รีวิว พาเที่ยวโตเกียว ตลาดปลาซึกิจิ วัดอาซากุซะ สวนอูเอโนะ และตลาดอะเมโยโกะ
รีวิวฉบับนี้ จะพาไปเดินเที่ยวตลาดปลาซึคิจิแห่งโตเกียวที่เป็นตลาดปลาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่น และจะพาชิมร้านซูชิและข้าวหน้าปลาดิบสดๆ สุดฟิน พร้อมเมนูข้าวหน้าปลาโอโทโร่ สุดนุ่มละลายในปากกันด้วย จากนั้นก็จะไปวัดอาซากุซะ วัดโคมแดงชื่อดังแห่งโตเกียว ต่อด้วยสวนอูเอโนะ เพื่อชมซากุระแล้วต่อด้วยตลาดอะเมโยะโกะ แหล่งช้อปปิ้งของถูกชิคๆ ของโตเกียว ว่าแล้วก็ไปด้วยกันเลย
ตื่นเช้ามา หยิบข้าวปั้นที่โรงแรมกิน 1 ชิ้นกับกาแฟร้อนอีกแก้ว จัดอาหารเช้าเบาๆ เพราะวันนี้เราเตรียมท้องมากินอาหารยอดนิยมถึงแหล่งของญี่ปุ่นกัน นั่นก็คือซุชิที่ตลาดปลาซึคิจิแห่งโตเกียวนั่นเอง ลงจากสถานีใต้ดินออกมาก็เกือบจะถึงตลาดปลาพอดี เดินต่อมาเล็กน้อยก็มาถึงบริเวณรอบนอกของตลาดปลาก็จะเริ่มเจอร้านขายของ ขายอาหารกันเลย ตลอดทาง มีทั้ง ราเม็งและประเภทตุ๋น รวมไปถึงพวกข้าวปั้นแบบสามเหลี่ยม โอริกินิ และพวกข้าวห่อสาหร่ายสำหรับคนซื้อเอาไปกินที่อื่น
พอเลี้ยวเข้าตรอกภายในตลาดปลาก็จะเริ่มเจอร้านขายอาหารทะเลที่แร่ชั่งขายสำหรับเอากลับบ้านก่อนเลย
พอเดินลึกเข้าไปข้างในอีกซอยก็ได้กลิ่นหอมปลาย่างซีอิ้วลอยมาแต่ไกล เดินตามกลิ่นมาก็เจอร้านขายปลาไหลและอาหารทะเลอื่นๆ ทาซีอิ้วแบบญี่ปุ่นย่างอยู่ เลยต้องแวะชิมซักหน่อยก็อร่อยจริงๆ รสชาติเข้ากันดีมากๆเลย
ถัดไปอีกซอยก็จะมีร้านขายมีดอยู่หลายร้าน แต่ละร้านจะมีมีดมากมายหลายแบบ ทั้งเล็กทั้งใหญ่ บางร้านยืนลับมีดกันให้ดูที่หน้าร้านกันเลยด้วย ตอนเดินผ่านคิดว่าเป็นมีดประกอบอาหารทั่วๆไป แต่พอเดินผ่านร้านซูชิเท่านั้น จึงถึงบางอ้อว่ามีดพวกนี้มันเหมือนกับมีดที่พ่อครัวในร้านซูชิทั้งหลายใช้กันเลยนี่นา
เดินเลยมาหน่อยก็เจอร้านขายอาหารทะเลแบบสดๆ มีมุมที่พ่อค้าแกะหอนางรมให้ชิมกันสดๆด้วย มีหลายขนาดหลายราคา กินง่ายๆก็เลยลองชิมซะหน่อย หอดนางรมตัวใหญ่ หวานสดมากๆ คนญี่ปุ่นจะราดซอสแบบของเค้าคล้ายซีอิ้ว จะว่าอร่อยมันก็อร่อยอยู่แต่ยังสู้น้ำจิ้มซีฟู้ดกับหอมเจียวบ้านเราไม่ได้นะ
ที่นี่ นอกจากอาหารทะเลแบบสดๆแล้ว ยังมีแบบแปรรูป แพคอย่างดีขายกันด้วย ทั้งปลาหมึก หอย กุ้ง ปู ปลา และสาหร่ายทะเล
ที่มุมหนึ่งของตลาดก็จะมีร้านขายขนมสไตล์ญี่ปุ่นอยู่ด้วย มองเห็นโมจิน่ากิน เลยซื้อชิมซะหน่อย ร้านค้าที่นี่มักจะมีชาเขียวให้แทนคู่กับขนมฟรีด้วย เลยดื่มไป 2 แก้วหอมๆอุ่นๆดี ส่วนขนมก็อร่อยดี หอมถั่วแดงแต่ไม่หวานเกินไป
ที่มุมหนึ่งบริเวณโค้งด้านหน้าของตลาดปลาจะมีโซนที่ขายไข่หวานกันเยอะๆมากๆ มีอยู่ร่วมๆสิบร้านได้ แต่ละร้านจะทำกันเอง ไม่ใช่ไปรับมาจากที่เดียวกัน ทำให้แต่ละร้านจะมีรสชาติไม่เหมือนกันเป๊ะ บางร้านหวาน บางร้านจืด บางร้านหอม บางร้านนิ่ม บางร้านหนืดๆ ทุกร้านมักจะให้ชิม อร่อยดีเหมือนกัน
ถึงไฮไลท์ของเราแล้ว เรามาเพื่อกินซูชิโดยเฉพาะ ที่นี่มีร้านขายอาหารอยู่ประมาณ 3 ประเภทคือแบบ ซูชิบาร์ที่เป็นร้านท้องถิ่นที่นี่โดยเฉพาะ และร้านซูชิที่มีสาขาอยู่ทั่วทั้งญี่ปุ่นก็มี กับอีกอย่างคือร้านขายข้าวหน้าปลาดิบ ที่จะเอาปลาดิบหลายๆอย่างวางบนชามใส่ข้าวนั่นเอง จากการเดินไปเดินมาหลายๆรอบ ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะกินอะไร เราก็เลยจัดทั้ง 3 แบบซะเลย ร้านแบบท้องถิ่นในตรอก และร้านซูชิบาร์ที่อยู่ซอยหลัก และร้านข้าวหน้าปลาดิบในตรอก สรุปว่า ซูชิร้านท้องถิ่นในตรอกอร่อยที่สุดแต่แพงที่สุด สั่งมา 3 คำ โอโทโร่ ท้องแซลม่อน และอิกะ น้ำตาจะไหลทั้ง 3 คำ แต่พอเช็คบิลมาน้ำตาจะไหลเหมือนกัน ราคาโดยประมาณ โอโทโร่คำละ 400 แซลม่อนคำละ 300 อิกะคำละ 200 อีกร้านที่เป็นร้านซูชิบาร์ที่มีอยู่หลายๆที่ ถึงจะไม่อร่อยเท่าแต่ก็อร่อยกว่าร้านแพงๆในเมืองไทยเยอะเลยโดยเฉพาะรสชาติของข้าว หอมหวาน ร่วนกำลังดี ส่วนเมนูข้าวหน้าปลาดิบ อันนี้คาวเกินไป กินเกือบไม่หมด ทำให้รู้ว่าไม่ควรสั่งอีกต่อไป
ตลาดปลาซึกิจิเปิดทุกวัน ตั้งแต่ ตี 5 ถึงประมาณ บ่ายสองโมง ชว่งที่ร้านเปิดกันเยอะๆจะเป็นช่วงประมาณ 9 โมงเป็นต้นไป
การเดินทางมาที่ตลาดปลาแห่งนี้ก็ง่ายมากๆ
โดยใช้รถไฟใต้ดิน: ลงที่ Tsukiji Shijo Station [Oedo Subway Line] หรือ Tsukiji Station [Hibiya Subway Line]
หรือใช้รถไฟ JR: เดิน 15 นาทีจาก Shimbashi JR Station
ใครดูแล้วอยากไปบ้างสามารถดูข้อมุลการเที่ยวตลาดปลาซึคิจิเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย
หมดแล้วกับการมาเที่ยวตลาดปลาซึคิจิแห่งนี้ อิ่มฟิน กระเป๋าแบนกันไป ระหว่างทางเดินกลับไปนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ก็เดินผ่านโรงละคร คาบูกิซ่า ที่อยู่ในอาคารที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม
หลังจากนั้นเราก็วาปมาที่ทางขึ้นลงรถไฟใต้ดินที่สถานีรถไฟใต้ดินอาซากุสะ
และเมื่อมองออกไปก็จะเห็นภาพหอคอยโตเกียวสกายทรีตั้งตระหง่าน อยู่ข้างหน้า แต่เราจะยังไม่ไปตอนนี้หรอกนะ
เดินมาอีกหน่อยเดียวก็จะถึงที่ด้านหน้าของถนนนากามิเสะที่เป็นถนนมุ่งตรงเข้าสู่วัดเซนโซจิหรือที่เราเรียกกันว่าวัดอาซากุสะหรือวัดโคมแดงนั่นแหล่ะ โดยจะมีประตูวัดและโคมแดงอันใหญ่เป็นสัญญลักษณ์อยู่ข้างหน้า
ถนนนากามิเสะจะเป็นถนนเส้นสั้นที่จะมุ่งไปสู่หน้าประตูวัด 2 ข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านขายขนมและของที่ระลึก โดยขนมที่ขายแทบทุกร้านจะทำกันเองสดๆตรงนี้เลย รสชาติของแต่ละร้านจะไม่เหมือนกันจึงมักจะให้นักท่องเที่ยวได้ชิมก่อนที่จะซื้อ ขนมที่ขึ้นชื่อของที่นี่จะเป็นขนมมันจู หรือที่เป็นแป้งคล้ายๆโมจิ ห่อด้วยไส้แบบต่างๆ ตั้งแต่ชาเขียว ชอคโกแลต ครีม ถั่วแดง ก็เดินชิมไปเรื่อยๆ ถูกใจร้านไหนก็ค่อยซื้อ
ด้านในบริเวณของวัดจะมีวิหาร เจดีย์ และโบสถ์อยู่ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาไหว้พระ ขอพร กันที่วิหารหลัก ที่เป็นอาคารไม้ขนาดใหญ่สีแดงตั้งเด่นอยู่ตรงกลาง
ด้านข้างรอบๆของวิหารยังมีศาลเจ้าอาซากุสะ และสวนหย่อมเอาไว้พักผ่อนได้ด้วย เมื่อเดินวนรอบวัดแล้วก็กลับออกมาทางเดิม แต่คราวนี้เราเดินหลบคนมาที่ถนนข้างๆที่ขนาดกับถนนนากามิเสะแทน ก็จะเงียบกว่าเป็นพวกร้านอาหารกับร้านขายของที่ระลึก
วัดอาซากุสะเปิดให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่ 6:00 – 17:00 น. (ตุลาคม – มีนาคม: 6:00 – 16:30 น.) เดินทางมาได้โดยรถไฟใต้ดิน อาซากุซะเลย
ข้อมูลเพิ่มเติมของวัดเซนโซจิหรือวัดอาซากุสะ
จบจากวัดเซนโซจิหรือวัดอาซากุสะแล้ว เป้าหมายต่อไปของเราคือ ตลาดอะเมโยโกะ และสวนอุเอโนะ เราก็นั่งรถไฟใต้ดินไปขึ้นที่สถานี Ueno ได้เลย ออกที่ทางออกฝั่งตะวันตก เพราะเราจะตรงดิ่งไปที่ตลาดอะเมโยโกะเพื่อช้อปปิ้งกันทันที มีเป้าหมายเป็นรองเท้าและกางเกงยีนส์ แต่เดินมาไม่ทันไรเจอกลิ่นข้าวหน้าเทมปุระของโปรดเข้าไป จึงไม่รอช้า แวะชิมทันที แล้วก็อร่อยฟินสมใจ กรอบ หอม หวาน นุ่ม โอยย น้ำไหลไม่รู้ตัวอีกแล้ว ราคาประมาณ 500-700 เยน แต่ทว่าหลังจากนี้จะเหมือนภาพตัวคือช้อปปิ้งกันเพลินมาก จึงไม่ได้ถ่ายรูปอะไรมาเลย แป่ว
จริงๆแล้วตลาดอะเมโยโกะเป็นตลาดที่ใหญ่มากมีของขายหลากหลายแบบแต่ที่มีเยอะจะเป็นพวกเสื้อผ้ารองเท้า ที่ส่วนมากจะลดราคา แต่ถ้าเป็นร้านแบรนด์เดียวกันส่วนใหญ่จะขายราคาเท่ากันทุกที่ เช่น ABC-Mart เป็นต้น แต่ว่าสินค้าแต่ละร้านอาจจะมีไม่เหมือนกันได้
ขอตัดภาพไปที่สวนอูเอะโนะต่อเลยแล้วกัน เมื่อทำการช้อปปิ้งเป็นที่สบายใจแล้ว เราก็เดินตัดข้ามสถานีรถไฟใต้ดินออกมาอีกฝั่งหนึ่งจากตลาดอะเมโยโกะ ก็จะเจอสวนขนาดยักษ์ เดินกันขาลากเลยทีเดียว ซึ่งเราไปถึงช่วงเย็นๆแล้ว จึงเห็นคนญี่ปุ่นออกมาเดินเล่น จูงหมา วาดรูป ดูนกกันภายในสวนอย่างสบายอารมณ์
สวนอุเอโนะ เข้าฟรี เปิดตลอดเวลา เดินทางมาได้ง่ายๆโดยสถานีรถไฟใต้ดิน อุเอโนะ
จบแล้วกับการเที่ยวหนึ่งวันในโตเกียว ไปเที่ยวทั้งหาของกินอร่อยๆที่ตลาดปลาซึกิจิ แล้วต่อด้วยวัดดังของโตเกียวอย่างวัดอาซากุสะ แล้วมาช้อปปิ้งต่อที่ตลาดอะเมโยโกะ ปิดท้ายวันบบสบายๆที่สวนอูเอโนะ ขอบคุณที่ติดตามมาถึงตรงนี้ หวังว่าคงจะชอบกันนะครับ ดู รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นอื่นๆได้ที่นี่
สำหรับใครที่ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการเที่ยวเมืองโตเกียวเพิ่มเติมก็ตามลิงค์นี้ไปได้เลย
เรื่องต้องรู้ของคนเที่ยวโตเกียว
>>> แนะนำ โรงแรมที่พัก โตเกียว อัพเดตล่าสุด <<<
>>> รวมที่เที่ยวโตเกียว สุดฮิต ห้ามพลาด <<<