เที่ยวฮอกไกโด ต้องไปที่นี่ รวม 21 ที่เที่ยวเจ๋ง ห้ามพลาด เมื่อได้ไปเยือนฮอกไกโด

Photo from pixabay.com/photos/japan-hokkaido-winter-temple-3969911/ CC0
>> 23 ที่เที่ยวห้ามพลาดของ ฮอกไกโด เกาะเหนือแห่งญี่ปุ่น ตะลุยแดนหิมะ สุดฟินกับธรรมชาติ อัพเดทล่าสุด 2023 <<

23 ที่เที่ยวห้ามพลาดของ ฮอกไกโด เกาะเหนือแห่งญี่ปุ่น ตะลุยแดนหิมะ สุดฟินกับธรรมชาติ อัพเดทล่าสุด 2023
จะเดินทางไปท่องเที่ยวฮอกไกโด(Hokkaido)ทั้งที แต่วางแผนไว้แค่มาทานอาหารทะเล และบุฟเฟ่ต์ปูอลาสก้า ก็คงจะไม่คุ้มค่าการเดินทางสักเท่าไร เนื่องจากฮอกไกโดไม่ได้มีดีแค่ในเรื่องของอาหารเพียงเท่านั้น แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะฮอกไกโด เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บริเวณทิศเหนือสุดของญี่ปุ่น จึงมีภูมิประเทศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี รวมไปถึงทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่ควรมาชมให้ได้สักครั้งในชีวิต และถ้าใครอยากทดลองแช่น้ำพุร้อนแบบออนเซ็น ที่ฮอกไกโดก็มีให้บริการเช่นกัน แล้วภูมิภาคนี้จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปดู 21 สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของฮอกไกโด กันเลยครับ
1. โจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen), เมือง Sapporo

Photo by MIKI Yoshihito from flickr.com/photos/mujitra/8346369496 [CC by 2.0]
2. เมืองเก่ามัตสึเมะ(Matsumae former castle town)

Photo by Kazu777 hokkaido from commons.wikimedia.org/wiki/File:松前城.JPG [CC by-sa 3.0]
3. ภูเขาโยเท(Mount Yotei), เมือง Niseko

photos by Boccaccio1 from flickr.com/photos/boccaccio1/388924783(cc by 2.0 )
ภูเขาโยเท(Mount Yotei) หรือที่หลายๆคนรู้จักกันในชื่อ “ฟูจิแห่งฮอกไกโด” ตั้งอยู่ในเมืองนิเซโกะของจังหวัดฮอกไกโด(Hokkaido) ฉายาที่ได้มาก็น่าจะเกิดจากการมีรูปทรงกรวยที่สมบูรณ์แบบเดียวกับภูเขาไฟฟูจิ แต่สูงน้อยกว่า จึงมีชื่อเล่นว่า “ฟูจิน้อย”นั่นเองค่ะ โดยภูเขาแห่งนี้นับว่าเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากๆของเมืองเลยก็ว่าได้ แต่บอกเลยว่าถ้าที่ภูเขาโยเทแล้วคิดว่าเมืองนิเซโกะจะมีดีแค่นี้ก็ผิดเลยค่ะ เพราะอีกอย่างทึ้นชื่อมากๆก็คือการเป็นเมืองแหล่งสกีรีสอร์ท โดยสถานที่เล่นสกีจะอยู่รอบๆภูเขา Niseko Annupuri หรือ Niseko United นอกตัวเมือง สามารถแบ่งเป็น 4 โซน ได้แก่ Annupuri, Niseko Village, Grand Hirafu และ Hanazono ซึ่งบอกเลยว่าดีงามทั้งนั้น
4. แหลมโซยะ(Cape Soya), เมือง Wakkanai

Photo by bryan… from flickr.com/photos/bryansjs/16534293070 [CCSA2.0]
5. โรงงานช็อคโกแล็ต (Shiroi Koibito), เมือง Sapporo

Photo by Lionel Leong from flickr.com/photos/lionel-arts/26380528716/ [CC by-sa 2.0]
เวลาทำการ
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 น. – 18.00 น.
ค่าเข้าชม
600 เยน
6. ลานสกีฟูราโน่ (Furano Ski Area), เมือง Furano

Photo by Lionel Leong from flickr.com/photos/lionel-arts/25797617134/ [CC by-sa 2.0]
เวลาทำการ
เปิดให้บริการเวลา 08.30 น. – 20.00 น. เฉพาะในช่วงฤดูหนาว
ค่าบริการเข้าชม
3 ชั่วโมง 4,000 เยน หากเหมาทั้งวัน ราคา 5,500 เยน ช่วงเวลาตั้งแต่ 17.00 – 21.00 น. 1,600 เยน (มีค่าเช่าอุปกรณ์อีกต่างหาก)
7. ล่องเรือชมธารน้ำแข็งอะบาชิริ (Abashiri Drift Ice), เมือง Abashiri

photo by 221.20 (talk) From commons.wikimedia.org/wiki/File:AuroraII02.JPG( cc by public domain )
ธารน้ำแข็งอะบาชิริ เป็นความพิเศษของฮอกไกโดที่ควรมาชมและสัมผัสสักครั้งในชีวิต หากเดินทางมาในช่วงเดือนมกราคม – เดือนมีนาคม เพราะโดยทั่วไปแล้ว ธารน้ำแข็งมักจะเกิดขึ้นบริเวณมหาสมุทรอาร์กติกเท่านั้น แต่จะดูแต่ธารน้ำแข็งเพียงอย่างเดียวก็คงไม่สนุก ต้องลองนั่งเรือตัดน้ำแข็งเพื่อชมทัศนียภาพรอบ ๆ ด้วย เหตุที่เรียกว่าเรือตัดน้ำแข็งก็เพราะว่า เมื่อเรือชนเข้ากับแผ่นน้ำแข็ง น้ำแข็งก็แยกตัวออกไปเพื่อให้เรือสามารถเดินทางต่อไปได้นั่นเอง โดยเรือจะมีให้บริการ 4-5 รอบต่อวัน ซึ่งหากใครอยากจะไปล่องเรือชมธารน้ำแข็งที่น่าตื่นตาตื่นใจก็ต้องตรวจสอบเวลาให้ดีก่อนด้วย
เวลาทำการ
เริ่มตั้งแต่ 09.00 – 15.30 น.
ค่าบริการเข้าชม
จะเป็นค่าโดยสารเรือ โดยจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 540 เยน/คน
8. ทุ่งดอกไม้ ฟูราโน่ (Furano Flower Field), เมือง Furano

Photo by pika1935 from flickr.com/photos/93256705@N05/28531761175 [CC by 2.0]
จุดชมดอกลาเวนเดอร์ที่ดีที่สุดคือ ฟาร์มโทมิตะ(Farm Tomita) ซึ่งมีวิวทิวทัศที่สวยงามจากฉากหลังเป็นภูเขาโทกะชิ(Tokachi mountain) ซึ่งเปิดให้เข้าชมฟรีอย่างอิสระ ใกล้ๆกับทุ่งดอกไม้ยังมีร้านกาแฟ ร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์อีกด้วย
เวลาทำการ
เปิดให้บริการทุกวัน และไม่มีค่าบริการในการเข้าชม โดยมีช่วงระยะเวลาที่แตกต่างกัน ประมาณ 09.00-17.00
9. ริมคลองโอตารุ (Otaru Canal Area), เมือง Otaru

Photo by Lionel Leong from flickr.com/photos/lionel-arts/26407081655/ [CC by-sa 2.0]
เวลาทำการ
เปิดให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง และไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด
10. ป้อมโงเรียวกาคุ (Fort Goryokaku), เมือง Hakodate

Photo by elminium from flickr.com/photos/lumen850/5458050013/ [CC by 2.0]
เวลาเปิดทำการ
เปิดให้บริการทุกวัน เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม เวลา 08.00 น.-19.00 น.
เดือนตุลาคม – เดือนเมษายน 09.00 น.-18.00 น.
ค่าเข้าชม
บริเวณสวนสาธารณะภายในป้อม เปิดให้เข้าชมฟรี
ที่ทำการอดีตรัฐบาล บริเวณใจกลางป้อม ผู้ใหญ่ 500 เยน นักศึกษาและผู้สูงอายุ 250 เยน เด็กเข้าชมฟรี
หอคอยโงเรียวกาคุ ผู้ใหญ่ 840 เยน นักเรียนและนักศึกษา 630 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีเข้าชมฟรี
11. จุดชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate), เมือง Hakodate

Photo by Jow from flickr.com/photos/128817170@N08/15711794480/ [CC by-nd 2.0]
เวลาทำการ
เปิดให้บริการทุกวัน ปลายเดือนเมษายน – เดือนตุลาคม เวลา 10.00 น.-22.00 น.
ปลายเดือนตุลาคม – เดือนเมษายน เวลา 10.00 น.-21.00 น.
ค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม แต่หากขึ้นไปบนจุดชมวิวด้วยเคเบิ้ลคาร์ มีค่าบริการ คือ ผู้ใหญ่ 1,280 เยน และเด็ก 640 เยน
12. สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo), เมือง Asahiyama

Photo by MIKI Yoshihito from flickr.com/photos/mujitra/12150605414/ [CC by 2.0]
เวลาทำการ
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.30 น. – 15.30 น. (อาจมีบางช่วงที่เปิดถึง 17.00)
ค่าเข้าชม
820 เยน
13. Sapporo TV Tower, เมือง Sapporo

หอสูง Sapporo TV
ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ เป็นหอส่งสัญญาณโทรทัศน์ในเมืองซัปโปโร ที่มีความสูงถึง 142.7 เมตร อยู่บริเวณทิศตะวันออกของสวนสาธารณะโอโดริ ความพิเศษที่ทำให้นักท่องเที่ยวต้องมาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ ก็คือการที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมวิวบริเวณความสูงจากพื้นดิน 90 เมตร และมีงานเทศกาลจัดอยู่รอบ ๆ ตลอดทั้งปี
เวลาทำการ
วันพฤหัสบดี – วันอังคาร เวลา 09.00 น. – 22.00 น.
ค่าบริการ
ผู้ใหญ่ 720 เยน นักเรียนนักศึกษา 300 – 600 เยน เด็กเล็ก 100 เยน
14. จุดชมวิว Mount Moiwa, เมือง Sapporo

Photo from Official Hokkaido Tourism
ภูเขาโมอิวะ เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองซัปโปโร บริเวณภูเขาโมอิวะเป็นจุดชมวิวเมืองในยามค่ำคืน (เริ่มดูได้เมื่อพระอาทิตย์ตกดินแล้ว) แต่การจะขึ้นไปจนถึงยอดได้นั้น จะต้องนั่งกระเช้าไปก่อน แล้วนั่งเคเบิ้ลคาร์อีกครั้ง จึงจะถึงยอดเขาสำหรับการชมวิว และที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือการทานอาหารที่ ร้าน “The Jewel” ที่นอกจากอาหารจะอร่อยแล้ว ยังได้ชมวิวเมืองซัปโปโรแบบสุดลูกหูลูกตา
เวลาทำการ
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.30 น. – 22.00 น.
ค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม แต่เสียค่ากระเช้า และเคเบิ้ลคาร์ 1,700 เยน
15. หุบเขานรกจิโงคุดานิ (Jigokudani noboribetsu) เมือง Noboribetsu

Photo by Kentaro Ohno from flickr.com/photos/inucara/22986787855/ [CC by 2.0]
16. บ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ (Noboribetsu Onsen), เมือง Noboribetsu

Source: Noboribetsu Onsen Dai-ichi Takimotokan from agoda.com/th-th/noboribetsu-onsen-dai-ichi-takimotokan/hotel/noboribetsu-jp.html
บ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ ถูกเรียกว่าเป็นบ่อน้ำร้อน (ออนเซ็น) ที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เพราะมีบ่อน้ำร้อนที่มีความแตกต่างกันถึง 9 ชนิด (บางแห่งก็ว่า 11 ชนิด) แบ่งไปตามแร่ธาตุชนิดต่าง ๆ เช่น บ่อน้ำพุร้อนกำมะถัน บ่อน้ำพุร้อนเกลือ บ่อน้ำพุร้อนโซเดียมไบคาร์บอเนต เป็นต้น เมื่อมาถึงบริเวณนี้แล้วต้องการแช่บ่อน้ำพุร้อน ก็สามารถเลือกบ่อได้ตามต้องการโดยติดต่อกับทางโรงแรมที่ให้บริการบ่อน้ำพุร้อนนั้น ๆ ซึ่งจะมีค่าบริการตั้งแต่ 700-2,500 เยนขึ้นไป (หากพักค้างคืนก็จะมีราคาที่สูงขึ้นกว่าเดิม)
เวลาทำการ
ส่วนมากบ่อน้ำพุร้อนต่าง ๆ มักจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 7.00 น. เป็นต้นไป และปิดไม่เกิน 21.00 น. แต่อาจจะมีบางที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
17. สระอะโออิเคะ (Aoiike Blue Pond), เมือง Biei

Photo by Tetsuji Sakakibara from flickr.com/photos/tetsuji0105/22038116161/ [CC by-sa 2.0]
เวลาทำการ
เปิดให้เข้าชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าบริการในการเข้าชม
18. สกีรีสอร์ท Niseko ski resort, เมือง Niseko

photo by wakimasa From commons.wikimedia.org/wiki/File:Niseko_Mt.Resort_Grand_Hirafu.JPG ( cc by public domain )
เมืองนิเซโกะ เป็นเมืองในฮอกไกโดที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาอยู่อาศัยและมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เพราะเมืองนี้เป็นเมืองที่เหมาะสมกับการเล่นสกีมากที่สุด เนื่องจากมีปุยหิมะที่นุ่ม ถึงจะล้มก็ไม่เจ็บ ภายในเมืองมีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก และมีบ่อน้ำร้อนที่สามารถใส่เสื้อผ้าลงแช่ได้ ภายในลานสกี มีรีสอร์ทสำหรับเข้าพักและให้เช่าอุปกรณ์การเล่นสกีถึง 4 ที่ โดยค่าเช่าอุปกรณ์นั้น อยู่ที่ราคาตั้งแต่ 3,000 – 8,000 เยน
19. Sapporo Beer Museum, เมือง Sapporo

Photo by Thomas Au from commons.wikimedia.org/wiki/File:麦とホップを製すれば_(4456936863).jpg [CC by-sa 2.0]
เวลาทำการ
เปิดให้บริการวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 11.30 น. – 20.00 น.
ค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชมใด ๆ ทั้งสิ้น
[topic1]20. ทะเลสาบอะกัง(Lake Akan)[/topic1]

photos by 663highland from commons.wikimedia.org/wiki/File:Lake_Akan_Kushiro_Hokkaido_Japan03s3.jpg(cc by 3.0)
เป็นแอ่งทะเลสาบที่เกิดจากภูเขาไฟในพื้นที่อุทยานแห่งชาติอะกัง มีความยาวเส้นรอบวง 26 กิโลเมตรที่ล้อมรอบด้วยป่าทึบ และยังเป็นแหล่งกำเนิดของสาหร่ายมาริโมะ(marimo) ซึ่งเป็นสาหร่ายลูกบอลสีเขียวที่หาพบได้ยาก
การเดินทาง: ทะเลสาบอะกังตั้งอยู่ทางทิศเหนือของ Kushiro ไปประมาณ 75 กิโลเมตร มีรถบัสบริการ 3-4 เที่ยวต่อวัน ระหว่างสนามบิน Kushiro Airport และทะเลสาบ
หรือเช่ารถยนต์ ใช้เวลา 90 นาที เดินทางถึงทะเลสาบอะกัง และใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงไปยังทะเลสาบอื่นๆในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เช่นทะเลสาบมาซู ทะเลสาบคุชชะโระ และคาวายุออนเซ็น
21. คาบสมุทรชิเรโตโกะ(Shiretoko Peninsula)

Photo by Kyosuke Nakamura from flickr.com/photos/kyosuke/33434629/ [CC by-sa 2.0]
การเดินทาง: จาก Bus Terminal เดินไปประมาณ 650 เมตรจะถึงอาคารจำหน่ายตั๋วฝั่งซ้ายมือ แล้วเดินลอดอุโมงค์ไปยังท่าเรืออีก 200 เมตร
เรือชมคาบสมุทรชิเรโทโกะออกจากอูโทโร่(Utoro) ท่าเรืออยู่หลังหินโอรอนโคอิวะ(Oronkoiwa Rock) ใกล้กับใจกลางเมือง
และนี่คือ 21 ที่เที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน “ฮอกไกโด” อย่าลืมวางแผนการเดินทางให้ดี เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเที่ยวหากเดินทางมาแล้วสถานที่นั้นหยุดทำการ