปได้เลย ประมาณ 15-20 ก็ถึงแล้วครับ เวลาที่ใช้น่าจะประมาณ 1-2 ชั่วโมงสำหรับการเดินเล่นที่เนินทรายนะครับ

สำหรับสถานที่ต่อมาคือที่ พิพิธภัณท์ทราย(Sand musuem)ซึ่งก็เป็นพิพิธภัณท์ทรายแห่งเดียวในญี่ปุ่น ภายในจะจัดแสดงศิลปะที่ทำจากทราย จัดเป็นธีมต่างๆที่แตกต่างกันไปในแต่ละปี อยู่ห่างจากเนินทรายไปแค่ 500 เมตรเท่านั้น ก็คือเดินต่อกันได้ แล้วระหว่างทางก็จะเห็นร้านค้า ร้านอาหาร ด้วย ใครจะแวะทานแถวนี้เลยก็ได้นะครับ

จบแล้วก็น่าจะเย็นหมดวันพอดี สำหรับที่พักเราแนะนำที่พักใกล้สถานีรถไฟทตโตริเลย โดยเฉพาะถ้าคุณไม่ได้ขับรถเที่ยวการพักใกล้สถานีรถไฟได้จะยิ่งสะดวก โรงแรมที่แนะนำคือ Washington Tottori hotel เป็นโรงแรมสไตล์ business hotel ราคประมาณ 2,000 กว่าบาทต่อคืน อยู่เกือบจะติดกับสถานีรถไฟ ด้านล่างมี family mart ด้วย

ใครสนใจไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

 

 

 

วันที่ 2

สำหรับวันที่สองของทริปนี้เราจะไปเที่ยวบ้านเกิดนักเขียนโคนัน ย่านเมืองเก่า และชิมลูกแพร์ที่พิพิธภัณท์แพร์กันครับ

เริ่มจากเช็คเอ้าโรงแรมแต่เช้า เพื่อขึ้นรถไฟไปลงที่สถานี KURAYOSHI ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นการเดินทางไปที่เมืองโคนัน หรือจริงๆก็คือ สถานีรถไฟ Yura โดยการต่อรถไฟท้องถิ่นอีกประมาณ 10 นาทีครับ เราก็สามารถเดินเที่ยวถ่ายรูปได้ตั้งแต่ที่สถานียาวไปจนถึงที่พิพิธภัณท์โคนันหรือ Gosho Aoyama Manga Factory ครับ ซึ่งภายในมีทั้งเรื่องราวความเป็นมา ประวัติ การทำงาน และกิจกรรมให้เล่นสนุกมากมาย รวมถึงจุดขายของฝาก ของที่ระลึกของโคนันที่หลายชิ้นไม่มีขายที่อื่นอยู่ด้วยครับ

หลังจากเดินเที่ยวเสร็จกลับมาถึงสถานี Yura เราจะนั่งรถไฟกลับไปที่สถานี KURAYOSHI แล้วต่อรถบัสท้องถิ่นไปเที่ยวที่ย่านเมืองเก่า ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็ถึงแล้วครับ

ย่านเมืองเก่าของเมืองคุราโยชิ(KURAYOSHI) เป็นย่านเมืองเก่าที่เคยรุ่งเรืองในสมัยเอโดะ ที่เรียกได้ว่าเต็มไปด้วยเสน่ห์ความโบราณอย่างแท้จริง เพราะอาคารต่างๆได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ยังคงเอกลักษณ์ในรูปแบบโบราณไว้ครบถ้วน พร้อมทั้งยังจะมีร้านค้าเก่าแก่บางร้านอายุเป็น 100 ปีให้ ได้ชิม ได้ชอปปิ้งกันตลอดทาง แบบเดินไปหามุมถ่ายรูปไป เหนื่อยก็พัก ชิลสุดๆไปเลยครับ

ถ้าใครหิวเราแนะนำร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่นชื่อดัง ฮอตฮิตในหมู่คนญี่ปุ่น เป็นร้านที่นำเอาอาคารเก่ามารีโนเวทใหม่ อยู่ในย่านนี้เลยครับ ชื่อว่า ShiraKabe Club หรือ ShiraKabe Kurabu

ถ้ามีเวลาเหลือ แนะนำให้เดินไปชมพิพิธภัณท์ลูกแพร์ เพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่น เพราะจังหวัดทตโตริมีชื่อเสียงด้านการผลิตลูกแพร์มาเป็นเวลานานมากแล้ว และผลิตได้มากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงมีพันธ์ลูกแพร์เป็นของตัวเองด้วยชื่อว่า Nijisseiki จนเป็นที่มาของชื่อพิพิธภัณท์ว่า Nijisseiki Pear Museum ภายในก็จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับลูกแพร์มากมาย ตั้งแต่ต้นแพร์ ดอก ผล การปลูก การเก็บเกี่ยว ไปจนถึงแพคเกจจิ้ง ซึ่งทั้งหมดนี้ ทำออกมาได้น่าสนใจมากๆครับ เป็นทั้งแบบ interactive และ hands on และหลายๆโซนที่เด็กๆจะต้องชอบมากแน่ๆเลยครับ

พอเที่ยวเสร็จเราจะกลับไปที่สถานีรถไฟ KURAYOSHI เหมือนเดิมแล้วต่อรถไปที่สถานีซาคิอิมินาโตะ เพื่อพักค้างคืนและเดินเล่นกันที่นี่ด้วย

โรงแรมที่ดีเด่นที่สุดของเมืองซาคาอิมินาโตะ น่าจะเป็นโรงแรม Sakaiminato Yunagi no Yu Onyado Nono ที่เราไปพักมา คนค่อนข้างเยอะ ถ้าเทียบกับว่าเมืองนี้น่าจะเป็นเมืองชายขอบของญี่ปุ่นอยู่พอสมควรเลยนะครับ แต่เนื่องจากโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่หน้าสถานีรถไฟเลย ราคาไม่แพงอีกทั้งยังดังเรื่องบุฟเฟ่อาหารเช้าและบรรยากาศการตกแต่งภายในโรงแรมรวมถึงบ่อออนเซนด้วยนะครับ ส่วนถ้าใครขับรถเที่ยวก็มีที่จอดรถขนาดใหญ่ให้บริการด้วย

 

 

วันที่ 3

วันสุดท้ายของการเที่ยวจังหวัดทตโตริในทริปนี้ เราไม่ต้องตื่นเช้าก็ได้ครับ ตื่นสายหน่อยๆ ทานอาหารเช้าสุดอลังการของโรงแรม Sakaiminato Yunagi no Yu Onyado Nono ก่อนหรือใครจะแช่ออนเซนอีกซักทีก็ได้ แล้วค่อยออกไปเดินเที่ยวถนนคิตาโร่ หรือ Shigeru Mizuki Kitaro Road สำหรับแฟนๆอสูรน้อยคิตาโร่ ซึ่งมีบรรดาภูตผีต่างตามทาง ยาวๆไปจนถึง พิพิธภัณท์คิตาโร่ หรือ Mizuki Shigeru Museum ซึ่งภายในมีการจัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาและการทำงานของอาจารย์ Mizuki Shigeru ผู้เขียนมังงะ อสูรน้อยคิตาโร่ เสร็จแล้วที่ถนนนี้ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของฝากมากมายที่เป็นธีมคิตาโร่ ให้ละลายทรัพย์กันด้วย

เท่านี้ก็ถือว่าจบทริปแล้ว แต่อยากแถมท้ายหน่อยว่า ถ้าใครมาเที่ยวที่จังหวัดทตโตริ จริงๆแล้วควรจะเที่ยวแบบเป็น loop นะครับ เช่น ถ้ามาจากโอซาก้า ก็น่าจะเที่ยวต่อไปที่จังหวัดชิมาเนะ หรือวนกลับไปทาง Okayama Hiroshima แล้วค่อยวนกลับไปโอซาก้า เกียวโต ก็ได้ คือเที่ยวควบสองภูมิภาคคันไซ+ชูโกกุ จะได้ไม่เสียเวลาเดินทางนานมากในแต่ละรอบครับ เพราะจากสถานี Sakaiminato กลับไปถึงสถานีโอซาก้า จะใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมงเลยครับ