แนะนำ โรงแรมที่พัก โตเกียว ญี่ปุ่น อัพเดตล่าสุด

7 แหล่งออนเซ็นเช้าไปเย็นกลับจากโตเกียว 2567

Photo: Ronny Siegel [CC By 2.0] from flickr.com/photos/47309201@N02/16173227461/


ออนเซ็น(Onsen)นับเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เป็นที่นิยมอย่างมากทั้งในหมู่ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ การแช่ออนเซ็นถือเป็นวัฒนธรรมการแช่น้ำร้อนที่คนญี่ปุ่นนิยมกันมาอย่างยาวนาน รวมทั้งยังมีที่มีประโยชน์หลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นบำรุงผิวกาย บรรเทาอาการเจ็บป่วยต่างๆและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เมื่อมาเยือนยังดินแดนแห่งออนเซ็นทั้งทีจึงควรจะมีโอกาสได้ลองแช่ดูสักครั้ง โดยออนเซ็นมีหลายหลายประเภททั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง อีกทั้งยังไม่ได้มีเฉพาะในโรงแรมหรือเรียงกังเท่านั้น หากยังมีแบบสาธารณะให้ได้ลองสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ซึ่งแต่ละแบบนั้นล้วนมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป อีกทั้งหากมีเวลาจำกัดไม่สามารถพักค้างคืนได้ก็มีแบบที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า “ฮิกาเอริ ออนเซ็น” ที่แปลว่า ออนเซ็นแบบเช้าไปเย็นกลับได้อีกด้วย ครั้งนี้เราจะมาแนะนำ 7 เมืองออนเซ็นที่สามารถเดินทางไปกับจากโตเกียวได้ภายในหนึ่งวัน ที่แต่ละแห่งล้วนแต่มีเสน่ห์ไม่ซ้ำกันเลยทีเดียว

 

  1. ฮาโกเนะ (Hakone)

Photo by eugene_o from flickr.com/photos/eugene_o/10297580876/ [CC by 2.0]

ฮาโกเนะ เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงและประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 800 ปี เป็นเมืองในเขตอาชิงาระชิโมะของจังหวัดคานางาวะ ตั้งอยู่บริเวณเชิงทิวเขาฮาโกเนะด้านตะวันออก  นับเป็นเมืองที่เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างประเทศเดินทางมาเพื่อท่องเที่ยวแหล่งออนเซ็น เนื่องจากการเดินทางที่ไม่ไกลจากโตเกียวมากนัก รวมทั้งยังมีชื่อเสียงในด้านแหล่งออนเซ็นน้ำพุร้อนซึ่งเกิดจากความร้อนของภูเขาไฟ อีกทั้งยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิที่งดงามไปพร้อมๆกับแช่ออนเซ็นเพลินๆอีกด้วย โดยจะมีบ่อน้ำพุน้ำให้เลือกกว่า 20 แห่งทั้งแบบสาธารณะและแบบเรียวกัง ซึ่งบ่อน้ำพุน้ำที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานได้แก่ ยุโมโตะ(Yumoto) โดดเด่นด้วยสรรพคุณด้านการบรรเทาอาการปวดหลังและด้านระบบการหมุนเวียนโลหิต หรือจะเป็น ยุเนะซัน (Yunessun) ที่มีความแปลกใหม่จากการมีบ่อให้เลือกทั้งบ่อชาเขียวและกาแฟ แบ่งออกเป็น 2 โซนไม่ว่าจะเป็นแบบทั่วไปหรือแบบธรรมชาติ ช่วงที่เหมาะกับการมาที่สุดเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เพราะสามารถแช่ออนเซ็นพร้อมชื่นชมทัศนียภาพที่สวยงามไปพร้อมๆกัน

ระยะเวลาเดินทาง : จากโตเกียวมายังฮะโกเนะ  ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที

 

 

  1. ยุกาวาระ (Yugawara)

Photo by yoco** from flickr.com/photos/r405/6994860050/ [CC by-nd 2.0]

ยุกาวาระ เมืองขนาดเล็กที่มีชื่อเสียงด้านออนเซ็นและธรรมชาติอันสมบูรณ์ ตั้งอยู่ที่บริเวณทางด้านตะวันตกสุดงหวัดคานากาว่าติดๆกับฮาโกเนะ โดยเป็นที่นิยมสำหรับชาวโตเกียวเป็นอย่างมาก แต่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากนัก ด้านทิศตะวันตกและทิศเหนือของตัวเมืองถูกล้อมรอบด้วยหุบเขาของอุทยานแห่งชาติอิซุ ฮาโกเนะ (Izu-Hakone) ส่วนทิศตะวันออกยังมีพื้นที่ติดกับอ่าวซากามิ (Sagami) ทำให้มีลักษณะเหมือป่าล้อมเมือง ที่สำคัญยังมีบ่อออนเซ็นสาธารณะแบบกลางแจ้งที่สามารถชมวิวธรรมชาติได้อย่างจุใจ บ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงได้แก่ โคกุเมะโนะยุ (Kogomenoyu) ออนเซนโอเพ่นแอร์ราคาเบาๆ แต่คุณภาพระดับเรียวกังแพงๆ

ระยะเวลาเดินทาง : จากโตเกียวมายังยุกาวาระ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 34 นาที

 

 

  1. คุซัทสึ(Kusatsu)
น้ำพุร้อนคุซาสึ

photos by irisgazer from flickr.com/photos/irisgazer/32356281121(cc by 1.0 )

คุซัทสึ ตั้งอยู่บริเวณหุบเขาในจังหวัดกุนมะที่อยู่บริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของเขตคันโต ออนเซ็นของที่นี่มีตั้งอยู่บนภูเขาที่ระดับความสูง 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเลทำให้มีอากาศดีตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีความเก่าแก่เป็นร้อยๆปีและขึ้นชื่อเรื่องสรรพคุณในด้านการรักษาโรคต่างๆ ที่สำคัญนั้นที่นี่ได้รับการยอมรับว่าเป็นออนเซ็นหนึ่งในสามที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่นและมีมายาวนานกว่า 120 ปี บ่อน้ำพุร้อนที่แนะนำได้แก่ ยุตะบาเกะ (Yutabake) นับเป็นสัญลักษณ์ของเมืองคุซัทสึ มีสีเขียวมรกตและยังมีค่าความเป็นกรดที่สามารถกำจัดแบคทีเรียที่สะสมตามร่างกายได้เป็นอย่างดีและสามารถบำบัดได้หลายโรค ซึ่งมีเพียงไม่กี่ที่ในประเทศญี่ปุ่น

ระยะเวลาเดินทาง : จากโตเกียวมายังคุซัทสึ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 50 นาที

 

 

  1. ภูเขามิตะเกะ (Mount Mitake)

photos by As6022014 from commons.wikimedia.org/wiki/File:Mt.Mitakesan_from_Mt.Oeyama.jpg(cc by 3.0 )

ภูเขามิตะเกะ ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติชิชิบุ ทามะ คาอิ (Chichibu Tama Kai) ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของโตเกียว บริเวณของภูเขาครอบคลุมพื้นที่ภูเขาที่มีป่าไม้ภูเขาและหุบเขาลึก ทำให้ออนเซ็นของที่นี่นั้นอยู่ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของธรรมชาติอันงดงาม น้ำพุร้อนจะไหลมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติโดยตรง บ่อน้ำพุร้อนที่แนะนำได้แก่ สึรุ-สึรุ (Tsuru-tsuru) ที่มีสรรพคุณโดดเด่นด้านการบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งและอ่อนโยนต่อผิว ซึ่งมีชื่อรักอีกชื่อว่า “น้ำพุร้อนผิวสวย”

 ระยะเวลาเดินทาง : จากใจกลางเมืองโตเกียวมายังภูเขามิตะเกะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

 

 

  1. โอกุตามะ (Okutama)

Photo by u dou from flickr.com/photos/154778190@N03/34309960090/ [CC by-nd 2.0]

โอกุตามะ ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาโอกุตามะทางตะวันตกของโตเกียว ด้วยสถานที่ตั้งอันรายล้อมไปด้วยทัศนียภาพป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์  โดยจะมีทิวทัศน์อันงดงามของดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สถานที่ว่ายน้ำที่ดีสำหรับฤดูร้อน และเพลิดเพลินไปกับใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง บ่อน้ำพุร้อนที่แนะนำได้แก่ สึรุโนยุ (Tsurunoyu) อยู่ห่างจากสถานีรถไฟโอกุตามะ (Okutama Station) น้ำพุร้อนของที่นี่มีสรรพคุณในการบรรเทาอาการบาดเจ็บและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

ระยะเวลาเดินทาง : จากโตเกียวมายังโอกุตามะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 46 นาที

 

 

  1. มินะคามิ (Minakami)
photos by u dou from flickr.com/photos/154778190@N03/34729356505(cc by 2.0 )

มินะคามิ ตั้งอยู่ในในหุบเขาทางตอนเหนือจังหวัดกุนมะ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของทิวทัศน์และออนเซ็นธรรมชาติ โดยมีออนเซ็นที่ติดหนึ่งในสามที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่นอย่าง ทาคาระกาว่า ออนเซ็น (Takaragawa Onsen) ที่จะมีช่วงที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในช่วงฤดูหนาว ซึ่งสามารถแช่ออนเซ็นท่ามกลางหิมะที่งดงาม อันถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ควรได้ลองครั้งหนึ่งในชีวิต อีกทั้งที่นี่ยังอยู่ใกล้กับรีสอร์ตสกีชื่อดังอีกหลายแห่ง ทำให้นอกจากจะได้แช่ออนเซ็นผ่อนคลานอารมณ์แล้วนั้น ยังสามารถไปเล่นสกีท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติได้อีกด้วย

ระยะเวลาเดินทาง : จากโตเกียวมายังมินะคามิ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

 

 

  1. โอไดบะ(Odaiba)

Photo by Ronny Siegel from flickr.com/photos/47309201@N02/16173227461/ [CC by 2.0]

โอไดบะเป็นย่านหนึ่งของโตเกียว ที่มีแหล่งออนเซ็นยอดนิยมสำหรับนักเที่ยว เนื่องจากอยู่ภายในโตเกียวจึงเดินทางสะดวกมากๆและยังใช้เวลาเดินทางไม่นานอีกด้วย โดยบ่อน้ำพุร้อนที่แนะนำได้แก่ โอเอะโดะออนเซ็น (Ooedo Onsen Monogatari) มีการตกแต่งสไตล์ย้อนยุคสมัยเอโดะ ทำให้มีบรรยากาศเป็นเอกลักษณ์และแตกต่างไปจากที่อื่นๆ อีกทั้งยังสามารถเดินเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้เคียงได้อีกด้วย

ระยะเวลาเดินทาง : การเดินทางมายังมิโอไดบะใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที

 


ไปไซตามะต้องไม่พลาด 15 ที่เที่ยวมากเสน่ห์ ของจังหวัดน่ารัก ติดโตเกียว
เทศกาลเบียร์โอเอโดะฤดูใบไม้ผลิ Spring Oedo Beer Festival 2019